CASE STUDY
ถึงขาจะขาด แต่ไม่ยอมขาดสุรา
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 

 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
    ลูก ถือกำเนิดและเติบโตในรั้วมหาวิทยาลัย ปัจจุบันเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาเต็มตัว ลูกได้มาวัดครั้งแรกตั้งแต่อายุได้ 10 กว่าขวบโดยมี คุณแม่ พามา สมัยนั้นศาลาจาตุมหาราชิกาเพิ่งเริ่มก่อตั้งใหม่ๆ ปัจจุบันทั้งคุณแม่พี่น้องของลูก รวมทั้งหลานๆ ต่างก็ได้มาสร้างบารมี ที่วัดพระธรรมกายกันทั้งครอบครัว ได้ติดจานดาวธรรม และได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรแนะนำคนที่รู้จักให้ติดจาน ลูกมีเรื่องอยากกราบขอความเมตตาพระเดชพระคุณคุณครูไม่ใหญ่ฝันในฝันเรื่องครอบครัวของลูกดังนี้ค่ะ
 
    คุณพ่อของลูก ท่านเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ปกติของท่านจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีเป็นห่วงเป็นใยลูกศิษย์มาก บางทีลูกศิษย์มีปัญหาจะเลิกเรียน คุณพ่อก็จะตามไปพูดให้กำลังใจ จนเขากลับมาเรียนจนจบ ได้ดีไปหลายคน  คุณพ่อมีอัธยาศัยรักเพื่อนมาก  จะให้ความสำคัญกับเพื่อนมากกว่าครอบครัว ถ้ามีใครมาขออะไร  ถ้ามี ก็จะให้ทุกราย  แม้ของสิ่งนั้นจะเป็นของรักของลูกเมียก็ตาม  คุณพ่อจึงเป็นที่รักของเพื่อนและลูกศิษย์ทั้งหลาย ประมาณปี พ.ศ.2500 คุณพ่อก็พาครอบครัวมาปลูกบ้านพักอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย อยู่ได้ไม่นาน  วันหนึ่งมีงูเผือกเลื้อยเข้ามาในบ้าน  คุณพ่อและเพื่อนสนิทของท่านได้พากันจับแล้วนำไปขาย ต่อมาไม่นาน วันหนึ่งคุณพ่อกับเพื่อนสนิทคนนั้น ก็ได้พากันดื่มเหล้า ในวันรับน้องใหม่ของมหาวิทยาลัย ด้วยความกลัวว่าน้องใหม่เฟรชชี่ปี 1 จะหิว คุณพ่อและเพื่อนจึงรับอาสาขับรถไปซื้ออาหารเย็นมาให้ โดยมีเพื่อนของพ่อเป็นคนขับ เนื่องจากความรีบร้อนบวกกับความเมาจึงเกิดความประมาท ขับรถด้วยความเร็ว พอถึงทางโค้งเป็นเหตุให้รถเสียหลักได้พลิกคว่ำมาด้านที่คุณพ่อนั่ง รถทับขาซ้ายของพ่อจนกระดูกแตก  แต่เพื่อนของพ่อไม่เป็นอะไรเลย ต่อมาแผลเน่าลามถึงโคนขา  ทำให้ต้องตัดขาซ้ายเกือบทั้งหมด  เหลือแค่โคนขาประมาณ 1 ฟุต ซึ่งขณะนั้นลูกอายุได้เพียง 1 ขวบ พี่สาวคนโตอายุ 3 ขวบ  และน้องสาวยังอยู่ในท้องแม่ได้ 4 เดือน 
 
    หลังผ่าตัดคุณพ่อต้องฉีดแพททีดีน ซึ่งเป็นสารเสพติดอย่างแรงช่วยระงับอาการปวดจากพิษบาดแผล จนทำให้ท่านติดสารแพททีดีน ต้องฉีดวันละ 2-3 เข็ม ถ้าไม่ได้ฉีดยานี้  พ่อจะนอนไม่หลับและจะอ้อนวอนขอให้ฉีดให้ เป็นที่น่าสงสารมาก จนหมอรู้จึงพยายามลดยาและให้คนไข้ทำใจเลิกให้ได้ พ่อต้องเปลี่ยนมากินยาพาราแทน แม้จะระงับอาการปวดไม่ได้ดีเท่าสารแพททีดีน แต่ก็ต้องกิน แม้แผลที่ผ่าตัดจะหาย แต่เส้นประสาทภายในไม่หาย  ส่งผลให้พ่อเจ็บปวดทรมานที่ปลายประสาทขาเป็นระยะๆ คุณพ่อต้องใส่ขาเทียม และยังคงสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัย การที่ต้องสูญเสียขาไปหนึ่งข้าง พ่อท่านเสียใจมาก ประกอบกับอาการเจ็บปวดทรมานที่ปลายประสาทขา  ทำให้พ่อหันมาดื่มเหล้า เพื่อดับทุกข์  เวลาพ่อเมามักจะคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง   โดยการกระโดดน้ำ ที่คลองหลังบ้าน จนลูกต้องวิ่งไปตามอาจารย์มาช่วยเกลี้ยกล่อมทุกครั้งจึงสำเร็จ พ่อจะดื่มจนเมา จนคนต้องหามมาส่งที่บ้านเฉลี่ยอาทิตย์ละ 3 วัน พอพ่อเมาสมบัติที่มีอยู่ในตัวก็อันตรธานหายไปหมด เช่นนาฬิกา แว่นตา แม่ซื้อให้เท่าไรก็หายหมด ส่วนเงินในกระเป๋านั้นหายตั้งแต่วันเงินเดือนออก  เพราะพอพ่อเมาก็จะโดนขี้เมาด้วยกันล้วงเอาไป  ถ้าพ่อเมากลับมาไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหนคุณแม่ก็ต้องลุกมารับ พยุงพ่อขึ้นบันได 11 ขั้นด้วยความทุลักทุเล  ถอดขาเทียมออก แล้วก็เช็ดตัวให้ พอพ่อหลับไปได้สักพักก็จะตื่นขึ้นอาละวาด แขนทั้งสองของท่าน รวมทั้งขาอีกข้างที่เหลืออยู่ ก็จะฟาดไปบนที่นอน ปากก็ร้องตะโกนลั่น ตะเบ็งเสียงเหมือนคนวิกลจริต เสียงทุบที่นอน เสียงร้องของพ่อ ดังก้องกังวานไปไกลเผื่อแผ่คนข้างบ้านอีกหลายหลัง จนหมดแรงพ่อจึงหลับไป  กว่าพ่อจะสงบลงได้ก็ใกล้สว่าง ลูกๆเองก็ต้องนอนฟังเสียงของพ่อจนใกล้สว่างจึงจะหลับได้ ทำให้พวกเราต้องตื่นไปโรงเรียนสายเป็นประจำ เวลาคุณครูถามว่าทำไมมาสายคำตอบที่ดีที่สุดของพวกเราตอนนั้นคือ หนูไม่สบายค่ะ เพราะความอายที่จะบอกออกไปตรงๆว่า คุณพ่อเมาอาละวาดเสียงดังจนลูกๆนอนไม่ได้
 
    คุณแม่ ท่านเป็นห่วงคุณพ่อเวลาเมา กลัวจะเกิดอุบัติเหตุ เพราะต้องใส่ขาเทียมทำให้เดินไม่ถนัด แม่จึงไม่อยากให้พ่อไปกินเหล้านอกบ้าน  จึงได้ทำกับแกล้มอร่อยๆ จัดสถานที่รับรองอย่างดี  ให้พ่อได้พาเพื่อนมาดื่มเหล้าที่บ้าน  ทั้งๆที่เงินก็ไม่ค่อยจะมี ทั้งเพื่อนๆและนิสิตทั้งหลายของพ่อ  ต่างก็พากันนำเหล้าหลากหลายยี่ห้อมาให้พ่อที่บ้าน พอดื่มจนเมาได้ที่ พ่อก็จะเอะอะโวยวายเสียงดังลั่น และอาเจียนราดลงบนพื้นบ้าน ส่งกลิ่น ทั้งเหม็น ทั้งคาว ตลอดทั้งคืน  คุณแม่เห็นว่าไม่มีอะไรดีขึ้น  นอกจากทำความรำคาญให้คนในครอบครัวและคนบ้านใกล้เรือนเคียง คุณแม่จึงเลิกทำกับแกล้มให้ ปล่อยให้คุณพ่อไปกินเหล้านอกบ้านตามเดิม
 
    สุขภาพของพ่อถูกทำลายทีละน้อยจนหมดแรง แม่พาไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล  พ่อก็ไปสร้างวีรกรรมไว้ แอบนำเหล้าติดตัวเข้าไปในห้องคนไข้ แล้วนำไปแจกจ่ายแก่คนไข้  จนหมอจับได้  หมอจึงบอกเลิกการรักษา ให้กลับไปรักษาเองที่บ้าน แม่เคยเอายาเบื่อเหล้า ผสมน้ำให้พ่อดื่ม  พ่อดื่มแล้วอาเจียนปางตาย บางครั้งไม่อยากให้พ่อออกไปกินเหล้า แม่ต้องใช้ไขควงแกะขาเทียมของพ่อ ให้หลุดออกเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปซ่อน
 
    เวลาพ่อเมาคนมักจะฉวยโอกาส ให้ท่านเซ็นค้ำประกันต่างๆให้ เช่น มีคนหนึ่งให้ท่านเซ็นค้ำประกันซื้อรถมอเตอร์ไซด์แล้วเขาก็ไม่ส่งต่อ จนแม่ต้องออกอุบายให้ทางบริษัทมายึดคืน และครั้งสำคัญคือพ่อได้ไปเซ็นค้ำประกันการเข้าทำงานในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อเขาได้เข้าทำงานแล้วก็ไปขโมยของในห้าง พ่อในฐานะผู้ค้ำประกันพ่อต้องถูกฟ้องร้องมาถึงมหาวิทยาลัย สร้างความอับอายให้กับครอบครัวเป็นอย่างมากโดยเฉพาะคุณแม่ เพราะท่านก็ทำงานเป็นประชาสัมพันธ์อยู่ในมหาวิทยาลัยนั้นด้วย พ่อต้องรับผิดชอบหนี้สินแทน ถูกหักเงินเดือนทุกเดือน จนลูกๆเหลือเพียงลูกชิ้นคนละไม้ เป็นกับข้าวในแต่ละมื้อ  บางวันก็เอากะปิมาต้มกับน้ำคลุกข้าวกิน
 
    ช่วงสุดท้ายของชีวิตพ่อ วันหนึ่งท่านดื่มเหล้าเมา ล้มศีรษะกระแทกพื้นในที่ทำงาน เลือดคั่งในสมอง จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตลงด้วยวัย 56 ปี  รวมระยะเวลาทั้งหมดที่พ่อดื่มเหล้า  25 ปี หลังจากที่คุณพ่อเสียชีวิต เงินบำเหน็จที่ได้ก็ต้องนำมาใช้หนี้จนหมด
 
    คุณยายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณแม่  ครอบครัวของท่านตอนแรกไม่ยอมรับวัดพระธรรมกาย คุณแม่ชวนให้ติดจานเท่าไรก็ไม่ยอม เพราะเห็นการก่อสร้างของวัดพระธรรมกายไม่เหมือนวัดทั่วๆไป จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณยาย ป่วยเป็นอัมพาต และต่อมา ลูกชายของท่าน ก็เป็นอัมพาตอีกคน สาเหตุจากความดันโลหิตสูงและเคยดื่มสุรามาก่อนจึงทำให้เส้นเลือดในสมองแตก และต่อมา ลูกสาวคนโตของคุณยาย ก็ป่วยเป็นเนื้องอกที่กระดูกสันหลังตรงบริเวณต้นคอ ทั้งสามคนต้องผ่าตัดหมด หลังออกจากโรงพยาบาลก็ไปไหนไม่ได้ต้องนอนอยู่กับบ้าน คุณแม่จึงถือโอกาสเอาจานไปติดให้ พอครอบครัวนี้ได้ดูก็เข้าใจและยอมรับในกฎแห่งกรรมที่หลวงพ่อสอน เวลาทางวัดมีบุญอะไรก็จะโทรให้ไปรับปัจจัยมาทำบุญให้
 
คำถามมีดังนี้ค่ะ
 
1. บุพกรรมใดที่ทำให้คุณพ่อถูกตัดขา และต้องเจ็บปวดทรมานที่ปลายเส้นประสาทขาอยู่ตลอดชีวิต เกี่ยวข้องกับการจับงูเผือกในเกษตรกับเพื่อนหรือไม่
 
2. คุณพ่อของลูกตายแล้วไปไหน ตอนเสียชีวิตใหม่ๆ ลูกฝันว่า คุณพ่อกลับมานั่งที่เตียงของท่าน เปิดหนังสือที่ลูกทำเตรียมแจกงานศพ หน้าที่มีรูปท่านแต่งชุดปริญญา แล้วท่านร้องไห้  พ่อมาจริงหรือเปล่าคะ  พ่อเป็นอย่างไรบ้าง
 
3. รูปถ่ายในงานรดน้ำศพคุณพ่อ  ปรากฏมีเงาดำค่อยๆเคลื่อนผ่านเข้ามา ๆ จนคลุมร่างพ่อมืดสนิท  และผ่านร่างคุณพ่อออกไป   เงาดำที่เห็นจากรูปถ่ายในวันรดน้ำศพพ่อ คืออะไรคะ   เป็นคุณพ่อมาดูศพของท่านหรือไม่คะ
 
4. ลูกทำบุญอธิษฐานจิตอุทิศให้คุณพ่ออยู่บ่อยๆ บางครั้งเขียนชื่อท่าน บางครั้งไม่ได้เขียนชื่อท่าน อุทิศให้อย่างเดียว ผลบุญจะแตกต่างกันอย่างไรคะ ต้องเขียนชื่อ  นามสกุล คุณพ่อทุกครั้ง บุญจึงจะส่งถึงท่าน  แน่นอนกว่าไม่เขียนชื่อ  ใช่ไหมคะ
 
5. บุญที่หลานชายคนโต หลานชายคนเล็กได้บวชช่วงสั้นให้  รวมทั้งบุญที่ลูกและน้องสาวช่วยกันสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวบนเจดีย์ให้คุณพ่อ ท่านได้รับหรือไม่คะ มีบุญใดส่งถึงท่านได้อีกคะ 
 
6. คุณยายและลูกชายทำกรรมใดมาจึงป่วยเป็นอัมพาตไปไหนไม่ได้  จะแก้ไขได้อย่างไรคะ
 
7. ลูกสาวคนโตของคุณยายทำกรรมใดมาจึงป่วยเป็นโรคเนื้องอกที่กระดูกต้นคอ ทำอย่างไรจะหายคะ
 
8. กลางดึกคืนหนึ่งคุณแม่ลงมารับพ่อขึ้นบ้าน ท่านพยุงไม่ไหวจึงเรียกลูกกับพี่สาวลงมาเอา เมื่อลูกลงมาเห็นพ่อนอนอยู่กับพื้น มีผู้ชายนั่งอยู่ด้วย ลูกจึงขึ้นไปบอกแม่ว่ามีผู้ชายอยู่ด้วย คุณแม่ทราบทันทีว่าเป็นผีเพราะตอนที่แม่ลงมาไม่มีใครและบ้านก็ปิดหมดแล้ว   ที่ลูกเห็นนั้นเป็นวิญญาณของใครคะ
 
9. เมื่อเดือนมีนาคม ปี 48 คุณแม่ท้องเสีย อาเจียน ลำไส้อักเสบอย่างแรง  ลูกๆได้พาไปรักษา  แต่คุณแม่มีประวัติแพ้ยาเกือบทุกชนิด จนเหลือยาตัวสุดท้ายที่จำเป็นต่อการรักษา คุณหมอได้ใช้ยานั้นและคุณแม่ก็แพ้ยาตัวสุดท้ายนั้น มีอาการผิวหนังที่หลังมือไหม้เกรียมทั้งสองข้าง และเป็นจ้ำเลือดตลอดแขน ริมฝีปากบวมพองเหมือนโดนน้ำร้อนลวก เป็นเพราะวิบากกรรมใดคะคุณแม่จึงแพ้ยาเกือบทุกชนิดทำให้รักษาได้ยาก และมีผลจากการแพ้ยาจนผิวหนังไหม้เกรียม ริมฝีปากบวมพอง จะแก้ไขให้หนักเป็นเบาได้อย่างไรคะ  
 
10. ทำไมคุณแม่จึงไม่ได้รับมรดกจากตระกูลของท่าน เช่น  บ้าน ที่ดิน   ทั้งที่น่าจะเป็นของท่าน
 
11. บุพกรรมใดที่ทำให้คุณแม่และลูกๆมีคุณพ่อพิการ ติดสุรา และมีฐานะยากจน เราเคยเกี่ยวพันกันมาอย่างไรในอดีตชาติจึงมาเกิดร่วมกันคะ
 
12. คุณแม่ ตัวลูกเองและน้องสาว  และหลานชายทั้ง 2 คน เคยสร้างบุญร่วมกับหมู่คณะมาอย่างไรคะ
              
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. คุณพ่อถูก “ตัดขา”  และต้องเจ็บปวดทรมานที่ปลายเส้นประสาทขาตลอดชีวิต  เพราะ  ...กรรมในอดีต ท่านชอบมีนิสัย “ชอบล่าสัตว์” เป็นเกมส์กีฬาและเอามาทำกับแกล้ม
 
 
 
 
2. ตอนตายใหม่ ๆ ก็วนเวียนอยู่ 7 วัน  ได้กลับมาที่เตียงนอนของท่านจริง  คล้ายวันที่ลูกฝัน , ภายหลังจากนั้นก็ถูกเจ้าหน้าที่พาตัวไป “ยมโลก”
 
 
 
 
 
3. เงาดำที่เห็นจากรูปภาพถ่าย ในวันรดน้ำศพพ่อ คือ กายละเอียดของท่าน ที่มาในงานศพเพื่อดูร่างของท่านที่ตาย   ด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองตายแล้วจ่ะ!
 
 
4. ลูกทำบุญแล้วอธิษฐานจิตให้คุณพ่อบ่อย ๆ แล้วเขียน  ชื่อท่านใส่ไปให้จะดีกว่าไม่เขียน  เพราะพระท่านจะได้อ่านชื่อแล้วรวมใจอุทิศจิตไปให้ท่านอีกแรงหนึ่งจ่ะ!  
 
 
 
 
5. บุญที่หลานชายคนโต  และหลานชายคนเล็กบวช “ช่วงสั้น” อุทิศให้   และบุญที่ลูกและน้องสาวสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว อุทิศไปให้ท่านนั้น   ท่านก็ได้รับทุกบุญ   ก็ไปตัดรอนวิบากกรรมใน “ยมโลก” ให้สั้นลงไปอีก , ก็ให้ทำต่อไปอีกจ่ะ! จนกว่าท่าน จะพ้นจากทัณฑ์ทรมานจ่ะ!
 
 
6. คุณยายป่วยเป็น “อัมพาต” เพราะฆ่าสัตว์ทำอาหาร ทั้งอดีตและปัจจุบันมาส่งผลจ่ะ!  
 
 
 
 
 
 
7. ลูกสาวคนโตของยาย  เป็น “เนื้องอกที่กระดูกต้นคอ” เพราะกรรมในอดีต  ในชาติที่เกิดในสังคมเกษตรกรรม  มักจะเทียมแอกที่คอวัว แล้วให้บรรทุกของหนัก ๆ ในเกวียน   เพื่อให้วัวลากไป  
 
 
 
 
 
 
8. กลางดึกคืนหนึ่ง   คุณแม่ลงมารับคุณพ่อที่ข้างล่าง เพื่อช่วยกันพยุงขึ้นบ้าน ได้เรียกลูกและพี่สาวลงมาช่วย ,  เมื่อลูกลงมาเห็นพ่อนอนอยู่กับพื้น   มี “ผู้ชาย” นั่งอยู่ด้วย  ทั้ง ๆ ที่บ้านก็ปิดหมดแล้ว  
 
 
 
 
9. คุณแม่ท้องเสีย , อาเจียน ลำไส้อักเสบอย่างแรง  และ “แพ้ยา” ที่คุณหมอให้มา จนมีอาการ “ผิวหนังที่หลังมือไหม้เกรียมทั้ง 2 ข้าง , และเป็นจ้ำเลือดตลอดแขน ,  ริมฝีปากบวมพองเหมือนโดนน้ำร้อนลวก” 
 
 
 
 
 
 
 

 
 
10. ที่มีฐานะยากจน  เพราะกรรม “ตระหนี่” ในชาติที่ผ่านมา จึงเป็นเหตุให้ทำทานมาน้อย 
 
 
11. ลูกทำธุรกิจแม้ขายหมด แต่ก็เป็นหนี้ เพราะทานในอดีตหย่อนด้วยความตระหนี่  ...และกรรมในอดีตเวลาทำมาค้าขาย ไม่ว่าจะเป็นที่ดินหรือสินค้าใด ๆ ก็ตาม มักจะกดราคาผู้ขายที่กำลังลำบาก เพื่อให้ขายของในราคาถูก 
 
 
 
 

 

 
 
 
12. คุณแม่ , ตัวลูก , น้องสาวและหลายชาย   ก็เป็น “กองเสบียง” ของหมู่คณะมา 
 
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-07-02.html
เมื่อ 23 กรกฎาคม 2567 12:43
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv