CASE STUDY
พี่สะใภ้เป็นใบ้
(สามีธรรมดาได้ภรรยาเป็นใบ้) 
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
    ลูก ขอความสว่างจากหลวงพ่อ เกี่ยวกับครอบครัวของลูกค่ะครอบครัวของคุณพ่อ มาจากเมืองจีน  ตั้งแต่คุณพ่ออายุได้ 8 ขวบ แต่เนื่องจาก คุณปู่ มาแล้วอยู่เมืองไทยไม่ได้ จึงกลับเมืองจีน  อีกไม่นานก็ได้ข่าวจากเมืองจีนว่า คุณปู่เสียชีวิต   คุณพ่อจึงต้องช่วย คุณย่า หาเลี้ยงน้องอีก 2 คน   และมีฐานะความเป็นอยู่ที่ลำบากมาก
 
    คุณพ่อ มีปกติจะฆ่าเป็ด - ไก่ เพื่อเซ่นไหว้เจ้าตามประเพณีของคนจีนในวันสาร์ทต่างๆเท่านั้น   คุณพ่อว่า พระสงฆ์ว่าไม่ได้ทำงาน แต่คุณพ่อเป็นคนที่จะว่าไม่ชอบพระก็ไม่ใช่ เพราะมีอยู่วันหนึ่งคุณพ่อไปธุระ บังเอิญเห็นพระพุทธรูปองค์หนึ่งเข้า เกิดความชอบ  จึงคิดอยากบูชาท่านไปกราบไหว้ที่บ้าน แต่เงินที่ติดตัวมีไปไม่มาก  พอถามจำนวนเงินก็พอดีกับเงินที่ติดตัวอยู่  คุณพ่อจึงได้บูชากลับบ้าน แล้วคุณพ่อก็ได้ฝันว่า พระพุทธรูปได้มาขอบิณฑบาตเรื่องชีวิตสัตว์ว่า ต่อไปอย่าฆ่าเลย คุณพ่อก็รับปาก ตั้งแต่นั้นมาคุณพ่อก็ไม่เคยฆ่าสัตว์อีกเลย  
 
    ก่อนแต่งงาน คุณพ่อเป็นคนสูบบุหรี่จัดมาก สูบแบบมวนต่อมวน วันละประมาณ 2-3 ซอง พอหลังแต่งงาน คุณแม่บอกคุณพ่อว่า “บุหรี่มันเหม็น” หลังจากวันนั้นมาคุณแม่ก็ไม่เห็นคุณพ่อสูบบุหรี่อีกเลย   คุณแม่จึงบอกว่า “การจะเลิกสูบบุหรี่นั้นอยู่ที่ใจ”
 
    นอกจากคุณพ่อจะเลิกสูบบุหรี่แล้ว คุณพ่อยังได้เป็นผู้อุปัฏฐากพระภิกษุสงฆ์อยู่รูปหนึ่ง  เป็นเวลาร่วม 10 กว่าปี  ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันเลย จนหลวงพ่อท่านมรณภาพ หลวงพ่อเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่น่าเลื่อมใสมาก จนพระลูกวัด และชาวบ้านละแวกวัดนั้นขอให้ท่านเป็นเจ้าอาวาส แต่ท่านก็ไม่ขอเป็น
 
    ประมาณ ปีพ.ศ.2525 คุณพ่อป่วยมีอาการตัวบวม จึงเข้ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล คุณหมอแจ้งว่า คุณพ่อเป็นโรคเบาหวาน  ต่อมาเดือน กันยายน พ.ศ.2526  คุณหมอบอกว่า เบาหวานหายแล้ว  แต่แจ้งว่าตอนนี้เป็นโรคไตวายเรื้อรัง และต้องล้างไตทางหน้าท้อง ทำให้คุณพ่ออยู่ได้เพียง 6 เดือนเท่านั้นก็เสียชีวิต ก่อนที่คุณพ่อจะหมดลมหายใจนั้น  คุณแม่จุดธูปไหว้พระอยู่สักพัก ก็รีบเข้ามาในห้องนอน บอกกับลูกและน้องชายว่า ให้รีบเปลี่ยนเสื้อให้คุณพ่อ และเราก็ได้บอกให้คุณพ่อทำใจนิ่งๆ ให้คิดถึงพระ คุณพ่อก็ไปอย่างสงบ หน้ายิ้ม   เหมือนกับคนนอนหลับเท่านั้น      คุณพ่อเสียชีวิต       เมื่อเวลา 01.40       วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ.2527 รวมอายุได้ 68 ปี
 
    ตอนคุณพ่อมีชีวิต คุณพ่อจะนั่งสมาธิ กำหนด พุทโธ  ในช่วงเวลาตี 1 ถึง ตี 3 เป็นเวลา 10 ปี    และหลังคุณพ่อเสียชีวิตน้องชายได้บวชพระในโครงการอบรมธรรมทายาทภาคฤดูร้อนปี พ.ศ.2527 รุ่นที่ 6 ของวัดพระธรรมกายให้คุณพ่อด้วย
 
    ส่วน คุณแม่ของลูก เมื่ออายุมากขึ้นก็เริ่มปวดหัวเข่าเดินนานไม่ค่อยได้   ถ้าจะไปไหนนอกบ้าน  ลูกๆจะคอยเอาเก้าอี้ ให้คุณแม่นั่ง เป็นพักๆ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์  ปี พ.ศ.2547  ลูกกับ พี่สาวคนที่ 3 และ น้องสาวคนที่ 7 ได้พาคุณแม่ไปรักษาอาการปวดหัวเข่า ระหว่างที่คอยหมอ คุณแม่หายใจไม่ทัน ต้องเรียกรถฉุกเฉินจากโรงพยาบาลเอกชนมารับ หลังจากออกจากโรงพยาบาลในครั้งนี้ คุณแม่ก็เริ่มมีปัญหาเรื่องไต   คุณหมอจะให้ล้างไตทางเส้นเลือด แต่ลูกๆ ขอไม่ล้าง เนื่องจากเคยเจอประสบการณ์ของคุณพ่อในการล้างไตที่ไม่ดี  คุณแม่จึงขอกลับบ้าน กลับบ้านได้ 1 วันทางโรงพยาบาลรัฐบาล ที่คุณแม่รักษาประจำ แจ้งว่ามีห้องพิเศษ จึงได้พาคุณแม่เข้าไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนั้น พอคุณแม่ดีขึ้นก็ขอคุณหมอกลับบ้าน  ช่วงปี พ.ศ.2547   คุณแม่ เข้า - ออก  อยู่รักษาที่ โรงพยาบาล เป็นประจำ ครั้งละเป็นเดือนๆ  จนปลายเดือน ตุลาคม  คุณแม่มาตามคุณหมอนัด  คุณหมอแจ้งว่า ต้องให้คุณแม่อยู่โรงพยาบาล รักษาตัวก่อน หลังจากอยู่โรงพยาบาลได้ 1 อาทิตย์ คุณหมอโรคไตแจ้งว่าคุณแม่ต้องล้างไต และต้องล้างทางหน้าท้องเท่านั้น เนื่องจากหมอหัวใจระบุว่า คุณแม่อาจจะมีเส้นเลือดหัวใจตีบด้วย จึงไม่ให้ล้างทางเส้นเลือด เพราะทางหน้าท้องปลอดภัยที่สุด แต่ต้องสะอาดที่สุด เพราะติดเชื้อง่าย แต่ลูกๆ ยังไม่ยอมให้คุณหมอล้างไต เนื่องจากคุณแม่บอกไว้แต่เริ่มแรกแล้วว่า แม่จะไม่ขอล้างไต
 
    จนถึงเดือน ธันวาคม คุณแม่เริ่มไม่รู้สึกตัว ลูกๆ จึงต้องขอให้คุณหมอล้างไต คุณหมอเริ่มล้างไตให้เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม  พ.ศ.2547 ผลของการล้างไตไม่ดี คุณหมอแจ้งว่าคุณแม่มีการติดเชื้อ ได้นำปัสสาวะ , เลือด , เสมหะ ทุกอย่างที่คุณหมอคิดว่าจะติดเชื้อไปตรวจ แต่ผลของการตรวจไม่ปรากฏเชื้อ คุณหมอบอกว่า ได้ให้ยาฆ่าเชื้อแรงที่สุด ดีที่สุดในโลก แพงที่สุดในโลก รักษาคุณแม่แล้ว แต่ทำไมไข้ของคุณแม่ไม่ลด (ประมาณ 38 C ถึง 40 C )    พอวันที่ 20 ธันวาคม  พ.ศ.2547  คุณแม่เริ่มต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ จนถึงเวลา ตี 5 ของวันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2548  คุณหมอบอกให้ลูกๆทราบว่า เวลานี้คุณแม่อยู่ด้วยเครื่องช่วยหายใจ และยากระตุ้นหัวใจเท่านั้น ลูกกับน้องจึงกลับบ้าน เพื่อเอาเสื้อคุณแม่ พอกลับถึงโรงพยาบาล ลูกบอกคุณแม่ว่า คุณแม่หนูเปลี่ยนเสื้อให้คุณแม่นะ หน้าคุณแม่ยิ้ม และจากไปอย่างสงบ  รวมอายุได้ 80 ปี
 
    ก่อนหน้าที่คุณแม่จะเสียชีวิตลูกๆ ได้นำเงินของคุณแม่ ให้คุณแม่จบ และบอกข้างหูคุณแม่ว่า ให้คิดถึงบุญสร้างสถานที่วิปัสสนา สร้างระฆังทอง ไถ่ชีวิตโค – กระบือ และได้เปิดเทปธรรมะให้คุณแม่ฟังอยู่ตลอด และเปิดช่อง DMC ให้คุณแม่ดู
 
    หลังจากที่คุณแม่เสีย ลูกๆได้นำเงินของคุณแม่สร้างเสาแก้วให้ 1 S   ในช่วง 100 วันของคุณแม่   ลูกและพี่สาวคนที่สามและน้องสาว ได้สร้างเสาแก้ว อีก 2 S และสร้างองค์พระภายในให้คุณพ่อ, คุณแม่, พี่ชาย รวม 5 องค์
 
    เท่าที่ ลูกๆทุกคนจำความได้ คุณพ่อ-คุณแม่ ชอบทำบุญทำทาน ใครลำบากมาขอให้ช่วยเหลือ คุณพ่อ-คุณแม่ก็ช่วย ไม่เคยเบียดเบียน หรือทำความเดือดร้อนให้ใคร ท่านนับถือ เคารพ ผู้เฒ่า ผู้ชรา  คุณพ่อคุณ-แม่จะทำกับข้าวใส่บาตรเป็นประจำ คุณพ่อ-คุณแม่ เป็นตัวอย่างครอบครัวที่อบอุ่นให้กับลูกๆเห็น
 
    ครอบครัวของลูกมีพี่น้อง ทั้งหมด 7 คน พี่ชายคนโต ได้แต่งงานกับ พี่สะใภ้ ซึ่งพูดไม่ได้ (เป็นใบ้) เป็นธรรมดาของคนที่เป็น พ่อ-แม่ ซึ่งมีลูกชาย ปกติ สมบูรณ์ ทำไมมารักกับคนพูดไม่ได้ แต่คุณพ่อ –คุณแม่ไม่เคยแสดงความรังเกียจ กลับรักและสงสารลูกสะใภ้มาก  เพราะพี่สะใภ้ของลูกเป็นคนดี มีน้ำใจ พี่ชายและพี่สะใภ้มีลูกด้วยกันทั้งหมด  4 คน  เป็นชาย  2  และ หญิง 2 ในปี พ.ศ.2544 พี่ชายคนโต หกล้มเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2544   อายุได้ 51 ปี   
 
    เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2548  พี่สะใภ้ได้มาวัดพระธรรมกายเป็นครั้งแรก เพื่อสร้างองค์พระ ได้ถวายปัจจัยกับหลวงพ่อ พี่สะใภ้ดีใจมาก บอกลูกว่า ตัวจริงหลวงพ่อดูดี ผิวผ่องมาก ลูกถามว่าเหมือนมีรัศมีเลยใช่ไหม  พี่สะใภ้ว่าใช่ หล่อ กว่าที่ดู DMC เพราะที่บ้านของพี่สะใภ้ติดจานดาวธรรม และได้ดู DMC เป็นประจำ ในวันนั้นหลวงพ่อให้พรว่า ให้พี่สะใภ้ต่อไปพูดได้นะ พี่สะใภ้ยกมือไหว้แล้วส่งภาษามือว่าไว้ชาติหน้าพี่จะพูดได้ ระหว่างนั่งรถกลับจากวัดพี่สะใภ้เป็นปลื้มมาก ยิ้มตลอดเลย และบอกลูกว่า จะสวดมนต์ทุกคืนเลย  วันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2548 วันเกิดหลวงพ่อ  พี่สะใภ้ได้นำมหาสุวรรณนิธิมาหล่อพระธรรมกายประจำตัวด้วย พี่สะใภ้บอกว่า จะขอกลับมานับถือพระพุทธศาสนา เพราะก่อนหน้านี้นับถือศาสนาคริสต์ และตอนนี้ก็อยากให้รายการ DMC มีแบบภาษามือ ด้วยคะ
 
    ครอบครัวของลูก ได้สร้างพระประจำตัวกันทุกคน และได้สร้างให้กับบรรพบุรุษ เกือบทุกคนที่คุณแม่จำได้  ซื้อที่ดิน  สร้างเสาแก้ว ให้ คุณพ่อ-คุณแม่  ด้วยคะ
 
ลูกขอกราบเรียนถามดังนี้ค่ะ
 
1. ที่คุณพ่อฝันว่า พระพุทธรูปมาขอบิณฑบาตเรื่องอย่าฆ่าเป็ดและไก่ และพวกสัตว์อื่นๆ อีกต่อไป  เป็นเพราะพระพุทธรูปท่านทำให้เกิดนิมิตในฝันหรือเปล่าคะ
 
2. วิบากกรรมใด ทำให้คุณหมอวินิจฉัยโรคคุณพ่อผิด ทำให้ไตวาย ถึงขั้นเรื้อรังจึงทราบคะ คุณพ่อทำบาปอะไรชีวิตจึงลำบากและอายุสั้น น้องชายบวชพระให้ คุณพ่อได้รับไหมคะ และตอนนี้คุณพ่ออยู่ในภพภูมิใดคะ
 
3. ผลบุญที่คุณพ่อได้เป็นผู้อุปัฏฐากพระภิกษุสงฆ์  จนท่านมรณภาพทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันเลย จะส่งผลให้คุณพ่ออย่างไรคะ และตอนนี้หลวงพ่อท่านไปอยู่ที่ไหนคะ    ทำไมคุณพ่อจึงได้มาอุปัฏฐากทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกันเลย
 
4. หลังจากที่คุณพ่อเสียนั้น หลายครั้งคุณแม่เห็นคุณพ่อกลับมาที่บ้าน คุณแม่เห็นจริงหรือไม่คะ  ตอนนี้คุณแม่ได้อยู่ด้วยกันกับคุณพ่อไหมคะ ถ้าไม่อยู่ด้วยกัน  ตอนนี้คุณแม่อยู่ที่ไหนคะ คุณพ่อ-คุณแม่มีอะไรอยากฝากบอกลูกๆบ้างคะ ขอความเมตตาหลวงพ่อฝากบอกคุณพ่อ-คุณแม่ว่า “ลูก ๆ หลาน ๆ คิดถึงท่านมากค่ะ”
 
5. ลูก, พี่สาว, น้องสาว บาปหรือเปล่าคะ ที่พาคุณแม่ไปรักษาเข่าแต่กลับทำให้คุณแม่ต้องเข้าโรงพยาบาลแบบฉุกเฉิน และป่วยเรื่อย มา   ถ้าลูกไม่พาคุณแม่ไป   ปัจจุบันคุณแม่ก็ยังคงมีชีวิตอยู่กับลูก ๆ หรือเปล่าคะ   จะมีบุพกรรมใดกับลูกทั้ง 3 ไหมคะ
 
6. บุพกรรมใดที่ทำให้พี่สะใภ้ของลูกพูดไม่ได้ และมาคู่กับพี่ชายของลูก  และคุณพ่อ-คุณแม่ก็ไม่ได้มีความรังเกียจพี่สะใภ้เลย  ซึ่งพี่สะใภ้ก็รักเคารพคุณพ่อคุณแม่ของลูกมาก
 
7. พรที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ให้พี่สะใภ้พูดได้นั้น พี่สะใภ้ดีใจมากยกมือไหว้ กราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่ให้ความเมตตาค่ะ   พี่สะใภ้ควรทำอย่างไรจะแก้ไขวิบากกรรมที่พูดไม่ได้นี้  ให้หมดไปโดยเร็ว จนพูดได้คะ 
 
8. พี่ชายตายแล้วไปไหนคะ พี่สาวคนที่สามของลูกได้สร้างองค์พระประจำตัวทั้งภายนอกและภายในให้พี่ชายจะได้รับไหมคะ
 
9. พี่สาวคนที่สามมีบุพกรรมใด จึงปวดหลังอยู่เสมอและตอนที่คุณแม่ไม่สบาย ต้องมาตกบันไดซ้ำเข้าไปอีก จะทำอย่างไร จึงหายปวดหลังได้คะ  พี่สาวคนนี้กตัญญูกับคุณแม่มาก และทำบุญมาตลอด
 
10. บุพกรรมใดคะ ที่ทำให้หลานสาวของลูก (ลูกของพี่สาวคนที่ ๒) ปวดหัวเป็นประจำ ตอนขึ้นไปพนาวัฒน์ปฏิบัติธรรม ขณะนั่งปฏิบัติก็ยังปวดหัว จะทำอย่างไรหลานสาวจึงจะหายปวดหัวคะ
 
11. ครอบครัวของพวกเรา สร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไรบ้างคะ และทำอย่างไรจะสร้างบารมีตามติดหลวงพ่อไปได้ตลอดคะ
 
 
กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อค่ะ
ที่ให้แสงสว่างกับลูกๆ ทุกๆคน ผ่านดาวธรรม DMC
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย คุ้มครอง ปกปัก รักษาคุณครูไม่ใหญ่
ให้มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืน อยู่กับลูกๆนานๆๆค่ะ
 
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. ที่คุณพ่อฝันไปว่า พระพุทธรูปมาขอบิณฑบาตไม่ให้ฆ่าเป็ด-ไก่ และสัตว์ต่างๆต่อไป เพราะบุญเก่าในอดีต ที่เคยทำไว้ในพระพุทธศาสนา ที่เคยคบบัณฑิต สมณะ และฟังธรรม ตามมาส่งผล ทำให้ท่านฝัน และเกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ไปทางที่ดีขึ้น

 
2. คุณหมอวินิจฉัยโรคคุณพ่อผิด ทำให้เป็นโรคไตวายถึงขั้นเรื้อรัง เพราะกรรมในอดีตพ่อเป็นพ่อค้า ได้ทำการประมูลการจัดเก็บภาษีจากทางบ้านเมืองในยุคนั้นโดยเก็บจากประชาชน ใครไม่มีเงินจ่ายภาษีก็ยึดข้าวของ พืชผล หรือที่ดิน
 
 
 
 
 
3. ผลบุญที่อุปัฏฐากพระ ทำให้ท่านไปเป็นภุมมเทวาชั้นดีดังกล่าวมาแล้ว
 
 
 
4. หลังจากคุณพ่อเสียแล้ว คุณแม่มักจะเห็นคุณพ่อมาหา เป็นเพราะความคิดถึงคุณพ่อเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งคุณพ่อก็แวะเวียนมาเยี่ยมด้วย แต่คุณแม่ไม่เห็น
 
 
 
 
 
 
 
5. แม่หมดอายุขัยแล้วจะรักษาก็ตาย ไม่รักษาก็ตาย ไม่เป็นบาปกรรมใดๆกับลูกทุกคน มีแต่บุญกุศลจะเกิดขึ้นกับลูกทุกคนที่ดูแลท่าน
 
 
 
6. พี่สะใภ้ชาตินี้พูดไม่ได้ เพราะกรรมในอดีตพี่สะใภ้ชอบเถียงพ่อ-เถียงแม่ แบบข้างๆคูๆ ขอเถียงไว้ก่อน จึงทำให้พ่อแม่โกรธ จึงแช่งว่า “ชาติต่อไปขอให้เป็นใบ้”
 
 
 
 
 
7. ให้พี่สะใภ้หมั่นสั่งสมบุญทุกบุญให้เต็มกำลัง อย่างสม่ำเสมอแล้วอธิษฐานจิตให้พูดได้ในภพชาติต่อไปบ่อยๆ ก็จะพ้นวิบากกรรมนี้

 
8. พี่ชายตายแล้วไปเป็นภุมมเทวาชั้นดี อยู่ไม่ไกลกับคุณพ่อ และได้พบกันแล้ว ด้วยความดีใจต่างก็ถามถึงสารทุกข์สุกดิบ
 
9. พี่สาวคนที่ 3 ปวดหลังเสมอ แถมมาตกบันไดซ้ำเข้าไปอีก เพราะกรรมในอดีตได้ทำการค้า เคยใช้ให้คนงานแบกของจนเขาเหนื่อยและเจ็บหลังแต่ยังให้เขาทำต่อ
 
 
 
10. หลานสาวของลูกปวดหัวเป็นประจำ เพราะเป็นคนขี้กังวล ให้หลานสาวหัดปล่อยวางและทำใจให้ผ่องใส ยิ้มแย้มแจ่มใส ร่าเริง ก็จะหายได้ เพราะไม่ได้เป็นอะไรมาก แถมร่างกายก็ยังแข็งแรงอยู่

 
11. ลูกและครอบครัว เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบกองเสบียง บางคนก็ทำเต็มกำลัง บางคนก็ทำตามกำลัง
 
 
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-05-17.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 20:23
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv