ไซน์เดลี -
อย่าโทษหรือตำหนิตัวเองที่เผลอใจตรงรี่ไปยังร้านขนมปัง
หรือโดนัททันที
ที่กราดสายตาไปเจอแป้งอบ ของหวานๆ ล่อตาอยู่ตรงหน้า
งานวิจัยเผยทั้งหมดเป็นผลมาจากการทำงานของสมอง
ที่แม้แต่หัวใจก็สั่งห้ามไม่ไหว
งานวิจัยจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์ไฟน์เบิร์ก
มหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น (Northwestern University's Feinberg School of
Medicine) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารออนไลน์ "ซีรีบรัล
คอร์เท็กซ์" (
Cerebral Cortex) เปิดเผยกลไกของความหิวในสมอง และวิธีที่เซลล์ประสาทกระตุ้นให้เราปราดเข้าหาอาหาร
ประเภทแป้งและของหวานอย่างไม่ทันยั้งคิด
ตัวผลักดันสำคัญในการค้นหาคำตอบของนักวิจัยสหรัฐฯ ทีมนี้หนีไม่พ้น
"คริสปีครีม" (Krispy Kreme) โดนัทอันแสนอร่อยเลื่องชื่อของอเมริกันชน
(เสียดายที่ไม่มีสาขาในประเทศไทย) ที่กระตุ้นความอยากกินของผู้คนเสมอ
รวมทั้งตัวนักวิจัยเอง
พวกเขาแบ่งการทดลองเป็น 2 ครั้ง
ครั้งแรกให้อาสาสมัครที่กินโดนัทของคริสปีครีมมากกว่า 8 ชิ้น
มากินโดนัทต่อจนไม่สามารถจะกินได้อีก และอีกวันให้งดอาหาร 8 ชั่วโมง
จากนั้นจึงนำกลุ่มตัวอย่างเข้าเครื่องสแกนการทำงานของสมอง (fMRI)
โดยขณะสแกนอาสาสมัครจะได้ชมภาพชุดภาพของโดนัทและไขควง
ส่วนนักวิจัยก็ดูการทำงานของระบบประสาทในสมองแบบเวลาจริง (เรียลไทม์)
ผลการทดลองพบว่า หลังจากที่พวกเขากินโดนัทจนพุงกาง
สมองของเหล่าอาสาสมัครไม่สนใจภาพโดนัทเท่าใดนัก
ทว่าเมื่อแสดงรูปชุดเดิมอีกครั้งหลังจากอดอาหารนาน 8 ชั่วโมง
กลับพบว่ามีปฏิกิริยาตอบสนองในทันทีที่สมอง 2 แห่ง
จนดูคล้ายกับการจุดดอกไม้ไฟ
ส่วนแรกคือ "สมองส่วนลิมบิก"
(limbic brain) ซึ่งพบได้ในสัตว์ทุกชนิดรวมทั้งมนุษย์
โดยสมองส่วนนี้เป็นส่วนที่ลึกที่สุด คอยควบคุมอารมณ์ ความจำ ความประพฤติ
ความอิ่มทางกายและทางเพศ
"สมองส่วนนี้สามารถตรวจจับสิ่งกระตุ้นที่มีนัยสำคัญได้ มันไม่ได้บอกเพียงว่าหิว แต่ยังบอกด้วยว่ามีอาหารอยู่ที่นี่"
มาร์เซล มีซูลาม (Marsel Mesulam)
ศาสตราจารย์พิเศษด้านจิตเวชศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์ ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์ไฟน์เบิร์ก
และประสาทแพทย์จากโรงพยาบาลนอร์ธเวสเทิร์น เมโมเรียล
ผู้เขียนรายงานอาวุโสกล่าว
ส่วนสมองอีกส่วนคือ เครือข่ายสมองที่เกี่ยวข้องกับความสนใจ ที่จะยกระดับความหิวไปสู่สิ่งที่ต้องการตัวใหม่ ซึ่งตามการทดลองคือโดนัทของคริสปีครีม
"ถ้าเราไม่มีสมองส่วนนี้
ทุกครั้งที่เราเดินผ่านร้านเบเกอรี เราจะไม่สามารถควบคุมการกินได้
เพราะถ้าเซลล์ประสาทของคุณตอบสนองทุกครั้งที่คุณได้รับกลิ่นของสิ่งที่กินได้
จะทำให้คุณต้องกินตลอดเวลา ไม่เฉพาะแต่เวลาหิวเท่านั้น" มีซูลามอธิบายเพิ่มเติม
"ในสมองมีระบบที่ซับซ้อนมาก
ที่นำพาความสนใจของเราไปสู่สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว
ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความต้องการของเรา ยกตัวอย่างเช่นอาหาร
ที่เป็นจุดสนใจเมื่อยามเราหิว แต่ไม่ใช่ตอนที่เราอิ่ม" อะพราจิตา โมฮานตี (Aprajita Mohanty)หัวหน้าทีมวิจัยและนักศึกษาหลังปริญญาเอก
ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์ไฟน์เบิร์กกล่าว
นอกจากนั้น
มีซูลามยังบันทึกผลการวิจัยถึงวิธีที่สมองจะตัดสินใจว่า
ควรให้ความสนใจกับสิ่งไหนในโลก
ที่เต็มไปด้วยสิ่งเร้ามากมายด้วยว่า
หากคุณได้ยินเสียงคนเหยียบใบไม้ดังกรอบแกรบในป่า
บริบทแวดล้อมจะกระตุ้นให้คุณพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่นั่น
เพราะอาจเป็นสัญญาณของอันตรายได้ แต่เมื่อคุณอยู่ในสำนักงาน
เสียงแบบเดียวกันจะมีความสำคัญน้อยลง แสดงให้เห็นว่าภารกิจหลักของสมองจะมีปฏิสัมพันธ์กับบริบท
"ผมรู้แล้วว่าทำไมถึงห้ามใจไม่ให้ เดินเข้าไปที่ร้านเบเกอรีไม่ได้
เมื่อผมได้กลิ่นขนมปังสโคนที่เพิ่งทำเสร็จหมาดๆ" มีซูลามติดตลก
ซึ่งผลการทดลองครั้งนี้ก็ทำให้เขาเข้าใจพฤติกรรมของตัวเอง
ที่ทนต่อสิ่งเร้าอันแสนหอมหวานนี้ไม่ได้.
ที่มา-