Case study
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบแทบเท้า พระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง
 
    คุณพ่อของลูก หมั้นกับ คุณแม่ ที่จังหวัดสงขลา เป็นเวลา 10 ปี ระหว่างที่เป็นคู่หมั้น คุณพ่อมารับราชการในกรุงเทพฯ ช่วงนั้นมีผู้หญิงมาติดพันคุณพ่อ จนถึงขั้นมีลูกด้วยกัน แต่ญาติผู้ใหญ่ไม่มีใครทราบ  ต่อมา คุณพ่อกลับไปแต่งงานกับคุณแม่ของลูกที่ปักษ์ใต้ เวลาผ่านไปเกือบปีคุณแม่จึงทราบว่า คุณพ่อมีภรรยาและลูกชายแล้ว  4 คน คุณแม่จึงตัดสินใจไม่ตามคุณพ่อมาอยู่กรุงเทพฯ เมื่อคุณแม่ตั้งท้องและคลอดตัวลูกนั้น คุณพ่อไม่ทราบ เพราะคุณแม่ปกปิดไม่ยอมให้พบ ต่อมา คุณพ่อทราบว่ามีลูกสาว คุณพ่อดีใจมาก และอยากพบลูกสาวมาก แต่คุณแม่ไม่ยอมให้พบ จนลูกอายุได้ 4 ขวบ คุณป้า (พี่สาวของคุณพ่อ) ได้ส่งภาพถ่ายของลูกไปให้คุณพ่อดู ช่วงนั้นคุณพ่อเป็นโรคหัวใจอาการหนักมาก และต่อมาได้เสียชีวิต ลูกจึงไม่เคยเห็นหน้าของคุณพ่อเลย เมื่อโตขึ้นลูกได้ย้ายมาเรียนที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ มศ.2 จนจบปริญญา และแต่งงาน 
 
    ลูก และ พ่อบ้าน ได้มาวัดพระธรรมกายครั้งแรก ในงานหล่อพระประธานที่ประดิษฐานในโบสถ์องค์แรก เราสองคนประทับใจทุกอย่างภายในวัดมาก ไม่เคยพบเคยเห็นวัดที่สะอาด สงบ และมีระเบียบวินัยเช่นนี้มาก่อน โดยเฉพาะพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ร่วมกันสวดอิติปิโส ตั้งแต่ต้นจนเสร็จพิธี จากนั้นลูกและพ่อบ้านได้ร่วมบุญทุกบุญของวัดพระธรรมกาย และได้อยู่ธุดงค์ปลายปี พ.ศ.2529 ซึ่งเป็นปีทองของกัลยาณมิตร ทำให้เข้าใจเป้าหมายของชีวิต จึงทุ่มสร้างบารมีอย่างต่อเนื่อง ในช่วงนั้นจะถืออุโบสถศีลทุกวันพระ และทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรผู้นำบุญ
 
    เมื่อประมาณปี พ.ศ.2529 ลูกได้รับ คุณยาย ซึ่งบวชเป็นแม่ชี มาอยู่ที่บ้าน ต่อมา ท่านขอร้องให้ลูกตั้งศาลพระภูมิ โดยบอกว่า “ฝันเห็นผู้หญิง และเธอขอมาอยู่ด้วย” ลูกไม่อยากขัดใจคุณยาย จึงได้ทำพิธีตั้งศาลพระภูมิ (เป็นปูนหล่อ มีเสาเดียว) และศาลเจ้าที่ (เป็นบ้านไม้เล็กๆ มีสี่เสา) ลูกก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องตั้ง 2 ศาล แต่ผู้ทำพิธีแนะนำก็ทำตาม เมื่อตั้งศาลแล้วก็ต้องนำอาหารมาถวายทุกวัน หลังจากคุณยายเสียชีวิตด้วยโรคชรา พ่อบ้านจึงปรารภที่จะรื้อศาลทิ้งด้วยตัวเอง เขาบอกว่า “อายจัง เป็นลูกหลวงพ่อแล้วยังตั้งศาลอีก” ลูกเริ่มกังวลเพราะทราบว่า ถ้ารื้อไม่ถูกวิธีจะมีเหตุเภทภัย แต่พ่อบ้านยืนยันว่า “เราเป็นลูกหลวงพ่อ หากทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ก็ไม่มีอะไรน่ากลัว ถ้าเธอกังวลก็ไปสร้างองค์พระให้เขาสิ”
 
    ลูกจึงได้สร้างองค์พระธรรมกายสลักชื่อ พระภูมิบ้าน…(นามสกุล) และเจ้าที่บ้าน…(นามสกุล) เมื่อสร้างพระแล้วก็ได้จุดธูปบอกว่า “ขอท่านจงรับบุญที่ได้สร้างองค์พระให้ในนามของท่าน และอัญเชิญท่านไปอยู่ในวิมานที่ดีกว่านี้เถิด” จากนั้นลูกและพ่อบ้าน ก็ช่วยกันรื้อศาลทิ้งไปด้วยตัวเอง ไม่ต้องเชิญให้ใครมาทำพิธีรื้อให้ยุ่งยาก หลังจากนั้น ครอบครัวของลูกก็ดีขึ้นมาเรื่อยๆหน้าที่การงานก็ก้าวหน้าขึ้น พ่อบ้านมีโอกาสไปทำงานที่ต่างประเทศ ลูกได้สร้างพระธรรมกายประจำตัวให้กับหมู่ญาติอันเป็นที่รักจนครบแล้ว จึงได้สร้างพระสลักชื่อเทวดาประจำรถเบ็นซ์ และเทวดาประจำรถโฟล์ค โดยคิดว่ารถก็น่าจะมีเทวดาประจำ  เหมือนเรือที่มีแม่ย่านาง แต่มีสิ่งที่ไม่ปกติก็คือ ตัวลูกมักจะประสบอุบัติเหตุหนักๆหลายครั้ง เช่น      
    คุณยายของลูก เป็นคนใจบุญ ไปวัดตั้งแต่เด็กๆ มีอาชีพทำขนมขาย จนเมื่อลูกอายุ 9 ขวบ คุณยายได้ขายทรัพย์สินแบ่งให้คุณแม่ของลูกซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของท่าน แล้วคุณยายก็ไปบวชชี ที่วัดปากน้ำ   อำเภอหาดใหญ่ คุณยายศรัทธา และเคารพพระเดชพระคุณหลวงปู่พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) มาก เมื่อหลวงปู่ฯละสังขาร คุณยายได้เดินทางจากปักษ์ใต้มาเคารพ และร่วมสวดพระอภิธรรมด้วย เมื่อคุณยายอายุได้ 80 ปี ก็เดินไม่ได้เพราะขาโก่งมาก ลูกรับท่านมาอยู่กรุงเทพฯ แม้เดินไม่ได้ แต่ก็นั่งรถเข็นไปตักบาตรทุกเช้า คุณยายไม่มีโรคประจำตัว ก่อนเสียชีวิต ท่านบอกลูกว่า “ไฟธาตุแตกแล้วจะอยู่อีก 3 วัน” วันรุ่งขึ้นลิ้นเริ่มแข็ง พูดไม่ถนัด ดื่มน้ำไม่ได้ ต้องให้น้ำเกลือ ลูกเปิดเทปพระธรรมเทศนาของหลวงปู่ฯให้คุณยายฟังตลอดเวลา แล้วท่านก็หลับไปอย่างสงบตามวันที่กำหนด เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2530 สิริอายุ 84 ปี
 
ลูกกราบขออนุญาตถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ดังนี้เจ้าค่ะ
 
1.คุณแม่ของลูกทำกรรมอะไร จึงต้องเป็นภรรยาคนที่ 2 ทั้งๆที่ได้รับการหมั้นก่อน
 
2.ลูกทำกรรมอะไรค่ะ จึงไม่ได้พบคุณพ่อ ทั้งๆที่คุณพ่อรักลูกมาก
 
3.ลูกสร้างพระประจำตัวสลักชื่อพระภูมิ, เจ้าที่ บุญนี้ทำให้วิมานของท่านเปลี่ยนไปจริงหรือไม่ ลูกสาวเคยเห็นคนแต่งชุดขาวเดินอยู่ในบ้านแวบๆ  เธอตาฝาดหรือเป็นความจริงคะ
 
4.เหตุใดลูกจึงประสบอุบัติเหตุหนักๆหลายครั้ง แต่อาการไม่หนัก ลูกต้องทำบุญอะไร จึงจะไม่เกิดอุบัติเหตุอีกคะ
 
5.การสร้างพระประจำตัวสลักชื่อเทวดาประจำรถ เป็นวิสัยที่ควรทำหรือไม่ เมื่อครั้งที่ลูกกลับมาร่วมบุญจุดมาฆประทีป ปี พ.ศ.2547 วันหนึ่งลูกขับรถคนเดียวไปซื้อดอกไม้มาบูชาพระที่บ้าน คุณป้าเพื่อนบ้านยืนยันว่า เห็นมีผู้ชายนั่งอยู่ในรถด้วย เขาเป็นใครและต้องการอะไรคะ
 
6.คุณยายตายแล้วไปอยู่ภพภูมิใด กรรมอะไรทำให้คุณยายเดินไม่ได้ ลูกสร้างพระประจำตัวสลักชื่อคุณยาย และอุทิศบุญไปให้ทุกบุญ ท่านได้รับหรือไม่ค่ะ
 
7.ทำอย่างไรลูกจึงจะรู้วันตายเหมือนคุณยายคะ
 
กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างสูง
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ
 
1.คุณแม่มีเศษกรรมจากอดีตชาติ ที่ท่านได้เคยเกิดเป็นผู้ชาย และได้ทำอย่างที่คุณพ่อได้ทำกับท่านในชาตินี้ คือ หมั้นกันแล้ว ก็แอบไปมีภรรยาและลูกหลายคน
 
 
 
 
2.ลูกไม่ได้พบคุณพ่อเลย ทั้งๆที่ท่านรักลูกมาก ก็เป็นเพราะเศษกรรมคล้ายๆกับการกระทำของคุณแม่ในอดีตชาติ ดังกล่าวมาแล้ว แต่เบาบางกว่า
 
 
 
 
3.ลูกสร้างพระธรรมกายประจำตัวสลักชื่อพระภูมิ, เจ้าที่ บุญนี้ก็ถึงเทวดาที่มาอาศัยอยู่ในบ้านลูก แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ เป็นแค่ภุมมเทวาเท่านั้น ซึ่งก็ทำให้เขามีสภาพที่ดีขึ้น และเขาก็ไม่ได้อาศัยในศาลที่ตั้งขึ้นแต่อย่างใด
 
 
 
 
4.ลูกต้องประสบอุบัติเหตุหนักๆหลายครั้ง แต่ไม่เป็นอะไร เพราะกรรมในอดีตสมัยที่ลูกเกิดเป็นผู้ชาย ได้เป็นนักมวยที่มีฝีมือได้จะเตะคู่ต่อสู้ไปทั่วร่างกาย บางทีก็ชกจนคู่ต่อสู้สลบ บางทีก็ชกจนคู่ต่อสู้ตาเขียว หน้าปูด
 
 
 
 
 
 
5.เพื่อนบ้านคนนั้น เข้าใจว่า เป็นสามีของลูกที่อยู่ในรถ แต่ความจริงไม่มีใคร เธอตาฝาด คิดไปเอง อีกประการหนึ่ง เทวดาประจำรถนั้นไม่มี
 
 
 
 
6.คุณยาย ไปเกิด ณ วงบุญพิเศษ เขตเสบียงแล้ว เพราะใจผูกพันกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ และได้ทำบุญกับท่าน จึงได้ไปอยู่ที่นั่น
 
 
 
 
7.หากอยากจะรู้วันตายเหมือนคุณยายของลูก ก็ต้องปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย หรือดวงธรรมใสๆ ก็จะสามารถรู้ได้ ให้หมั่นปฏิบัติธรรมให้สม่ำเสมอก็จะสมความปรารถนา
 
           
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2547-04-02.html
เมื่อ 29 มิถุนายน 2567 10:24
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv