CASE STUDY
โรคร้ายหายได้ด้วยอานุภาพบุญ
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
    ลูก เข้าวัดครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2531 โดยมีกัลยาณมิตรรุ่นพี่ท่านหนึ่ง ชักชวนให้มาร่วมงานบุญกฐินคุณยายอาจารย์ ซึ่งเป็นกฐินครั้งแรกของวัดพระธรรมกาย แม้ว่าในวันนั้นลูกจะตัดสินใจมาด้วยความเกรงใจ แต่เพียงครั้งแรกที่ได้มาวัด ลูกกลับมีความปีติใจตลอดทั้งวัน ความประทับใจเกิดขึ้นทันทีนับแต่ได้ก้าวขึ้นรถรับสาธุชนที่สนามเป้า ลูกมองดูน้องผู้หญิงซึ่งกำลังยืนทำหน้าที่ผู้นำรถด้วยความปลื้มใจ ดูเธอช่างเรียบร้อยสง่างาม พูดจาไพเราะฉะฉาน ใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อย
 
    ทันทีที่สองเท้าของลูกเหยียบลง ณ ผืนดินอันศักดิ์สิทธิ์   ลูกก็ได้เห็นคลื่นสาธุชนนับหมื่นนับแสนคน จากทั่วสารทิศต่างพากันเดินทางมาแสวงบุญอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ลูกเห็นแล้วก็ยิ่งปลื้มใจ ขนลุกซู่ชูชันด้วยความปีติ ลูกจึงตัดสินใจทำบุญซื้อที่ดินถวายวัดทันที วันนั้นลูกดีใจมากที่ได้รับเหรียญที่ระลึกจากมือของคุณยายเอง ท่านพูดกับลูกว่า “ให้มาเอาบุญกับยายนะ” ลูกสบตาท่านและนึกในใจว่า ตลอดชีวิตการเป็นพยาบาลที่ผ่านมา ลูกยังไม่เคยเห็นใครที่แสดงออกว่ารักและปรารถนาดีกับผู้อื่นอย่างบริสุทธิ์ใจอย่างนี้มาก่อนเลย 
 
    นับแต่นั้นมา  ลูกก็มีศรัทธาได้มาร่วมงานบุญอย่างต่อเนื่องมิได้ ขาด  แม้ว่าช่วงแรก พ่อบ้าน ยังไม่เห็นด้วย  แต่ลูกก็ไม่ท้อถอย พยายามชักชวน ลูกทั้งสามคน ให้มาวัดอย่างสม่ำเสมอ  ปลายปีพ.ศ. 2538 ลูกได้ไปปฏิบัติธรรมที่วังธารรีสอร์ท ลูกเห็นดวงแก้วใสสว่างค่อยๆ ไหลเข้ามาหาตัว รู้สึกเย็นสบาย ลูกน้ำตาไหล ใจพองโต เต็มตื้นด้วยความปลื้มปีติใจอย่างบอกไม่ถูก ลูกบอกกับตัวเองว่า “นี่ไง ความสุขที่เราแสวงหา...เป็นอย่างนี้เอง” นับแต่นั้นมา ลูกก็เริ่มต้นทำหน้าที่ผู้นำบุญอย่างเต็มที่ คิดแต่เพียงว่าอยากจะให้ทุกๆคนได้มีโอกาสมาสัมผัสกับความสุขเหมือนอย่างลูก
 
    สองปีต่อมา ความพยายามของลูกก็สำเร็จ พ่อบ้านเห็นความเปลี่ยนแปลงของลูกสาว ภายหลังกลับจากการอบรมธรรมทายาทหญิง จึงตัดสินใจขึ้นไปปฏิบัติธรรมที่พนาวัฒน์ ลูกมั่นใจว่าคำอธิษฐานของลูกต้องสำเร็จสมปรารถนาอย่างแน่นอน  เพราะแต่เดิมพ่อบ้านไม่สนใจมาวัดเลย และไม่ใคร่เต็มใจเมื่อลูกชวนให้ร่วมบุญด้วย แต่เมื่อเขากลับลงมา ลูกก็เหมือนได้พ่อแก้ว เขาเปลี่ยนไปมาก หันมาเข้าวัด เป็นประจำ ทั้งยังหักดิบตัดใจเลิกดื่มเหล้าไปจนตลอดชีวิต  ครอบครัวของลูกมีความสุขมาก จนลูกอดภูมิใจไม่ได้
 
    แต่ในปีต่อมา ก็เหมือนวิบากกรรมมาตัดรอน อยู่ๆลูกเกิดปวดท้องขึ้นมากะทันหัน หนาวสั่นไปทั้งตัว ลูกถูกนำส่งโรงพยาบาลโดยหมอวินิจฉัยว่าน่าจะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทำให้ต้องงดอาหารไปตลอดทั้งคืน เวลานั้นลูกเจ็บปวดและทรมานมาก  เหงื่อไหลท่วมตัว แล้วในที่สุด ลูกก็หมดแรงลงไปเฉยๆ แต่ลูกก็พยายามนึกถึงบุญและระลึกถึงธรรมะที่เคยปฏิบัติ เพียงระยะเวลาสั้นๆ ก่อนจะหมดสตินั้นเอง ลูกก็เห็นพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านลอยเด่นอยู่เหนือศีรษะของลูก แล้วจากนั้นลูกก็หมดสติไปตลอดทั้งคืน
 
    น่าอัศจรรย์เหลือเกินค่ะ เพราะเมื่อลูกมารู้สึกตัวอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ก็พบว่าอาการปวดท้องนั้น กลับหายเป็นปลิดทิ้ง ราวกับว่าไม่ได้เป็นอะไรเลย  แม้คุณหมอจะลอง X-Ray ใหม่อีกครั้ง แต่ก็ไม่พบโรคดังกล่าวอีกเลย
 
    ภายหลังที่ลูกหายป่วยแล้ว ลูกยิ่งเชื่อมั่นในอานุภาพบุญและอานุภาพของมหาปูชนียาจารย์ จึงมุ่งมั่นทำหน้าที่กัลยาณมิตรอย่างทุ่มเทสุดหัวใจ ลูกทำหน้าที่ผู้นำบุญโดยทั้งทำด้วยตนเองและบอกบุญชักชวนเขามาสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวได้มากกว่าร้อยองค์แล้วค่ะ
 
    คุณพ่อของลูก ท่านเป็นคนใจดีชอบช่วยเหลือทุกคน จึงได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ใหญ่บ้าน คุณพ่อเป็นคนขยันมาก ภาพที่ลูกประทับใจมาตั้งแต่เด็กคือ ลูกจะเห็นคุณพ่อลุกขึ้นมาสวดมนต์แต่เช้าตรู่และยังใส่บาตรเป็นประจำมิได้ขาด แม้ว่าท่านจะเข้าวัดทำบุญอยู่เสมอ แต่ก็ยังดื่มเหล้าเป็นครั้งคราวตามเทศกาล  ต่อมาท่านป่วยเป็นไข้ป่า อาการทรุดลงเรื่อยๆ กระทั่งมาเสียชีวิตลงเมื่ออายุ  53  ปี
 
    ส่วน คุณแม่ ภายหลังที่คุณพ่อจากไปแล้ว คุณแม่ก็ต้องทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ อดทนเลี้ยงลูกถึง 8 คนมาด้วยความยากลำบาก ลูกมีโอกาสกลับไปดูแลคุณแม่ที่โคราชเพียงเดือนละครั้งสองครั้ง แต่ทุกครั้งที่กลับไป ลูกก็พยายามเล่าให้แม่ฟังเรื่องบุญและถือโอกาสให้แม่ได้อนุโมทนาบุญ ท่านก็มักจะยิ้มและพูดกับลูกว่า “เออ”  เป็นทำนองว่าท่านเข้าใจและอนุโมทนาด้วย
 
    เมื่อปี พ.ศ.2545 ลูกทราบข่าวจาก พี่ชาย ว่า คุณแม่ล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน  จึงรีบเดินทางกลับไปรับคุณแม่มาดูแลเองที่กรุงเทพฯ คุณแม่เริ่มพูดไม่ได้ แขนและขาขวาใช้งานไม่ได้ คุณหมอบอกว่าเป็นโรคสมองฝ่อ  ลูกพยายามพาแม่มาวัดทุกวันอาทิตย์ โดยให้ท่านนั่งรถเข็นและชี้ให้ดูองค์พระนับแสนองค์ ที่ประดิษฐานอยู่บนมหาธรรมกายเจดีย์ ลูกสังเกตเห็นโยมแม่ยิ้มเบิกบานด้วยความปลื้มปีติ
 
    ปีต่อมา อาการของแม่ก็ทรุดหนัก แผลลุกลามกดทับที่เท้าและที่หลังอย่างรุนแรง หมอบอกว่าเห็นทีจะต้องตัดขาข้างขวาของแม่ทิ้ง  ลูกรู้สึกทุกข์ใจแทนเพราะรักและสงสารท่านเหลือเกิน จึงปรึกษากับพี่กัลยาณมิตรท่านหนึ่ง แล้วในที่สุด เราก็ตัดสินใจว่า ถึงอย่างไรก็จะไม่อนุญาตให้หมอตัดขาของแม่เป็นอันขาด 
 
    ลูกนำคุณแม่มารักษาที่คลีนิคของพี่กัลยาณมิตรท่านนี้ และได้ช่วยกันดูแลรักษาคุณแม่เป็นอย่างดี ลูกเชื่อมั่นว่า ไม่มีอะไรจะสำคัญมากไปกว่า “บุญ” จึงตั้งใจว่าจะให้ท่านได้สั่งสมเสบียงบุญติดตัวไปในภพเบื้องหน้าด้วยตัวของท่านเอง จึงได้สร้างบรรยากาศแห่งบุญ โดยเปิดจานดาวธรรมให้ท่านดูทุกวัน และจะคอยย้ำเตือนให้ท่านนึกถึงบุญอยู่เรื่อยๆ  นอกจากนี้ ลูกยังคอยกระซิบที่ข้างหูคุณแม่บ่อยๆว่า   “สัมมา อะระหัง”  เนื่องจากคุณแม่พูดไม่ได้ ท่านจึงทำได้ก็แต่เพียงยิ้มตอบและ มองหน้าลูกเป็นการบอกให้รู้ว่าท่านรับรู้และเข้าใจ  ต่อมาแม่มีอาการหอบรุนแรง และค่อยๆ หายใจแผ่วลงไปเรื่อยๆ   แล้วในที่สุด ท่านก็นิ่งไปอย่างสงบ
 
    คุณพ่อของสามี ป่วยเป็น โรคมะเร็งที่ปอด โดยไม่มีวี่แววมาก่อน ทั้งๆ ที่ตลอดชีวิตของท่านแทบจะไม่สูบบุหรี่เลย มะเร็งได้ลุกลามไปจนถึงกระดูก ก่อนเสียชีวิต  3  วัน  หลานสาวเห็นท่านทำท่าเหมือนกำลังปัดป้องอะไรบางอย่าง โวยวายเสียงดังอยู่ตามลำพังว่า  “ไม่ไป ไม่ไป”  ในช่วงสุดท้ายก่อนสิ้นลม  คุณแม่สามี เขย่าตัวคุณพ่อสามีเบาๆ กระซิบข้างหูว่า   “อย่าเพิ่งรีบไปนะเพราะลูก (คือสามีของลูก) ยังมาไม่ถึง”  แล้วคุณพ่อสามีก็พยายามหายใจขึ้นมาใหม่เหมือนจะรอคอยลูกชาย    เมื่อสามีของลูกมาถึง ท่านก็สิ้นลมจากพวกเราไปทันที
 
คำถาม

1. บุพกรรมใดจึงทำให้ชีวิตในวัยเยาว์ของลูกลำบากมาก พลัดไปเกิดในชนบทกันดารห่างไกลความเจริญ และมักไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ แต่ภายหลังเมื่อมีครอบครัวแล้ว ชีวิตลูกจึงเริ่มดีขึ้นคะ
 
2. ในช่วงเเรกที่เข้าวัด ลูกต้องลักลอบทำความดีโดยมีลูกสาวร่วมสนับสนุนเพราะพ่อบ้านยังไม่เห็นด้วย ต่อมาลูกสามารถชักชวนพ่อบ้านเข้าวัดได้สำเร็จ เป็นเพราะบุญที่ลูกสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวให้เขาและอธิษฐานจิตให้ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวธรรมกาย ใช่หรือไม่คะ
 
3. เพราะเหตุใดเวลาทำบุญแทบทุกครั้ง  พ่อบ้านมักจะตัดสินใจค่อนข้างช้า ในขณะที่ลูกตัดสินใจฉับไวทันที   ซึ่งตรงข้ามกันมากค่ะ ลูกควรจะบอกเขาอย่างไร การตัดสินใจช้าเร็วต่างกัน จะมีผลต่อไปในภพชาติเบื้องหน้าของเราทั้งสองอย่างไรคะ
 
4. วิบากกรรมใดลูกจึงต้องมามีอาการปวดท้องกะทันหันเช่นนั้น   ลูกเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบอย่างที่คุณหมอวินิจฉัยหรือไม่ ครั้งนั้นลูกรอดมาได้ด้วยอานุภาพบุญจากการสร้างองค์พระ และอานุภาพของมหาปูชนียาจารย์ใช่หรือไม่ ลูกหมดวิบากกรรมดังกล่าวแล้วหรือยัง หรือว่ามีวิบากกรรมใดที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษอีกหรือไม่ จะแก้ไขได้อย่างไรคะ
 
5. คุณพ่อของลูกละโลกแล้วไปไหน เหตุใดท่านจึงอายุสั้นเพียง 53 ปี การที่ท่านดื่มเหล้าตามเทศกาลจะทำให้ต้องไปตกนรกหรือไม่ บุญที่ท่านทำเองและบุญที่ลูกสร้างพระอุทิศไปให้จะช่วยท่านได้หรือไม่ อย่างไรคะ
 
6. วิบากกรรมใดจึงทำให้คุณแม่เป็นโรคสมองฝ่อ พูดไม่ได้ แขนขาใช้งานไม่ได้ ถึงขนาดที่คุณหมอต้องแนะนำให้ตัดขาคุณแม่ทิ้ง ลูกตัดสินใจถูกต้องหรือไม่ที่ไม่ยอมให้หมอตัดขาแม่  ถ้าหากครั้งนั้น ลูกตัดสินใจอนุญาตให้หมอตัดขาแม่   ลูกจะบาปไหมคะ จะมีวิบากกรรมอย่างไร ลูกตั้งใจดูแลรักษาคุณแม่อย่างดีแม้จะถูกพี่ๆต่อว่าหลายเรื่อง ลูกจะได้รับผลบุญนี้อย่างไร
 
7. หลังจากที่คุณแม่เสียชีวิตได้  3  วัน   ลูกได้กลิ่นของแม่ในห้องนอน เป็นเพราะท่านกลับมาที่ห้องใช่ไหมคะ   ท่านได้ไปฟังพระสวดอภิธรรมอย่างที่ลูกบอกท่านหรือไม่ ท่านละโลกแล้วไปอยู่ ณ ภพภูมิใด   บุญที่ท่านได้ทำด้วยตนเองตามหลักวิชชาในวาระสุดท้าย ได้ช่วยให้ท่านไปสู่สุคติภูมิอย่างที่ลูกตั้งใจไว้หรือไม่  ท่านมีอะไรจะฝากบอกลูกบ้างไหมคะ
 
8. บุพกรรมใดทำให้พ่อของสามีป่วยเป็นโรคมะเร็ง ท่านใช้มือปัดป้องเพราะเห็นยมทูตกำลังมาเอาชีวิตใช่หรือไม่   ขณะนี้ท่านอยู่ภพภูมิใด ได้รับบุญกุศลที่อุทิศไปให้หรือไม่  อย่างไรคะ
 
9. ลูกมีเพื่อนกัลยาณมิตรสองคนที่สนิทสนมและรักกันมาก ไปวัดก็ไปด้วยกัน คอยประคับประคองกันสร้างบารมี ครั้งแรกที่ลูกไปชวนเขามาวัด แม้ว่าจะถูกเขาปฏิเสธแรงๆ แต่ทำไมลูกจึงรู้สึกคุ้นเคยกันเร็วมาก ราวกับว่าเป็นญาติที่รู้จักกันมานาน   เราสามคนเคยสร้างบุญร่วมกันมาอย่างไร
 
10. ลูกสาวฝาแฝดของลูก ก่อนมาเกิดในชาตินี้ ทั้งคู่มาจากที่ใด   บุพกรรมใดจึงทำให้มาเกิดเป็นฝาแฝดกันคะ ลูกตั้งใจว่าอยากจะให้ลูกสาวทุกคนมาช่วยงานพระศาสนา ความตั้งใจของลูกจะสำเร็จหรือไม่ และลูกทุกคนจะสามารถสร้างบารมีไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่คะ
 
11. ครอบครัวของลูกเคยสร้างบารมีมาอย่างไรในอดีต จึงได้มาสร้างบารมีพร้อมเพรียงกันทั้งครอบครัว ทำไมลูกจึงสามารถทำหน้าที่กัลยาณมิตรกับคนอื่นๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ในขณะที่ญาติพี่น้องของลูกเอง กลับเป็นเรื่องที่ยากแสนยาก
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. ชีวิตวัยเยาว์ลูกลำบากมาก   และมักอยู่ห่างไกลความเจริญและมักไม่ได้อยู่กับพ่อ-แม่  เพราะ ...ในอดีต เวลาทำบุญมักจะทำบุญไปอย่างนั้นเอง จึงทำให้บาปความ “ตระหนี่”และ “ถือตัว”ได้ช่อง ส่งผลให้ไปเกิดในชนบทกันดาร  ห่างไกลความเจริญและมีชีวิตที่ลำบากในช่วงวัยเยาว์  
 
 
 
 
2. ในช่วงแรกที่ลูกเข้าวัด ลูกต้องลักลอบทำความดี โดยมีลูกสาวร่วมสนับสนุน เพราะพ่อบ้านไม่เห็นด้วย  ต่อมาลูกสาวสามารถชักชวนพ่อบ้านเข้าวัดได้สำเร็จ
 
 
 
 
3. พ่อบ้านตัดสินใจทำบุญช้า  ซึ่งต่างจากลูกที่ตัดสินใจเร็วกว่า  ก็เป็นนิสัยที่ติดมาข้ามชาติ  ที่ชอบตัดสินใจช้า จึงทำให้มาถึงหมู่คณะช้า กอปรกับเป็นหัวหน้าครอบครัว  ก็ต้องห่วงใยครอบครัวและต้องคิดหน้าคิดหลังจ่ะ!
 
 
 
 
4. ลูกปวดท้องอย่างกะทันหัน  เพราะ ...ลูกเป็นโรค “กระเพาะปัสสาวะอักเสบ” ดังที่คุณหมอวินิจฉัย   ด้วยวิบากกรรม ที่ในอดีตชาติตอนเป็นเด็กๆชอบ “ฉี่” ไม่เป็นที่เป็นทาง เพราะความเป็นเด็ก , บางครั้งก็เป็นที่สาธารณะ  จึงทำให้เลอะเทอะ  และทำให้คนอื่นเหม็นรำคาญ  
 
 
 
 
 
 
5. คุณพ่อของลูกอายุสั้นเพียงแค่ 53 ปี  เพราะ ...กรรมทั้งอดีตและปัจจุบันที่ฆ่าสัตว์ทำอาหาร  ซึ่งบางทีก็ต้อง “ล่าสัตว์” จ่ะ! มาส่งผล
 
 
 
 
 
 
6. คุณแม่เป็น “โรคสมองฝ่อ” พูดไม่ได้ แขนขาใช้งานไม่ได้ เพราะ ...กรรมในอดีตแม่เกิดในสังคมเกษตรกรรม  ได้ เลี้ยงหมู ไว้ขายให้เขาฆ่าเอาไว้เยอะ,เวลาจับหมูส่งขายก็,มัดขามันและมัดปากด้วยจ่ะ!
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
7. แม่ตายแล้ว ... แบบหลับแล้วตื่นขึ้น  กลางวิมานทองของ “ชั้นจาตุมหาราชิกา” เป็นเทพธิดา “สายคนธรรพ์”  ด้วยบุญที่ลูก  ให้ทำและให้อนุโมทนา  รวมทั้งให้นึกถึงบุญในช่วงท้ายของชีวิต ซึ่งท่านมีกำลังบุญเพียงแค่นี้จ่ะ! ...ดังนั้นท่านจึงไม่ได้มาที่บ้านหรือไปฟังสวดพระอภิธรรมที่วัดจ่ะ!
 
 
 
 
 
 
8. “พ่อสามี” ป่วยเป็น “โรคมะเร็ง”  เพราะ ...กรรมในอดีตท่านเกิดในสังคมเกษตรกรรม  ได้ถูกใช้ให้ “สุมไฟ” ไล่ยุงให้ “ควาย” บ่อย ๆ จึงทำให้เกิดความรำคาญไม่อยากทำ จึง “สุมไฟประชด” จนควายป่วยตายในเวลาต่อมา 
 
 
 
 
 
 
9. ลูกและเพื่อนกัลยาณมิตรอีก 2 ท่าน  ก็เคยเป็นกัลยาณมิตรกันมา เคยชวนกันสร้างบุญกับหมู่คณะมาหลายชาติแล้ว  แบบ “กองเสบียง” จ่ะ!
 
 
10. “ลูกฝาแฝด” 2 สาว  เคยเกิดเป็นพี่น้องกัน  โดยเป็นลูกสาวของลูกในอดีตชาติ   ได้สร้างบุญร่วมกันและมักจะอธิษฐานว่า ขอให้ได้มาเกิดเป็นพี่น้องกันอีก  แต่ไม่ได้อธิษฐานให้เกิดมาเป็น “ฝาแฝดกัน”  แต่จังหวะลงมาเกิด  บุญที่เคยทำกับแม่มาส่งผลพร้อมกัน จึงมาเกิดเป็นฝาแฝดกัน 
 
 
 
 
11. ครอบครัวของลูกเคยเป็น “ครอบครัวธรรมกาย”  ได้สร้างบารมีร่วมกันมา  โดยพุทธันดรที่แล้ว ก็ได้สร้างบารมีกันแบบ “กองเสบียง” ทั้งครอบครัว
 
 
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-06-09.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 20:24
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv