Case study
กัดลิ้นตัวเองตลอด 2 ปี
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
    ลูก มีพี่น้อง 5 คน ลูกเป็นคนที่ 4 และเป็นลูกสาวคนเดียวในบ้าน  เมื่อลูกอายุได้ 10 ขวบ คุณพ่อคุณแม่ก็แยกทางกัน  อายุ 12 ขวบ ลูกกับพี่ชายอีก 2 คนก็เดินทางไปอยู่สหรัฐอเมริกา  ไปอาศัยอยู่กับผู้ปกครอง ซึ่งทำกิจการร้านอาหารที่นั่น
 
    อีก 3 เดือนต่อมา คุณยาย (ป้าของแม่) ก็เดินทางไปสบทบ เพื่อช่วยดูแลลูกและพี่ชายทั้งสองคน เราทั้ง 4 คนช่วยกันทำมาหากิน เลี้ยงปากเลี้ยงท้องในร้านอาหารที่เราอาศัยอยู่นั้น คุณยายจะทำขนม ลูกและพี่ชายคนที่ 2  ช่วยเสริฟอาหาร ส่วนพี่ชายคนที่ 3 ทำหน้าที่ล้างจานชาม คุณยายจึงเปรียบเสมือนเป็นแม่ของพวกเรา 3 พี่น้องตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 
 
    คุณยาย (ป้าของแม่) ท่านเป็นคนไม่มีครอบครัว  มีอุปนิสัยขยัน เสียสละ อดทน อ่อนน้อมถ่อมตน กตัญญูกตเวที ทำบุญตักบาตรอยู่เนืองนิตย์  แต่คุณยายเป็นคนติดหมากมาก  พอย้ายมาอยู่อเมริกา หาซื้อหมากยาก  มีคนมาแนะนำเคล็ดไม่ลับวิธีแก้อาการอยากกินหมาก คือ ให้สูบบุหรี่  คุณยายจึงหันมาสูบบุหรี่ 1–3 ม้วนต่อวัน สูบติดต่อกันมาเป็นเวลาประมาณ 10 กว่าปี   นอกจากนั้นท่านยังชอบแทงหวย และเล่นไพ่แก้เซ็งเป็นครั้งคราว ต่อมาท่านก็เลิกสูบบุหรี่แล้วตามด้วยเลิกเล่นไพ่   และเลิกเล่นหวยในที่สุด
 
    ปกติแล้วคุณยายจะเป็นคนแข็งแรง แต่พออายุย่างเข้า 80 ปี ก็เริ่มป่วยเป็นโรค รูมาตอย  4 ปีสุดท้ายของชีวิตท่านก็เป็นโรคพากินสัน มือสั่น ขาขยับไม่ได้  เจ็บปวดตามเนื้อตามตัว ตามข้อต่อต่างๆเป็นประจำ แต่ท่านมีความอดทนสูงจึงไม่ค่อยกินยา เว้นเสียแต่มีอาการปวดทรมานมากจนทนไม่ไหวจึงจะทานยา คุณยายบอกว่าทหารเขาถูกยิงเขาไม่มียาแก้ปวด ยังทนได้เลย เราเจ็บปวดแค่นี้ทำไมจะทนไม่ได้ แล้วก็ทนปวดต่อไป
 
    ต่อมาอาการของท่านก็หนักขึ้นเรื่อยๆ จึงพาส่งโรงพยาบาล อาทิตย์สุดท้ายก่อนที่คุณยายจะจากพวกเราไป ลูกได้พาท่านมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน พยายามให้ท่านได้ทำบุญให้ได้มากที่สุด ในช่วงนั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตะชีโว ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระน้องชายของคุณยาย ได้บินไปศาสนกิจที่อเมริกา  ท่านเมตตาไปเยี่ยม วันนั้นคุณยายดูสดชื่นขึ้น หน้าตามีความสุข พูดคุยกับทุกคนอย่างสนุกเบิกบาน คุณยายได้ทำบุญถวายผ้าไตร ถวายผ้าเช็ดหน้า ปัจจัยไทยธรรม และสร้างองค์พระภายในเจดีย์ 1 องค์ กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตะชีโว หลวงพ่อท่านให้พรพร้อมทั้งแนะนำวิธีการปฏิบัติดูแลคุณยายหลายอย่าง  ห้องที่คุณยายนอนป่วยอยู่นั้น ลูกได้ติดรูปภาพพระพุทธรูปที่ฝาด้านหน้า ด้านข้างซ้าย – ขวา และบนเพดาน ยามนอนก็มองเห็น ลุกขึ้นก็มองเห็น เหลียวซ้ายแลขวาก็เห็นพระ ใจของยายจะได้อยู่กับองค์พระ
 
    ตลอดสัปดาห์นั้นก็ได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดต่างๆ ที่รู้จักคุ้นเคยกันมาให้คุณยายได้ทำบุญ พอคุณยายเริ่มไม่รับรู้อะไร พวกเราก็เปิดเทปสวดมนต์ทำวัตรเช้า – เย็น บทอิติปิโส และบทสวดสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัยไว้ตลอด 24 ชั่วโมง แล้วลูกยังกระซิบข้างหูท่านให้ระลึกถึงบุญต่างๆ ที่ทำมาทั้งหมด เช่น บวชสามเณรและอุปสมบทหมู่มากกว่า 10 ครั้ง สร้างองค์พระประจำตัวทั้งภายในและภายนอก ให้ตนเองและหมู่ญาติ 12 องค์ บุญสามแสนปลื้ม บุญหล่อหลวงปู่ทองคำ บุญสร้างรัตนบัลลังก์ ถวายจานดาวธรรมโรงเรียน บุญเสาแก้วพันปี เป็นต้น และบุญอื่นๆ ที่ท่านทำมาโดยตลอด ตามวัดต่างๆ ในอเมริกา  ท่านจากพวกเราไปด้วยความสงบ ในวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2548 เวลา 6.30 น.
 
    ตัวลูก เมื่อไปอยู่อเมริกาก็ต้องทำงานหาเงินเรียนเอง พอจบไฮสคูลจะเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยแต่ก็เข้าไม่ได้ เพราะผู้ปกครองที่เราไปอาศัยอยู่ด้วย ลืมทำใบเขียว (Green Card) ให้ แต่ลูกอยากเรียนต่อมากอยากมีปริญญา จะได้มีงานทำดีๆ จึงใช้วิธีไปโกหกที่โรงเรียนว่าเป็นคนอเมริกัน โชคดีจริงๆ ทางโรงเรียนก็เชื่อตามที่ลูกโกหก จึงได้เข้าเรียน ลูกนึกถึงชีวิตตนเองว่าทำไมชีวิตเราจึงเป็นเช่นนี้ได้ จะเรียนทั้งทีก็ต้องมาโกหกเข้าเรียน คงไม่มีใครอีกแล้วที่เป็นเหมือนเรา แล้วบุญกรรมแต่ปางบรรพ์ก็ชักนำให้ลูกได้มาพบกับเพื่อนหนุ่มไทย เรียนอยู่ที่เดียวกันและที่สำคัญโกหกเข้าเรียนเหมือนกันกับลูก โอ…ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้  นึกว่าจะมีเพียงแต่เราเท่านั้นที่โกหกเข้าเรียน นอกจากนั้นเราทั้งสองยังมีอุปนิสัยหลายอย่างที่เหมือนๆกัน โดยเฉพาะรักการทำบุญเหมือนกัน  ลูกเรียนไปได้แค่อนุปริญญาเท่านั้นความลับก็ถูกเปิดเผย จึงต้องพักการเรียนอยู่แค่นั้น
 
    พอจบอนุปริญญาแล้ว เราทั้งสองก็ไม่ได้เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย จึงหางานทำไปเรื่อยๆ ลูกสมัครเข้าทำงานในโรงพยาบาล  แต่ก็นับเป็นความโชคดีของลูกเนื่องจากในปีนั้น ประธานาธิบดี โรนัล เรแกน ประกาศอนุญาตให้ผู้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเป็นผู้ถูกกฎหมายสามารถมีใบเขียวได้ ลูกดีใจมากเพราะคนที่มีใบเขียวสามารถเรียนระดับมหาวิยาลัยได้ และตั้งรกรากทำมาหากินมีตำแหน่งหน้าที่การงานดีๆในอเมริกาได้ อีกทั้งจะมีสิทธิและสวัสดิการใกล้เคียงกับชาวอเมริกัน ปีนั้นมีผู้ได้สิทธินี้พร้อมๆกันหลายล้านคน หนึ่งในนั้นมีลูกรวมอยู่ด้วยคนหนึ่ง แต่แฟนหนุ่มไทยของลูกยังไม่ได้รับสิทธินี้เพราะมาอเมริกาช้ากว่าลูกหลายปี เขาจึงมาปรึกษากับลูกว่า ผมยังไม่มีใบเขียวเลย ลูกก็ถามเขาว่า แล้วจะให้ดิฉันทำอย่างไรล่ะคะ เขาก็บอกอย่างซื่อๆ ตรงๆว่า แต่งงานกับผมสิ ลูกก็ โอเค ค่ะ  เพราะเมื่อแต่งงานกันแล้ว คู่สมรสก็จะมีสิทธิได้ใบเขียวภายใน 2 ปี แล้วอีก 5 ปี ก็เข้าสัมภาษณ์เป็นคนอเมริกันตามกฎหมายได้
 
    พอมีครอบครัวแล้วมันไม่สะดวกสบายเหมือนตอนเป็นโสด ลูกยังคงทำงานในโรงพยาบาลต่อไปเรื่อยๆ จนได้ให้กำเนิดลูกสาวคนโตแล้ว  ลูกจึงมีโอกาสได้เรียนต่อสมดังที่เคยตั้งใจไว้
 
    สามีของลูก ปัจจุบันอายุ 42 ปี มีอาชีพเป็นกุ๊กในร้านอาหารญี่ปุ่น เขาเป็นโรคหัวใจอ่อนๆ ลิ้นปี่หัวใจรั่วมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่มีอาการร้ายแรงใดใด สิ่งที่น่าแปลกในตัวเขาคือ ชอบบวชพระเป็นชีวิตจิตใจโดยผ่านการบวชมาแล้ว 6 ครั้ง บวชที่ศูนย์ อะซูซ่า 5 ครั้งและที่วัดป่าธรรมชาติอีก 1 ครั้ง เขาบอกว่าตอนครองผ้ากาสาวพัตรนั้นเขามีความสุขมาก ลูกเองก็เห็นเขาช่างสงบสำรวมตั้งใจปฏิบัติตนเองจริงๆ ขณะบวชและตั้งใจฟังพระอาจารย์อบรมเทศน์สอน เขาพูดทิ้งท้ายว่า หากลูกสาวทั้งสองโตแล้ว จะบวชตลอดชีวิต
 
    ลูกสาวคนโต ขณะนี้อายุ 16 ปี  ตอนเล็กๆ ช่วงมีฟันหน้าขึ้นใหม่ๆ ชอบกัดลิ้นตัวเอง เพราะเวลานอนจะเปิดปากนิดๆ แล้วลิ้นก็จะแลบออกมาอยู่ระหว่างฟันหน้าพอดี ขณะหลับปุ๋ยเพลินๆอยู่นั้น จะมีอาการสะดุ้งผวาหรือตกใจ  แล้วปากก็หุบลง แต่ลิ้นยังอยู่ที่เดิม  พอปากหุบปั๊บก็กัดลิ้นของตนเองเข้าอย่างจัง นอนเลือดกลบปากร้องให้ดังลั่นทุกวัน ทั้งกลางวันกลางคืน จนปลายลิ้นขาดแหว่ง มีคนมาแนะนำให้ลูกไปหาคนทรง คนทรงบอกให้เอากานพลูมาบดเวลาลูกสาวกัดลิ้น ให้ท่องนะโม 3 จบ แล้วป้ายกานพลูไปที่ลิ้นที่ถูกกัดนั้น ทำสัก 3 ครั้งจะหาย แล้วก็หายจริงๆ ค่ะ แต่กว่าจะหายเธอก็กัดลิ้นตนเองมาซะหนำใจติดต่อกันทุกวันตลอด 3 เดือน
 
    ลูกสาวคนเล็ก ขณะนี้อายุ 8 ขวบ ตอนเล็กๆ มีอาการเหมือนพี่สาว เลยคะ เธอจะเริ่มทดสอบความคมของฟันหน้า เมื่ออายุ 11 เดือน ลูกคิดในใจว่าอาการอย่างนี้นะเหรอสบายมาก  แล้วก็ใช้กาน พลูมาบดตามสูตร พอได้ยินเสียงร้องจ๊าก นอนเลือดกลบปากทีไร ลูกก็ตั้งนะโม 3 จบแล้วป้ายกานพลูไปที่ลิ้นที่โดนกันนั้น ผลปรากฏว่า ไม่หาย จึงคิดว่า  ส่วนผสมอาจผิด  หรือไม่ก็คงผิดหลักวิชา  เมื่อทบทวนดีแล้ว ก็ลงมือรักษาใหม่ตามสูตรทุกอย่าง ปรากฏว่า กัดเหมือนเดิม จึงสรุปว่าโรคมันดื้อยาเสียแล้ว จากนั้นลูกก็เริ่มตระเวนไปหาหมอต่างๆ เริ่มตั้งแต่หมอฟัน...หมอบอกว่าเด็กยังเล็กเกินไป ฟันยังเป็นฟันน้ำนมอยู่เลยไม่รับรักษา จึงไปหาหมออายุรกรรมทั่วไป  หมอก็ส่ายหัวไม่รับเช่นกัน สุดท้ายไปหาหมอโรคจิตก็ได้ยามากิน กินอย่างไรก็ไม่หาย ตรงข้ามดูเหมือนอาการจะหนักมากกว่าเดิม ยิ่งตอนเป็นไข้ยิ่งกัดถี่ๆ ทุกๆ 15 นาที ลูกสาวตัวจิ๋วของลูกก็โมโหตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมต้องกัดลิ้นด้วย มันเจ็บนะ จึงเอาหัวกระแทกพื้นประชดซะเลย พอแม่มาโอ๋ก็เอามือดึงผมแม่กระชากเหมือนกับจะบอกว่าหนูไม่ไหวแล้ว เธอกัดลิ้นตัวเองอย่างมาราธอนเรื่อยมาเป็นเวลาถึง 2 ปี จนมีรอยแผลแหว่งรอบลิ้น แล้วเธอก็หยุดกัดไปเองโดยไม่ต้องรักษาใดใด
 
คำถาม
 
1. บุพกรรมใดทำให้คุณยายเป็นโรครูมาตอย  และโรคพากินสัน คตินิมิตก่อนตายเป็นอย่างไร   รับรู้เรื่องบุญที่ลูกได้พูดให้ฟังช่วงท้ายหรือไม่   คุณยายตายแล้วไปไหน  
 
2. การที่คุณยายเคยสูบบุหรี่ เล่นไพ่ แทงหวย แต่เลิกไปแล้ว จะมีผลกรรมอะไรย้อนหลัง เมื่อท่านละโลกไปแล้ว ไหมคะ
 
3. บุญที่สร้างองค์พระภายใน ถวายกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตะชีโว 1 อาทิตย์ก่อนที่คุณยายจะเสียชีวิต   และบุญที่พวกเรานำเงินของคุณยายที่เก็บรวบรวมไว้ สร้างองค์พระไปให้ท่านอีก จำนวน 66 องค์ จารึกชื่อของมหาปูชนียาจารย์  ชื่อคุณยายและญาติพี่น้อง   ส่งผลต่อท่านอย่างไรในสัมปรายภพ การที่พวกเราตัดสินใจนำเงินของท่านมาทำบุญ แทนการนำมาแบ่งกันจะได้ผลบุญอย่างไร  
 
4. หลังจากคุณยายเสียใหม่ๆ สามีของลูกได้กลิ่นหอมในห้องนอน พร้อมๆ กันนั้น พี่คนหนึ่งที่รู้จักกันก็ได้กลิ่นหอมในครัวที่บ้านของเขา ซึ่งอยู่กันคนละที่แต่ได้กลิ่นในเวลาเดียวกัน เป็นกลิ่นที่เกิดจากคุณยายใช่ไหมคะ ถ้าเป็นจริงท่านต้องการมาบอกอะไรกับพวกเรา
 
5. ลูกและคุณยายทำบุญกรรมร่วมกันมาอย่างไร จึงมีความผูกพันกันมาก
 
6. ลูกเป็นผู้ใฝ่ในการเรียนมาตั้งแต่เด็ก แต่ทำไมจึงมีอุปสรรคในการเรียน ทั้งต้องหาเงินเรียนเอง โกหกเข้าเรียน สุดท้ายมีลูกก่อนแล้วจึงได้เรียนระดับปริญญา
 
7. ทำไมสามีของลูกจึงชอบบวชมาก และมีความสุขกับการบวช ตั้งใจจะบวชตลอดชีวิต   เขาจะสำเร็จสมความตั้งใจหรือไม่คะ
 
8. บุพกรรมใดลูกสาว 2 คนของลูกเมื่อตอนเล็กๆ จึงกัดลิ้นตนเอง แล้วทำไมลูกสาวคนเล็กจึงกัดลิ้นนานกว่าพี่สาว เธอจะต้องรับกรรมนี้ไปอีกนานไหมคะ ควรทำบุญอะไรจึงจะสามารถหักล้างหนี้กรรมนี้ได้คะ
 
9. ลูกและสามีทำบุญกรรมร่วมกันมาอย่างไร จึงมีอัธยาศัยคล้ายๆ กันคือชอบทำบุญ และครอบครัวของลูกเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. คุณยายเป็นโรค “รูมาตอย” และ “โรคพากินสัน”  เพราะ ...เศษกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร  และกรรมสุราในอดีต ตามมาส่งผลเล็กน้อยในบั้นปลายชีวิต
 
 
 
 
 
 
 2. การที่คุณยายสูบบุหรี่ , เล่นไพ่ , แทงหวย แต่เลิกได้ในภายหลังนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ส่งผลหลังจากที่ท่านตายแล้ว เพราะอยู่ในช่วงที่บุญกำลังส่งผล ให้ไปเป็นเทพธิดามีวิมานทองของชั้น “ดาวดึงส์” เฟส 2 ดังกล่าวจ่ะ!
 
 
3. บุญที่สร้างองค์พระภายใน ถวายกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตะชีโว  1 อาทิตย์ก่อนที่คุณยายจะเสียชีวิต และบุญที่ทุกคนได้นำเงินที่คุณยายเก็บรวบรวมเอาไว้ มาสร้างองค์พระ 66 องค์ โดยจารึกชื่อมหาปูชนียาจารย์ , ชื่อคุณยายและญาติพี่น้อง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
4. ภายหลังจากคุณยายตายใหม่ ๆ หลายคนได้กลิ่นหอมในห้องนอนบ้าง , ในบ้านบ้าง  ก็เป็นความรู้สึกที่ดี  ที่รู้สึกไปเอง เพราะคุณยายท่านไม่ได้มาที่บ้าน   ทันทีที่ท่านตาย ก็ไปตื่นกลางวิมานทองของชั้นดาวดึงส์เฟส 2 ทันทีจ่ะ!
 
 
5. คุณยายท่านใจดีมีเมตตา  ได้เกื้อกูลมาแต่เด็ก กับเคยเกิดเป็นลูกหลานท่านมาหลายชาติ  จึงรักและผูกพันกันกับท่านจ่ะ!

 
6. ลูกเป็นผู้ใฝ่เรียน  แต่มีอุปสรรคของการเรียน  ตั้งแต่ต้องหาเงินเรียนเอง  ต้องโกหกเข้าเรียน  และต้องมีลูกก่อนแล้วจึงจะเรียนจบปริญญา 
 
 
 
 
7. สามีของลูก  ในอดีตก็เคยบวชมากับหมู่คณะได้ตลอดชีวิต จึงมีอัธยาศัยที่ชอบบวช  โดยก่อนบวชก็ได้ครองเรือนมาก่อน  ต่อมาก็เบื่อหน่ายชีวิตการครองเรือน  จึงออกบวชดังกล่าว  
 
 
 
 
 
 
8. ลูกสาว 2 คน ตอนเล็กๆ ชอบนอน “กัดลิ้น” ตนเอง เพราะ...“วจีกรรม” ในอดีตที่ทั้งคู่ได้เคยเกิดเป็น “กุลธิดา” พี่น้องกัน 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
9. ในอดีตลูกและสามีก็เป็นสามี - ภรรยากันแบบ “คู่บุญ”  โดยเมื่อพุทธันดรที่ผ่านมา , ลูกและสามีก็เป็น “กองเสบียง” ให้กับหมู่คณะ  จนกระทั่งสามีออกบวชจนตลอดชีวิต
 
 
 
 
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-06-06.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 14:45
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv