Case study
ทอมหล่อ แฟนสวย
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการ พระเดชพระคุณหลวงที่เคารพอย่างยิ่ง
 
    ลูก เป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา มาตั้งแต่ประมาณปลายสิงหาคมปีที่แล้ว ที่ลูกได้เขียน Case มาครั้งนี้ เนื่องจากทราบว่า หลวงพ่อได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศที่ 3 ทอม ดี้ เกย์ ตุ๊ด ซึ่งลูกคิดว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นประโยชน์ต่อตัวลูกเองและคนอื่นๆ เช่นกัน
 
    ตัวลูก ปัจจุบันอายุ 28 ปี มีบุคลิกลักษณะคล้ายๆผู้ชาย สูง 170 กว่า รูปร่างหน้าตาตลอดจนผิวพรรณดี แต่ออกไปทางแมนๆ คือถ้าไม่ได้บอกว่าเป็นผู้หญิงทุกคนก็จะคิดว่าเป็นผู้ชาย แถมหลายคนบอกว่าลูกหล่อกว่าผู้ชายจริงๆเสียอีก ทุกวันนี้ลูกสามารถใช้ห้องน้ำชายโดยไม่ขัดเขิน ไม่มีใครสงสัย ผิดกับเวลาเข้าห้องน้ำหญิงจะมีแต่คนมอง หลายครั้งที่ลูกได้ยินคนซุบซิบกันหาว่า ลูกคงเป็นกะเทยที่อยากใช้ห้องน้ำหญิงก็มี
 
    ลูกเป็นลูกคนกลางมีพี่สาวและน้องชายอย่างละ 1 คน  ครอบครัวของลูกมีฐานะปานกลาง คุณพ่อ มีอาชีพรับราชการเป็นหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม   ส่วน คุณแม่ ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ลูกจำได้ว่าตอนเด็กๆนั้น ลูกชอบเล่นกับเด็กผู้ชาย เรียกว่าเป็นหัวหน้าแก๊งเลยทีเดียว ไม่มีความรู้สึกอยากเล่นเหมือนเด็กผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะความที่เป็นเด็ก พอมาตอนประมาณ ป.2 ก็มีความรู้สึกแอบชอบเพื่อนผู้หญิงแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก ก็ปล่อยมาเรื่อยๆไม่ได้เอะใจอะไร เพราะไม่ได้เข้าใจว่าที่เราเป็นที่เรารู้สึกคืออะไร   อาจเป็นเพราะสมัยก่อนไม่ค่อยเห็นคนเป็นทอมดี้กันมากเท่าสมัยนี้ จนขึ้นมัธยม ลูกย้ายไปอยู่กับน้าและลุงก็ยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม ตอนนั้นเริ่มมีคนมาชอบลูกทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทำให้ลูกลังเลตัวเองเหมือนกัน แต่ทุกอย่างก็ยังอยู่ในใจเพราะคิดว่าเป็นไม่ได้   ไม่กล้าถามใครและก็กลัวคุณพ่อคุณแม่จะเสียใจ ถ้ารู้ว่าลูกเริ่มจะไม่ปกติ ญาติพี่น้องทุกคนต่างเก็บความสงสัยและกลัวๆ เพราะทุกอย่างยังไม่ชัดเจน
 
    ช่วงที่ไม่ได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่จะอิสระมาก ลูกจะค่อนข้างติดเพื่อน แล้วก็ทำกิจกรรมของโรงเรียนทั้งเล่นกีฬา และเป็นรองประธานนักเรียน เรียกว่า “Hot” มากๆ เด่นดังมากๆ มีแฟนคลับของตัวเอง ช่วงนี้เองที่เริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติจริงๆ แต่ก็พยายามปฏิเสธหัวใจตัวเองว่า เราไม่ใช่พวกนั้นหรอก เพราะลูกเองไม่ชอบเห็นคนที่เป็นแบบนั้นเลย ไม่ชอบทั้งการแต่งกาย พฤติกรรม รู้สึกว่าตัวเองเป็นแบบตัวเอง ไม่ได้ห้าว ก๋ากั่นขนาดนั้น
 
    ลูกไม่ชอบให้ใครเรียกว่า “ทอม” เลย จะโกรธมากๆ และไม่ชอบให้ใครนินทาที่เราเป็นแบบนี้ด้วย แต่ลูกก็ไม่ได้ต่อต้านผู้ชายหรือเกลียดอะไร ตอนมีคนมาจีบก็เพียงรู้สึกไร้สาระ พูดอะไรไม่รู้น้ำเน่า เชย
 
    พอประมาณ ม.6 ลูกเริ่มมีแฟนผู้หญิงคนแรกในชีวิต   เราแอบคบกันจนเรียนมหาวิทยาลัย  แต่ต้องปิดทางบ้านไว้ ที่บ้านก็สงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ ถามตรงๆ ลูกไม่ยอมรับ คุณพ่อถึงขนาดจ้างให้ลูกแต่งตัวเป็นผู้หญิง ไว้ผมยาว ลูกก็ไม่ยอม ตอนหลังลูกไปเรียนทำอาหารที่ออสเตรเลีย ก็แอบไปด้วยกันอีก ระหว่างที่คบกันก็ทะเลาะกันบ่อยมาก ถึงขั้นลงไม้ลงมือกันก็มี ช่วงนั้นลูกเป็นคนโมโหร้าย  เพราะไหนจะเครียดเรื่องเรียน เรื่องแฟน แล้วยังต้องปิดที่บ้านอีก คบกับแฟนคนนี้ได้ประมาณ 7 ปี กลับมาเมืองไทยก็เลิกคบกัน เพราะลูกเจอคนใหม่ ปัจจุบันแฟนคนแรกนี้มีแฟนเป็นผู้ชายไปแล้ว
 
    พอคบกับแฟนคนที่ 2 ลูกก็เริ่มเปิดตัวเอง เพราะรู้สึกอึดอัดไม่อยากโกหกที่บ้านหลายๆเรื่อง ลูกเองก็อยากสบายใจเลยพาแฟนเข้าไปกราบคุณพ่อคุณแม่ พอท่านรู้ ท่านช็อคมาก เสียใจมาก ซึมและไม่ได้พูดกับลูกไปหลายวัน พอพูดก็ร้องไห้ ซึ่งข้อนี้ คุณพ่อของลูกเคยอธิษฐานว่า ถ้ามีลูกมีอยู่ 2 อย่างที่ท่านไม่อยากให้ลูกเป็น คือ 1. วิปริตผิดเพศเป็นกะเทย 2. ติดยาเสพติด ดังนั้นการที่ลูกเป็นเช่นนี้คุณพ่อจึงอับอายมาก
 
    ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ ขอร้องทุกอย่างให้ลูกเลิกเป็น จะเอาอะไรก็ยอม  ทั้งไปบนบานศาลกล่าว  ลูกก็ยิ่งรู้สึกผิด แต่ใจหนึ่งก็รู้สึกโล่งอกเพราะคิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แค่คบผู้หญิงไม่เห็นเสียหาย พอเห็นท่านเริ่มปลง (แต่ลูกรู้ว่าในใจท่านก็ยังรับไม่ได้) ลูกก็เลยพาแฟนมาอยู่ด้วยที่บ้าน เรียกว่า ได้คืบเอาศอกทีเดียว แทนที่ลูกจะรู้สึกสำนึกกลับทำตัวน่าอาย และเลวร้ายที่สุดในชีวิต
 
    ช่วงนั้นลูกได้ไปฝึกงานที่โรงแรม มีคนมาชอบลูกเยอะมากๆ อย่างที่ตัวลูกเองก็งงเหมือนกันว่า คนที่เป็นแบบนี้  ชอบของแบบนี้มีเยอะขนาดนี้เลยเหรอ   ทำให้ไม่สนใจแฟนคนที่2 เลย จนทะเลาะกันบ่อยทั้งๆที่เธอก็เอาใจลูกทุกอย่าง ตอนนี้เองที่ลูกแอบไปคบกับพี่อีกคนเพราะความท้าทาย ลูกบังเอิญได้ยินว่า พี่คนนี้เกลียดลูก เกลียดคนที่เป็นแบบนี้ ลูกจึงอยากเอาชนะเลยแกล้งไปจีบทั้งๆที่ก็ไม่ได้ชอบอะไรเธอ จนตอนหลังเธอก็เลิกกับแฟนผู้ชายที่กำลังจะแต่งงานกันมาคบกับลูก แต่คบกันได้ไม่นานลูกได้แล้วก็ทิ้งเธอไป
 
    ระหว่างนี้แฟนคนที่ 2 ก็อยู่บ้านร้องไห้เสียใจทุกวัน  พอคุณแม่เตือนก็โกรธอีก ท่านบอกว่าแค่ลูกเป็นแบบนี้ก็แย่พอแล้ว ยังเจ้าชู้คบทีละหลายๆคนอีก ลูกนอกจากจะไม่สนใจอะไรแล้ว ยังคิดว่าตัวเอง ช่าง Hot เหลือเกิน ทำให้พลอยทะเลาะกับคุณแม่บ่อยด้วย
 
    ต่อมา ลูกมาเจอผู้หญิงอีกคนที่โรงแรม ซึ่งก็คือ แฟนคนปัจจุบัน ตอนนั้นเธอก็มีแฟนเป็นผู้ชาย แล้วเลิกกันเพื่อมาคบกับลูก ลูกรักแฟนคนนี้มาก ในที่สุดก็ตัดสินใจเลิกคบกับแฟนคนที่ 2 แล้วพาแฟนคนนี้มาอยู่ด้วย ปัจจุบันลูกก็ยังคบกันอยู่ ได้ 4 ปีแล้วไม่ค่อยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันนัก เพราะเธอใจเย็น และยังช่วยกันทำมาหากินเป็นอย่างดี ลูกรู้ว่าทั้งหมดทุกคนทรมานและเสียใจกับการกระทำของลูกมาก โดยเฉพาะกับแฟนคนที่ 2 ลูกได้ยินว่าทุกวันนี้เธอยังรักและรอลูกอยู่ กับแฟนทุกๆคนเมื่อเลิกกันแล้ว ลูกก็ตามขออโหสิกรรมมาตลอด เพราะรู้ว่าบาปกรรมมีจริง ทุกคนก็จะยอมยกโทษให้ จะมีก็พี่ที่เป็นกิ๊กที่ยังไม่ยอมยกโทษให้ เพราะเธออับอายที่คนทั้งโรงแรมรู้
 
    หลายครั้งที่ลูกพยายามหาสาเหตุว่าทำไมลูกจึงเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่ครอบครัวของลูกก็อบอุ่น คุณพ่อคุณแม่ก็รักและใส่ใจลูกๆทุกคน จะมีก็แค่ครั้งหนึ่งตอนที่ลูกอายุได้ประมาณ 9-10 ปี ที่คุณพ่อนอกใจคุณแม่ ทำให้ครอบครัวมีปัญหามาก ตอนนี้เองที่คุณแม่เริ่มเข้าวัด และท่านก็เข้ามาตลอด ไม่ว่าจะเป็นวัดทางภาคไหนๆ และท่านก็สอนให้ลูกรู้จักสวดมนต์ โดยเริ่มจากการว่าจ้างและสอนให้ทำความดีตลอด ทำให้ลูกๆมีธรรมะติดตัวอยู่ลึกๆ
 
    ต่อมา คุณแม่ได้มาเจอกัลยาณมิตร ชักชวนท่านมาทำบุญที่วัดพระธรรมกาย ตั้งแต่เริ่มซื้อที่ดิน และก็ทำบุญทุกบุญต่อมาเรื่อยๆ แต่ตอนนั้นทางครอบครัว และคนรอบข้างยังต่อต้านที่วัดอยู่ ทำให้คุณแม่ไม่สามารถเข้ามาวัดอย่างเต็มตัวเท่าไรนัก  จนคุณแม่เริ่มเข้าวัดมากขึ้นๆ และก็เคี่ยวเข็ญลูกๆตามไปด้วย แรกๆทุกคนก็ไม่ชอบแต่ก็ขัดไม่ได้ จนกระทั่งลูกมีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่สวนพนาวัฒน์ ลูกยอมรับว่าพอกลับลงมาก็เปลี่ยนไปจากเดิมมาก  เหมือนที่ใครๆ ชอบพูดว่าวัดพระธรรมกายชอบล้างสมองคน ลูกได้เป็นเช่นนั้นจริงๆ พอลูกเปลี่ยนไป พี่สาวของลูก ก็แปลกใจมาก และเมื่อเธอได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่สวนพนาวัฒน์ ก็เริ่มเข้าใจวัดมากขึ้น
 
    น้องชายของลูก ดูภายนอกเป็นคนดีน่ารัก แต่เรียนที่ไหนก็ไม่จบสักที่ ทั้งกินเหล้า ติดพนันบอล เพื่อนและผู้หญิง ทางบ้านกลุ้มใจมากจนต้องส่งไปเมืองนอก ก็เรียนไม่จบ เอาเงินที่คุณแม่ให้ ไปเข้าคาสิโนจนวีซ่าไม่ผ่านต้องกลับมาเรียนที่เมืองไทยอีก  จนกระทั่งน้องชายได้บวชธรรมทายาทรุ่นที่ 32 หลังสึกใหม่ๆ น้องของลูกดูเปลี่ยนไป แต่ตอนนี้ก็เริ่มกลับเข้ารูปเดิมอีก โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิงในขณะที่คุณพ่อ คุณแม่เริ่มปลงว่า คงทำเวรทำกรรมกันมา
 
    ทุกวันนี้ตั้งแต่ลูกฟังธรรมะของหลวงพ่อ  ก็หูตาสว่างอยากหลุดพ้นเบื่อหน่ายโลกที่มีแต่ปัญหา ถึงแม้จะเป็นไปได้ยาก ในการที่จะเข้าถึงพระธรรมกาย และกลับไปดุสิตบุรี แต่ลูกก็จะพยายามอย่างถึงที่สุดค่ะ
 
    ท้ายที่สุดนี้ ลูกใคร่ขอความเมตตาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อช่วยชี้แนะแนวทางให้ถูกต้องด้วยค่ะ
 
คำถาม
 
1.ลูกมีวิบากกรรมอะไรจึงต้องมาเกิดเป็นครึ่งหญิงค่อนชาย แล้วกรรมเบาบางหรือยังคะ ชาติหน้าจะเกิดเป็นชายจริง หรือหญิงแท้คะ
 
2.บรรดาผู้หญิงทั้งหลายที่ลูกเล่ามา ทั้งแฟนคนที่ 1 และแฟนคนที่ 2 ต่างก็สวยแบบผู้หญิงดีๆ และมีแฟนเป็นผู้ชาย ทุกคนไม่ได้มีท่าทางวิปริตผิดเพศ แต่ทำไมจึงได้มาคบกับลูก เราต่างมีกรรมอะไรร่วมกัน   เป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมาหรือเปล่าคะ แล้วเธอเหล่านั้นจะตามลูกไปในภพชาติต่อไปอีกหรือเปล่าคะ
 
3.สำหรับพี่ที่โรงแรม ที่เธอไม่อโหสิกรรมให้ลูก จะมีผลต่อลูกและเธออย่างไรบ้างคะ
 
4.ลูกกับแฟนคนที่ 3 มีกรรมอะไรร่วมกันมาจึงได้มาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ช่วยกันทำมาหากิน และสร้างบารมีร่วมกัน     ลูกควรดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรจึงจะดี
 
5.ลูกกับพ่อแม่มีกรรมอะไรจึงได้เกิดมาร่วมกัน  การที่ลูกทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องเสียใจและอับอายที่ลูกเป็นเช่นนี้  จะเป็นผลกรรมติดตามลูกไปไหมคะ  และการที่ลูกเป็นแบบนี้แต่ยังเป็นคนดี ลูกผิดหรือเปล่า และลูกจะได้ไปดุสิตบุรี หรือไม่คะ
 
6.คุณแม่ของลูกมักจะชอบถูกคนอื่นหลอกเกี่ยวกับเรื่องเงิน ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เพราะทำกรรมอะไรกับคนเหล่านั้นมา และจะเจออีกไหมคะ
 
7.คุณแม่เคยนั่งสมาธิแล้วเห็นโน่นเห็นนี่  สังหรณ์อะไรก็เป็นอย่างนั้นจริง และชอบขนลุกเวลาพูดถึงบุญ  ก็จะคิดว่าเทวดามาอนุโมทนาบุญ เป็นเรื่องจริงไหมคะ
 
8.น้องชายของลูกสร้างบาปกรรมมากมายในชาตินี้ ทั้งต่อตนเองและพ่อแม่ เขาจะตกนรกไหมคะ ทุกวันนี้ทุกคนก็พยายามช่วยเขาอยู่    เราจะทำอย่างไรจึงจะสำเร็จคะ
 
9.ลูกและครอบครัวสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร  ทำไมพระอาจารย์ และเจ้าหน้าที่ที่วัด ทุกคนถึงได้มีความเมตตาช่วยเหลือเกื้อกูลเป็นอย่างดี
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ
 
1.ลูกมีความรู้สึกครึ่งหญิงค่อนชาย เพราะกรรมในอดีตหลายๆชาติที่ผ่านมา มีความเจ้าชู้ต่อเนื่องทั้งตอนเป็นหญิงและเป็นชายตามมาส่งผล แต่ตอนเป็นชายมีนิสัยเจ้าชู้มากกว่า กรรมเจ้าชู้เหล่านี้มารวมส่งผลในชาตินี้
 
 

 
2.แฟนผู้หญิงคนที่ 1 และ 2 ที่ผ่านมา ที่เป็นปกติแต่มาคบกับลูก เพราะคำอธิษฐานในอดีตของลูกตอนเป็นผู้ชาย ทำบุญเมื่อใดมักอธิษฐานให้สาวๆมาหลงรักหลงใหล เป็นคำอธิษฐานที่เจือด้วยความกำหนัดยินดี
 

3.สำหรับพี่ที่โรงแรมไม่อโหสิกรรมให้ลูก จะทำให้ผูกเวรกันไป เป็นศัตรูที่ไม่ชอบหน้ากันข้ามชาติ ลูกต้องพยายามไปขออโหสิกรรมกับเธอให้ได้
 

 
4.ลูกกับแฟนคนที่ 3 ต้องมาใช้ชีวิตและสร้างบารมีร่วมกัน เพราะในอดีตตอนลูกเป็นทหารของพระราชา เธอเป็นหนึ่งในแฟนสาวของลูก เคยมีบุญเก่าที่เคยทำร่วมกันมาบ้าง ดังนั้นเวลาอยู่ด้วยกันจึงมีความสุข และสบายใจกว่าคนอื่น
 

 
5.ลูกมาเกิดกับพ่อแม่ปัจจุบัน เพราะทำบุญร่วมกันมาในอดีต ถ้าลูกไม่เลิกนิสัยอย่างนี้ลูกจะไม่ได้เจอแม่ที่มีนิสัยประเสริฐอย่างนี้อีก แม่ที่ประเสริฐอย่างนี้หายาก เพราะท่านชวนลูกเข้าวัดสร้างบารมี
 

 
6.คุณแม่ของลูกมักเจอคนหลอกเอาเงินทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ เพราะปัจจุบันท่านเป็นคนใจอ่อน ใจดี และมีเชื้อในอดีตแบบนี้อยู่บ้างแต่ไม่หนักหนาอะไร
 

7.คุณแม่เป็นคนใจบุญและมากด้วยศรัทธา หลายครั้งทำให้บุญในตัวเตือนท่าน ทำให้เกิดลางสังหรณ์บางอย่างที่ถูกต้อง
 

8.พื้นฐานของน้องชายเป็นเด็กดี แต่ขาดดวงปัญญาในการคบเพื่อน จึงทำให้เขามีพฤติกรรมเช่นนี้ ให้พยายามเป็นกัลยาณมิตรให้เขาต่อไป ด้วยใจที่เยือกเย็น อดทน มีเหตุมีผล และหาเพื่อนดีๆให้เขาคบ
 

9.ลูกและครอบครัวสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบกองเสบียง บางท่านก็ทำตามอารมณ์ บางท่านก็เต็มที่ แต่ก็ติดตามสร้างบารมีกับหมู่คณะมาหลายชาติ ทำให้มีเชื้อสาย ทำให้พระอาจารย์ เจ้าหน้าที่วัดทุกคนคุ้นเคยและเกื้อกูลกัน
 

บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-02-01.html
เมื่อ 23 กรกฎาคม 2567 04:19
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv