Case studyสำนักแม่ชี เพชรบูรณ์เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMCกราบนมัสการ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณครูไม่ใหญ่แห่งโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ที่เคารพอย่างสูงลูก เป็นแม่ชีชุดขาว ที่กำลังฝึกตนให้ไปสู่แสงสว่างขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นแม่ชีธรรมดาๆคนหนึ่ง ลูกได้ยินหลวงพ่อให้ความหมายของคำว่า “ชี” ได้อย่างซาบซึ้งว่า “ชี” มาจากคำว่า “ชินะ” แปลว่า “ผู้ชนะ” ทำให้ลูกรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ลูกบวชเป็นชีมาแล้ว ๒ ครั้ง สาเหตุของการบวชก็เพราะ หลังจากที่คุณพ่อของลูกเสียชีวิต ทำให้ลูกรู้สึกถึงความพลัดพรากว่า ทำให้เกิดทุกข์ ลูกจึงเริ่มไปเรียนธรรมะ และฝึกกรรมฐานตามวัด และสำนักปฏิบัติธรรมต่างๆ และได้ตั้งใจบวชชีเมื่ออายุๆได้ 37 ปี การบวชเป็นชีทำให้ลูกได้เข้าใจหลักธรรมมากยิ่งขึ้น ต่อมาลูกไม่ค่อยสบาย รู้สึกร้อนและหิวข้าว ภายหลังจึงรู้ว่า ไทรอยด์เป็นพิษ ลูกจึงจำเป็นต้องสึกเพื่อกลับไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน 2 ปี ก็หายเป็นปกติ และก็ได้กลับมาบวชชีอีกเป็นครั้งที่ 2 เมื่อตอนอายุ 42 ปี ครั้งหลังนี้บวชมาได้เกือบ ๒๐ ปีแล้วปัจจุบันลูกกับพี่สาวคนที่ ๖ ซึ่งบวชเป็นชีมาได้ประมาณ ๒ ปี ได้ร่วมกันจัดตั้ง สถานปฏิบัติธรรมพุทธบารมี ขึ้น อยู่ที่ อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ตั้งขึ้นมาเกือบ 2 ปีแล้ว โดยที่ดินผืนนี้ลูกได้รับมรดกมาจาก คุณพ่อ-คุณแม่ของลูก ซึ่งก็มีญาติพี่น้องสหายธรรมคอยให้ความอุปถัมภ์ และได้จัดบวชเนกขัมมะมาตลอด มีผู้มาบวชอบรมและปฏิบัติธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละครั้งก็ได้นิมนต์พระมาให้การอบรมทุกครั้งในช่วงปลายปี พ.ศ.2547 ที่ผ่านมานี้เอง มีลูกศิษย์ของคุณครูไม่ใหญ่ท่านหนึ่ง มาทำหน้าที่กัลยาณมิตรติดตั้งจานดาวธรรมให้กับสถานปฏิบัติธรรมของลูก ตั้งแต่วันแรกที่ลูกดู DMC ลูกก็รู้สึกได้ถึงความสุขที่เข้ามาในชีวิตของลูก ทุกวันนี้ที่สถานปฏิบัติธรรมของลูกก็สวดมนต์ทำวัตรเช้า–เย็น พร้อมกับ DMC ตลอดเลยค่ะ เหมือนกับว่าสถานปฏิบัติธรรมของลูกได้มีพระอาจารย์มาจัดการอบรมให้ทุกวัน ส่วนตัวลูกเองก็ชื่นชอบโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยามาก เพราะเป็นการเปิดภพภูมิที่ตาเนื้อไม่สามารถมองเห็นได้ ให้ถูกนำออกมาเปิดเผย ลูกขอเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันด้วยค่ะ คนที่สถานปฏิบัติธรรมของลูกก็ติดตามรายการกันทุกคน และลูกเองก็มีเรื่องราวของครอบครัวลูกที่ต้องประสบวิบากกรรมคล้ายๆกัน คือ โดนผ่าตัดที่หลังถึง 5 คน มากราบขอความเมตตาจากคุณครูไม่ใหญ่ด้วยค่ะเริ่มจากคนที่หนึ่ง คือ ตัวลูกเอง ตอนอายุ 33 ปี ลูกได้ลื่นล้มในห้องน้ำ คุณหมอบอกว่า กระดูกที่หลังทรุด ต้องผ่าตัด แต่ปรากฏว่าหมอไปผ่าเอ็นที่ขอดเป็นก้อนที่ไปกดเส้นประสาทแทน ทำให้ลูกเองมีสุขภาพไม่ค่อยดี ต่อมาเมื่อลูกอายุ 49 ปี ก็ได้ผ่าตัดที่หลังอีกครั้ง เพราะเชื่อหมอที่ว่าผ่าแล้วจะดีขึ้น แต่เมื่อผ่าแล้วกลับแย่ยิ่งกว่าเก่า คือ ขาทั้งสองข้างชา เวลาเดินลูกต้องใช้ไม้เท้าตลอด และระบบขับถ่ายก็เสียไปส่วนหนึ่ง ต้องใช้ยาระบายอยู่หลายปี ส่งผลให้ระบบลำไส้เสีย ลูกต้องใช้วิธีดีท็อกซ์ช่วยอย่างเดียว ซึ่งทำให้ลูกเป็นทุกข์มากคนต่อมา ที่ต้องถูกผ่าตัดหลังคือ พี่สาวคนโต พี่สาวคนนี้เป็นเรี่ยวแรงหลักในการทำอาชีพเกษตรกรของครอบครัว พี่สาวคนโตมีอาการปวดหลังมาก คุณหมอตรวจพบว่า กระดูกหลังกร่อนและสึก ทั้งๆที่อายุขณะนั้นเพียง 37 ปี จึงต้องผ่าตัดเพื่อนำเอาอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้าไปเสริมกระดูกที่หลัง เมื่อผ่าตัดแล้วก็ทำให้อาการดีขึ้นคนที่สามที่ต้องผ่าตัดที่หลัง คือ พี่สาวคนที่ 6 ของลูก ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 66 ปี ได้บวชเป็นชีอยู่สถานปฏิบัติธรรมเดียวกันกับลูก เมื่อตอนอายุ 37 ปี พี่สาวคนนี้มีอาการปวดหลังมาก หลังจากหมอตรวจแล้ว ก็พบว่า กระดูกหลังกร่อนและสึก จึงต้องผ่าตัดเพื่อนำเอาอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้าไปเสริมกระดูกที่หลัง และเมื่อผ่าตัดแล้วอาการปวดหลังก็ทุเลาลงจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกมากที่พี่สาวทั้งสองคนของลูก คือพี่สาวคนโตและพี่สาวคนที่ 6 แม้จะมีอายุห่างกันถึง 12 ปี แต่ก็ต้องถูกผ่าตัดที่หลังด้วยอาการเดียวกัน คือกระดูกหลังกร่อน และก็มีอายุตอนที่ผ่าตัดเท่ากัน คือ 37 ปีคนที่สี่ที่ถูกผ่าตัดที่หลัง คือ พี่ชายคนที่ 7 เมื่อตอนอายุ 50 ปี พี่ชายคนนี้มีอาการปวดหลังมาก และขาทั้งสองข้างก็ชาไปหมด จึงได้ไปตรวจเช็คร่างกาย คุณหมอบอกว่า หมอนรองกระดูกเคลื่อน ต้องผ่าตัดที่หลังเพื่อจัดใหม่ และเมื่อผ่าตัดแล้วก็มีอาการดีขึ้นคนสุดท้ายที่ถูกผ่าตัดที่หลัง ก็คือ คุณพ่อของลูก ท่านเคยเป็นทหารไปสนามรบกรำศึกสงครามอยู่ 5 ปี ติดต่อกัน เมื่อสงครามเลิก คุณพ่อก็ได้ลาออกจากทหาร มาสวมวิญญาณเป็นเกษตรกร เลี้ยงสุกรมาเกือบ 10 ปี หลังจากได้กำไรมีเงินทุนมาก้อนหนึ่งแล้ว จึงเลิกเลี้ยงหันมาประกอบอาชีพทำสวนส้มแทน ตอนอายุ 70 ปี คุณพ่อได้ล้มในสวน ทำให้กระดูกที่หลังแตก ต้องผ่าตัดหลัง เพื่อเอาเศษกระดูกที่แตกออก หลังจากนั้นคุณพ่อก็มีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ต่อมาอีก 7ปี ท่านก็ละจากโลกนี้ไป ด้วยโรคตับอักเสบ รวมอายุได้ 77 ปี และคุณพ่อได้บริจาคศพให้กับนักศึกษาแพทย์คุณแม่ของลูก เคยรับราชการเป็นครูมาก่อน หลังจากคุณพ่อลาออกจากทหารแล้ว คุณแม่ก็ลาออกจากราชการด้วย และมาเป็นแม่บ้านคอยดูแลทุกคน แต่ไม่ได้ช่วยคุณพ่อทำงานด้านเกษตร คุณแม่เสียชีวิตตอนอายุ 85 ปีด้วยโรคมะเร็งลำไส้สำหรับคำถาม มีดังนี้ค่ะ1.เป็นเพราะวิบากกรรมใดคะ ที่ลูกต้องถูกผ่าตัดที่หลังถึง 2 ครั้ง และจะเป็นไปได้ไหมคะ ที่ลูกคิดว่า จะชดใช้เขาให้หมดโดยการผ่าตัดอีกเป็นครั้งที่ 3 ทำอย่างไรจึงจะหมดกรรมในชาตินี้2.ผลจากการผ่าตัดเป็นครั้งที่ 2 นั้น ทำให้ระบบขับถ่ายเสีย ต้องใช้ยาระบายอยู่เรื่อยๆ ทำให้ดื้อยา เป็นเพราะกรรมอะไรคะ จะทำบุญอย่างไรจึงจะทุเลาเบาบางได้บ้างคะ3.อาการที่ลูกเป็นไทรอยด์เป็นพิษ ในตอนที่บวชชีครั้งแรกนั้น เป็นเพราะกรรมอะไร และรักษาอยู่ 2 ปีก็หายนั้นเป็นเพราะผลบุญอะไรคะ4.เพราะเหตุใดคะ ลูกจึงอยู่ทางโลกไม่ได้ รู้สึกไม่สบายใจค่ะ ต้องมาบวชเป็นชี แต่ทำไมลูกจึงบวชชีแล้วต้องสึก แล้วกลับมาบวชอีก ซึ่งตอนนี้บวชได้เกือบ 20 ปี แล้ว5.ทำไมพี่สาวคนโตและพี่สาวคนที่ 6 แม้มีอายุห่างกัน 12 ปี แต่ถูกผ่าตัดที่หลังตอนอายุ 37 ปีเท่ากัน และมีอาการแบบเดียวกัน เป็นเพราะวิบากกรรมใดคะ00พี่ชายคนที่ 7 ของลูก ต้องผ่าตัดที่หลังเพื่อจัดหมอนรองกระดูกใหม่ เป็นเพราะวิบากกรรมใดคะ6.กรรมใดทำให้พ่อต้องผ่าตัดหลัง คุณพ่อและคุณแม่ของลูกท่านมีคตินิมิตอย่างไร เสียชีวิตแล้วไปอยู่ภพภูมิไหนคะ คุณพ่อท่านได้มาอยู่กับลูกๆหรือเปล่า และการที่คุณพ่ออุทิศร่างกายให้นักศึกษาแพทย์ จะได้อานิสงส์อย่างไรคะ7.ลูกเดินไม่สะดวก ขาชา ต้องใช้ไม้เท้า จึงต้องมาทำสถานปฏิบัติธรรมอยู่เองและสร้างบารมีไปด้วย คิดว่าจะทำให้ดีที่สุด ขอหลวงพ่อเมตตาแนะนำว่าให้ดีที่สุดนั้นทำอย่างไรคะ การตั้งสถานปฏิบัติธรรมขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับคนที่มาประพฤติธรรม จะได้อานิสงส์อย่างไรบ้างคะ8.ลูกเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะของคุณครูไม่ใหญ่บ้างหรือเปล่าคะ เพราะแต่เดิมลูกเองก็ปรารถนาจะไปชั้นดุสิต แต่ถ้าจะไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ จะต้องทำอย่างไรบ้างคะฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ทีแล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ1.ลูกถูกผ่าหลัง เพราะกรรมในอดีตเกิดในสังคมเกษตรกรรมร่วมกับพี่สาวคนโต พี่สาวคนที่ 6 และพี่ชายคนที่ 7 ได้เลี้ยงสัตว์เป็นอาชีพ
ตอนเด็กๆมักชวนกันไปขี่หลังลาตัวหนึ่งซึ่งเป็นลูกลา โดยขี่พร้อมกันทั้ง 4 คน แล้งบังคับให้ลาเดินไปโดยช่วยกันขย่มหลังลา จนมันจำต้องเดินและเจ็บหลังมาก ได้ทำอย่างนี้บ่อยๆจนลูกลาทนแทบไม่ไหว ด้วยวิบากกรรมนี้จึงทำให้ทั้ง 4 คนเจ็บที่หลัง
ส่วนตัวลูกมีกรรมส่วนตัวเสริม คือ วันหนึ่งมีงูผ่านมา ลูกกลัวมันจะกัดจึงเอาไม้ตีหลังงูจนมันเจ็บ และหนีไป กับอีกกรรม คือ การขี่หลังลูกลาตามลำพัง และบังคับให้มันเดินโดยเอาไม้ตีขามัน
ดังนั้นชาตินี้เมื่อผ่าตัดแล้ว ขาของลูกจึงชาอีกด้วย ให้ลูกทำบุญทุกบุญแล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้สัตว์ ที่เราไปเบียดเบียนเขาไว้บ่อยๆ จะทำให้หนักเป็นเบา
2.ลูกมีเศษกรรมจากการผูกขังสัตว์ไม่ให้มันเป็นอิสระ ทำให้รู้สึกทรมานที่ถูกผูกขังอยู่กับที่ วิบากกรรมนี้ทำให้ลูกระบบขับถ่ายเสีย
3.กรรมผูกโกรธ โกรธใครแล้วให้อภัยยาก รวมกับกรรมใช้แรงงานสัตว์มากเกินไปในอดีตจนมันทั้งเหนื่อยและหิวมาก ทำให้ไทรอยด์เป็นพิษ แต่บุญที่ทำทาน รักษาศีล ประพฤติพรหมจรรย์มาช่วยตัดรอนจึงทำให้โรคไทรอยด์เป็นพิษหายไป
4.ลูกเคยบวชเป็นพระตั้งแต่ในชาติที่เป็นผู้ชาย จึงทำให้มีอัธยาศัยนักบวช เพราะกรรมกาเมในอีกชาติมาส่งผล จึงทำให้ชาติที่ผ่านมาเป็นผู้หญิงและมีทุกข์เพราะครอบครัว จึงอธิษฐานจิตขอประพฤติพรหมจรรย์ในชาติต่อไป
ชาตินี้จึงได้มาบวชชีประพฤติพรหมจรรย์ ที่สึกไปครั้งแรก เพราะ วิบากกรรมเก่าที่ทรมานสัตว์มาตัดรอน ที่กลับมาบวชใหม่อีกครั้ง เพราะ ความคุ้นในชาติที่เป็นผู้หญิง และครองเรือนแล้วเกิดความเบื่อหน่าย เพราะทุกข์เรื่องครอบครัว
5.พี่สาวคนโตและพี่สาวคนที่ 6 ได้ทำกรรมร่วมกัน และทำกรรมเหมือนกันดังกล่าว จึงต้องมาผ่าตัดหลังอายุ 37 ปีเท่ากัน เช่นเดียวกับพี่ชายคนที่ 7 ที่ขี่หลังลาแล้วบังคับลาให้เดินด้วยการขย่มหลังมันดังกล่าว
6.พ่อถูกผ่าตัดหลัง เพราะกรรมปัจจุบัน คือ กรรมที่ออกรบและเลี้ยงสัตว์ไว้ฆ่า ไว้ขาย ตายแล้วเกิดเป็นหมูให้เขาฆ่า แต่ไม่ได้ไปมหานรก เพราะบุญที่ได้ทำไว้ในพระพุทธศาสนาอุ้มไว้ ทั้งๆที่ฆ่าคนและสัตว์ไว้เยอะ
การที่พ่ออุทิศร่างให้นักศึกษาแพทย์จะเป็นบุญ ที่จะไปตัดรอนวิบากกรรมปาณาติบาตได้ระดับหนึ่ง
แม่ตายแล้วเป็นภุมมเทวาชั้นดี มีวิมานอยู่ เพราะทำบุญตามประเพณี แม่เป็นมะเร็งในลำไส้ เพราะ กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร
7.การตั้งสถานที่ปฏิบัติธรรมให้คนมาปฏิบัติธรรมจะได้บุญมากตามแต่จะอธิษฐานเอา หรืออย่างน้อยก็ได้รูปสมบัติ ทิพยสมบัติ คุณสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ตามกำลังบุญ และเป็นปัจจัยให้ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน
การสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมให้ดีที่สุด คือ ให้มีสัปปายะ 4 เช่น อาหารเป็นสัปปายะ อาวาสเป็นสัปปายะ บุคคลเป็นสัปปายะ ธรรมะเป็นสัปปายะ
8.ลูกเคยสร้างบุญกับหมู่คณะในชาติที่เป็นผู้ชาย ได้เคยบวชอยู่กับหมู่คณะด้วย แต่พลัดหลุดไปเพราะความน้อยใจที่กระทบกระทั่งกันในหมู่คณะบ้าง ไม่ได้ดังใจบ้าง จึงปลีกวิเวกไปอยู่ที่เงียบๆ ไปนั่งฟุ้งซ่านตามลำพัง
- ให้ลูกสร้างบารมีร่วมกันอย่างเต็มกำลัง แล้วอธิษฐานจิตอย่างตั่งมั่นให้สม่ำเสมอทุกวันจนตลอดชีวิต จะมีสิทธิ์ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ได้
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-02-25.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 14:41
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv