Case study
กรรมนิมิต ดิ่งอบาย
DMC ช่วยไว้ ก่อนจะตายไปก่อน
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
ลูก เป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ที่อยากจะบอกกับคนทั่วโลกว่า เรื่องราว Case Study ของลูกนี้ จะทำให้ทุกคนได้คำตอบที่ชัดเจนว่า จานดาวธรรม และผ้าไตรกฐินจักรพรรดิปี 48 มีผลต่อเสี้ยววินาทีสุดท้ายของชีวิต ของคนที่เรารักที่สุดอย่างไร ช่วยจับหัวใจไว้แน่นๆนะคะ แล้วจรดใจไว้ที่ศูนย์กลางกายอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะได้รับรู้เรื่องราว ที่อาจต้องตัดสินใจ จำไปชั่วชีวิตเพื่อคนที่คุณรัก และตัวคุณเอง
พ่อของลูก เป็นลูกชายผู้ใหญ่บ้าน เป็นนักเลงทั้งกายและใจ มีภรรยาถึง 2 คน แม่ของลูกเป็นภรรยาคนที่2 ที่พ่อได้มาจากการฉุด ทั้งๆที่พ่อเพิ่งมีภรรยาคนที่1 ไปได้ไม่นานนัก และพ่อก็พาแม่เข้ามาอยู่บ้านเดียวกัน ทำให้ภรรยาคนแรกเสียใจมากจนหนีออกจากบ้าน แต่พ่อไปตามกลับมา และบังคับข่มขู่ ให้อยู่บ้านเดียวกันให้ได้ ถ้าขัดขืนจะโดนซ้อม ลงมือลงไม้จนกระทั่ง ต้องจำยอม
แต่พ่อมีข้อดีคือ เป็นคนยุติธรรม จนลูกไม่รู้สึกว่าพ่อเป็นคนลำเอียงเลย รู้สึกแต่ว่าพ่อมีความสามารถพิเศษ ในการทำให้ภรรยาคนที่1 และคนที่ 2 สลับกันท้องด้วยระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกัน เช่นถ้าภรรยาคนที่1 มีลูกคนที่1 ไม่นานนักภรรยาคนที่2 ก็ต้องมีลูกคนที่1 ด้วย เพื่อให้เสมอภาคกัน จนแต่ละฝ่ายมีลูกเท่ากันฝ่ายละ 7 คน รวมแล้วพ่อมีลูกทั้งหมด 14 คน และทั้ง 2 ฝ่ายก็ต้องช่วยกันเลี้ยงลูก
พ่อเป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน และปกครองบ้านด้วยระบบเผด็จการ ซ้ำยังเป็นคนโมโหร้ายมาก ทุกคนต้องเชื่อ เวลาเรียกลูก ลูกต้องมาพร้อมหน้ากันทั้งหมด 14 คน ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งเวลาตี 1 กว่าแล้ว พ่อกลับมาถึงบ้าน ร้องเรียกลูกๆให้ไปหา ซึ่งพอพ่อนับแล้ว พบว่าลูกของพ่อหายไป 1 คน คือตัวลูกเอง พ่อจึงรีบไปลากลูกมาจากที่นอน จิกหัวลูก และตีจนฉี่ราด เพียงเพื่อให้ทุกคนมาพร้อมหน้ากัน
พ่อมีอาชีพทำนา และเป็นแชมป์ทำบาปหลายอย่าง เช่นจับงู มาถลกหนังขาย ทำอย่างเป็นประจำ เผามดฆ่ามดเป็นรังๆ ไม่ว่า มดดำหรือมดแดง ฆ่าควายเชือดเอาเนื้อมาทำอาหาร ทำให้ควายร้องอย่างทุรนทุรายจนมันขาดใจตาย พ่อดื่มเหล้า เล่นพนันทุกอย่าง เล่นตั้งแต่ไพ่ตอง ไพ่นกกระจอก เดินสายเล่นไฮโล ชนไก่ เล่นมวย มีลีลาการเชียร์มวยอย่างออกรสออกชาติ บางทีก็ไปที่เวทีมวยเลย และถ้ามีถ่ายทอดมวยทางทีวี พ่อก็จะไม่พลาด จะดูอย่างดื่มด่ำ ไม่ให้ใครเปลี่ยนไปช่องไหน พ่อมักทำให้ย่าร้องไห้เสียใจบ่อยมาก เวลาไม่พอใจอะไร พ่อจะตบโต๊ะใส่หน้าย่า และพ่อชอบหาว่าย่ารักน้องชายมากกว่าตัวเอง พ่อเคยได้รับอุบัติเหตุรถชนจนขาหัก จนหมอตัดสินใจว่าวันรุ่งขึ้นให้ตัดขา แต่พ่อไม่ยอม จึงตะเกียกตะกายหนีออกจากโรงพยาบาล เพราะไม่อยากเป็นคนขาด้วน แล้วหนีไปรักษากับพระ ซึ่งปัจจุบันทำให้ ขาของพ่อไม่เท่ากัน
ส่วนด้านดีของพ่อก็สุดขั้วเช่นกัน คือ ท่านเป็นคนใจใหญ่ในการทำบุญ ชอบทำบุญมาก เวลาทำบุญนอกจากจะเอาเงินตัวเองทำแล้ว ยังชอบชวนคนอื่นด้วย เจอใครเป็นชวนดะ ท่านเป็นมัคนายกหลายวัด สร้างสิ่งก่อสร้างทางพุทธศาสนาไว้หลายอย่าง ซ้ำบอกบุญกฐิน บอกบุญผ้าป่าเก่งมาก
เมื่อพ่อเข้าสู่วัยชรา พ่อป่วยหลายโรค และทรุดลงเรื่อยๆ จนใกล้วาระสุดท้ายก่อนพ่อตาย 7 วัน พ่อมีอาการแปลกๆคือ พ่อร้องโวยวาย ทำมือขวักไขว่ สับสน เพ้อไม่ได้สติ กระสับกระส่าย แล้วบอกว่า “เห็นแต่งูเต็มไปหมด” ทั้งๆที่พ่อกำลังมองไปที่พระพุทธรูป พ่อร้องขอให้เอางูออกไป สักครู่ ก็เหลือบมองขึ้นที่เพดานบ้าน บอกว่า “ทำไมมีแต่น้ำ น้ำกำลังไหลมาแล้ว” พ่อจะเปลี่ยนอาการเพ้อไปเรื่อยๆ บางทีอยู่ดีๆ ก็ปรบมือ อย่างเฮฮา ทำท่าเหมือนเชียร์อะไรสักอย่าง แล้วก็เอาแขนทั้ง 2 ข้างโง้งเขาหากันที่หัว ทำท่าเหมือนควาย และบางทีก็หยิบหมอนขึ้นมาเขย่าเหมือนไฮโล พอสักครู่พ่อมองลงมาที่พื้น บอกว่าทำไมมีแต่มดเต็มพื้นไปหมด ลงจากเตียงไม่ได้เลย ให้เอามดออกไปๆ พ่อเพ้ออย่างต่อเนื่องสลับอาการไปมาอย่างสับสนถึง 6 วัน ลูกรู้สึกสลดใจมาก ตั้งแต่แรกที่เห็นอาการของพ่อเป็นเช่นนั้น เพราะรู้ว่า หากพ่อตายไปตอนนั้น นรกต้องเป็นที่ไปสำหรับพ่อ ลูกจึงบอกพี่น้องและแม่ใหญ่ ให้รีบติดจานดาวธรรมให้พ่อเถอะ เพราะเป็นทางรอดสุดท้ายที่จะช่วยพ่อแล้ว ลูกจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เอง ซึ่งทุกคนต่อต้าน และไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง ซ้ำบอกกับลูกว่า “ลูกบ้าไปแล้ว”
ลูกจึงอาศัยความใจเย็นค่อยๆ อธิบาย บอกว่า “ถ้าไม่เชื่อให้ลองพิสูจน์ดู ลองนั่งสมาธิดูก็ได้ แล้วจะพบว่าสิ่งนี้ดีที่สุด” ซึ่งบังเอิญมากที่น้องสาวคนเล็กต่างมารดาเกิดสนใจ จึงลองนั่งดู แล้วเธอบอกอย่างตื่นเต้นว่า “นั่งแล้วเห็นแสงสว่างอะไรกลางท้อง เห็นแล้วมีความสุข” จึงรีบไปบอกแม่ใหญ่ให้ติดจานให้พ่อ เนื่องจากแม่ใหญ่รักลูกคนนี้มาก จึงยอมเชื่อ จากนั้นจึงรีบติดต่อให้คนมาติดจานให้ที่บ้าน หลังจากติดเสร็จ ลูกเปิดดาวธรรมขึ้น ก็เป็นช่วงสวดมนต์ทำวัตรเย็น ซึ่งทำให้พ่อได้ยินเสียงสวดมนต์ชัดเจน พ่อเปลี่ยนจากอาการเพ้อโวยวายเห็นโน้นเห็นนี่ เป็นสงบลง ได้สติขึ้น ลูกจึงได้โอกาสพูดทบทวนบุญทุกบุญให้พ่อฟัง ซึ่งแต่ละบุญพ่อพยักหน้ารับรู้ได้หมด พ่อเปลี่ยนจากมือขวักไขว่ มาเป็นพนมมือ และก็ได้ดูรายการอนุบาลฝันในฝันวิทยาเป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้ายในชีวิต เพราะกว่าคนในครอบครัวจะตกลงกันได้ว่าจะติด ก็เป็นวันสุดท้ายที่พ่อจะมีชีวิตอยู่แล้ว พ่อมองไปที่ทีวีโดยมีพระเดชพระคุณหลวงพ่อเทศน์สอนอยู่หน้าจอในช่วงทุ่มครึ่ง ช่วงอนุบาลฝันในฝันวิทยามาพอดี ลูกบอกพ่อว่า นี่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านกำลังส่งบุญให้พ่ออยู่นะ ให้พ่อทำใจใสๆ และก็สอนให้พ่อทำสมาธิ ภาวนา “สัมมาอะระหัง” ตามไปด้วย และลูกก็บอกพ่อต่อว่า “ลูกรับเป็นประธานกองกฐินจักรพรรดิปี 48 ด้วยให้พ่อได้บุญด้วยกัน” แล้วก็รีบนำผ้าไตรกฐินจักรพรรดิปีนี้ประคองวางบนอกพ่อ ให้พ่ออธิษฐานนึกถึงบุญ สักครู่พ่อก็เริ่มหายใจแผ่วลงๆ และจากไปอย่างสงบ ขณะประคองผ้าตรัยไว้บนอกนั่นเอง
แม่ของลูก เป็นภรรยาคนที่2 ของพ่อ ท่านป่วยหนักและตายก่อนพ่อ จึงเป็นเหตุให้พ่อบวชให้แม่ถึง 10 พรรษา ตอนแม่มีชีวิตอยู่ ได้ทำบาปเพราะความจำเป็นหลายอย่าง ตั้งแต่ต้มเหล้าเถื่อนขาย เพื่อหาเงินช่วยพ่อเลี้ยงลูกทั้ง 14 คน ต้องไปจับปลามาขังไว้ในตุ่ม เพื่อฆ่าทำกับข้าวเลี้ยงคนทั้งบ้าน ซึ่งแท้จริงแล้ว แม่ของลูกเป็นคนจิตใจดี ชอบไปวัดรักษาศีล 8 ทุกวันพระ และทุกเข้าพรรษา
ชีวิตแม่มีเหตุการณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งเกิดขึ้นคือ ลูกทั้ง 7 คนของแม่ มีเหตุให้ต้องอายุสั้นถึง 5 คน แต่ละคนจะอายุได้ราว 30 กว่าก็จะตายด้วยสาเหตุต่างๆ ขณะนี้เหลือเพียง 2 คน คือลูกกับน้องสาวคนเล็ก ตรงกันข้ามกับแม่ใหญ่ คือลูกจะอยู่ครบถ้วนทั้ง 7 คน สุดท้ายแม่ตายด้วยโรคตับแข็ง เพราะหมอบอกว่า แม่ดื่มเหล้าและกินยาดองมาก ซึ่งแม่ได้จากไปด้วยอาการทรมานรวมอายุได้ 62 ปี
สามีของลูก มีชีวิตอยู่บนทางหลายแพร่ง เพราะเจ้าชู้มาก จนลูกทนไม่ไหวจึงขอแยกกันอยู่กับเขา ทั้งที่มีลูกด้วยกันแล้ว ต่อมาเขาไปได้กับแม่เล้าคุมซ่องจึงไปทำอาชีพพ่อเล้าอยู่ที่นั่น ลูกรู้สึกสงสารเขา ไม่อยากให้เขามีชีวิตที่ตกต่ำลงเรื่อยๆ เพราะจริงๆลูกรักเขามาก เขาเป็นคนแรกและคนสุดท้ายในชีวิตของลูก ลูกจึงตัดสินใจนัดกับเขาโดยไม่ให้แม่เล้ารู้ แล้วคุยกับเขาดีๆว่า “เรากลับมาอยู่ด้วยกันอย่างเดิมดีไหม เพราะสงสารลูกของเรา” เขาจึงหนีจากแม่เล้ากลับมาอยู่กับลูก แล้วชีวิตครอบครัวเราก็สมบูรณ์ขึ้นอีกครั้ง แต่ต่อมาไม่นานเขาก็ป่วย เพราะเขาเป็นคนกินเหล้ามาก และ ตายด้วยโรคเบาหวาน รูมาตอย เส้นโลหิตในสมองแตก ด้วยวัยเพียง 46 ปี
ขอกราบเรียนถามคำถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ค่ะ
1.ทำไมพ่อถึงมีนิสัยเผด็จการ โมโหร้าย ชอบใช้กำลังตบตี พ่อเคยเป็นอะไรมาก่อนหรือคะ
2.บุพกรรมใดที่ทำให้พ่อขาหัก เกือบโดนตัดขา และหลังจากหายแล้วขายาวไม่เท่ากันคะ
3.กรรมนิมิตต่างๆของพ่อก่อนตาย 7 วันเกิดจากบุพกรรมใด หากพ่อตายไปตอนเห็นกรรมนิมิตที่ไม่ดีเหล่านั้น ตายแล้วจะไปไหนบ้าง พ่อรู้สึกอย่างไรในขณะที่ได้ดู DMC และได้ถือผ้าไตรกฐินจักรพรรดิ ปี 48 ก่อนจะตาย ตายแล้วพ่อไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศหรือไม่ มีอะไรอยากฝากถึงไหมคะ
4.กรรมใดของพ่อที่ทำให้ทุกคนในบ้าน ไม่ยอมติดจานดาวธรรมให้พ่อ แต่มาตัดสินใจติดเอาวันสุดท้ายของชีวิตแล้ว
5.บุพกรรมใดที่ทำให้แม่ใหญ่ และแม่ของลูก ต้องมาเป็นภรรยาพ่อทั้ง 2 คน ท่านเคยมีความสัมพันธ์ในอดีตชาติกันอย่างไรหรือไม่ และทำไมแม่ใหญ่ และแม่จึงมีลูกเท่ากัน แต่ลูกของแม่ใหญ่อยู่ครบ ส่วนแม่ของลูก มีลูกที่อายุสั้นถึง 5 คน
6.ทำไมแม่ของลูกถึงอายุสั้น และบุญใดของแม่ที่ทำให้พ่อตัดสินใจบวชให้แม่ถึง 10 พรรษา แม่ของลูกตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่ มีอะไรอยากฝากถึงใครไหมคะ
7.บุพกรรมใดที่ทำให้สามีของลูกต้องกลายไปเป็นพ่อเล้า อยู่ระยะหนึ่ง และทำไมเขาจึงอายุสั้น ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่ มีอะไรอยากฝากบอกไหมคะ
8.บุญใดของลูกที่ทำให้ลูกกับสามีทั้งที่เคยแยกทางกันแล้ว ยังสามารถกลับมาอยู่ด้วยกันอีกได้
9.ลูก และลูกชาย เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาในรูปแบบใด ทำไมช่วงหลังลูกชายไม่ยอมมาวัดกับลูก ซ้ำยังรู้สึกแอนตี้ ลูกควรแก้ไขอย่างไรคะ
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ
1.พ่อเป็นคนกึ่งบุญกึ่งบาปมาหลายชาติ ได้ไปเสวยผลวิบากกรรมเป็นกุมภัณฑ์ เป็นเจ้าหน้าที่ยมโลกมานานมาก จึงติดนิสัยเผด็จการโมโหร้าย ชอบใช้ความรุนแรง ตบตี
2.พ่อขาหักเกือบโดนตัดขา หายแล้วขาไม่เท่ากัน เพราะกรรมในอดีตพ่อเป็นนักเลง ชอบทำร้ายผู้อื่นด้วยการชกต่อย เตะ รวมกับกรรมปาณาติบาตในปัจจุบัน ที่จริงต้องถึงตาย แต่บุญที่ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอุ้มไว้จึงทำให้เป็นแค่นั้น
3.กรรมนิมิตก่อนตายต่างๆดังกล่าว เกิดจากการกระทำตอนเป็นมนุษย์และยังแข็งแรง ได้ฆ่างู มด ควาย ชกมวย เชียร์มวย ตีไก่ เล่นการพนัน เป็นต้น สลับขึ้นมาให้เห็น ถ้าตายตอนนั้นจะต้องไปมหานรก หรือมีเจ้าหน้าที่มารับไปยมโลก
-
พ่อดูจานดาวธรรมและถือผ้าไตรจักรพรรดิปี 48 ทำให้พ่อนึกถึงภาพบุญของตัวที่เคยทำในพระพุทธศาสนา เช่นบุญบวช บุญเป็นมัคทายกวัด เป็นต้น ทำให้ภาพบาปกรรมต่างๆหายไป
-
บุญกุศลจึงได้ช่องแซงหน้าบาปอกุศล ทำให้ไปเกิดเป็นเทพบุตรสุดหล่อมีวิมานเป็นทองขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เฟส 3 ได้รับบุญที่อุทิศไปให้
-
พ่อรู้สึกดีใจ และมีความสุขที่ได้มาอยู่ตรงนี้และฝากขอบคุณมายังตัวลูกเป็นอย่างมากที่ทำให้พ่อมาอยู่บนสวรรค์ชั้นนี้ ถ้าไม่ได้ตัวลูกพ่อคงแย่ไปแล้ว
4.วิบากกรรมเก่าของพ่อยังแรงอยู่ จึงทำให้สมาชิกทุกคนตัดสินใจช้าในการติดจานดาวธรรม และเมื่อบุญส่งผลจึงทำให้ตัวลูกเกิดแรงบันดาลใจ และทำให้ทุกคนตัดสินใจติดจานดาวธรรมในวันสุดท้ายของชีวิตพ่อ
5.แม่ทั้งสองในอดีตมีกรรมเจ้าชู้ มีภรรยาหลายคนในบ้านเดียวกัน ด้วยกรรมนี้จึงทำให้มาเจอสามีแบบนี้
-
ส่วนแม่ของลูกมีกรรมปาณาติบาต และสุรา จึงทำให้แม่ดึงดูดผู้มีกรรมแบบเดียวกับแม่มาเกิดเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้อายุสั้น
-
ส่วนตัวลูกและน้องมีกรรมทางนี้น้อยกว่าคนอื่น
-
ที่แม่ใหญ่และแม่ของลูกมีลูกเท่ากัน เพราะเป็นความตั้งใจของพ่อ จึงทำให้แม่ทั้ง 2 มีลูกเท่ากัน
6.แม่มีกรรมสุราและปาณาติบาตจึงอายุสั้น แม่เป็นคนเสียสละ เลี้ยงดูบิดามารดา สงเคราะห์ญาติสามีและลูกๆ จึงทำให้พ่อตัดสินใจบวชให้แม่ถึง 10 พรรษา เพราะคิดถึงความดีของแม่ และความไม่ดีของตัวเองที่ทำกับแม่
-
แม่ตายแล้วเจ้าหน้าที่มารับตัวไปยมโลก ช่วงแรกไปโดนกรอกน้ำทองแดง
-
ต่อมาพ่อบวชให้ บุญนี้จึงทำให้พ้นจากการเป็นสัตว์นรกแล้วมาเป็นเจ้าหน้าที่หญิงกรอกน้ำทองแดงสัตว์นรกในยมโลก
-
เมื่อพ้นกะหรือการเข้าเวรจะได้ไปพักที่ชั้นจาตุมหาราชิกาสายคนธรรพ์ ได้รับบุญที่อุทิศไปให้ทำให้มีสภาพที่ดีขึ้น ตอนนี้กำลังเหนื่อยเพราะต้องกรอกน้ำทองแดงสัตว์นรก จึงอยากให้ลูกส่งบุญไปให้เยอะๆ จะได้พ้นจากการเข้าเวรเร็วๆ
7.กรรมคบคนพาล ทั้งในอดีตและปัจจุบันจึงบันดาลให้สามีไปเป็นพ่อเล้าระยะหนึ่ง ที่อายุสั้นเพราะกรรมสุรากับปาณาติบาต
-
ตายแล้วอยู่ในมหานรกขุม5 กำลังโดนนายนิรยบาลกรอกน้ำกรดสีดำร้อนอยู่ ทุกข์ทรมานมาก ไม่อาจรับบุญได้ แต่บุญไปคอยอยู่ยมโลก ไม่มีข้อความใดๆฝากมา
8.ประโยชน์เกื้อกูลกันในปัจจุบันเป็นหลัก จึงทำให้สามีกลับมาอยู่กับครอบครัวได้อีก
9.ตัวลูกเคยสร้างบุญกับหมู่คณะมาแบบตามอารมณ์ ดังนั้นในชาตินี้จึงไม่ค่อยสะดวกสบายในการสร้างบารมีนัก
-
ส่วนลูกชายเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา แต่ไปฟังคนอื่นพูดไม่ค่อยดีเกี่ยวกับหมู่คณะ จึงถอยออกไป ให้ลูกค่อยพูดค่อยจา ใจเย็นๆ ให้เหตุผลไป สักวันหนึ่งดวงปัญญาจะสว่างโพลงในใจเขา ทำให้เข้าใจหมู่คณะได้
