ผลการปฏิบัติธรรม 

กัลยาณมิตร มนิตยา วัฒนมงคล (ประเทศไทย)
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพรักอย่างสูงสุดจริงๆ
 
ลูกเกิดที่ดินแดนที่ใครๆ มักจะไปเกินถึง นั่นก็คือ จังหวัดเลย ค่ะ ชีวิตของลูก ราวกับถูกขีดเส้นให้เดินตามมงคลชีวิตข้อที่28 คือ เห็นสมณะ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อยเริ่มจำความได้ คุณพ่อ-คุณแม่จะพาลูกไปทำบุญที่วัดใกล้บ้านเป็นประจำ นั่นคือจุดเริ่มต้นของการพบพระภายนอก ต่อมาเมื่อเติบใหญ่ จนถึงวัยเด็กเหลือน้อย ลูกก็ได้เห็นสมณะที่แท้จริง คือ ได้พบ พระภายใน ค่ะ 
 
ลูกเริ่มฝึกนั่งสมาธิครั้งแรก ตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อยวัย 12ปี ด้วยความเป็นเด็ก เมื่อนั่งแล้วเกิดอาการตัวหาย ถูกดูด เหมือนตกจากที่สูง ลูกก็ตกใจกลัวจนเลิกนั่ง พร้อมกับเกิดคำถามค้างคาใจว่า “นี่เราเป็นอะไร” 
 
เมื่อเข้าสู่วัยมัธยม ลูกได้เข้าร่วมสอบธรรมะทางก้าวหน้า และได้รางวัลชมเชยระดับประเทศ จากการอ่าน หนังสือมงคลชีวิต ฉบับทางก้าวหน้า ทำให้ลูกพบวิธีฝึกสมาธิเบื้องต้นที่ท้ายเล่ม และทดลองนั่งตามวิธีในหนังสือ คราวนี้ลูกได้เห็นสมณะรูปหนึ่งอยู่ในสมาธิของลูก ท่านคือพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำฯเจ้าค่ะ ลูกรู้สึกว่า อยากพบท่านแต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปพบท่านได้ที่ไหน 
 
    เมื่อจบชั้นมัธยม ลูกได้เข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯ แม้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย จะเรียนหนักอย่างไร ลูกก็ยังคงนั่งสมาธิมาตลอด และภาพของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯในสมาธิ ก็ยังคงอยู่ในใจลูกมาตลอด แม้กระทั่งเข้าสู่วัยทำงาน ลูกก็สนใจการนั่งสมาธิ ใครว่าที่ไหนดี ก็จะลองไป ลูกตะลอนทัวร์ปฏิบัติธรรม ท่องเที่ยวไปจนทั่วไทย จนครั้งหนึ่งเกือบจะทัวร์ไปผิดทาง แทนที่จะได้พบองค์พระเกศดอกบัวตูม ลูกเกือบได้อยู่สายดอกบัวบาน เมื่อทดลองฝึกนั่ง สายความเชื่ออื่น ซึ่งไม่ใช่พระรัตนตรัย 
 
    จนปี พ.ศ.2549 เส้นทางการเห็นสมณะของลูก ก็ใกล้ความจริงมากขึ้น เมื่อลูกเห็นภาพของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำฯ ติดอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ลูกตรงเข้าไปถามว่า พี่ค่ะ...หนูจะไปพบหลวงพ่อองค์นี้ได้ที่วัดไหนค่ะ ที่นี่เอง คือ จุดเริ่มต้นของการมา วัดพระธรรมกาย ของลูกค่ะ ครั้งแรกที่ลูกได้มาวัดและได้ฟังเพลงสวัสดีเทพบุตร-เทพธิดา ที่เพลงท่อนหนึ่งร้องว่า “ทำไมท่านถึงมาช้า” ลูกถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ลูกอยากตอบว่า มาแล้วยังดีกว่ามาช้า มาช้ายังดีกว่าไม่มา
 
    นับจากเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2549 ที่ลูกได้มาวัด ลูกนั่งสมาธิทุกวันไม่เคยขาด และมาวัดทุกวันอาทิตย์ไม่เคยขาดเช่นกัน เพราะลูกเคยได้ยินสุภาษิตบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า นกที่ตื่นก่อน ย่อมจับหนอนได้ก่อน แต่ลูกกลับคิดว่า หนอนที่ตื่นก่อนก็ถูกจับกินก่อนเช่นกัน การเข้าวัดก่อนหรือหลังก็เช่นกัน มันขึ้นอยู่กับว่า เมื่อเข้าวัดแล้วเราเลือกจะเป็นนกที่ได้เก็บเกี่ยวบุญก่อน หรือจะเป็นหนอนที่มาวัดก่อน แล้วหายไปจากวัดเลย ลูกจึงขอใช้วันเวลาที่มีอยู่ เก็บเกี่ยวบุญทุกบุญให้ได้คุ้มค่าที่สุดค่ะ 
 
    โดยในวันธรรมดาหลังเลิกงาน ลูกจะขับรถมาเข้าโรงเรียนเป็นนักเรียนประจำแฟนพันธุ์แท้ค่ะ จะนั่งประจำอยู่ฝั่งขวามือของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ส่วนในวันอาทิตย์ธรรมดาลูกจะรับบุญเป็นอาสาสมัคร อยู่กองต้อนรับอาคารหลัก ดูแลสกรีนชุดขาวและแลกบัตรเข้าวิหารพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ และในวันอาทิตย์ต้นเดือน ลูกจะรับบุญช่วยจัดอาหารบูชาข้าวพระ สังกัดหน่วยซีล ไม่ใช่หน่วยซีลของทหารเรือนะคะ ลูกอยู่หน่วยซีลภาชนะ ใส่เครื่องดื่มที่จัดบูชาข้าวพระ นอกนั้นเวลาที่ลูกพบเจอเพชรพลอยตามข้างทาง ลูกก็จะเก็บเป็นประจำอีกด้วยค่ะ 
 
    นับตั้งแต่ลูกปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอ ผลการปฏิบัติธรรมของลูกก็ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนชั่วโมงหยุดนิ่งของลูก ยิ่งนั่งทุกวัน ยิ่งหยุดนิ่งได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น ลูกจะใช้วิธีปรับอารมณ์ให้สบาย ปรับท่านั่งให้ถูกต้องเบาสบาย ขอเรียกว่า “ท่านางแบบ” เพราะจะเป็นต้นบุญต้นแบบให้กับผู้ฝึกหัดใหม่ จากนั้นก็จะวางใจเฉยๆ ไม่คิดอะไร ไม่กำหนดนิมิต ปล่อยใจตามเสียงนำนั่งสมาธิของพระเดชพระคุณหลวงพ่อไปเรื่อยๆ 
 
จนวันหนึ่งเป็นวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 ขณะที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ นำนั่งสมาธิและบูชาข้าวพระ ลูกวางใจไว้ศูนย์กลางกาย และปฏิบัติตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อนำนั่งทุกอย่าง อยู่ๆก็มีเสียงกระซิบเบาๆว่า "ทำใจนิ่งๆ นุ่มๆ สบายๆ มีอะไรให้ดูก็ดูไป"
 
 
สักครู่ ลูกรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดูดไปสู่อีกมิติหนึ่ง ผ่านอุโมงค์เล็กๆ ที่ปลายอุโมงค์ลูกได้พบองค์พระแก้วใสอยู่กลางท้องของลูก สังเกตเห็นเกตุดอกบัวตูมชัดใสสว่างมาก ราวกับตอนเที่ยงวัน ลูกนั่งดูไปเรื่อยๆ องค์พระท่านก็หมุนตามเข็มนาฬิกาแล้วขยายใหญ่เท่าตัวลูก หันหน้าไปทางเดียวกัน ความรู้สึกของลูกเหมือนคนกระหายน้ำ ที่เดินทางมาพบน้ำตกเย็น ชุ่มชื่นทั้งกายและใจ ลูกดื่มด่ำกับความสุข จนพระเดชพระคุณหลวงพ่อกล่าว “สัพเพ...” แล้ว ลูกก็ยังเห็นองค์พระอยู่ ท่านนั่งสมาธิอยู่บนแผ่นฌาน 
 
ลูกทำการบ้านทุกข้อ ทุกวัน จากที่องค์พระท่านหยุดนิ่ง ก็เริ่มขยายคลุมตัวลูก  บางครั้งก็สลับกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ลูกมีความสุขมาก อารมณ์ดีตลอดเวลา แม้งานด้านบัญชีการเงินของลูก จะมีเรื่องเครียดเพียงใด ลูกก็ยังยิ้มได้ อารมณ์ดีได้
 
    หรือยามที่ลูกรับบุญที่วิหารพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ซึ่งลูกทราบดีว่า การสวมชุดขาวๆ เข้าไปสักการะพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯในมหาวิหาร เป็นบุญพิเศษ เป็นต้นบุญต้นแบบให้กับผู้ที่มาภายหลัง ได้ยึดเป็นแบบอย่าง ซึ่งจะช่วยให้วัฒนธรรมชาวพุทธที่ดีงามขยายไปทั่วโลกพร้อมกับวิชชาธรรมกาย ซึ่งแม้ว่าลูกจะต้องเจอทั้งความร้อนจากแสงแดด เจอทั้งอารมณ์ร้อนๆ ของสาธุชนที่ต้องการเข้าวิหารพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ แต่แต่งกายผิดกติกาที่ตกลงกันไว้ว่า ลูกก็รับได้ค่ะ อารมณ์ของลูกก็ไม่มีเสีย ยังดีอยู่เหมือนเดิมค่ะ
 
    ทุกวันนี้ องค์พระท่านอยู่กับลูกตลอดเวลา ไม่ว่าลูกจะทำอะไร เวลานั่งสมาธิท่านก็จะผุดขึ้นเป็นสายจากท่อแก้วใส จนลูกนับไม่ทัน ยิ่งตอนรับบุญจัดอาหารบูชาข้าวพระ ยิ่งเห็นท่านชัด สว่างอยู่กลางกายค่ะ อะไรก็นุ่มนวล เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน และที่ชอบมากที่สุดคือ ทุกคนชมว่า หน้าใสขึ้นมากๆ และมักจะทายอายุผิดจาก 32 เป็น 23 ประจำเลยค่ะ 
 
    ลูกตั้งใจจะใช้วันเวลาที่มีอยู่ ช่วยงานของพระเดชพระคุณหลวงพ่อให้เต็มที่ สิ่งใดที่ลูกทำได้ลูกตั้งใจทำอย่างดีที่สุด เพื่อตอบแทนพระคุณของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่เมตตาสอนธรรมะให้ลูกๆทุกวัน ลูกขอให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อ มีสุขภาพแข็งแรง ขอให้ลมใจร้ายที่ชอบตีขึ้น ทำให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อมึนศีรษะ กลับใจเป็นลมใจดี เป็นลมที่ทำให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อสดชื่น นะคะ   
             
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงสุด 
 
กัลยาณมิตร มนิตยา  วัฒนมงคล 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages//Thailand_Manitaya.html
เมื่อ 5 กรกฎาคม 2567 22:20
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv