Case Study
ชีวิตเด็กวัด
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
    คุณพ่อ เกิดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่หลังจากได้แต่งงานกับคุณแม่แล้ว ได้มาตั้งรกรากอยู่ที่จังหวัดสตูล ซึ่งในสมัยนั้นเป็นป่าเขาลำเนาไพร คุณพ่อยึดอาชีพเลี้ยงช้างลากซุง และทำไร่ ทำสวน เข้าป่าล่าสัตว์อยู่เป็นประจำ ต่อมา ได้ย้ายเข้ามาในเขตอำเภอเมือง ได้ขายช้างทั้งหมด เปลี่ยนมาทำอาชีพทำนา ทำสวนยาง เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงปลา และเลี้ยงหมูขาย ที่นี่ คุณพ่อได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ใหญ่บ้าน ทำให้ท่านได้มีโอกาสพัฒนาหมู่บ้านให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ข้อเสียคือ เป็นสาเหตุให้คุณพ่อตั้งตัวเป็นเท้าแชร์
 
    เนื่องจากมีวัดอยู่หน้าบ้าน คุณพ่อจึงได้มีโอกาสช่วยเหลือวัด ชักชวนคนมาทำบุญอยู่บ่อยๆ คุณพ่อได้มีโอกาสมาทำบุญที่วัดพระธรรมกายอยู่หลายครั้ง ได้ชักชวนคนในหมู่บ้านเหมารถบัสกันมา บางครั้งก็นั่งรถไฟ คุณพ่อเป็นผู้นำบุญแบบธรรมดา แม้จะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องบุญมากนัก แต่ก็ได้มีโอกาสไปนั่งสมาธิที่สวนบัว 1 ครั้ง ได้มาบวชสามเณรธรรมทายาท (ลูกชายคนเล็ก) 1 ครั้ง
 
    คุณพ่อเคยประสบอุบัติเหตุ ครั้งแรก โดนรถมอเตอร์ไซด์วิ่งมาชน บาดเจ็บ ไม่มากนัก ครั้งที่ 2 รถยนต์ที่ท่านนั่งไปร่วมงานแต่งงาน เกิดพลิกคว่ำ คุณพ่อบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ยังรอดมาได้ ครั้งหลังสุด ท่านโดนรถมอเตอร์ไซด์ชนในสถานที่เดียวกันกับที่โดนชนครั้งแรก คือหน้าบ้านของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน คราวนี้คุณพ่อบาดเจ็บสาหัส และไปสิ้นชีวิตที่โรงพยาบาล สิริอายุได้ 59 ปี
 
    คุณแม่ เป็นแม่บ้านที่ดี หลังจากมีลูกคนที่ 5 แล้ว คุณแม่เจ็บออดๆแอดๆเรื่อยมา ตลอดชีวิต คุณแม่ต้องทำปาณาติบาตอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะกับ กุ้ง หอย ปู ปลา แต่ถ้าเป็นไก่หรือสัตว์ใหญ่ คุณพ่อจะเป็นคนฆ่า หรือยิงมาให้คุณแม่ทำเป็นอาหาร คุณพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า “ปกตินกขุนทองน่ะ ไม่มีใครเขากินกันหรอก แต่พอแม่มาบอกว่าไม่มีกับข้าวจะให้ลูกกิน พ่อก็ต้องยิงนกขุนทองมาให้แม่ทำกับข้าว” คุณแม่ชอบทำบุญ คอยอุปัฏฐากพระที่วัดหน้าบ้านเป็นประจำ ทำปิ่นโตให้ลูกเอาไปส่งที่วัด โดยเฉพาะหน้าเทศกาล คุณแม่ก็จะเข้าไปช่วยงานในวัด ทำอาหารเลี้ยงพระ เลี้ยงคน และฟังธรรม คุณแม่ได้มีโอกาสมาทำบุญที่วัดพระธรรมกาย 1ครั้ง ในช่วงที่ยังแข็งแรงอยู่ ท่านชอบมาก แต่ต่อมา คุณแม่ได้ป่วยหนักมาก เพราะโรคเบาหวาน ทำให้ไตวาย เลือดในตัวเสีย ลูกๆเฝ้าคุณแม่อยู่ไม่กี่วัน ในที่สุดท่านก็สิ้นใจ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2535 สิริอายุได้ 44 ปี
 
    บ้านของผมอยู่หน้าวัดประจำหมู่บ้าน ผมชอบเข้าไปวิ่งเล่นในวัด และรับใช้พระภิกษุในวัดเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชอบให้พระในวัดเล่านิทานให้ฟัง และจะจดจำ นำไปเล่าให้ทุกคนที่บ้านฟังต่อได้หมด ตอนเช้าๆก่อนพระจะออกบิณฑบาต ท่านก็จะมาเรียกผมที่หน้าบ้านให้ไปช่วยหิ้วปิ่นโต ผมรักชีวิตแบบเด็กวัดมากๆ รู้สึกว่ามีความสุขเมื่อได้มาอยู่กับเด็กวัด รับใช้พระ เคยขออนุญาตคุณพ่อกับคุณแม่มาอยู่ในวัด แต่ท่านทั้งสองไม่ยอม
 
    ผมสอบได้อันดับ 1 ทุกปี จนจบชั้น ป.6 หลังจากนั้น ได้เข้าเรียนต่อชั้นมัธยมในโรงเรียนประจำจังหวัด   และได้ไปอยู่ในสำนักสงฆ์กลางทุ่งนาที่ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก ชีวิตในช่วงนี้ลำบาก เรื่องอาหารการกินมากๆ เนื่องจากพระบิณฑบาตได้อาหารมาน้อย จึงไม่ค่อยจะเหลือมาถึงลูกศิษย์ เด็กวัดหากินกันเองตามมีตามได้ อาหารฝืดเคืองมากๆต้องไปหาเก็บผักตามทุ่งนามาไว้ต้มกิน หรือบางทีไม่มีข้าวก็ต้องไปหาเผือกหามันมาต้มกินพอประทังชีวิตให้ไปโรงเรียนได้ ส่วนอาหารกลางวันนั้นไม่มีโอกาสได้ตกถึงท้องเลย การเรียนแย่ลงมาก สอบได้แค่พอผ่านเท่านั้น
 
    จนกระทั่งได้มาเรียนอยู่ที่วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ ในช่วงนั้น ได้มีโอกาสมาพักอยู่ที่วัดปากน้ำหาดใหญ่ วันนั้นโรงเรียนหยุด ข้าวสารที่เอามาจากบ้านเพื่อหุงกินก็หมด เงินก็ไม่มี ไม่กล้าไปหยิบยืมใคร เลยตัดสินใจนึกอธิษฐานกับหลวงปู่วัดปากน้ำว่า “หลวงปู่ครับ สายแล้ว ลูกยังไม่มีข้าวจะหุงกินเลย ขอบารมีธรรมหลวงปู่ช่วยลูกด้วยเถิด” ปรากฏว่า อยู่ต่อมาอีกครู่ใหญ่ ผมก็เดินออกมาที่ข้างๆห้องพัก เห็นโต๊ะตัวหนึ่ง (เหมือนโต๊ะนักเรียน) วางอยู่นานแล้ว มีห่อผ้าสีแดงวางอยู่ในโต๊ะ จึงหยิบมาแกะดู ปรากฏว่ามีข้าวสารอยู่ในห่อผ้านั้น ซึ่งปกติที่ตรงนั้นไม่มีคนอื่นอาศัยอยู่อีก และเป็นไปไม่ได้ว่าจะมีคนเอาผ้าแดงห่อข้าวสารใส่ไว้อย่างนั้น วันนั้นจึงได้มีข้าวสารมาหุงกิน หลังจากหุงแล้วยังไม่ทันได้กิน ก็มีคนมาบอกว่า “จะมีคนเลี้ยงอาหารวันนี้” นับว่าเป็นเรื่องที่อัศจรรย์ใจมากๆในตอนนั้น
 
ลูกกราบขอความเมตตาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เรียนถามดังนี้ครับ 
 
1.คุณพ่อกับคุณแม่หลังจากตายไปแล้วไปอยู่ที่ไหน มีความเป็นอยู่อย่างไร ที่ลูกๆอุทิศบุญไปให้ท่าน ท่านได้รับหรือไม่
 
2.ทำไมคุณพ่อ โดนรถมอเตอร์ไซด์ชนที่เดียวกันถึง 2 ครั้ง จนในที่สุดเสียชีวิต มีกรรมอันใดของคุณพ่อเกี่ยวข้องกับสถานที่ตรงนั้นหรือไม่
 
3.กรรมอะไรที่ทำให้คุณแม่ ต้องผจญกับโรคภัยอยู่ตลอด จนกระทั่งสุดท้ายเป็นโรคไตวาย เสียชีวิต
 
4.ทำไมผมจึงได้มาเกิดในครอบครัวนี้ และชอบชีวิตเด็กวัด เพราะกรรมอะไรจึงทำให้ผมต้องอดอยากลำบากมากกว่าพี่น้องคนอื่นๆ โดยเฉพาะในช่วงเรียนมัธยม
 
5.ห่อผ้าสีแดงที่มีข้าวสาร ช่วยให้รอดพ้นความหิวในครั้งนั้น มาได้อย่างไรครับ
 
6.ในอดีต ผมสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไรครับ
 
กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างสูง
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ
 
1.คุณพ่อตายแล้ว ตอนแรกๆได้วนเวียนอยู่กับครอบครัว เมื่อครบ 7 วัน เจ้าหน้าที่ก็มารับตัวไปยมโลก เพื่อพิจารณาบุญบาป
 
 
 
 
 
 
2.คุณพ่อ ประสบอุบัติเหตุสองครั้งที่เดิมนั้น ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษในที่บริเวณนั้น เป็นการบังเอิญมาพ้องกัน
 
 
 
 
3.คุณแม่ป่วยเป็นเบาหวาน ไตวาย เพราะกรรมทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่ได้ฆ่าสัตว์ทำอาหารเป็นอาจิณ
 
 
4.ในอดีตชาติ ลูกเคยเกิดในครอบครัวที่ยากจน ในสังคมเกษตรกรรม และได้มาเป็นเด็กวัด เมื่ออาหารเหลือจากพระ ก็มักจะเก็บซ่อนไว้กินคนเดียวไม่แบ่งให้เพื่อนเด็กวัดด้วยกัน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
5.ห่อผ้าสีแดงที่มีข้าวสารใส่ไว้ ซึ่งอยู่ในโต๊ะ ช่วยให้รอดพ้นจากความหิวมาได้อย่างอัศจรรย์ในครั้งนั้นก็คือ บุญเก่าที่ได้เคยแบ่งปันอาหาร และเครื่องบริขารแก่เพื่อสหธรรมิก เมื่อครั้งที่ออกบวชตามพระราชา ดังกล่าว ตามมาช่วย ทำให้มาเจอห่อข้าวสารที่เพื่อนเด็กวัดแอบเอามาซ่อนไว้
 
 
6.ในอดีต ลูกได้ติดตามสร้างบารมีกับหมู่คณะเรื่อยมาแบบใกล้ชิด และสุดท้ายมักจะได้บวชตลอดชีวิต เมื่อบวชแล้วได้ปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงพระธรรมกาย ปิดอบายช่วยตัวเองได้
 
 
 
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2547-03-12.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 14:21
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv