Case study
เมืองพระรถ - เมรี
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูง
บ้านของลูกตั้งอยู่ ตำบลวัดหน้าพระธาตุ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ซึ่งในปัจจุบันนักโบราณคดีเชื่อว่า อำเภอพนัสนิคม มีประวัติศาสตร์ และความเจริญรุ่งเรืองที่เก่าแก่กว่า อำเภอบ้านเชียง กรมศิลปากรจึงได้ติดป้ายไว้ที่ ทางเข้าตำบลวัดหน้าพระธาตุ ว่า “เมืองประวัติศาสตร์” และบ้านของลูกก็อยู่ใจกลางของเมืองประวัติศาสตร์นี้
บ้านของลูกตั้งอยู่ ตำบลวัดหน้าพระธาตุ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ซึ่งในปัจจุบันนักโบราณคดีเชื่อว่า อำเภอพนัสนิคม มีประวัติศาสตร์ และความเจริญรุ่งเรืองที่เก่าแก่กว่า อำเภอบ้านเชียง กรมศิลปากรจึงได้ติดป้ายไว้ที่ ทางเข้าตำบลวัดหน้าพระธาตุ ว่า “เมืองประวัติศาสตร์” และบ้านของลูกก็อยู่ใจกลางของเมืองประวัติศาสตร์นี้
ตั้งแต่ลูกจำความได้ มีคำบอกกล่าวเล่าต่อกันมาว่า...แผ่นดินในพื้นที่ 13 ไร่เศษที่ครอบครัวของลูกอาศัยอยู่ เชื่อกันว่า เป็นเมืองเก่า เรียกว่า “เมืองพระรถ-เมรี” (อำเภอพนัสนิคม มีสัญลักษณ์ของอำเภอเป็นรูปพระรถขี่ม้า) ในเมืองเก่านี้ มีกำแพง โดยรอบถึง 7 ชั้น บ้านของลูกตั้งอยู่ชั้นในสุดของกำแพงเรียกว่า “สวนจันทร์” ซึ่งเป็นอุทยานของเมืองพระรถ ปัจจุบันยังมีกำแพงให้เห็นเป็นเนินดินสูง ในวันขึ้น 15 ค่ำจะมีแสงสว่างคล้ายรัศมีของดวงแก้วลอยขึ้นมาเหนือกำแพงเนินดิน ทำให้ชาวบ้านได้เห็น
และในหมู่บ้านใกล้เคียงกันนั้น ชาวบ้านเล่าว่า วันพระขึ้น 15 ค่ำ จะมีกลิ่นธูปและกลิ่นดอกไม้หอม มีเสียงฆ้องดังก้องกังวาน หงึ่งๆๆไปทั่วหมู่บ้าน ชาวบ้านก็ไปขุด พบฆ้องขนาดใหญ่หวังจะเอาขึ้นมาแต่ก็ไม่สามารถเอาขึ้นมาได้ ในขณะที่กำลังขุดอยู่ ก็มีฝนลูกเห็บเม็ดใหญ่ตกหนักมาก ตกถึง 7วัน 7 คืน ชาวบ้านจึงเลิกขุดต่อ จากนั้นก็ไม่มีใครได้ยินเสียงฆ้องนั้นอีกเลย หมู่บ้านแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “บ้านสระฆ้อง”
ห่างจากบ้านของลูกไปไม่ไกล มีสถานที่แห่งหนึ่งชื่อว่า “เนินพระธาตุ” มีถ้ำอยู่บริเวณนั้น ภายในถ้ำเนินพระธาตุมีถ้วยชามที่ประณีตและสวยงามมาก ชาวบ้านก็ไปบอกกล่าว หยิบยืมข้าวของภายในถ้ำ เพื่อนำไปใช้ ถ้าใช้เสร็จ จะนำมาคืนให้ แต่เมื่อใช้เสร็จแล้ว ก็ไม่นำมาคืน ถ้ำก็เลยปิด และไม่มีใครเข้าไปในถ้ำนั้นได้อีกเลย ขณะนี้จะเห็นเพียงเจดีย์อยู่บนเนินพระธาตุเท่านั้น
ถัดจากบ้านของลูก ไปทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 200 เมตร ป้าท่านหนึ่ง เล่าให้แม่ฟังว่า ท่านถือกระบุงใส่ของกำลังเดินบนสะพานข้ามคลองเพียงลำพัง เพื่อไปขายของที่ตลาด ก็เหลือบไปเห็นพระพุทธรูปองค์ขนาด หน้าตัก 1 คืบ ลอยวนอยู่ที่ผิวน้ำ ไม่ยอมจมน้ำ และไม่ลอยไปไหน ป้าก็พูดกับองค์พระที่ลอยอยู่ ด้วยความใจเย็นว่า เดี๋ยวไปขายของเสร็จแล้ว ถ้าพระไม่ลอยไปไหนจะมาขอรับไปบูชาที่บ้าน พอป้าขายของเสร็จกลับมาที่สะพานจุดเดิมก็ยังเห็นพระหมุนวนอยู่บนผิวน้ำ ป้าท่านนั้นก็เลยช้อนพระขึ้นจากน้ำแล้วนำไปบูชาที่บ้าน ปัจจุบันท่านเสียชีวิตแล้ว
ครั้งหนึ่งเมื่อ 30 ปีผ่านมา ตำบลที่ลูกอาศัยอยู่มีการขุดคลองขนาดเล็กแต่มีความยาวพาดผ่านเขตหน้าบ้านของลูก การขุดคลองครั้งนั้นลูกได้เห็นถ้วย , ชามหยก และไหโบราณ วางเรียงกันเป็นชั้นๆแตกบ้างบิ่นบ้างที่สมบูรณ์ก็มี ชาวบ้านเห็นแล้วก็ต่างคนต่างหยิบกันเอาไป และสมัยปู่และย่าของลูกยังมีชีวิตอยู่ ก็ได้ขุดพบไหโบราณใบหนึ่ง ซึ่งเป็นไหที่แปลกมาก คือใส่ของแล้วไม่บูดเน่า เช่น ใส่เนื้อหมูก็ไม่เน่า ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และชาวบ้านต่างก็มาขอดู ปู่ย่าต้องคอยรับแขกและยกไหออกมาให้คนดูจนเหนื่อย และท่านเกรงว่าจะเกิดอันตรายก็เลยมอบให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ไป
คราวหนึ่ง แม่ของลูก ขุดสวนก็พบเหรียญหลายสิบเหรียญเป็นของโบราณที่ใช้แลกเปลี่ยน ขณะนี้แม่ก็ยังเก็บไว้อยู่ และตั้งแต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งของโบราณ แม่มักจะพบสัตว์ที่แปลกเสมอเช่น
เช้าวันหนึ่ง แม่กำลังจะไปเก็บปลีกล้วยหลังบ้าน ท่านเห็นตะขาบตัวหนึ่งมีความยาวขนาด 2 ศอก ความใหญ่เท่ากับม้วนทิชชู แต่มีลักษณะแบนๆมีหนวดยาวชูชัน เมื่อแม่เห็นจึงได้ตะโกนเรียกให้เพื่อนบ้านมาดู แต่หมาได้ยินเสียงแม่ก็วิ่งออกมาไปสะดุดตะขาบล้มและกลิ้งไป 3 ตลบหมาหันกลับมาดูว่า สะดุดอะไร หมาถึงกับงงทำอะไรไม่ถูก เกิดมาแม่ก็ไม่เคยเห็นตะขาบที่ใหญ่ขนาดนี้แม่ตื่นเต้นมาก มาทันได้ดูเพียง 2 คนคือแม่และเพื่อนบ้าน แม่ยังเดินตามมันไปเนื่องจากตัวมันใหญ่มากเวลาเลื้อยจะมีเสียงออกมาดัง เพี้ยะๆ แล้วมันก็หายเข้าไปในกอไม้ พ่อรู้มาจากคนโบราณว่าตะขาบจะคาบแก้วแล้วนำมาวางไว้ที่ปากทางเพื่อไว้จำทางเข้า-ออกของมัน ถ้าตะขาบมันคาบแก้วแล้วชูขึ้นแกว่งไปแกว่งมา ฝนจะไม่ตก
วันหนึ่ง มีผีเสื้อตัวหนึ่งบินเข้ามาในบ้าน ลำตัวขนาดเท่ากับแก้วน้ำแต่เมื่อกางปีกออกจะมีขนาดเท่ากับสุ่มไก่แม่เห็นมันกระพือปีกช้าๆมันเป็นผีเสื้อที่แปลกตามาก จึงรีบไปเอาสุ่มไก่มาเพื่อจะเอาไว้ครอบผีเสื้อ แต่ผีเสื้อก็จะบินหนี แม่จึงพูดกับผีเสื้อว่า เดี๋ยวก่อนขอครอบไว้ให้คนอื่นดูก่อนแต่มันก็บินหนีไป
ในขณะที่แม่พบสิ่งแปลกประหลาดลึกลับอัศจรรย์หลายครั้ง พ่อ กลับเป็นคนไม่เชื่อเรื่อง นรก-สวรรค์ เชื่อว่าคนตายแล้วสูญจึงไม่ค่อยทำบุญ ท่านมักจะพูดเสมอว่า ทำบุญกับพระแล้วไม่เหลือ แต่ไหว้เจ้ายังเหลือไว้ให้กินบ้าง แต่คุณพ่อก็เป็นคนใจดี ชอบซื้อโลงให้กับศพไร้ญาติ พ่อไม่กินเหล้า แต่สูบบุหรี่ พออายุมากร่างกายก็เริ่มป่วยเป็นมะเร็งที่ท่อปัสสาวะ แต่ก็รักษาหาย และด้วยความกลัวตาย จึงยอมมาทำบุญที่วัดพระธรรมกายและสร้างพระธรรมกายประจำตัว ท้ายที่สุด พ่อเป็นโรคเบาหวานต้องตัดขาทิ้งไป 1 ข้างทำให้ท่านท้อแท้ชีวิต แต่ก็มีอายุถึง 76 ปี ก็จากโลกนี้ไป
น้องชายคนสุดท้อง แม่คุมกำเนิดโดยใช้ถึง 3 วิธี ในเวลาเดียวกัน คือ กินยา ใส่ห่วง และฉีดยา แต่ก็เกิดมาได้ พอคลอดออกมา แม่ถึงกับหมดสติอาการ 50-50 เพราะน้องชายมีขนาดตัวโตมาก มีน้ำหนักตัวถึง 5.1 กก เมื่อมีอายุได้เพียง 1 เดือน ผิวของน้องชายเป็นฝี มีขนาดตั้งแต่เล็กเท่าปลายนิ้วก้อย ถึงขนาดใหญ่เท่าหัวแม่มือ แทบไม่มีที่ว่างเลย พุพองเน่าเปื่อยมีน้ำเหลืองไหลทั่วทั้งตัว ส่วนแม่ตอนนั้นมีอาการร่อแร่ไม่สามารถดูแลลูกที่เกิดมาได้ จึงจ้างพี่สะใภ้พ่อให้ช่วยดูแลรักษาเป็นระยะเวลาถึง 4 เดือนเต็ม จึงค่อยๆ ดีขึ้น แต่พอแม่ไปรับลูกกลับคืน พี่สะใภ้พ่อก็ไม่ให้ แม่ไปอีกเป็นครั้งที่๒ ถึงขั้นต้องแย่งลูกตัวเองกลับมา พี่สะใภ้พ่อโกรธมากจุดธูปวันละ 1 กำมือ แช่งแม่และครอบครัวของลูกทุกวัน ว่าขอให้ครอบครัวลูกมีอันเป็นไปภายใน ๓ วัน๗ วัน ภายในเวลา ๒๓ วัน วัวที่บ้านตาย ๑ ตัว พี่สะใภ้พ่อแช่งครอบครัวเรามาเป็นปีเลยค่ะ
น้องชายคนนี้ เคยเฉียดตายมาหลายครั้งเช่น ตอนเด็ก ศีรษะปักลงไปในโคลน ขาชี้ฟ้า แม่เห็นขาดิ้นอยู่ จึงรีบอุ้มขึ้นมา แม่เอาปากของแม่ ดูดปากดูดจมูกของน้องชาย เพื่อเอาโคลนออก น้องชายเกือบตาย แต่ก็รอดมาได้ ขณะนี้บวชอยู่ที่วัดพระธรรมกาย ได้ 9 พรรษา แล้วค่ะ
คำถาม
1. แผ่นดินที่ครอบครัวของลูกอาศัยอยู่ อดีตเคยเป็นเมืองพระรถ-เมรี และเป็นอุทยานของเมืองจริงหรือไม่คะ
2. ตำบลหมอนนางที่มีหมอนหิน 12 ใบตั้งอยู่ เป็นตำบลที่อยู่ใกล้เคียงกับตำบลของลูก เคยเป็นถ้ำของนาง 12 จริงหรือไม่คะ
3. ฆ้องที่ชาวบ้านได้ยินและจะขุดขึ้นมา รวมถึงถ้ำเนินพระธาตุมีจริงไหมและตอนนี้หายไปไหนคะ
4. ป้าที่เจอพระพุทธรูปขนาดเล็กลอยวนอยู่บนผิวน้ำ เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ถ้าจริงเป็นพระสมัยใดแล้วทำไมไม่จมคะ
5. ดวงสว่างที่ลอยขึ้นมาเหนือกำแพงเนินดินทุกวันขึ้น15 ค่ำ เป็นจริงไหมและบนเนินดินมีพระได้อย่างไรเพราะลูกและพี่สาวคนที่๓เคยขุดได้แต่ให้คนอื่นไป
6. ไหที่ปู่-ย่าขุดได้ใส่ของไม่บูดเน่ามีจริงหรือ ถ้าจริง ไม่บูดเน่าเพราะเวทมนต์กำกับไว้ หรือเป็นด้วยภูมิปัญญาของคนโบราณ ของโบราณที่ขุดได้เหล่านี้ หากมีผู้นำไป จะมีอันตรายเกิดขึ้นกับทุกๆ คนที่นำไปหรือไม่ ปู่ย่าละโลกแล้วไปอยู่ที่ไหน มีความเป็นอยู่อย่างไร ได้รับบุญที่แม่สร้างพระธรรมกายประจำตัวให้หรือไม่
7. สัตว์ที่มีรูปร่างใหญ่โตเกินธรรมดา เช่น ตะขาบ และผีเสื้อ มาจากไหน ทำไมมาให้แม่เห็นคนเดียว จริงหรือคะ ถ้าตะขาบคาบแก้วชูขึ้นแล้วแกว่งไปมาฝนจะไม่ตก ตอนนี้ตะขาบยังมีชีวิตอยู่ไหมคะ
8. พ่อและแม่ของลูกทำไมถึงเป็นโรคเบาหวาน ส่วนพ่อต้องตัดขา เป็นเพราะบุพกรรมใด ละจากโลกแล้วพ่อไปอยู่ที่ไหน ได้รับบุญที่ลูกๆอุทิศไปให้หรือไม่ พ่อรู้สึกอย่างไร มีอะไรฝากมาถึงแม่และลูกๆบ้าง ส่วนแม่ก็กำลังรักษาขาอยู่ จะมีโอกาสหายไหมคะและต้องทำอย่างไร
9. ทำไมพระน้องชายคนเล็กที่บวชอยู่ถึงฝ่าด่านมฤตยู การคุมกำเนิดจนได้เกิดมาอย่างเหลือเชื่อ กรรมอะไรทำให้จมโคลนจนเกือบตาย และทำไมจึงมีฝีทั่วทั้งตัว ทำให้เกิดกรณีชิงลูกกัน แม่, พี่สะใภ้พ่อและพระน้องชายมีบุพกรรมต่อกันอย่างไร จึงต้องมาแย่งชิงกันเช่นนี้
10. พระน้องชายเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรคะ แม้พระน้องชายไม่ได้เรียนศิลปะมา แต่ทำไมได้มารับบุญทำภาพในส่วนงานพุทธศิลป์ของคุณครูไม่ใหญ่ เพราะบุพกรรมอะไร และการรับบุญทำภาพออกรายการฝันในฝันของคุณครูไม่ใหญ่ จะมีอานิสงส์อย่างไร โยมพ่อโยมแม่จะได้อานิสงส์อย่างไร พระน้องชายของลูก และทีมงานพุทธศิลป์ได้สร้างบารมีมาอย่างไร และทำหน้าที่แบบนี้มานานหรือยังคะ
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
1. แผ่นดินที่ครอบครัวลูกอาศัยอยู่ เป็นบริเวณของเมืองเก่าสมัยโบราณเมืองหนึ่ง เป็นเมืองเล็กๆจ่ะ!
2. ตำบลหมอนนาง ที่มีหมอนหิน 12 ใบตั้งอยู่ เป็นตำบลที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับตำบลของลูกนั้น ก็เป็นหินที่มีมาแต่เดิม ที่มีลักษณะคล้ายหมอน ซึ่งไปพ้องกับในตำนาน ก็เลยเรียกกันต่อๆกันมา ไม่เกี่ยวกับถ้ำของนาง 12 ดังที่ชาวบ้านเรียกขานกันมาจ่ะ!
3. ฆ้องที่ชาวบ้านได้ยิน และจะขุดขึ้นมานั้นมีจริงจ่ะ! เป็นฆ้องของชาวบ้านโบราณ ที่ถูกกาลเวลาฝังกลบทับถมจมดินลงไป
- และเมื่อชาวบ้านได้ตายไป ก็ไปเกิดเป็น “ภุมมเทวา” ในหมู่บ้านภุมมเทวาแถวนั้น เพื่อดูแลสมบัติเก่า ๆ รวมทั้งถ้ำเนินพระธาตุ ที่มีสมบัติเก่าๆ ด้วยจ่ะ!
- ไม่ได้หายไปไหน แต่ก็ผุพังลงไปตามกาลเวลา เมื่อของผุพังลงไปแล้ว ก็ทำให้ภุมมเทวาที่เฝ้าอยู่คลายความผูกพัน และก็ไปเกิดตามวิบากกรรมของตนต่อไปจ่ะ!
4. พระพุทธรูปโบราณ ที่ป้าคนหนึ่งเจอนั้น ก็ไม่ได้ลอยวนอยู่บนผิวน้ำหรอกจ่ะ! แต่ก็อยู่ริมน้ำ เพราะน้ำพัดมาจ่ะ! แต่ป้าคนที่เจอท่านก็พูดสนุกๆ บวกๆ ให้ตื่นเต้นน่าสนใจเท่านั้นแหละจ่ะ! เป็นพระพุทธรูปของชาวบ้านโบราณ คล้ายๆ กับที่ลูกได้ไปเจอบนเนินดินจ่ะ!
5. ดวงสว่าง ที่ชาวบ้านบอกว่า ได้ลอยเหนือกำแพงเนินดินในวันขึ้น 15 ค่ำนั้น ก็มีบ้าง บางทีก็ไม่มี ไม่ทุกวันพระขึ้น 15 ค่ำหรอกจ่ะ! เป็นแสงรัศมีของภุมมเทวา ที่ดูแลเฝ้าสมบัติบริเวณนั้นอยู่จ่ะ!
- พระที่เห็นบนเนินดิน ที่ลูกและพี่สาวคนที่ 3 ขุดได้นั้น ก็เป็นสมบัติเก่าโบราณของชาวเมืองยุคนั้นจ่ะ!
6. ไหที่ปู่-ย่าขุดได้ เมื่อใส่ของลงไปแล้วไม่บูดเน่านั้น ก็เป็นเพียงคำร่ำลือ เพราะจริงๆแล้วก็มีการบูดเน่า แต่อาจจะบูดเน่าช้ากว่าปกติหน่อยนึงเท่านั้นจ่ะ!
- ไม่เกี่ยวกับเวทมนตร์ เป็นเรื่องของภูมิปัญญาคนโบราณที่สร้างไหขึ้นมา ซึ่งมีความเย็นในระดับที่ถ้าใส่เนื้อลงไป ก็จะทำให้บูดช้าหน่อยนึงจ่ะ!
-
ไม่มีอันตรายใด ๆ สำหรับผู้นำไป ส่วนหากจะมีอันตรายที่เกิดขึ้นกับผู้เอาไป ก็เป็นเรื่องวิบากกรรมไม่เกี่ยวกับไหจ่ะ!
- ปู่-ย่า ตายแล้วก็ไปอยู่ “ยมโลก” ขุม 1 ด้วยกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารและฆ่าขายแบบสังคมเกษตรกรรม ...กำลังโดนเจ้าหน้าที่ชำแหละร่างอยู่ ด้วยความทุกข์ทรมาน ตายเกิดซ้ำ ๆ จ่ะ!
- ได้รับบุญที่อุทิศไปให้ ก็ได้รับลดหย่อนผ่อนโทษลงมา , อายุในยมโลกก็สั้นลง ซึ่งต่างจากมนุษย์ ถ้ายิ่งได้รับบุญ อายุก็จะยืนยาวจ่ะ!
7. ตะขาบและผีเสื้อตัวใหญ่ ๆ ที่มาให้แม่เห็นนั้น คือ การแปลงกายของภุมมเทวา ที่เฝ้าสมบัติแถวนั้น มาให้แม่เห็น
- ที่ให้แม่เห็นได้อยู่คนเดียว เพราะ เขาเอ็นดูแม่ ต้องการจะหยอกล้อแม่เล่นเท่านั้น ไม่มีอะไรเป็นพิเศษจ่ะ!
- ตะขาบคาบแก้วแกว่งไปมา แล้วทำให้ฝนไม่ตกนั้น ก็เป็น “ความเชื่อ” ของคนโบราณเท่านั้น ไม่เป็นจริงหรอกจ่ะ! อย่าไปสนใจเลย
- ภุมมเทวาที่แปลงกายเป็นตะขาบ ก็ยังอยู่แถวนั้น เพราะบ้านภุมมเทวา ก็อยู่ในบริเวณบ้าน 13 ไร่ของครอบครัวลูกจ่ะ! แต่ภุมมเทวาก็มีกระจายกันอยู่ทั่วๆไป
8. กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารและฆ่าสัตว์ขายทั้งอดีตและปัจจุบัน จึงทำให้พ่อ-แม่ของลูก เป็นโรค “เบาหวาน” จ่ะ!
- ที่พ่อต้องถูก “ตัดขา” นั้น ก็เป็นกรรมฆ่าสัตว์ในปัจจุบันส่งผลจ่ะ!
- ตายแล้วพ่อก็ไปเป็น “ยักษ์” ชั้นดีบนสวรรค์ชั้น “จาตุมหาราชิกา” เพราะบุญของลูกชายบวชพระ และบุญที่ลูกๆให้ทำมาตลอดจนละโลกจ่ะ!
- พ่อกำลังเพลินกับสาวๆ ยักษ์ตามนิสัยเจ้าชู้ดั้งเดิมของพ่อ ซึ่งติดมาตั้งแต่เป็นมนุษย์จ่ะ!
-
พ่อได้รับบุญทุกบุญที่ลูกอุทิศไปให้ ทำให้พ่อมีความสุขมาก และทำให้พ่อมีความเชื่อเรื่องบุญและสวรรค์ แต่ยังเพลิน ๆ อยู่และชอบสาว ๆ ยักษ์สวยมากจ่ะ!
- แม่ก็มีโอกาสหายได้ แต่ก็ต้องให้แม่สั่งสมบุญทุกบุญให้มาก และปล่อยสัตว์ปล่อยปลาบ่อยๆ จ่ะ! หนักก็จะเป็นเบา , เบาจะหายจ่ะ!
9. พระน้องชายในอดีตก็เคยเป็นพี่น้องกับลูก และได้เคยสร้างบุญร่วมกัน ได้อธิษฐานขอให้ได้เกิดเป็นพี่น้องกันกับกลุ่มที่เข้าวัด ด้วยบุญนี้จึงทำให้ฝ่าด่านมฤตยูของการคุมกำเนิด แล้วเกิดมาได้จ่ะ!
- ตอนเล็กพระน้องชาย “จมโคลน” จนเกือบตาย เพราะกรรมในอดีตพุทธันดรที่ผ่านมา พระน้องชายได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช ได้ทำการ “ออกรบ” จับข้าศึกได้ ก็นำข้าศึกมาทรมานด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อ “รีดข่าว” เช่น จับข้าศึกเอาหัวทิ่มลงไปในเลน , โคลนบ้าง
- บ้างก็ห้อยหัวแล้วหย่อนลงไปในโคลน เป็นต้นจ่ะ!
- ที่มีฝีทั่วทั้งตัว ก็เพราะ กรรมแกล้งทรมานข้าศึกเพื่อรีดข่าว โดยจับมัดแล้วเอา “หมามุ่ย” โรยใส่ตัวข้าศึกเพื่อทรมาน จ่ะ!
- และยังมีกรรม “ปาณาติบาต”ติดตัวอีกด้วย
- ถ้าหากพระน้องชายไม่บวช ก็จะอายุไม่ยืน
- อีกทั้งได้เคยประสบอุบัติเหตุหลายครั้ง ก็ด้วยกรรมดังกล่าวแหละจ่ะ!
- แม่ , พี่สะใภ้ของพ่อและพระน้องชาย มีความเกี่ยวข้องกัน คือ พระน้องชายเคยเกิดเป็นลูกของทั้งสองฝ่าย ดังนั้น แม่และพี่สะใภ้ของพ่อจึงเกิดความรักในพระน้องชาย เลยเกิดการทะเลาะแย่งกันจ่ะ!
10. พระน้องชายเมื่อพุทธันดรที่แล้ว เป็นทหารหนุ่มรูปหล่อของพระราชาองค์ที่ออกบวช , มีปกติชอบกล่าวมธุรสวาจา ทำให้มีสาวๆ มาติดเยอะ
- ต่อมาภายหลังได้ออกบวชตามพระราชาตั้งแต่ยังหนุ่ม และก่อนบวชได้ทำการขอขมาสาว ๆ ทั้งหลาย เมื่อบวชแล้วก็ปฏิบัติธรรมจนได้เข้าถึงพระธรรมกาย จึงทำให้รอดพ้นจากกรรมเจ้าชู้
- ซึ่งไม่เหมือนกับพี่สาว 2 คนที่เป็นอุบาสิกานั้น ซึ่งก็เป็นอดีตทหารพระราชาองค์ที่ออกบวช แต่หนีกรรมเจ้าชู้ไม่พ้น เพราะไม่ได้ขอขมาสาว ๆ ตอนก่อนออกบวช
- และเมื่อบวชแล้วก็ชอบ เผยแผ่ , พูดคุยมากกว่านั่งธรรมะ จึงได้แค่ประคับประคองตัว กลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษได้จ่ะ!
- ส่วนงานพุทธศิลป์ก็เป็นเรื่องงานปัจจุบัน ที่นักสร้างบารมีก็ต้องฝึกตัวให้ได้ แม้ว่าจะไม่ได้เรียนมาทางนี้ก็ตาม
- โยมพ่อ-โยมแม่ ก็จะได้รับบุญทุกบุญที่พระน้องชายได้ทำ , ทำให้ปิดอบายและไปสวรรค์ได้เป็นระยะเวลายาวนาน จ่ะ!
- ทีมงานพุทธศิลป์ ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาทุกรูปแหละจ่ะ!
- และเป็นยอดนักสร้างบารมีที่พร้อมจะฝึกตัวในทุกด้าน ที่เป็นประโยชน์ต่องานพระศาสนาจ่ะ! ซึ่งแต่ละองค์ยังมีรายละเอียดอีกเยอะจ่ะ!
