สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปจัดเป็นเอกเทศ โอ่โถง และสะอาดสวยงาม เพราะถือกันว่าเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า ชาวพุทธจึงนิยมเข้าไปยังสถานที่นั้น ๆ โดยปฏิบัติเหมือนว่าได้เข้าเฝ้าองค์พระพุทธเจ้าทุกเช้า เย็น และพากันสวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย ซึ่งเรียกว่า ทำวัตร และสวดพระสูตรพระปริตรต่าง ๆ ซึ่งเป็นพระ พุทธพจน์ เป็นพระโอวาทเรียกว่า สวดมนต์ เท่ากับได้ฟังพระโอวาทของพระพุทธเจ้าทุกเช้าเย็น การกระทำเช่นนี้ นิยมแพร่หลายขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นระเบียบพิธีขึ้นจนทุกวันนี้
การทำวัตรสวดมนต์
นอกจากมุ่งหมายเพื่อให้ชาวพุทธได้เข้าเฝ้าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหมือนเมื่อครั้งพุทธกาลแล้ว ยังเพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้บำเพ็ญพระกรรมฐานอันเป็นอุบายให้จิตเป็นสมาธิมี ความสงบ ไม่ฟุ้งซ่านวุ่นวายในขณะนั้น แม้จะชั่วระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมง ก็จะมีผลทำให้จิตใจได้พักผ่อนจากอารมณ์ภายนอก ทำให้เกิดความเยือกเย็นเย็นสุขุมขึ้น เหมือนเครื่องยนต์ที่ถูกใช้งานหนักมาแล้วได้ถูกพักบ้างแม้ไม่นานก็ตาม ก็ทำให้เครื่องยนต์นั้นเย็นลงมีกำลังดีขึ้น ฉะนั้น
นอกจากนั้น การทำวัตรสวดมนต์ยังเป็นโอกาสให้พระภิกษุสามเณรได้สวดพิจารณาปัจจัย ได้สวดอนุโมทนาทานของทายก ได้สวดแผ่ส่วนกุศลหรือกรวดน้ำให้ผู้อื่นด้วยจิตบริสุทธิ์อีกด้วย เพราะมีความมุ่งหมาย ดังนี้ บัณฑิตทั้งหลายจึงกำหนดการทำวัตรสวดมนต์ขึ้นไว้เป็นหน้าที่ของชาวพุทธอย่าง หนึ่ง ที่ไม่ควรละเว้น หรือหลบหลีก เสีย ด้วยมองข้ามว่า "เป็นกิจไม่สำคัญอะไร" เพราะเป็นอุบายทำความดีอย่างหนึ่งในพระพุทธศาสนา ที่เรียกว่า "ภาวนามัย"
การทำวัตรสวดมนต์เป็นการทำความดีซึ่งเป็นบุญอย่างหนึ่ง
อานิสงส์ของการสวดมนต์
ดังกล่าวมาแล้วว่า การทำวัตรสวดมนต์เป็นการทำความดีซึ่งเป็นบุญอย่างหนึ่ง ฉะนั้น เมื่อทำจนเป็นนิสัยประจำวันแล้ว ย่อมได้รับผลอานิสงส์หลายประการ เช่น
1. ทำให้ได้รับความชื่นใจสบายใจ ทำให้เกิดพุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ เหมือนได้เข้าเฝ้าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อพระพักตร์ทุกวัน
2. ได้ชื่อว่าบำเพ็ญพระกรรมฐาน อบรมจิตใจให้เป็นสมาธิ มีความแน่วแน่ สงบเย็น ไม่ฟุ้งซ่าน ทำให้จิตใจมีอำนาจมีพลัง สามารถควบคุมอารมณ์ข่มกิเลส และควบคุมตัวเองได้ดี
3. ได้เปลื้องมลทินอันเกิดจากการบริโภคปัจจัยของทายกโดยมิได้พิจารณาในวันนั้น เท่ากับได้เปลื้องหนี้ให้ตัวเอง จัดเป็นผลทางพระวินัย
4. ได้มีโอกาสแผ่ส่วนบุญกุศลให้แก่ผู้อื่น จัดว่าได้ทำบุญข้อว่า ปัตติทานมัย
5. ได้รับความนับถือและยกย่องจากพระภิกษุสามเณรด้วยกันและทายกทายิกาทั่วไปว่าเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี ไม่ละเว้นหน้าที่ที่จะต้องทำ รักษาระเบียบประเพณีไว้ได้ เป็นการสร้างแบบอย่างที่ดีไว้แก่อนุชนรุ่นหลัง
6. ทำให้เป็นผู้อาจหาญในหมู่ ไม่ติดขัดเก้อเขินในเวลาทำพิธี เพราะเป็นผู้แคล่วคล่องในมนต์ต่าง ๆ
แบบพิธีทำวัตรสวดมนต์
การทำวัตรสวดมนต์นี้มีแบบอย่างโดยเฉพาะ คือ แบบทำวัตรสวดมนต์สำหรับพระภิกษุสามเณร แบบทำวัตรสวดมนต์สำหรับอุบาสกอุบาสิกา และแบบทำวัตรสวดมนต์สำหรับนักเรียน เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบบนั้นมีเหมือนกันบ้าง แตกต่างกันบ้าง มากน้อยตามความนิยม ส่วนมากก็มีเป็นหนังสือเฉพาะแบบแล้ว จึงจะไม่นำมากล่าวในที่นี้อีก ผู้สนใจพึงแสวงหาไว้เป็นสมบัติส่วนตัวเพื่อปฏิบัติเองเถิด