Case Study
พ่อขี้เมา ตายแล้วลูกทำบุญองค์พระให้
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบแทบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูง
 
    ผม เริ่มเข้าวัดเมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2540 เป็นวันตอกเสามงคลต้นสุดท้าย มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี โดยการชักชวนของรุ่นพี่ชมรมพุทธฯ ในวันงานบุญตอกเสาเข็มมงคลต้นสุดท้ายนั้น มีพี่ชมรมพุทธฯท่านหนึ่งชวนให้ผมอบรมธรรมทายาท ผมจึงได้เข้าอบรมธรรมทายาท รุ่นที่25 ก่อนจะจบการอบรม ผมได้มีโอกาสขึ้นไปปฏิบัติธรรมที่พนาวัฒน์ มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี และยิ่งได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับวิชชาธรรมกาย ยิ่งทำให้รู้สึกว่า ชีวิตนี้ช่างโชคดีเหลือเกิน ที่ได้มาพบพระเดชพระคุณหลวงพ่อและหมู่คณะ
 
    ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจที่บวชอยู่ต่อ แต่เนื่องจากมีปัญหาบางประการ ผมจึงต้องจำใจลาสิกขา เมื่อลาสิกขาแล้ว ก็ได้รับการประคับประคองจากพี่น้องชมรมพุทธฯมช. ทำให้ผมมีศรัทธารักษาศีลแปด และช่วยงานชมรมพุทธฯ จนกระทั่งได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องชมรมฯ ให้เป็นประธานชมรมฯ ในขณะเรียนชั้นปีที่3
 
    พออยู่ชั้นปีที่4 ก็มาช่วยงานเป็นอาสาสมัคร ประจำที่ธุดงคสถานล้านนา และกลับมาบวชอีกครั้ง ในรุ่นบูชาธรรมครบรอบ 57ปีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ โดยบอกกับโยมแม่ว่า วันวิสาขบูชาก็จะลาสิกขา และกลับไปเรียนต่อให้จบปริญญา แต่ก่อนบวชประมาณ 7วัน ผมเริ่มสับสนในชีวิตว่า จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร เมื่อบวชแล้วก็ไม่อยากจะลาสิกขาเลย เพราะการได้บวชเป็นสิ่งที่บังเกิดขึ้นได้ยาก หากออกไปข้างนอกตอนนี้ จะมีโอกาสได้กลับมาบวชอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะผมเป็นคนเจ้าชู้ มีปกติหาคู่ใจตั้งแต่เรียนชั้นอนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัย
 
    ในวันบวช มีกัลยาณมิตรท่านหนึ่งอยู่ที่นิวยอร์ก และเป็นผู้นำบุญที่วัดภาวนานิวเจอร์ซี ได้มาเป็นตัวแทนผู้ปกครองถวายผ้าไตรให้ผม และท่านก็ได้ปวารณาเป็นอุปัฏฐายิกาตั้งแต่วันบวชวันแรกนั้น ท่านเคยเล่าความฝันให้ผมฟังว่า ประมาณปี พ.ศ.2537 ท่านฝันว่ามีหญิงชราสวมชุดขาวจูงมือเด็กสองคนมา แล้วบอกกับท่านว่า “บวชพระให้ยายด้วยนะ” ท่านก็รับปาก พอท่านได้เข้าวัด จึงได้พบว่าหญิงชราในความฝันก็คือ คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง นั่นเอง
 
    โยมพ่อของผม เป็นข้าราชการครูมานานหลายสิบปี โดยสอนวิชาภาษาอังกฤษ เป็นคนที่รักครอบครัวมาก เป็นนักดนตรีที่มีเพื่อนฝูงมากมาย จนเป็นที่รู้จักไปทั่วอำเภอ เพราะเมื่อมีงานรื่นเริงที่ไหนก็มักจะมีโยมพ่อที่นั่น จึงทำให้โยมพ่อดื่มสุราเป็นอาจิณ และเพราะสุรานี่เอง จึงทำให้เกิดเรื่องราวดังที่จะได้เล่าต่อไปนี้ครับ...
 
    ในสมัยผมยังเด็ก โยมพ่อมักจะเมาและกลับบ้านมาในตอนดึกมาก เมื่อได้ยินเสียงบีบแตรและเครื่องยนต์ เราสามแม่ลูกก็เป็นอันทราบกันว่า สัญญาณแห่งความทุกข์ระทมกำลังจะบังเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า เสียงฝีเท้าและเสียงบ่นระคนไปทั่วบ้าน และเสียงนั้นก็ดังใกล้เข้ามา...ใกล้เข้ามาทุกที จนมาดังชัดเจนมาก เมื่อโยมพ่อมาหยุดที่หน้าประตูห้องนอน แล้วโยมพ่อก็จะคว้าเชือกที่ผูกหูมุ้งและกระชากสายมุ้ง โดยที่บุคคลที่อยู่ในมุ้งก็คือโยมแม่ ผมและน้องสาวที่กำลังเล็กๆ เป็นเหตุให้ทุกคนสะดุ้งตื่นพร้อมๆกับคำถามที่แสดงออกถึงความไม่พอใจของ โยมแม่ ผู้ที่รู้ดีว่า เวลานี้...แท้จริง คือ ราตรีที่เป็นสุขของลูกทั้งสอง
 
    ยามใดที่โยมแม่ให้เหตุผล โยมพ่อก็จะบันดาลโทสะ ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ทำร้ายโยมแม่ด้วยการตบตี จนถึงตัวผม ท่านด่าผม เป็นคำด่าของโยมพ่อที่ไม่น่าเชื่อว่าพ่อจะด่าลูกได้ ซึ่งยังอยู่ในใจผมตลอดมา ท่านด่าผมว่า “ไอ้สัตว์นรก” เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะเหล้าตัวปัญหานั่นเอง
 
    นอกจากครอบครัวของผมจะแตกเป็นเสี่ยงแล้ว เหล้าก็ยังพาผู้นำครอบครัวเราไปสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นอีกด้วย เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งโยมพ่อดื่มสุราและขับรถไปในเขตตำบลปากฝาง อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ระหว่างการเดินทาง ด้วยสติที่ไม่สมบูรณ์จึงทำให้โยมพ่อขับรถชนคนตาย และต้องจ่ายค่าเสียหายที่เรียกชีวิตกลับคืนมาไม่ได้ถึง 200,000บาท ซึ่งถือว่าเป็นเงินจำนวนมากในสมัยนั้น และต้องซื้อรถมอเตอร์ไซด์ใหม่ให้ญาติของเจ้าทุกข์อีกด้วย
 
    ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ตอนผมเรียนอยู่ในช่วงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โยมพ่อก็ยังคงมีเหล้าเป็นเพื่อนเช่นเดิม ด้วยเหตุที่ภาพของความดุดันของโยมพ่อยังติดอยู่ในใจของผมตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้ผมไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปคุยกับโยมพ่อ เข้าไปหอมแก้ม เข้าไปกอด เหมือนพ่อกับลูกทั่วๆไป จนโยมพ่อต้องออกปากบ่นตอนที่ไม่เมา แต่ผมก็มีเหตุผลในใจว่า ผมไม่คุ้นและกลัวพ่อ แม้แต่เสียงบีบแตร และเครื่องยนต์ดังๆ ก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ผมตกใจกลัวอยู่จนถึงทุกวันนี้ เพราะมันคือสัญญาณความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในบ้านของเรา
 
    แต่โชคดีที่ตลอดชีวิต ผมมีแต่กัลยาณมิตรรอบตัว ผมจึงไม่ตกอยู่ในบ่วงของยาเสพติด เหมือนกับวัยรุ่นที่ครอบครัวแตกแยกในปัจจุบัน ที่หันไปพึงสิ่งเหล่านี้เพื่อจะกลบทุกข์ที่เกิดขึ้นจากสุรา มหาวิบัติของสังคม จนกระทั่งผมมาได้บวช ช่วงที่ผมได้บวชอยู่ต่อนั้น โยมพ่อได้ย้ายมาเป็นหัวหน้าหมวดภาษาอังกฤษที่โรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่ง ในจังหวัดปทุมธานี ท่านก็ได้มาวัดบ้าง เช่น มาร่วมงานวันสลายร่างคุณยายอาจารย์ งานบรรพชาสามเณรแก้วเพื่อฉลองมหาธรรมกาย เจดีย์ครั้งที่1 เป็นต้น บางครั้งเป็นวันบูชาข้าวพระ ผมก็ชวนโยมพ่อมาด้วย ทั้งๆที่ท่านยังมีอาการเมาสุราอยู่ ก็ให้ท่านฝืนนั่งสมาธิไป
 
    จนกระทั่งวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2545 โยมพ่อได้ละโลกไปเพราะเส้นโลหิตในสมองแตก รวมสิริอายุได้ 52ปี โดยก่อนจะเข้าโรงพยาบาล โยมพ่อได้ล้มหมดสติที่บ้าน โยมป้า จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล เนื่องจากโยมป้า เป็นคนเข้าวัดปฏิบัติธรรมจึงประคองโยมพ่อไว้ที่ตัก และบอกให้โยมพ่อภาวนาว่า “พุทโธ” โยมป้าเคยเล่าให้ฟังว่า โยมพ่อเคยพูดด้วยความโมโหว่า “ในตระกูลนี้ ผมจะตายเป็นคนแรก” ซึ่งโยมพ่อก็ละโลกเป็นคนแรกของตระกูลจริงๆ
 
    หลังจากโยมพ่อละโลกแล้ว ผมได้ตัดใจนำเงินมรดกของโยมพ่อ ซึ่งถือว่าเป็นเงินก้อนสุดท้ายเกือบทั้งหมดที่มีไว้เพื่อผมและน้องสาว มาสร้างพระธรรมกายประจำตัว ถวายพระสังฆาธิการทั่วประเทศ ในนามโยมพ่อ 5องค์ และสร้างให้กับทุกคนในครอบครัวอีก 5องค์ รวมเป็น 10องค์ บุญสร้างเสาเขื่อนรอบมหาวิหารคุณยายอาจารย์ 1ต้น ฯลฯ
 
    ผมคิดในใจตอนนั้นว่า เรื่องอื่นเป็นเรื่องรอง ต้องเอาบุญใหญ่ช่วยโยมพ่อให้ไปสู่สุคติก่อน ปัจจัยในมือเราคือสิ่งที่เกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของโยมพ่อ ดังนั้นเงินส่วนนี้ ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิตในปรโลกของโยมพ่อมากที่สุด ใครจะว่าอย่างไรก็ยกไว้ มีแต่เราเท่านั้นที่รู้หลักวิชชาและสามารถช่วยโยมพ่อได้ คิดได้อย่างนี้จึงรีบสร้างพระธรรมกายประจำตัว ถวายพระสังฆาธิการ ช่วยชีวิตโยมพ่อครับ
 
ผมกราบขออนุญาตเรียนถามดังนี้ครับ
 
1.โยมพ่อละโลกแล้ว มีคติเป็นอย่างไร บุญจากการสร้างองค์พระธรรมกาย ถวายพระสังฆาธิการ และบุญจากการบวชของผม มีส่วนช่วยท่านอย่างไรบ้างครับ
 
2.วจีกรรมที่โยมพ่อแช่งตัวเองว่า จะต้องตายเป็นคนแรกของตระกูล มีส่วนทำให้ท่านต้องจากโลกไปตามวาจานั้นหรือไม่ ทำไมท่านจึงพูดเช่นนั้นครับ
 
3.ตอนเป็นเด็ก ผมรับหน้าที่ซื้อสุรามาให้โยมพ่อเสมอๆ ด้วยความไม่รู้ จะมีวิบากกรรมอย่างไรครับ
 
4.ในความฝันของอุปัฏฐายิกา เด็กสองคนที่คุณยายอาจารย์จูงมือมาให้ท่านบวชให้คุณยายอาจารย์นั้น หนึ่งในนั้นเป็นผมใช่หรือไม่ ผมกับโยมแม่อุปัฏฐายิกาสร้างบารมีร่วมกันมาอย่างไร แม้อยู่ต่างแดนแสนไกลทำไมจึงมาพบกันและเกื้อกูลกันครับ
 
5.ด้วยบุญอะไร พอบวชวันแรก ผมก็มีอุปัฏฐายิกาทันทีครับ เหตุใดตลอดชีวิตของผม ตั้งแต่ก่อนบวชจนถึงปัจจุบัน จะมีแต่คนมาอุปถัมภ์ช่วยเหลือในทุกด้าน และไปอยู่ที่ไหนก็มีแต่คนรักใคร่เอ็นดูครับ
 
6.ตั้งแต่ผมยังไม่ได้บวช ทำไมผมจึงชอบสอนสมาธิมาก รู้สึกมีความสุขที่ได้ทำหน้าที่นี้ และรู้สึกสงบนิ่งมีพลังมากกว่านั่งเองโดยลำพังครับ
 
7.ผมเคยเปิดวีซีดีเรื่องมวยให้นักเรียนดู มีนักเรียนชายคนหนึ่งดูแล้วถามผมว่า “พระอาจารย์ครับ ผมฝึกเทควันโด้จะต้องไปอบายมั้ยครับ” ผมคิดนิดนึง แล้วตอบนักเรียนว่า “ไปสิครับ” เพราะว่าผมเคยฝึกเทควันโด้มาก่อนเข้าคอร์สเรียนจนสอบได้สายเหลือง แต่เมื่อเข้าวัดแล้วก็เลิกฝึก เพราะยิ่งฝึกไปใจนักเลงก็เริ่มก่อตัวมากขึ้น จึงอยากกราบเรียนถามว่า ผู้ที่ชอบฝึกศิลปะการป้องกันตัวเพื่อสุขภาพหรือเพื่อการแข่งขัน ตลอดจนเจ้าของธุรกิจศิลปะป้องกันตัวซึ่งกำลังเปิดสอนเยาวชนอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน จะมีวิบากกรรมอย่างไรครับ
 
8.ในช่วงเรียนอยู่ชั้นปีที่3 พี่อุบาสิกาท่านหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันกำลังศึกษาต่ออยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ก็ได้มาพบกับหมู่คณะ และเป็นกำลังสำคัญในการช่วยกันทำงานชมรมพุทธฯในยุคนั้น ผมกับพี่อุบาสิกาเคยสร้างบารมีร่วมกันมาอย่างไร และเหตุใดผมมักจะสนิทกับรุ่นพี่ ไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนรุ่นเดียวกันเลยครับ
 
9.ทำไม ผมจึงชอบพูดภาษาอังกฤษ และรู้สึกตื่นตัวภายในทุกครั้งเวลาได้ยินเสียงพูดภาษาอังกฤษแบบเจ้าของภาษา ผมจะต้องไปทำหน้าที่ที่ต่างประเทศ เช่นเดียวกันกับที่โยมพี่อุบาสิกากำลังทำอยู่หรือไม่ครับ ผมจะสร้างบารมีติดตามตามติดพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และหมู่คณะ ไปได้ตลอดชีวิตตลอดรอดฝั่ง ไปจนถึงที่สุดแห่งธรรมได้อย่างไรครับ
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1.โยมพ่อละโลกแล้ว ไปเป็นภุมมเทวาสายยักษ์ เพราะมักโกรธ อยู่ระดับกลางๆในหมู่บ้านภุมมเทวาแห่งหนึ่ง แถวภาคเหนือ ด้วยใจที่ไม่หมอง เพราะป้าได้แนะนำให้ภาวนา "พุทโธ" ตอนใกล้ตาย และบุญที่พระลูกชายบวช รวมทั้งบุญที่ทำอุทิศให้
 
 
2.วจีกรรมที่ท่านแช่งตัวเองมีส่วนกับบาปกรรมที่ทำ พอที่จะดึงดูดให้ตายเร็วได้ตามคำพูดนั้น บาปกรรมเกิดจากกรรมสุรา ฆ่าสัตว์ทำกับแกล้ม และกรรมมักโกรธของท่าน เหตุที่ท่านพูดอย่างนี้ เพราะความโกรธรวมกับกรรมที่ทำไว้ ทำให้ได้ช่อง
 
 
3.ตอนเด็กลูกมีหน้าที่ไปซื้อสุราให้พ่อดื่ม ได้ทำตามหน้าที่ของลูกที่ต้องทำตามคำสั่งพ่อ ประกอบกับความกลัวพ่อด้วย ดังนั้นกรรมนี้จึงไม่มีเจตนา แต่จะมีวิบากกรรม คือ อาจถูกดึงดูดให้มาเกิดในครอบครัวที่มีคนดื่มสุราอยู่บ้าง แต่ไม่มาก
 

4.ความฝันของอุปัฎฐายิกา อย่าเอาเป็นเรื่องเป็นราวจริงจัง

5.ลูกมีบุญสงเคราะห์ญาติ และเคยเป็นกัลยาณมิตรให้กับคนมากมาย จึงทำให้ทั้งตอนก่อนบวชและบวชแล้ว มีคนรักและสนับสนุนอุ้มชูอุปถัมภ์ช่วยเหลือในทุกด้าน

6.ที่ลูกชอบสอนสมาธิทั้งก่อนบวช และเมื่อบวชแล้ว เป็นเพราะบุญในอดีตเคยบวช และชอบสอนสมาธิเผยแผ่ให้คนเข้าถึงธรรม เมื่อสอนผู้อื่นจึงต้องสอนตัวเองไปด้วย จึงทำให้ระมัดระวังกาย วาจา ใจ จึงสงบนิ่งและมีพลัง

7.การฝึกศิลปะป้องกันตัวเพื่อสุขภาพก็ไม่เป็นไร แต่ฝึกเพื่อแข่งขัน เพื่อเอาชนะ ใจจะผสมไปด้วยโทสะที่จะทำร้ายคู่ต่อสู้ จะเป็นทางมาแห่งความเศร้าหมองของจิต และยิ่งฝึกไปจนกระทั่งรู้สึกว่า ใจเป็นนักเลงมากเข้า จะเศร้าหมองมากขึ้น

8.ลูกเป็นกุลบุตรและพี่อุบาสิกาเป็นกุลธิดา ในพุทธันดรที่ผ่านมา ได้ชวนมาสร้างบารมีกันเป็นกลุ่ม

9.ลูกมีวิญญาณนักเผยแผ่ในอดีตติดมา เมื่อคบกับรุ่นพี่ที่เก่งภาษาในปัจจุบัน ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนประคับประคองเรื่องภาษา เลยคุ้นเรื่องภาษา

บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-03-24.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 14:43
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv