เหลือแต่ซาก-ประตูเมืองนัมแดมุน สถาปัตยกรรมอันดับหนึ่งของเกาหลีใต้ ถูกไฟเผาตลอดคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จนเช้าวันจันทร์ถล่มลงมาเหลือแต่ซาก ทำให้ชาวเกาหลีใต้เสียใจและใจหายกันไปทั่ว ตามข่าว เมื่อ 11 ก.พ. (เอเอฟพี/เอพี)

เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 11 ก.พ. ชาวเกาหลีใต้ต่างอาลัยกับการสูญเสียสถาปัตยกรรมทางวัฒนธรรม

ที่มีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ หลังจากประตูเมืองนัมแดมุน ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น ก่อสร้างด้วยไม้เก่าแก่ที่สุด อายุ 600 ปีถูกเพลิงเผาทำลายจนถล่มลงมาเหลือแต่ซาก ใจกลางกรุงโซล เมืองหลวง ซึ่งเหลืออาคารประวัติศาสตร์ที่รอดพ้นจากสงครามมหาเอเชียบูรพา

ที่ญี่ปุ่นยกทัพบุกและสงครามเกาหลี น้อยมากอยู่แล้ว

นายลี เมียงบัก ว่าที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งเคยเป็นนายกเทศมนตรีกรุงโซล เดินสำรวจความเสียหายและกล่าวว่า ประชาชนคงจะเสียใจมากจากเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ สถานที่นี้เป็นสัญลักษณ์ที่ผู้คนต้องการมาเยี่ยมชมเมื่อมาถึงกรุงโซล

ด้านนายชอน โฮซอน โฆษกของประธานาธิบดีโนห์ มูเฮียน กล่าวว่า เสียใจอย่างที่บรรยายไม่ถูก สถานที่นี้เป็นมรดก มีความสำคัญและเป็นสัญลักษณ์เหนือทรัพย์สินทางวัฒนธรรมอื่นใด

ส่วนประชาชนทั่วไปต่างเดินทางมาดูซากของอาคารที่ตำรวจปิดล้อมบริเวณไว้ นายคิม ดุ๊กอิล วัย 40 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า เสียใจมากที่สถาปัตยกรรมนี้ถูกเผา ทั้งที่รอดพ้นสงครามเกาหลีมาได้ เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกเสียความภาคภูมิใจไป ขณะที่คิม โชลซู วัย 55 ปี กล่าวคล้ายกันว่า ความภาคภูมิใจของประเทศมาสลายไปในช่วงเวลาเริ่มต้นของเทศกาลตรุษจีนเช่นนี้ไม่ดีเลย นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านที่กล่าวโทษระบบรักษาความปลอดภัยของอาคาร

ก่อนหน้านี้สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า คนขับแท็กซี่ที่แจ้งตำรวจว่าเห็นเปลวไฟจากอาคาร ให้การกับทีมสอบสวนว่า เห็นชายคนหนึ่งอายุราว 50 ปีปีนขึ้นไปบนประตูเมืองก่อนจะเกิดไฟไหม้ไม่นาน แต่ตำรวจยังไม่สรุปข้อสันนิษฐานแน่ชัดว่าเป็นไฟฟ้าลัดวงจร อุบัติเหตุ หรือวางเพลิง

สถาปัตยกรรมแห่งนี้ เดิมก่อสร้างในปีค.ศ.1398 สมัยราชวงศ์โชซอน เป็นประตูเมืองทิศใต้ ก่อนบูรณะใหม่ในปี 1447 ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า หากตอนนี้จะสร้างขึ้นใหม่อีกต้องใช้เงินก่อสร้างราว 2 หมื่นล้านวอน หรือราว 683 ล้านบาท

 

 

 

ที่มา-