Case study
น้ำท่วมที่พังงา
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
    ผม เป็นผู้นำบุญภาคนครหลวง4  อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ผมและครอบครัวได้เข้าวัดพระธรรมกายมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 ทุ่มเททำบุญทุกบุญไม่เคยขาดเลยแม้แต่บุญเดียว ล่าสุดได้ทำบุญเสาแก้วมหารัตนวิหารคดจำนวน 2 ต้น และถวายครบเรียบร้อยแล้ว โดยตั้งใจจะมาร่วมอยู่ธุดงค์กลั่นแผ่นดินในปีใหม่นี้ด้วย
 
    แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับ น้องชายคนเล็กของผม น้องชายของผมได้เปิดกิจการที่จังหวัดภูเก็ตเป็นเวลาประมาณ  18  ปีแล้ว ธุรกิจของน้องชายไปได้ดีและล่าสุดได้ร่วมหุ้นกับชาวต่างชาติ จะเปิดกิจการทำธุรกิจโรงแรม อยู่ที่หาดบางสัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา โดยใช้ชื่อโรงแรมว่า “เขาหลักปริ๊นเซส รีสอร์ท” ตัวโรงแรมกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง กำหนดจะแล้วเสร็จและเปิดทำการภายในเดือน มกราคม พ.ศ.2548 ในช่วงเวลานี้น้องชายจึงได้ไปเช่ารีสอร์ท อยู่ใกล้ที่ก่อสร้างโรงแรมเพื่ออยู่ดูแลงาน วันที่ 26ธันวาคม ขณะที่ได้พาคนงานไปเคลียร์พื้นที่ เพื่อรอรับงานต้อนรับปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ ก็ได้เกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์ถล่มที่ภาคใต้ ในจุดที่น้องชายอยู่คือ อำเภอตะกั่วป่า ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ทำให้น้องชาย เพื่อนๆของน้องชาย และลูกน้อง คนงานก่อสร้างเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ไปหลายคน
 
    วันที่เกิดคลื่นถล่ม ทางผมก็ยังไม่ทราบว่าน้องชายจะเสียชีวิตหรือไม่ ได้พยายามติดต่ออยู่แต่ก็ไม่ทราบข่าว อีกทั้งในเขตพื้นที่ที่น้องชายอยู่นั้น ได้มีทหารเข้ามาเคลียร์พื้นที่จึงยังไม่สามารถเข้าไปค้นหาได้ จนกระทั่งในวันรุ่งขึ้น  คือวันที่ 27  ธันวาคม จึงได้พบศพของน้องชาย
 
    ปกติอัธยาศัยของน้องชายเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รักญาติ รักเพื่อน รักลูกน้อง จึงทำให้ทั้งเพื่อนและลูกน้องรักเขามาก เมื่อน้องชายตาย ลูกน้องสองคนของน้องชายก็ได้บวชให้เขาด้วย น้องชายเคยทำบุญกับทางวัดพระธรรมกาย เวลาที่ผมบอกบุญอยู่เสมอ เขาจะทำมาครั้งละ หมื่น สองหมื่น
 
    ในวันที่ 28 ธันวาคม เป็นวันที่สามนับจากวันที่เสียชีวิต ลูกสาวของน้องชาย   ได้เห็นว่าพ่อ (น้องชายของผม) ได้เข้ามากอด และพูดเป็นภาษาจีน ซึ่งลูกสาวของน้องชาย ฟังไม่เข้าใจ
 
    ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 29  ธันวาคม พวกเราหมู่ญาติ ได้ไปกางเต็นท์นอนนอกบ้าน เนื่องจากภายในบ้านคับแคบ น้องชายของภรรยาผม ได้เห็นว่าน้องชายผม  ได้มาเขย่าเต็นท์  และโผล่หน้าเข้ามา บอกว่าเป็นห่วงลูกและภรรยามาก
 
    ผมมีลูกทั้งหมด 5 คน   ชาย 3  หญิง  2   ลูกชายของผมคนหนึ่ง เกิดมามีความพิการทางสมอง แต่ตั้งแต่เขาเป็นเด็ก  ผมก็พาเขาไปทำบุญเยอะมาก เขาได้รับประทานอาหารดีๆทั้งนั้น เขาชอบมาวัดทุกๆต้นเดือน เวลาเขามาวัด เขาชอบพูดว่า “เห็นยักษ์เห็นเทวดาอยู่ในสภาฯ” ปัจจุบันอายุ 20 กว่าแล้ว แต่ก็ยังต้องไปเข้าโรงเรียนสอนคนปัญญาอ่อน    
 
กระผมขอความเมตตาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยครับ
      
สำหรับคำถามมีดังนี้ครับ 
 
1.น้องชายของผม เพื่อนของน้องชาย และลูกน้องทำกรรมอะไรมาถึง ได้มาตายพร้อมกันในเหตุการณ์คลื่นยักษ์ถล่มในครั้งนี้
 
2.ขณะที่เจอเหตุการณ์น้องชายรู้สึกอย่างไร เขารู้ตัวหรือยังว่าเขาเสียชีวิตแล้ว    
 
3.ขณะที่น้องชายเสียชีวิตเขาไปหาลูกสาวของเขา และน้องชายภรรยาผม จริงหรือไม่ ลูกน้องที่บวชให้ทั้งสองคน น้องชายอนุโมทนาบุญเป็น หรือไม่
 
4.จะมีวิธีการช่วยเหลือน้องชายอย่างไร เขาถึงจะไปดี บุญที่ผมและครอบครัวได้สร้างเสาแก้วไปแล้วทั้งสองต้น จะอุทิศให้เขาได้หรือไม่
 
5.ขณะนี้น้องชายรู้สึกอย่างไร อยู่ที่ไหน มีสภาพเป็นอย่างไร     เขาฝากข้อความอะไรมาถึงญาติๆ หรือไม่
 
6.ลูกชายของผมทำไมจึงเกิดมาปัญญาอ่อน จะแก้ไขได้อย่างไร และทำไมเขาถึงชอบมาวัด ชอบทำบุญ
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ
 
1.น้องชาย เพื่อนน้องชาย และลูกน้อง มาตายพร้อมกัน เพราะแต่ละคนมีกรรมปาณาติบาตในอดีตแตกต่างกันไป โดยน้องชายในอดีตเป็นพ่อค้า ค้าขายทางเรือ เดินทางไปพร้อมกับลูกน้องของตน
 
 

2.ขณะที่เจอเหตุการณ์ น้องชายไม่รู้ตัวว่าตาย เมื่อกายละเอียดหลุดมาแล้ว นึกว่าตัวเองรอด ไปคุยกับคนโน้นคนนี้ แต่ไม่มีใครรู้เรื่อง ในที่สุดก็กลับมาที่ครอบครัวและคุยกับทุกคน แต่ไม่มีใครรู้เรื่อง จึงรู้ตัวว่าตาย แต่ยังรับไม่ได้

3.ขณะที่น้องชายตายแล้วได้ไปหาลูกสาวของเขา และน้องชายภรรยาลูกจริง แต่คุยกับใครไม่รู้เรื่อง จึงพยายามแสดงตัวโดยเขย่าเต็นท์และบอกว่า “เขายังไม่ตายๆ” ซึ่งลูกสาวที่พ่อมากอด และน้องชายภรรยาได้เห็นหรือได้ยินเพราะกึ่งหลับกึ่งตื่น

4.ถ้าจะช่วยน้องชายให้ไปดี ให้ลูกน้องที่บวชอย่าเพิ่งสึกและระหว่างบวชให้ตั้งใจทำสมาธิภาวนาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพ้น 7 วัน ยิ่งบวชนานจะยิ่งดี
 

5.น้องชายเริ่มรู้สึกตัว จากที่ยอมรับสภาพไม่ได้ เริ่มทำใจได้ เพราะบุญที่อุทิศไปให้ เที่ยววนเวียน เดินบ้าง นั่งบ้าง ไปอยู่ใกล้ภรรยาและลูกบ้าง ได้ไปอยู่ในงานศพของตนเอง เลิกพยายามที่จะสื่อสารกับทุกคน เพราะทุกคนไม่รู้เรื่อง
 

6.ลูกชายของลูกปัญญาอ่อน เพราะกรรมในอดีตเคยเป็นเศรษฐีชอบดื่มเหล้าเข้าสังคม ทั้งดื่มด้วยตนเองและเลี้ยงเหล้าเขาด้วย เป็นประจำ
 

บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2547-12-31.html
เมื่อ 22 กรกฎาคม 2567 21:26
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv