ชาดก 500 ชาติ

สัตตปัตตชาดก-ชาดกว่าด้วยความสำคัญผิด

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร
  
     ดั่งที่สาธุชนทั้งหลายรู้ทั่วกันแล้วนั้นว่า เหตุแห่งพระพุทธบัญญัติข้อวินัยให้สงฆ์สาวกปฏิบัติแต่ละบทนั้นมักเกิดขึ้นเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องไม่เหมาะสมเป็นกรณีๆ ไป
พุทธกาลครั้งหนึ่ง ก็เป็นดังนั้น พุทธวินัยครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะพระฉัพพัคคีย์ 2 รูป ล่วงพระวินัยข้อยึดถือในทรัพย์ มิได้ปล่อยวาง ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับกิเลส
 
พระปัณฑกะและพระโลหิตกะผู้ล่วงพระวินัย ข้อยึดถือในทรัพย์
 
พระปัณฑกะและพระโลหิตกะผู้ล่วงพระวินัย ข้อยึดถือในทรัพย์
 
     ภิกษุผู้ก่อเหตุที่ว่านี้ชื่อ พระปัณฑกะ และพระโลหิตกะ ทั้งสองเข้ามาในวัดพระเชตวัน ในนครสาวัตถี มิได้สำรวมระวังในสิ่งของตามวัตรปฏิบัติที่ดีของภิกษุ “ มื้อนี้
กลืนไม่คล่องคอเลย ท่านว่าไหม ดูสิ อาหารแต่ละอย่าง รับประทานไม่ลงจริงๆ ”
 
พระปัณฑกะและพระโลหิตกะนั่งฉันภัตตาหารด้วยความเบื่อหน่ายกับอาหารประกอบไปด้วยพืชผักไร้เนื้อสัตว์
 
พระปัณฑกะและพระโลหิตกะนั่งฉันภัตตาหารด้วยความเบื่อหน่ายกับอาหารประกอบไปด้วยพืชผักไร้เนื้อสัตว์
 
     “ นั่นนะสิ มีแต่ผัก เนื้อสักชิ้นก็มองไม่เห็นเลย น่าเบื่อจริง ๆ ” มิเพียงแต่การหลงใหลในลาภ รส กลิ่น เสียงเท่านั้น ภิกษุทั้งสองยังเที่ยวยุยงภิกษุแต่ละหมู่ให้ผิดพ้องหมองใจ
กันเป็นนิด “ ดูสิท่าน พระคณะโน้น ชอบถือดี ทำตัวหยิ่งยโส ดู ๆ ไปแล้ว ก็ไม่เห็นจะดีกว่าคณะนี้ตรงไหนเลย พวกท่านอย่าไปยอมเชียวน่า ”

พระปัณฑกะและพระโลหิตกะชอบยุยงส่งเสริมให้เหล่าภิกษุหลงไหลในลาภสักการะ
 
พระปัณฑกะและพระโลหิตกะชอบยุยงส่งเสริมให้เหล่าภิกษุหลงไหลในลาภสักการะ
 
     “ ฮ่าๆๆ พวกท่านคิดดูสิ พวกเราอยู่กันมานานกว่าพวกเขาอีก จะยอมเขาได้อย่างไรกัน ” สิ่งไหนที่เป็นการประพฤติผิดภิกษุทั้งสองก็ยุยงส่งเสริมให้กระทำ “ โอ้ย ถือสง
ถือศีลอะไรกัน บ้าบอคอแตก ทรัพย์สมบัติต่าง ๆ หากมีอยู่กับตัว มันก็เป็นการดี คิดดูสิ หากพวกเรามีของหรู ๆ ดี ๆ ติดตัวไปไหนมาไหนก็มีแต่คนนับถือ
 
พระปัณฑกะและพระโลหิตกะเที่ยวคอยยุยงให้หมู่สงฆ์แตกความสามัคคี
 
พระปัณฑกะและพระโลหิตกะเที่ยวคอยยุยงให้หมู่สงฆ์แตกความสามัคคี
 
     ใคร ๆ ก็ข่มพวกท่านไม่ได้ ” “ ใช่ พระที่ซอมซ่อสวมแต่จีวรเก่า ๆ จะดูมีคุณค่าได้อย่างไรกัน รังแต่คนเขาจะดูถูกเอาทั้งนั้นแหละ ” “ อือ นั่นสินะ ของดี ๆ ใหม่ ๆ หรู ๆ
มันก็ย่อมดีกว่าของเก่าอยู่แล้ว ” แหย่ข้างโน้นที ยุข้างนี้ที ไม่นานนักพระหมู่ต่าง ๆ ก็เริ่มรวนเรเห็นผิดเป็นชอบไปหลายรูป
 
ผืนป่าอันกว้างใหญ่แห่งแคว้นกาสี
 
ผืนป่าอันกว้างใหญ่แห่งแคว้นกาสี
 
     “ ทำไงดีละท่าน พักนี้เราไม่ค่อยได้รับสิ่งใดจากชาวบ้านเลย หากเป็นอย่างนี้ เราต้องแพ้คณะโน้นแน่เลย ” “ นั่นนะสิ ไม่ได้การแล้ว เราต้องหาวิธีแก้ไข ” “ ฮิ ฮิ ฮิ  เป็นไปตามแผน
เริ่มสะสมสิ่งของกันให้มาก ๆ เถอะ อาตมาจะเป็นนายหน้า หาของมาขายให้เอง  ฮิ ฮิ รวยเละ ”
 
นายโจรผู้มีวิชชาสามารถรู้ภาษาสัตว์ทุกชนิด
 
นายโจรผู้มีวิชชาสามารถรู้ภาษาสัตว์ทุกชนิด
 
     เมื่อความล่วงรู้ถึงพระกรรณ์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเรียกให้พระปัณฑกะ และโลหิตกะเข้าเฝ้า “ การกระทำของพวกเธอ ย่อมเป็นเหมือนการกระทำของนกกระไน
เมื่ออดีตชาติโน้น ” เมื่อพระภิกษุทูลขอให้ทรงเล่าเรื่องนั้น ทรงมีพระกรุณาธิคุณตรัสเล่า สัตตปัตตชาดกขึ้น
 
นายโจรและสมุนผู้คอยดักปล้นผู้คนตามแนวชายแดนเมืองพาราณสี
 
นายโจรและสมุนผู้คอยดักปล้นผู้คนตามแนวชายแดนเมืองพาราณสี
     
     ณ เวลานั้น ไกลออกไปจากแคว้นกาสี ล่วงพ้นเขตกสิกรรมและลำน้ำสู่ผืนป่า อันเป็นทางผ่านไปสู่แว่นแคว้นอื่น ๆ ในอดีตครั้งนั้น ยังมีนายโจรคนหนึ่งนำสมุนคอยดักปล้น
คนเดินทางตามชายขอบพระนครพาราณสี “ วันนี้ไปลุยที่ไหนดี หัวหน้า ” “ คันไม้คันมือ อยากหาเรื่องคน ”

นายโจรนำทรัพย์สินที่ปล้นมาได้แจกจ่ายให้กับชาวบ้านผู้ยากไร้
 
นายโจรนำทรัพย์สินที่ปล้นมาได้แจกจ่ายให้กับชาวบ้านผู้ยากไร้
 
     “ เฮ้ย เป็นโจรนะเว้ย ไม่ได้เป็นนักเลงหัวไม้จะได้หาเรื่องใคร พวกเจ้าเตรียมตัวให้ดีเถอะ วันนี้เราได้ปล้นกันแน่ ๆ ฮ่า ฮ่า ๆ ” กิตติศัพท์นายโจรนี้เลื่องลือไกล เลือกปล้น
เฉพาะทรัพย์มีค่าเท่านั้น ไม่เคยทำร้ายใคร กับทั้งมักแจกจ่ายอาหารเสื้อผ้าแก่ผู้ยากไร้ตามชายแดนอยู่เสมอ “ โชคดีจังได้รับของแจกด้วย ข้าวสารนี้คงเอาไปเลี้ยงลูก ๆ
ได้อีกหลายมื้อ นายโจรนี้ช่างมีน้ำใจจริง ๆ ”
 
นายโจรและสมุนจะปล้นเฉพาะทรัพย์สินมีค่าเท่านั้นโดยมิได้ทำร้ายใคร
 
นายโจรและสมุนจะปล้นเฉพาะทรัพย์สินมีค่าเท่านั้นโดยมิได้ทำร้ายใคร
 
     “ ของพวกนี้ คงขายได้ราคาดีแน่ ๆ ต่อชีวิตได้อีกตั้งหลายวัน ต้องขอบคุณท่านนายโจรแล้วล่ะ ” ด้วยเหตุนี้ร่องรอยใด ๆ ข่าวสารใด ๆ ของนายโจรและสมุนจึงถูกปิดปังอำพรางไว้
มิให้ฝ่ายราชการปราบปรามได้ อีกประการหนึ่งก็ร่ำลือกันว่านายโจรนี้มีวิชชาดี สามารถรู้เหตุล่วงหน้า รู้ภาษาทุกภาษาโลก ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ต่าง ๆ
 
หญิงม่ายและบุตรชายอาศัยอยู่ ณ ชายแดนแคว้นกาสี
 
หญิงม่ายและบุตรชายอาศัยอยู่ ณ ชายแดนแคว้นกาสี
  
     “ ได้ยินเสียงแว่วมาจากที่ไหน เจ้านกพวกนี้มันพูดอะไรกันนักกันหนา หนวกหูจริง ๆ เลย ”  ที่ชายแดนแคว้นกาสียังมีกุฎุมพีบ้านหนึ่งล้มตายลง ทิ้งภรรยาม่ายและบุตรชาย
ให้ดูแลบ้านตามลำพัง นานปีเข้ามารดาก็เริ่มเจ็บป่วย วันหนึ่งจึงบอกให้บุตรชายรู้ว่า ยังมีลูกหนี้รายหนึ่งอยู่ที่ตำบลห่างไกล ค้างหนี้บิดาอยู่อีกหนึ่งพันกหาปนะ
 
หญิงม่ายบอกให้ลูกชายตนไปเก็บเงินจากลูกหนี้รายหนึ่งซึ่งอยู่ในตำบลที่ห่างไกล    

หญิงม่ายบอกให้ลูกชายตนไปเก็บเงินจากลูกหนี้รายหนึ่งซึ่งอยู่ในตำบลที่ห่างไกล
 
     “ ลูกเอ๋ย เงินนั้นจะเป็นทันต่อชีวิตของเจ้า เมื่อแม่จากไปแล้ว เจ้าจงไปทวงหนี้นั้นคืนเถิด ” “โธ่ แม่เจ็บป่วยขนาดนี้แล้วยังจะห่วงลูกอีก แม่สบายใจเถิดจ๊ะ รักษาตัวเองให้หายเถิด
เงินนั้นลูกจะไปทวงมาเอง ” “ ทางไปบ้านลูกหนี้นั้น เจ้าต้องเดินผ่านป่าออกไป ระวังตัวให้ดีนะลูกเอ๋ย อันตรายมันมีมากนัก รีบไปเถิดไม่ต้องห่วงแม่หรอก ”

หญิงม่ายมีความกังวลห่วงใยในอนาคตของลูกชายเป็นยิ่งนัก
 
หญิงม่ายมีความกังวลห่วงใยในอนาคตของลูกชายเป็นยิ่งนัก
  
     “ แม่ดูแลตัวเองให้ดีนะ ลูกเตรียมยาสมุนไพรต่าง ๆ ไว้ให้แล้ว แม่อย่าลืมกินนะ ข้าวปลาอาหารก็ต้องกินให้ครบทุกมื้อ ลูกจะกลับมาไว ๆ แม่อย่าเป็นอะไรนะ ” “ จ๊ะ เจ้ารีบไปเถิด
เดี๋ยวจะมือค่ำกันเสียก่อน ระวังตัวให้ดีนะ ” หญิงม่ายนั้นแม้จะห่วงใยบุตรในการเดินทางเพียงใด แต่ความกังวลห่วงใยในการใช้ชีวิตวันหน้ากลับมีมากกว่า
 
บุตรชายของหญิงม่ายออกเดินทางไปยังอีกตำบลที่ห่างไกล
 
บุตรชายของหญิงม่ายออกเดินทางไปยังอีกตำบลที่ห่างไกล
 
     ทรัพย์อันมีค่าของมารดาจึงมิอาจเปรียบเทียบลูกของตนได้ “ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายได้โปรดคุ้มครองลูกของลูกด้วยเถิด ให้เขาเดินทางโดยปลอดภัย อย่าได้รับอันตรายใด ๆ เลย สาธุ ”
เมื่อถึงเวลาที่บุตรชายต้องเดินทางมุ่งสู่ชนบทที่มีลูกหนี้อาศัยอยู่ มารดากลับมีความห่วงใย เมื่อยามจากกัน
 
หญิงม่ายทุกข์ใจยิ่งนักที่ไม่ได้เดินทางไปกับบุตรชายเหตุเพราะตัวนางนั้นเจ็บป่วย
 
หญิงม่ายทุกข์ใจยิ่งนักที่ไม่ได้เดินทางไปกับบุตรชายเหตุเพราะตัวนางนั้นเจ็บป่วย
 
     “ เฮ้อ นี่หากแม่ไม่เจ็บป่วย คงตามเจ้าไปแล้ว ลูกรักของแม่ แม่ไม่อยากให้เจ้าจากไปไกลเลย ชนบทนั้นห่างไกลนัก ระหว่างทางไกลนั้น ใครจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้า โธ่ ลูกแม่ ”
ความเสียใจของแม่ที่ไม่อยากแยกจากลูกชาย และด้วยจิตอันผูกพ้องต้องกัน วันต่อมาเธอต้องมีอันล้มเจ็บและหมดลมหายใจลงไปนั่นเอง

หญิงม่ายได้สิ้นใจตายเนื่องด้วยอาการเจ็บป่วยของนาง
 
หญิงม่ายได้สิ้นใจตายเนื่องด้วยอาการเจ็บป่วยของนาง
 
     นี่เป็นการดับลงของสังขารมนุษย์ เป็นการดับขันธ์ลงในชาติหนึ่ง แต่จิตอันปฏิพัทธ์ผูกอยู่กับความห่วงใย ทำให้วิญญาณต้องจุติใหม่ในร่างของสุนัขจิ้งจอก สุนัขจิ้งจอกตัวนี้อาศัยอยู่ที่ชายป่า
ซึ่งเป็นทางผ่านของบุตรชาย ซึ่งขณะนี้กำลังเดินทางกลับบ้านพร้อมทรัพย์หนึ่งพันกหาปนะ “ โธ่ลูกแม่ แม่จะปกป้องดูแลเจ้าอย่างไรดี ”
 
วิญญาณของหญิงม่ายจุติใหม่ในร่างของสุนัขจิ้งจอก
 
วิญญาณของหญิงม่ายจุติใหม่ในร่างของสุนัขจิ้งจอก
 
     ยิ่งรู้ว่ามีโจรกลุ่มนั้นกำลังย้อนไปดู ดักทางขากลับของบุตร นางก็ยิ่งร้อนใจ “ แย่แล้ว เราต้องรีบไปเตือนลูก ไม่ให้เดินกลับบ้านทางนั้น ” “ ไป ๆ ไปกันเถิดพวกเรา ข้าได้ยินเสียง
พวกสัตว์มันบอกว่า มีทรัพย์ก้อนใหญ่รอเราอยู่ เรารีบไปทางนั้นกันเถิด ” ด้วยความว่องไวของร่างกายสุนัขจิ้งจอก ไม่นานก็สามารถวิ่งไปไกลกว่ากลุ่มโจร
จนมาดักหน้าบุตรชายได้ทันเวลาพอดี
 
นางสุนัขจิ้งจอกห่วงใยบุตรยิ่งนักเมื่อรู้ว่ากลุ่มโจรกำลังไปยังเส้นทางที่บุตรของตนกำลังเดินทางกลับมา
 
นางสุนัขจิ้งจอกห่วงใยบุตรยิ่งนักเมื่อรู้ว่ากลุ่มโจรกำลังไปยังเส้นทางที่บุตรของตนกำลังเดินทางกลับมา
 
     “ โอ้ย เหนื่อย แต่พักไม่ได้ เราต้องไปถึงลูกให้ทันก่อนโจรกลุ่มนี้ ลูกจ๋า ระวังตัวไว้ อันตรายจะมาถึงตัวเจ้าแล้ว ” เมื่อนางเห็นบุตรชายเดินผ่านชายแดนออกมาก็ดีใจ แต่บุตรชาย
ของนางนั้นเล่า เมื่อเห็นสุนัขจิ้งจอกมาขวางหน้ากลับแปลกใจ มิรู้ว่าเป็นแม่ของตนเองกลับชาติมาเกิด “ เราต้องบอกให้ลูกเปลี่ยนเส้นทางกลับบ้าน ”

กลุ่มโจรและสมุนกำลังเร่งรุดเดินทางไปยังชายแดนเมืองพาราณสี
 
กลุ่มโจรและสมุนกำลังเร่งรุดเดินทางไปยังชายแดนเมืองพาราณสี
 
     “ นั่น อะไรนะ สุนัขจิ้งจอกไม่ใช่เรอะ ทำไมมันจ้องหน้าเราเขม่งอย่างนั้น จะกัดหรือเปล่านี้ ” เมื่อลูกชายเข้ามาใกล้ สุนัขจิ้งจอกก็ตะกุยดินเป็นแนวขวาง เป็นสัญญาณว่าขวางทางไว้
ไม่ให้ลูกชายเดินไปทางนั้นต่อ “ ทางนี้ไปไม่ได้นะลูก โธ่เอ๋ย ลูกจะเข้าใจแม่หรือเปล่าเนี่ย ทางนี้มีอันตราย เจ้าไม่ได้นะ อย่าไปนะ อย่าไป ”
 
นางสุนัขจิ้งจอกรีบวิ่งสุดกำลังไปเตือนบุตรชายของตนให้เปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลบเลี่ยงกลุ่มโจร
 
นางสุนัขจิ้งจอกรีบวิ่งสุดกำลังไปเตือนบุตรชายของตนให้เปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลบเลี่ยงกลุ่มโจร
 
     “ เจ้าสุนัขจิ้งจอกนี้ มันทำอะไรของมัน ตลกนักเชียว อยู่ ๆ ก็ตะกุยดินให้ดู แกะกะขวางทางสะจริง ” อนิจจา ความหวังดีของนางสุนัขจิ้งจอกไม่เป็นผล บุตรชายมิได้สำเหนียกในกิริยานั้นเลย
กลับเอาก้อนหินมาปาแม่ในคราบสุนัขจิ้งจอกอย่างมาใยดี “ เฮ้ย เกะกะจริงเจ้าหมาป่าบ้า ไปสะ ไปให้พ้นทางเลย ข้าจะรีบเดินทางกลับบ้าน ไม่รู้ป่านนี้แม่จะเป็นอย่างไรบ้าง ไป๊ ชิ้ว ชิ้ว ชิ้ว
ว่าแล้วยังนิ่งอีก นี่แน่ะ ไปเลยไป ”
 
นางสุนัขจิ้งจอกวิ่งมาเจอกับบุตรชายของตนตามที่นางคาดหวังไว้
 
นางสุนัขจิ้งจอกวิ่งมาเจอกับบุตรชายของตนตามที่นางคาดหวังไว้
 
      “ โธ่ ลูกจ๋า นี่แม่เอง จะทำยังไงดี แม่จะปกป้องเจ้ายังไงดี ” เมื่อเอาก้อนหินปาไล่นางสุนัขจิ้งจอกหนีไปแล้ว มานพหนุ่มก็เดินทางต่อไปโดยใช้เส้นทางเดิม “ เฮ้อ ต้องรีบเดินทางต่อ
เป็นห่วงแม่จังเลย จากไปตั้งหลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าแม่จะเป็นอย่างไร หายป่วยหรือยังก็ไม่รู้ ”

นางสุนัขจิ้งจอกใช้เท้าตะกุยดินเป็นเครื่องหมายบอกบุตรของตนว่าห้ามไปในเส้นทางที่เขาจะต้องไป
 
นางสุนัขจิ้งจอกใช้เท้าตะกุยดินเป็นเครื่องหมายบอกบุตรของตนว่าห้ามไปในเส้นทางที่เขาจะต้องไป
 
      ระหว่างทางมีนกกระไนตัวหนึ่งร้องทัก ชายหนุ่มมิเคยได้เรียนรู้ภาษาสรรพสำเนียงสัตว์ จึงคิดว่าเสียงร้องของนกกระไนนั้นเป็นมงคลกับตัวเอง “ นกน้อยให้พรเราเช่นนั้นรึ
เสียงเพราะจัง ร้องอีกสิ ร้องอีก เสียงเจ้าฟังแล้วไพเราะนัก หายเหนื่อยเลยนะเนี่ย ”
 
บุตรชายของหญิงม่ายใช้ก้อนหินปาไล่นางสุนัขจิ้งจอกให้พ้นทางของตน
 
บุตรชายของหญิงม่ายใช้ก้อนหินปาไล่นางสุนัขจิ้งจอกให้พ้นทางของตน
 
     เสียงของนกกระไนที่ร้องไม่ได้มีความหมายถึงการเป็นมงคลอย่างที่มานพหนุ่มเข้าใจ ความหมายของมันกลับตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง “ ข้ามันสะ ๆ ฆ่ามันเลย มันมีทรัพย์
ตั้งพันกหาปนะ เอาเลย ปล้นเลย มันรวย มันรวยมาก ๆ เลย ”
 
บุตรชายของหญิงม่ายเดินทางกลับบ้านของตนต่อไปในเส้นทางเดิม
 
บุตรชายของหญิงม่ายเดินทางกลับบ้านของตนต่อไปในเส้นทางเดิม
 
      “ แน่ะให้พรเราไม่หยุดเลย เจ้านกนี่น่ารักจริง ๆ ร้องดัง ๆ เลยสิ ข้าชอบ ๆ ร้องเลย ” สุดทางป่ารกนั้น มีนายโจรผู้ฟังเสียงสัตว์รู้ ดักปล้นคนเดินทางอยู่ เสียงนกกระไนมันบอกว่า
มีคนเดินผ่านมาทางนี้ ดีล่ะ รวยสะด้วยจะได้ปล้นให้หมดตัวไปเลย ”
 
ระหว่างทางบุตรหญิงม่ายได้เจอนกกระไนส่งเสียงร้องดังระงมไปทั่วป่า

ระหว่างทางบุตรหญิงม่ายได้เจอนกกระไนส่งเสียงร้องดังระงมไปทั่วป่า
 
     นายโจรผู้นี้ยังล่วงรู้เหตุการณ์ด้วยวิชชาญาณทิพย์อีกวิชชาหนึ่งด้วย เมื่อมานพหนุ่มเดินทางมาถึงจุดปล้น ก็ถูกสมุนของนายโจรควบคุมตัวไว้ “ มาแล้วรึ รวยนักเหรอ เจอนี่สะหน่อยไหมนี่ ”
“ ไม่อยากตาย ก็ส่งทรัพย์มาดี ๆ มีเงินก็ต้องแบ่งกันใช้ เอามา ” “ แย่แล้วโจรนี่น่า ซวยแล้วเราทำยังไงดี อย่า ๆ ๆ อย่าทำอะไรเราเลยน่ะ นี่ ๆ ๆ เงิน พวกท่านเอาไปเถิด ”

บุตรของหญิงม่ายชอบใจในเสียงร้องของนกกระไนเป็นยิ่งนัก
 
บุตรของหญิงม่ายชอบใจในเสียงร้องของนกกระไนเป็นยิ่งนัก
 
      ด้วยเพราะเคยเกื้อกูลกันมาแต่อดีต นายโจรจึงคืนทรัพย์ให้ แล้วเล่าความเป็นมาให้มานพหนุ่มได้รู้ “ ท่านไม่รู้หรอกรึว่า มารดาของท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว นางได้มาเกิดในร่าง
ของสุนัขจิ้งจอกตัวที่มาขวางทางเจ้าไว้นั่นแหละ ด้วยกลัวว่าเจ้าจะมีอันตราย จึงมาขวางไว้แต่แรก แต่เจ้ากลับใช้ก้อนหินปานาง แล้วไล่นางไป
 
บุตรของหญิงม่ายเจอกับกลุ่มโจรและจำต้องมอบเงินให้กับโจรเหล่านั้น
 
บุตรของหญิงม่ายเจอกับกลุ่มโจรและจำต้องมอบเงินให้กับโจรเหล่านั้น
 
     แล้วเจ้านกกระไนที่ชมนักชมหนาที่ว่าเสียงมันไพเราะ เป็นมงคลกับเจ้านั่นน่ะ แท้ที่จริงแล้วมันร้องเพื่อบอกให้โจรมาปล้นเจ้า จะได้ฆ่าเจ้าให้ตาย ” “ โธ่ แม่ ลูกไม่น่าทำอย่างนั้น
กับท่านเลย ” “ เอาเถิด จงกลับไปบูชาแม่ของเจ้าให้ดี ๆ เถิด ทรัพย์นี้เราจะขอคืนให้กับเจ้า ไปเถิด ”
 
เหตุเพราะเคยเกื้อกูลกันมาแต่ในอดีตนายโจรจึงคืนเงินและปล่อยตัวบุตรของหญิงม่ายให้กลับบ้านไป
 
เหตุเพราะเคยเกื้อกูลกันมาแต่ในอดีตนายโจรจึงคืนเงินและปล่อยตัวบุตรของหญิงม่ายให้กลับบ้านไป
 
     นายโจรเห็นแก่ความรักที่มารดามีต่อบุตร จึงปล่อยมานพหนุ่มให้กลับบ้านเรือนโดยคืนทรัพย์ให้เป็นทุนดั่งที่มารดาตั้งใจไว้ พระศาสดาทรงประกาศสัจจธรรม ประชุมชาดก
เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์มิให้หลงผิดเป็นชอบ
 
 
 
ในพุทธกาลครั้งนั้น นายโจรเสวยพระชาติเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
 
[[videodmc==56578]]
 
 
นิทานชาดก 500 ชาติ
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/นิทานชาดก/ นิทานชาดก-สัตตปัตตชาดก.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 16:16
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv