|
นิสิต
คำว่า “นิสิต” นั้นเป็นภาษาบาลี แปลว่า “ผู้อาศัยกับอุปัชฌาย์” เนื่องจากแต่เดิมสถาบันการศึกษาระดับสูงมักมีหอพักให้ผู้เรียนได้พักอาศัยภายในสถาบัน ประกอบกับความนิยมภาษาบาลีด้วยจึงได้ใช้คำนี้โดยทั่วไป
| |
|
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงสวยทีสุดในโลกอันดับ 2 |
| |
จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
ก่อตั้งขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเริ่มแรกเป็นโรงเรียนมหาดเล็กหลวง ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราวุธ ได้สถาปนาขึ้นเป็น “จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย” และปรากฏใช้คำว่า “นิสิต” สำหรับนิสิตชาย และ “นิสิตา” สำหรับนิสิตหญิง ต่อมาจึงได้เปลี่ยนมาใช้คำว่า “นิสิต” เพียงคำเดียว | |
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ก็ก่อตั้งขึ้นโดยที่ค่านิยมภาษาบาลีสันสกฤตยังเป็นที่นิยมและมีหอพักให้ผู้เรียนภายในสถาบันเช่นเดียวกัน จึงใช้คำว่า “นิสิต” มาตั้งแต่แรกเริ่ม
| |
|
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงสวยทีสุดในโลกอันดับ 2 |
| |
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
นับเป็นสถาบันการศึกษาที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของไทย เริ่มต้นจากการเป็น “โรงเรียนฝึกหัดครูชั้นสูงถนนประสานมิตร” ต่อมาได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น “วิทยาลัยวิชาการศึกษา” นับเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกของไทยที่สามารถเปิดสอนวิชาชีพครูได้ถึงระดับปริญญา โดยมีสาขาทั่วประเทศ ทั้งสิ้น ๘ แห่งและทุกแห่งก็ใช้คำว่า “นิสิต” เหมือนกันหมด ภายหลังวิทยาลัยวิชาการศึกษาทั้ง ๘ แห่ง ก็ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น “มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ” (อ่านว่า สี-นะ-คะ-ริน-วิ-โรด) | |
และปัจจุบันก็มีการเปลี่ยนแปลงไป ดังนี้
• มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (คงสถานะเดิม)
• มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน (ยุบวิทยาเขต)
• มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พลศึกษา (ยุบวิทยาเขต)
• มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บางเขน (ยุบวิทยาเขต/ให้สถาบันราชภัฏพระนครเช่าตึกและอาคารเรียนทั้งหมด)
• มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พิษณุโลก (ยกฐานะเป็น มหาวิทยาลัยนเรศวร)
• มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคาม (ยกฐานะเป็น มหาวิทยาลัย มหาสารคาม)
• มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บางแสน (ยกฐานะเป็น มหาวิทยาลัยบูรพา)
• มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สงขลา (ยกฐานะเป็น มหาวิทยาลัยทักษิณ) | |
แม้มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒแต่ละแห่ง
ได้มีการเปลี่ยนไปด้วยประการต่าง ๆ แต่ทุกแห่งก็ยังคงใช้คำว่า “นิสิต” เหมือนกันหมด
ทุกมหาวิทยาลัยที่ผู้เขียนกล่าวถึงทั้งหมดใช้คำว่า “นิสิต” ด้วยเหตุผลเดียวกัน คือ มีหอพักให้ผู้เรียนอยู่ภายในสถาบัน
| |
|
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงสวยทีสุดในโลกอันดับ 2 | | |
นักศึกษา
ในสมัยที่ประชาธิปไตยพยายามจะเบ่งบาน มีการก่อตั้ง มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์ และการเมือง (ธรรมศาสตร์ หมายถึง วิชาว่าด้วยกฎหมาย) เป็นมหาวิทยาลัยเปิด ไม่มีหอพักให้ผู้เรียน จึงสร้างคำใหม่ขึ้นมาเพื่อให้เป็น “ไทย ๆ” มากขึ้น คือคำว่า “นักศึกษา” | |
มหาวิทยาลัยที่เกิดขึ้นภายหลังหลาย ๆ แห่ง
แม้จะมีหอพักนักศึกษาอยู่ภายในมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่นิยมใช้คำว่า “นิสิต” เหมือนมหาวิทยาลัย “โบราณ” ที่ก่อตั้งมานานแล้วทั้งหลาย จึงหันไปใช้คำว่า “นักศึกษา” เหมือนกันแทบทุกแห่ง แม้แต่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เอง แต่เดิมก็ใช้คำว่า “นิสิต” แต่ภายหลังอธิการบดีท่านหนึ่งซึ่งเป็นนายแพทย์ ก็ได้เปลี่ยนคำว่า “นิสิต” มาเป็นคำว่า “นักศึกษา” ดังนั้น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เองก็นับเป็นมหาวิทยาลัยที่เคยใช้คำว่า “นิสิต” มาก่อน
| |
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า
๑. สถานศึกษาที่ก่อตั้งมานานจะใช้คำว่านิสิต ก่อตั้งไม่นานใช้คำว่านักศึกษา
๒. สถานศึกษาใดต้องการใช้คำว่านิสิตต้องขอพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๓. สถานศึกษาใดที่ "เจ้าฟ้า" เสด็จเข้าทรงศึกษาจะเปลี่ยนไปใช้คำว่านิสิตทันที | |
|
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงสวยทีสุดในโลกอันดับ 2 |
| |
แต่จริง ๆ แล้วจะเห็นได้ว่า
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง) เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ใช่น้อยก็ยังใช้คำว่านักศึกษา ในขณะที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ใช้คำว่านิสิตในเบื้องต้นทั้งที่ก่อตั้งมาทีหลัง แสดงว่าเหตุผลที่ ๑ เป็นอันตกไป | |
ส่วนเหตุผลที่ ๒ นั้นดูแปลกพิกลอยู่
เพียงแค่คำว่า "นิสิต" คำเดียว ถึงกับต้องขอพระราชทานเชียวหรือ ? แล้วอย่างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ต้องทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายคำว่า "นิสิต" คืนหรือไม่ ? | |
ส่วนเหตุผลที่ ๓ เป็นเหตุผลที่พิสดารกว่าใคร ๆ
เพราะพบว่าเมื่อครั้งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เข้าศึกษา ณ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยนั้น มหาวิทยาลัยได้ใช้คำว่า "นิสิต" อยู่แล้ว จากนั้นสมเด็จพระเทพฯ ทรงศึกษาต่อระดับปริญญามหาบัณฑิต ณ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร และคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ปรากฏว่า มหาวิทยาลัยศิลปากร ก็ไม่ได้เปลี่ยนคำเรียกไปใช้คำว่า "นิสิต" แต่อย่างใด
| |
เรื่องยังไม่จบแค่นี้
สมเด็จพระเทพฯ เป็นผู้มีความวิริยอุตสาหะ ขวนขวายในศิลปวิทยาการทั้งปวงเป็นอย่างมาก จึงเสด็จเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาดุษฎีบัณฑิต ณ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร แต่..โอ้โอ๋กระไรเลย บ่มิเคย ณ ก่อนกาล... มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ใช้คำว่านิสิตมาก่อนหน้านั้นแล้ว เรียกว่าใช้คำนี้มาแต่อ้อนแต่ออกด้วยซ้ำไป
| |
|