จี้โลกใช้ 6 นโยบายคุมควันพิษร้าย
ฮูร้องเตือนโลกอาจต้องเซ่นสังเวยชีวิตกว่า
1 พันล้านคนให้แก่เพชฌฆาต"บุหรี่"ภายในสิ้นศตวรรษที่ 21 นี้
หากแต่ละประเทศยังไม่เร่งดำเนินมาตรการควบคุมการลด ละ
เลิกบุหรี่อย่างจริงจัง เสนอ 6 นโยบายคุมควันพิษร้าย
ชี้เพิ่มภาษี-ขึ้นราคาบุหรี่ได้ผลดีสุด
องค์การอนามัยโลก (ฮู)
ออกเตือนให้โลกระวังการระบาดของภัยบุหรี่ร้ายที่กำลังขยายตัวมากขึ้นและจะฆ่าชีวิตคน
จำนวนมากกว่า
1,000 ล้านคน ภายในสิ้นศตวรรษที่ 21 นี้
หากรัฐบาลนานาชาติยังไม่เร่งดำเนินมาตรการควบคุมอย่างจริงจังให้สิงห์อมควันละลดเลิกบุหรี่
ในรายงานของฮูว่าด้วยการแพร่ระบาดของบุหรี่ทั่วโลกประจำปี
2551 ซึ่งศึกษาจาก 179 ประเทศทั่วโลก มีความยาว 330 หน้า
เผยแพร่เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระบุว่า
การระบาดของพิษภัยบุหรี่ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วโดยเฉลี่ย 5.4 ล้านคนต่อปี
ทั้งจากการทำให้เป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจและโรคอื่นๆ
และจำนวนผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่จะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 8
ล้านคนต่อปีได้ภายในปี 2573 ขณะที่ในศตวรรษ 20 ที่ผ่านมา
มีคนทั่วโลกเซ่นโรคร้ายจากภัยบุหรี่เป็นจำนวนมากถึง 100 ล้านคน
และหากยังไม่มีการดำเนินมาตรการควบคุมภัยร้ายจากบุหรี่อย่างจริงจัง
ก็จะทำให้มีผู้ต้องสังเวยชีวิตให้แก่ควันพิษนี้มากกว่า 1,000 ล้านคน
ภายในสิ้นศตวรรษที่ 21 นี้
ทั้งนี้ 2 ใน 3
ของจำนวนผู้สูบบุหรี่ทั่วโลกอยู่ใน 10 ประเทศ ได้แก่ จีน (คิดเป็นเกือบ 30
เปอร์เซ็นต์) อินเดีย (ราว 10 เปอร์เซ็นต์) อินโดนีเซีย รัสเซีย
สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น บราซิล บังกลาเทศ เยอรมนี และตุรกี
ฮูระบุอีกว่า
รัฐบาลแต่ละประเทศมีรายได้รวมกันจากการจัดเก็บภาษีบุหรี่เป็นมูลค่ามากกว่า
200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี แต่รัฐบาลเหล่านั้นกลับเจียดเงินไม่ถึง
1
ใน 5 ของเงิน 1 เปอร์เซ็นต์ที่ได้มาจากรายได้ดังกล่าว
เพื่อนำไปใช้ในโครงการควบคุมพิษภัยร้ายจากบุหรี่
ซึ่งสามารถป้องกันผู้คนนับหลายล้านคนให้รอดพ้นจากความตายได้
ดอกเตอร์
มาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการใหญ่ฮู แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า
สิ่งที่จะมาเยียวยาการระบาดของบุหรี่นั้นไม่ได้อยู่ที่ตัวยาหรือวัคซีนขนานใดๆ
แต่ขึ้นอยู่กับการดำเนินการอย่างจริงจังของรัฐบาลและภาคสังคมต่างหาก
พร้อมกันนี้ ฮูยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลนานาชาติเร่งนำ 6
นโยบายในการควบคุมบุหรี่ที่ฮูเสนอ นำไปปฏิบัติ
ซึ่งจะช่วยป้องกันวัยรุ่นที่ริหันมาหัดสูบบุหรี่ได้
ทั้งยังช่วยให้สิงห์อมควันเลิกสูบบุหรี่
และป้องกันให้ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่แต่กลับได้รับพิษภัยร้ายจากควันบุหรี่มือสองได้อีกทาง
โดยนโยบายทั้ง
6 ดังกล่าวนั้น ได้แก่
มาตรการขึ้นราคาบุหรี่ให้สูงขึ้นโดยจัดเก็บภาษีบุหรี่เพิ่มขึ้น
ซึ่งมาตรการนี้เป็นวิธีการที่ทรงประสิทธิผลสูงสุดในการลดการบริโภคบุหรี่
และกระตุ้นให้สิงห์อมควันเลิกสูบบุหรี่ได้อย่างมาก
ส่วนที่เหลืออีก 5 มาตรการ ได้แก่ การห้ามโฆษณาบุหรี่, การสนับสนุน
ส่งเสริมและป้องกันผู้คนได้รับควันบุหรี่มือสอง,
การกระตุ้นเตือนให้เห็นถึงภัยอันตรายจากบุหรี่,
การช่วยให้สิงห์อมควันเลิกสูบบุหรี่
และการเฝ้าสังเกตสถานการณ์สูบบุหรี่เพื่อทำความเข้าใจและแก้ไขปัญหาจากพิษภัยบุหรี่
(เอพี)
ที่มา-