อยากรวยทำยังไงดี

มาเป็น"คนจนยาก"กันดีกว่า !!!

ข้อมูลจาก https://www.facebook.com/Dhammavipulo 
วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
 
 
     พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ความจนเป็นทุกข์ของผู้ครองเรือนในโลก

     คนยากจนเข็ญใจยากไร้ย่อมกู้ยืม กู้แล้วต้องใช้ดอกเบี้ย หากไม่ใช้ดอกเบี้ยตามกำหนด เจ้าหนี้ย่อมตามทวง หากทวงไม่ได้ ย่อมถูกติดตาม และถูกจองจำ เหล่านี้เป็นทุกข์ของผู้ครองเรือนในโลก

      คุณครูไม่ใหญ่ได้เล่าให้นักเรียนในรร.อนุบาลฝันในฝันวิทยาฟังว่า คนจนมี 3 ประเภท คือ

     1. คนยากจน หมายถึง คนที่ลำบากยากจนในปัจจุบัน เพราะในอดีตชาติ เป็นตระหนี่หวงแหน ไม่ยอมให้ทาน วิบากของความตระหนี่ จึงทำให้มาเกิดเป็นคนยากจน

      2. คนอยากจน หมายถึง คนที่อยากจะกลับไปสู่ความลำบากยากจน คือ คนที่หวงแหนทรัพย์ในปัจจุบัน แม้มีทรัพย์ที่จะให้ทานได้ ก็ไม่ให้ เพราะความตระหนี่ในปัจจุบัน จะนำเขากลับไปสู่ความลำบากยากจน ในภพเบื้องหน้า จึงเรียกว่า คนอยากจน

      3. คนจนยาก หมายถึง คนที่จะกลับไปสูความลำบากยากจนอีก เป็นไปได้ยาก เพราะในปัจจุบันชอบการให้ทาน ทั้งให้ทานต่อเนื่อง และให้ทานอย่างเต็มกำลัง ผลบุญจากการให้ทาน จึงทำให้ห่างไกลจากความลำบากยากจน จะกลับไปเป็นคนยากจนอีก เป็นไปได้ยาก จึงเรียกว่า คนจนยาก
      พระบรมศาสดาตรัสว่า คนให้ทานไม่ได้ด้วยเหตุ 2 ประการ คือ

    1. ตระหนี่
    2. ประมาท

     ตระหนี่เพราะหวงแหนทรัพย์ กลัวว่า ให้ทานแล้ว ทรัพย์จะหมดไป แม้ถึงคราวที่ควรจะให้ ก็ไม่ยอมให้ทาน

     ประมาทเพราะไม่มีความรู้เรื่องความจริงของชีวิต (โลกหน้า) ว่า ชีวิตในโลกหน้า ต้องใช้บุญ เป็นเหตุนำความสุขมาให้ จึงไม่ได้สั่งสมบุญ

      เหตุทั้ง 2 ประการ จึงเป็นที่มาของคนยากจน และคนอยากจน ส่วนที่มาของคนจนยาก เพราะความศรัทธา คือ เชื่อในผลของทานและเข้าใจชีวิตในโลกหน้า จึงดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท

     มีคนขยันมากมายที่ขยันทั้งชีวิต ก็ยังไม่สามารถสร้างฐานะให้มั่นคงได้ทางเดียวที่จะหนีให้พ้นจากความลำบากยากจน คือ ต้องให้ทาน แต่หลักวิชาคือ "ให้แล้วต้องไม่เป็นทุกข์" มีแต่ความปลื้มทุกครั้งที่ให้ แล้วจะเป็น"คนจนยาก"กันตลอดไป !!!

 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/ธรรมะสอนใจ/มาเป็นคนจนยากกันดีกว่า.html
เมื่อ 4 กรกฎาคม 2567 05:14
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv