CASE STUDY
เธอรู้ไหมว่าฉันรู้แล้ว
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
    ลูกขอเล่าประวัติชีวิตครอบครัวของลูกโดยย่อให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อฟังดังต่อไปนี้ครับ
 
    ลูก เป็นคนไทยเกิดที่เชียงรายมีพี่น้องด้วยกัน 7 คน ชาย 4 คน หญิง 3 คน ตัวลูกเป็นลูกชายคนที่ 5  ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด ฐานะทางครอบครัวค่อนข้างลำบาก  เมื่อจบชั้น  ป.7  แล้ว ลูกก็เข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ โดยหารายได้ส่งเสียตัวเองจนจบ ปวช. จากนั้นก็สมัครเข้าทำงานทันที   
 
    ในปี   พ.ศ.2524  ลูกได้พบรักกับหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันคนหนึ่ง  เธอเป็นคนน่ารักสดใส  อารมณ์ดีและใจเย็น  ไม่เคยเห็นเธอแสดงความโมโหฉุนเฉียวเลย  นอกจากนี้เธอยังเป็นคนดีมีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ และที่สำคัญเธอเป็นคนใจบุญชอบทำบุญอยู่เป็นประจำ  เธอจึงเป็นที่รักของผู้ที่พบเห็น ลูกเองก็ชื่นชอบถูกอกถูกใจเธอเป็นพิเศษ ลูกประทับใจในตัวเธอทุกอย่าง พอคบกันมา 5 ปี จึงได้ขอเธอแต่งงาน
 
    ในปี  พ.ศ.2530  เราได้มีโซ่ทองคล้องใจด้วยกัน 1 คน คือ ลูกชาย  ลูกจึงตัดสินใจซื้อบ้าน  แม้ในช่วงนั้นฐานะทางการเงินไม่ค่อยดีนักก็ตาม เพราะมีภาระหนี้สินอันเกิดจากการซื้อบ้าน ลูกคิดว่าเพื่ออนาคตที่ดีและความมั่นคงของครอบครัว  จึงตัดสินใจไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่ลูกชายอายุได้เพียง 2 ขวบเท่านั้น  อีก 2 ปีต่อมาภรรยาของลูกได้ตามไปอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย   ส่วนลูกชายนั้นให้พี่สาวเลี้ยงดูอยู่ที่เมืองไทย ขณะนี้เขามีอายุ 18 ปีแล้วครับ
 
    เมื่อปี พ.ศ.2541 ลูกได้อ่านหนังสือพิมพ์บางฉบับในประเทศญี่ปุ่น ได้พบรายละเอียดของคอลัมน์หนึ่งที่ทำให้ลูกตื่นตาตื่นใจ  คือภาพจำลองของมหาธรรมกายเจดีย์   เพียงแค่เห็นภาพเท่านั้น  ลูกปีติตื้นตันใจ อย่างบอกไม่ถูก  ดีใจที่จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิอันทรงคุณค่าเช่นนี้ เกิดขึ้นมาบนโลกมนุษย์ ลูกรำพึงกับตัวเองว่า  ใครหนอเป็นผู้สร้าง  บุคคลผู้นั้นท่านคิดขึ้นมาได้อย่างไร เมื่ออ่านรายละเอียดของเนื้อหาในคอลัมน์นั้นจบ  เลือดหัวใจนักสร้างบารมีได้บังเกิดขึ้น  ลูกได้ไปที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมโตเกียวเพื่อทำบุญทันที
 
    จากนั้นลูกได้นำเรื่องราวต่างๆมาเล่าให้ ภรรยา ฟัง  เธอรับฟังและยังสนับสนุนในเรื่องของการทำบุญด้วย และได้มาร่วมทำบุญที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมโตเกียวกับลูกในวันอาทิตย์ต้นเดือนและงานบุญใหญ่ ลูกทั้งสองไม่เคยขาดการทำบุญเลย   ยิ่งมารู้เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตแล้ว  ลูกและเธอต้องสร้างบารมีชนิดที่เรียกว่า เอาชีวิตเป็นเดิมพัน  ลูกได้ตกลงร่วมกันว่า   ถ้างานทุกโครงงานของหลวงพ่อยังไม่เสร็จก็จะไม่กลับเมืองไทย  จะลุยสร้างบารมีแบบสุดชีวิต  สุดฤทธิ์  สุดเดช มีเงินแสนทุ่มแสน  มีเงินล้านทุ่มล้าน โดยเริ่มต้นจากบุญสร้างองค์พระประดิษฐาน  ณ  มหาธรรมกายเจดีย์ ทั้งภายนอกภายในและองค์พระแกนกลาง รวมแล้ว  ๒๐ กว่าองค์ 
 
    เมื่อถึงงานบุญใหญ่ฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ครั้งที่  1   ลูกและภรรยาได้ตกลงกัน  เป็นประธานรองฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ครั้งที่ 1 ส่วนลูกชายที่อยู่เมืองไทย  ได้ร่วมบวชสามเณรรุ่นฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ครั้งนี้ด้วย ลูกและภรรยามีความปีติในบุญครั้งนี้มาก ลูกเองเคยบวชพระธรรมทายาทรุ่นแรกที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมโตเกียวและอยู่ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาถึง3 ปี , เป็นประธานรองสร้างมหาวิหารหลวงปู่ , ประธานรองสร้างมหาวิหารคุณยายอาจารย์ , บุญสร้างอาคารภาวนา 60 ปี , บุญสร้างองค์พระสามแสนปลื้ม , บุญสร้างเสาแก้ว เป็นต้น ลูกและภรรยาเป็นกัลยาณมิตรให้กันและกันตลอดมา แม้ในยามที่เราทั้งสองตกงาน ก็ไม่ทำให้เราลดละเลิกการทำบุญเลย
 
    บุญกฐินปี พ.ศ.2545 ก็ถอนเงินทั้งหมดในบัญชี 400,000 บาทมาทำบุญ   บุญกฐินปีพ.ศ.2546 แม้เรายังตกงานทั้งสองคน ลูกได้ถอนเงินจากบัญชีธนาคารทั้งหมด 350,000 บาท   ทุ่มทำบุญ   สร้างความปีติให้แก่เราทั้งสองมาก ลูกและภรรยายกให้การสร้างบารมีเป็นหลัก ตามด้วยการสร้างอนาคตที่ดีของลูกชาย จนคนไทยที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นต่างกล่าวหาว่า “สองคนนี้ท่าจะบ้าไปแล้ว” มิหนำซ้ำยังนำสื่อที่ไม่ดีต่างๆเกี่ยวกับวัดมาเล่าให้ลูกฟังอีก แต่ลูกและภรรยาไม่หวั่นไหวไม่สะทกสะท้านใดๆเลย ลูกทำใจ นิ่งๆเฉยๆ ต่อข้อครหาต่างๆคิดเสียว่าเป็นเสียงนกเสียงกา เท่านั้นเอง
 
    ภรรยาของลูก เป็นคนดีมีจิตใจเข้มแข็งมาก อดทนไม่เคยกลัวต่อความยากลำบากใดๆทั้งสิ้น ไม่ค่อยห่วงตัวเอง สิ่งที่เธอห่วงเป็นชีวิตจิตใจ คือ การสร้างบุญบารมี และอนาคตที่ดีของลูกชายที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของเธอ ในระหว่างการสร้างบารมีที่มีแต่ความปีติใจ เราไม่รู้เลยว่าอนาคตข้างหน้าจะมีอะไรรอเราอยู่
 
    ปีพ.ศ.2545  ภรรยาของลูกได้ล้มป่วยลงต้องเข้าโรงพยาบาลที่ญี่ปุ่น แพทย์ตรวจพบว่าเธอเป็นเนื้องอกที่รังไข่มีขนาดโตเท่าผลส้ม คุณหมอบอกว่า ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดครั้งนี้ประมาณ 300,000 บาทผ่าตัดแล้วก็ไม่รับรองว่าจะรอดชีวิต แต่ถ้าหากไม่ผ่าตัด เนื้องอกก็จะโตขึ้นเรื่อยๆภายใน 1-2 ปี เธออาจจะเสียชีวิตได้   แต่ดูเหมือนว่าภรรยาของลูกจะไม่หวั่นเกรงต่อมรณภัยที่จะเกิดขึ้น   เธอปรึกษากับลูกว่า  ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดสูงนัก ผ่าแล้วยังไม่รู้ว่าจะรอดชีวิตหรือไม่  เธอตัดสินใจไม่ยอมผ่าตัด  กอปรกับช่วงนั้นมีบุญใหญ่สร้างมหาวิหารคุณยายอาจารย์ฯ เธอได้เซ็นใบถอนเงินจากบัญชีธนาคารที่เมืองไทย  เพื่อทำบุญสร้างมหาวิหารคุณยายอาจารย์ฯทันทีขณะที่ยังนอนอยู่บนเตียงคนป่วย  จากนั้นอีก 10 วัน เธอก็กลับมารักษาตัวอยู่ต่อที่บ้าน
 
    เมื่อปี พ.ศ.2548  อาการของเธอเริ่มทรุดหนักลง ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง แพทย์ตรวจพบว่า เนื้องอกมีขนาดโตมากขึ้นจนเท่าลูกฟุตบอล ซ้ำร้ายยังมีน้ำท่วมขังอยู่ในท้องอีก เธอหายใจไม่ออก มีอาการบวมชาตามเท้า  เดินและรับประทานอาหารไม่ได้   แต่ที่ร้ายที่สุดเนื้องอกได้กระจายไปทั่ว  ตับ ปอด ม้าม  และได้กลายเป็นเซลล์มะเร็ง เธอทราบแล้วก็ไม่ได้วิตกกังวลใดๆเลย  แต่ลูกสิ กังวลเป็นห่วงเธอมาก เธอเคยพูดกับลูกว่า  “ ถึงแม้ฉันจะตาย  ฉันก็จะต้องไปดี  ไปอยู่กับคุณยายอาจารย์ ” หมอบอกภรรยาของลูกเป็นครั้งสุดท้ายว่า  อีกหนึ่งสัปดาห์เธออาจจะเสียชีวิต ลูกไม่รอช้ารีบติดต่อสถานทูตไทย เพื่อนำเธอกลับเมืองไทย ด้วยหวังอยากให้เธอได้พบปะญาติๆ  ก่อนที่ความตายจะมาพรากเธอไป และอยากให้เธอไปเสียชีวิตที่บ้านเกิดเมืองนอน
 
   ในวันที่ 3 เมษายน 2548  ลูกได้สร้างองค์พระจารึกชื่อเธอ 1 องค์ , วันที่ 10 เมษายน 2548 ลูกได้สร้างองค์พระเพิ่มให้เธออีก 1 องค์  อาการเธอทรุดหนักลงไปเรื่อยๆ ลูกรู้สึกว่าเธอคงไม่รอดแน่จึงอยู่เฝ้าไข้ใกล้เตียงของเธอตลอดเวลา คอยเคียงข้างเธอไม่ห่าง พยายามพูดถึงหลักวิชชา ที่หลวงพ่อได้เมตตาชี้แนะไว้ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันฯให้เธอฟัง เธอพอมีสติอยู่บ้าง  จึงพูดกับลูกว่า “ ฉันรู้แล้ว  ไม่ต้องพูดมาก  ให้พูดน้อยๆหน่อย” ลูกเองไม่รู้จะทำยังไง จะปล่อยเธอให้ตายไปต่อหน้าต่อตา ลูกก็ทำไม่ได้  ครั้นพูดอีกก็กลัวเธอจะหงุดหงิดขุ่นมัว ลูกจึงตั้งสติใหม่  คิดว่าถึงแม้เธอจะรู้เรื่องแล้วก็ตาม  หากทุกขเวทนาแรงกล้าขึ้นมา   อาจทำให้ลืมและทำไม่ถูกต้อง   ลูกรวบรวมสุดยอดหลักวิชชาที่หลวงพ่อสอนในโรงเรียน   แล้วจึงค่อยๆ บอกเธอว่า “คุณตั้งสติให้ดีก่อนนะ เราทำบุญอย่างสุดกำลังมาด้วยกันตลอด ให้ใจคุณมีแต่ดวงแก้ว องค์พระใสๆ จะทุกขเวทนาแค่ไหนให้อดทนเข้าไว้  เกาะหลวงปู่ หลวงพ่อธัมมชโย และคุณยาย ให้แน่น ให้คิดว่า เมื่อคุณตาย  ให้ได้ไปอยู่กับหลวงปู่และคุณยาย  เป้าหมายของเรา คือ ที่สุดแห่งธรรม  ที่พักระหว่างทางคือ ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ คุณไม่ต้องห่วงกังวลถึงผมและลูก ก่อนจะไปดุสิตบุรี ให้ไปเวียนประทักษิณ รอบมหาธรรมกายเจดีย์ 3 รอบ  ( ลูกชู 3 นิ้วให้เธอดู ) ให้ไปกราบหลวงพ่อธัมมชโย ก่อนที่จะไป”  
   
    ลูกช่วยเธอทำศึกชิงภพ ประมาณชั่วโมงกว่าๆ เธอเริ่มสงบลง ตาเกือบปิดสนิท ลมหายใจแผ่วเบามาก เกือบจะไม่หายใจเลย ลูกได้ลองเอาน้ำ 5-6  หยดหยอดลงไปที่ปากของเธอ เธอค่อยๆ รับรู้ได้ พอกลืนน้ำลงไป ตาของเธอเบิกกว้างขึ้นมา มองมาทางลูกพร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่น สายตาของเธอมองสูงเหนือศีรษะของลูกขึ้นไป   เธอจากโลกนี้ไปอย่างสงบ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ลูกยังไม่ลืมหลักวิชชาที่หลวงพ่อสอน  จึงพูดกับเธอต่อไปว่า  “ตอนนี้คุณหลุดออกจากกายหยาบแล้วนะ ฟังผมให้ดี   ให้คุณนึกถึงบุญเข้าไว้ ไม่ต้องห่วงผมและลูก ทำใจใสเข้าไว้ ให้คุณตรงไปที่มหาธรรมกายเจดีย์เพื่อเวียนประทักษิณ 3 รอบ แล้วไปกราบลาหลวงพ่อธัมมชโยก่อน จึงมุ่งตรงไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ ให้คุณรอผมอยู่ที่นั่น เมื่อถึงเวลาผมจะติดตามไป  ขอบคุณทุกสิ่งที่มอบให้กับผมบนโลกนี้  ผมจะตั้งใจสั่งสมบุญบารมีให้มากที่สุดเท่าที่ชีวิตจะหาไม่” ผมพูดกับเธอหลังจากที่เธอหมดลมหายใจไปแล้ว  เธอจากไปด้วยอาการสงบ
เมื่อวันที่  20  เมษายน   พ.ศ.2548  ลูกและญาติพี่น้องสร้างองค์พระโดยจารึกชื่อเธออุทิศบุญให้อีก
 
    คุณพ่อของภรรยา ท่านเป็นคนจีนใจดี ไม่รู้เรื่องของการทำบุญในพระพุทธศาสนา ท่านไหว้เจ้า สูบฝิ่นและดื่มเหล้า เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งที่ปอด รวมอายุได้ 62  ปี
 
    คุณแม่ของภรรยา  เป็นคนจีนเช่นเดียวกับคุณพ่อท่านเป็นคนใจดี รู้เรื่องการทำบุญในพระพุทธศาสนาบ้างเล็กน้อย เคยลื่นหกล้มในห้องน้ำ และ เป็นอัมพาตก่อนเสียชีวิตรวมอายุได้  83 ปี
 
กราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังต่อไปนี้ครับ
 
1. บุพกรรมใดภรรยาจึงเป็นเนื้องอกที่รังไข่ และกลายเป็นมะเร็งต้องเสียชีวิตก่อนเวลาอันสมควร เธอตายแล้วไปไหน 
 
2. เธอลืมตามองเหนือศีรษะของลูกพร้อมกับรอยยิ้ม เธอยิ้มให้กับใคร , ลูกช่วยเธอทำศึกชิงภพทั้งก่อนและหลังตาย เธอรับรู้และสามารถทำได้หรือไม่ เธอรู้สึกอย่างไรที่ลูกช่วยเธอทำศึกชิงภพ เธอมีข้อความฝากมาถึงลูกและครอบครัวหรือไม่   
 
3. ลูกและภรรยาทุ่มเทสร้างบารมีกันอย่างสุดกำลังเอาชีวิตเป็นเดิมพันจะมีผลกับตัวลูกอย่างไร และมีผลต่อภรรยาในปรโลกอย่างไรบ้าง ภรรยาของลูกสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร    ลูกและเธอเคยผูกพันกันมาอย่างไรครับ
 
4. บุพกรรมใดที่ทำให้คุณพ่อของภรรยาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งที่ปอด ตายแล้วไปไหน ทำบุญอะไรอุทิศไปให้จึงจะช่วยท่านได้
 
5. บุพกรรมใดคุณแม่ของภรรยาจึงลื่นล้มในห้องน้ำเป็นอัมพาตก่อนตาย    ตายแล้วไปไหน  ต้องทำบุญอะไรอุทิศให้ท่านครับ
 
6. พี่สาวคนที่ 3 ของลูกเป็นผู้นำบุญที่จังหวัดเชียงราย เคยส่งเคสฯ ถามถึงพ่อ  หลวงพ่อได้เมตตาบอกว่า คุณพ่ออยู่ดาวดึงส์เฟส 3 ต้องให้คุณพ่อนั่งธรรมะในทิพยวิมาน มิฉะนั้นวิบากกรรมไม่ดีจะตามทัน จากนั้นลูกๆได้ทำบุญอุทิศให้ท่านตลอด  ตอนนี้คุณพ่อเป็นอย่างไร  นั่งธรรมะหรือยังครับ  ถ้ายังลูกจะช่วยเตือนท่านได้อย่างไรบ้าง 
 
7. ลูกชายของลูกเคยบวชสามเณรฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ครั้งที่1 สร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร  จะได้บวชอีกหรือไม่ครับ
 
8. ในบรรดาพี่น้อง 7 คน  ตัวลูก ,พี่สาวคนที่ 3 และพี่สาวคนที่ 4   สนิทกันมากกว่าคนอื่น เราเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร และจะได้ไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษไหมครับ 
 
 
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. ภรรยาเป็น “เนื้องอกที่รังไข่” และกลายเป็น “มะเร็ง” ต้องเสียชีวิตก่อนในเวลาอันควร  เพราะ ...กรรมในอดีตสมัยเป็นผู้ชายมีนิสัยเจ้าชู้  ได้มีภรรยาหลายคน  อีกทั้งยังเคยให้ภรรยา “ทำแท้ง”เพราะไม่พร้อมที่จะมีลูก  เป็นอดีตชาติที่มีชีวิตผิดพลาดก่อนที่จะเจอหมู่คณะ , ชาตินี้เป็นเศษกรรมแล้ว  ด้วยวิบากกรรมดังกล่าวจึงทำให้เป็น “เนื้องอกที่รังไข่” และกลายเป็นมะเร็ง  ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันสมควรจ่ะ!
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
2. ลูกและภรรยา  ชาติต่อไป  ก็จะมีสมบัติมหาศาล และจะเป็นแนวหน้าของ “กองเสบียง” ของหมู่คณะ  จากการที่เอาชีวิตเป็นเดิมพันสร้างบารมี , “ผังจน”   ก็ถูกรื้อไปหมดแล้ว  ภพชาติต่อไปก็จะรวย ๆ ๆ จ่ะ!
 
 
 
 
 
 
3. คุณพ่อของภรรยาที่เป็น “มะเร็งที่ปอด”  เพราะกรรมสูบฝิ่น , สูบยาและดื่มสุรา  และฆ่าสัตว์ทำอาหารมาส่งผล
 
 
 
 
4. คุณแม่ของภรรยาเป็น “อัมพาต”  เพราะ กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารทั้งอดีตและปัจจุบันมาส่งผล
 
 
5. คุณพ่อที่อยู่ “ดาวดึงส์ เฟส 3” ก็ยังอยู่บนทิพยวิมาน , มีความสุขมาก
 
 
6. ลูกชาย เคยบวชสามเณรฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ครั้งที่ 1 ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาในอดีต และก็เคยบวชตลอดชีวิตอุทิศให้พระศาสนามาแล้ว
 
 
 
 
7. ตัวลูก , พี่สาวคนที่ 3 , พี่สาวคนที่ 4 ได้เคยสร้างบารมีร่วมกันมากับหมู่คณะมามากกว่าคนอื่น  จึงมีศรัทธามากกว่าคนอื่น และสนิทกันข้ามชาติมาจ่ะ! โดยเป็น “กองเสบียง” ของหมู่คณะมา
 
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-06-03.html
เมื่อ 17 กรกฎาคม 2567 03:55
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv