ผอ.สำนักวิชาการ
เผยผลรับฟังความคิดเห็นร่างหลักสูตร เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย
พร้อมหนุนให้เด็กทำกิจกรรมเพื่อสังคม เพราะสามารถทำได้ทันที ขณะที่
ให้เด็ก ม.ปลายจบ เกรด 1.5 เสียงแตก เพราะเป็นห่วงโรงเรียนชายขอบ
โรงเรียนที่อยู่ห่างไกล ขณะที่ คุณหญิงกษมา
แย้มให้จัดโต๊ะกลมเชิญผู้ปกครอง นักเรียน เพื่อร่วมกันหาข้อสรุป
นางเบญจลักษณ์ น้ำฟ้า
ผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา กล่าวว่า
สพฐ.ได้นำร่างหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ฉบับปรับปรุง
ไปประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นในส่วนกลาง ระหว่างวันที่ 26-27
ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าร่วมประชาพิจารณ์ ตัวแทนครู ศึกษานิเทศก์
ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการเห็นด้วยกับร่างหลักสูตรฯ
ฉบับปรับปรุงใหม่ ที่มีการปรับตัวชี้วัดจากรายช่วงชั้นเป็นรายปี
และลดตัวชี้วัดจาก 76 ตัวชี้วัดเหลือ 74 ตัว โดยตัดตัวชี้วัดที่ซ้ำซ้อนออก
ทั้งนี้ ในที่ประชุมยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อเจาะลงลึกรายละเอียด 8
กลุ่มสาระวิชาแล้ว ตัวชี้วัดของบางกลุ่มสาระยังซ้ำซ้อนกันบ้าง
อีกทั้งยังไม่ร้อยรับกัน
สำหรับประเด็นการกำหนดให้นักเรียนแต่ละระดับ
ต้องทำกิจกรรมเพื่อสังคม ระดับประถมศึกษา กำหนด 60 ชั่วโมง
มัธยมศึกษาตอนต้น 45 ชั่วโมง และมัธยมศึกษาปลาย 60 ชั่วโมง
จึงจะสามารถจบการศึกษาได้ จึงอยากให้ สพฐ.จัดทำคู่มือชี้แจงและแนะนำครู
ผู้ปกครองในเรื่องนี้ให้ชัดเจน เพราะผู้ปกครองตั้งข้อสังเกตว่า
ถ้าทำกิจกรรมเพื่อสังคมมากเกินไปจะทำให้เสียเวลาเรียนวิชาการรึเปล่า
นางเบญจลักษณ์ กล่าวว่า การกำหนดให้นักเรียนม.ปลาย
ต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 1.5 จึงจะสามารถจบการศึกษาได้นั้น
ในที่ประชุมอภิปรายเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง
ถึงแม้โรงเรียนจะเห็นด้วยว่า ที่
สพฐ.กำหนดเช่นนี้เพราะต้องการเพิ่มคุณภาพของนักเรียน แต่ร.ร.ยอมรับว่า
ปฏิบัติได้ยาก โดยเฉพาะ ร.ร.ชายขอบ หรือ ร.ร.ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล
แค่จะทำให้นักเรียนของตัวเองจบการศึกษาได้โดยการประเมินทุกวิชาก็เป็นเรื่องที่ยากมากอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น จึงต้องการให้ สพฐ.ทำตัวช่วยสำหรับดูแลร.ร.กลุ่มนี้ และเลขา
กพฐ.เอง คำนึงถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
“เรื่องนี้คงต้องศึกษาก่อน เพราะ ร.ร.บอกว่าทำได้ยาก แต่ สพฐ.
มีเจตนาให้เด็กไทยมีคุณภาพมากขึ้น อีกทั้งในอนาคต
มหาวิทยาลัยจะมีเกณฑ์ผลการเรียนขั้นต่ำของผู้สมัครเข้าศึกษาไว้
สำหรับการกำหนดให้นักเรียนต้องทำกิจกรรมเพื่อสังคม
มีแนวโน้มที่จะนำมาปฏิบัติได้ทันที เพราะเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย
อีกทั้งยังเป็นฐานสำหรับการคิดคะแนนคุณธรรม
เพื่อนำมาใช้ประกอบการพิจารณาคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยที่เคยพูดถึง”
นางเบญจลักษณ์ กล่าวว่า เรื่องร่างหลักสูตรนี้
จะต้องมีออกรับฟังความเห็นจาก 4 ภาค อย่างไรก็ตาม เลขา
กพฐ.เสนอให้จัดโต๊ะกลมรับฟังความเห็นจากผู้ปกครองและเยาวชนด้วย
โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการกำหนดผลการเรียน 1.5 นั้น
อยากให้รับฟังจากเด็กโดยตรง เมื่อรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายมาแล้ว
จะเห็นภาพชัดเจนขึ้น ว่า สามารถจะทำเรื่องใดได้บ้าง อย่างไรก็ตาม
การรับฟังความเห็นจะต้องเสร็จภายในเดือน ก.พ.นี้ จากนั้นจะนำเอาข้อติติง
ข้อเสนอแนะต่าง ๆ มารวบรวม แล้วนำไปปรับปรุงร่างฯก่อนนำมาใช้จริงในปี 52
ด้าน
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กล่าวว่า เกณฑ์การจบ ม.ปลาย เกรด 1 หรือ 1.5 นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ เราได้ให้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ไปศึกษาวิจัยโดยการนำผลโอเน็ต มาวิเคราะห์คะแนน
ส่วนเรื่องจำนวนชั่วโมงกิจกรรมอยากให้มีการกำหนดอย่างชัดเจน
เพราะเด็กสามารถทำกิจกรรมเพื่อสังคมได้ทั้งในเวลาเรียนและนอกเวลาเรียน
เพียงแต่กิจกรรมสามารถยืดหยุ่นได้
ที่มา-