CASE STUDY
บุญเท่านั้นที่ช่วยได้
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
    ลูก เข้าวัดเมื่อปี พ.ศ. 2540 โดยมีน้าชายเป็นกัลยาณมิตร ลูกขอสารภาพตามตรงค่ะ ว่าก่อนเข้าวัดลูกเป็นคนที่ไม่ชอบไปวัด ไม่ใช่เฉพาะวัดพระธรรมกายค่ะ แม้วัดอื่น ๆ ลูกก็ไม่อยากไป เพราะไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องบุญบาปสักเท่าไหร่ อย่าว่าแต่จะให้เข้าวัดเลยค่ะ แม้แต่ทำบุญก็แทบจะนับครั้งได้ โดยส่วนตัวลูกเป็นคนที่เชื่อหลักเหตุและผลเพราะเรียนสายวิทยาศาสตร์มาจนกระทั่งจบแพทย์ ทำให้ลูกเชื่อว่า สิ่งที่เราสามารถพิสูจน์ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 จึงจะเชื่อถือได้  ลูกจึงไม่คิดอะไรมาก ขอแค่ได้ใช้ชีวิตสนุกสนานไปวันต่อวัน พอเลิกงานแต่ละวันก็ออกเที่ยวเตร่เฮฮากับเพื่อนฝูง
 
    แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตของลูกก็เปลี่ยนไป ขณะนั้นเป็นช่วงกลางปี 2539 ขณะที่ลูกกำลังเรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง อยู่ดีๆ ลูกก็มีอาการปวดหลังโดยไม่ทราบสาเหตุ ความเจ็บปวดทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ จนขยับตัวเดินไปมาแทบไม่ไหว นอกจากทรมานกายแล้วก็ยิ่งทรมานใจมากขึ้น เพราะจากที่เคยเป็นหมอรักษาคนไข้ ก็กลับมาเป็นคนไข้เสียเอง ต่อมาลูกได้รับการตรวจพบว่าเป็นเพราะ หมอนรองกระดูกกดทับบริเวณเส้นประสาท แต่ลูกก็ยังเชื่อมั่นอยู่ลึกๆ ว่าความก้าวหน้าของการแพทย์สมัยใหม่น่าจะพอมีทางรักษาให้หายได้ ลูกจึงพยายามรักษาตัวด้วยยาแผนปัจจุบันและทำกายภาพบำบัด ต้องทนทรมานอยู่บนเตียงผู้ป่วยนานถึง 6 เดือน แต่สุดท้ายก็ยังไม่หายอยู่ดี  จึงตัดสินใจผ่าตัด ผลปรากฏว่าอาการปวดหลังหายไป แต่ยังไม่ถึงสัปดาห์ ก็เกิดอาการใหม่รุนแรงยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า คราวนี้ไม่ใช่ปวดที่หลัง แต่เปลี่ยนมาปวดแสบปวดร้อนที่บริเวณขาขวาแทน แพทย์หลายสาขาสรุปว่าเป็นเพราะ พังผืดรัดรากประสาทไขสันหลัง ลูกต้องทานยาทุกวัน แต่ยังไม่ทันไรก็เกิดอาการแพ้ยา ปากเริ่มไหม้เหมือนถูกน้ำร้อนลวกปาก ร้อนผ่าวไปจนถึงหลอดอาหาร ทานได้แต่นมอย่างเดียว จนทำให้ลูกซูบซีดผ่ายผอมลงไปมาก
 
    ต่อมาลูกจึงเปลี่ยนมารักษาด้วยวิธีฉีดสเตอร์ลอยด์เข้าทางช่องไขสันหลัง แต่โชคร้ายเหลือเกินค่ะ เพราะคราวนี้น้ำไขสันหลังเกิดรั่วขึ้นมากะทันหัน ทำให้ลูกปวดศีรษะอย่างหนักเหมือนถูกกระชากสมองออกมา ลูกต้องพยายามนอนนิ่งๆ ตั้งแต่ 10โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น เพราะหากขยับตัวเพียงนิดเดียว ก็จะปวดแปล๊บทันที ภายหลังหมอให้น้ำเกลือได้ 6 ขวด อาการปวดศีรษะก็หายไป เหลือแต่อาการปวดขาที่ยังทรมานเหลือเกิน
 
    หมอบอกกับลูกสั้น ๆ ว่า “ให้ทนปวดขาอย่างนี้ไปสัก 10 ปี”  แต่ไม่หายหรอกนะคะ  หมอบอกว่า “แล้วอีกหน่อยก็จะชินไปเอง” ทันทีที่หมอพูดจบ ลูกอึ้งไปครู่ใหญ่ ตอนนั้นลูกรู้สึกรับไม่ได้ เพราะเหมือนความหวังที่อยากกลับไปมีชีวิตเป็นปกติ ต้องมาพังครืนลงต่อหน้าต่อตา ลูกตัดพ้อกับตัวเองว่า ทำไมเรื่องร้าย ๆ ต้องมาเกิดกับเราด้วย  ผ่าตัดกี่ทีก็ไม่หาย ฉีดยาเข้าไขสันหลัง น้ำไขสันหลังก็รั่ว กินยาก็แพ้ยา ทำยังไง ๆ ก็ยังไม่หาย จนลูกท้อใจว่า “นี่ขนาดเราเป็นหมอแท้ๆ  ยังช่วยตัวเองไม่รอดเลย แล้วใครล่ะจะช่วยเราได้”
 
    เดชะบุญ...วันหนึ่งน้าชายก็มาเยี่ยมลูกถึงที่บ้านด้วยความเป็นห่วง จู่ๆน้าชายพูดขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า “สงสัยบุญจะหมดแล้ว” คำนี้กระทบใจลูกอย่างแรง จนทำให้ลูกแปลกใจว่า “เอ๊ะ! บุญหมด...มีด้วยหรือ?”  ลูกเก็บคำพูดประโยคนั้นมาคิดทบทวน จนเริ่มเกิดความคิดว่า “หรือว่าบุญจะช่วยเราได้จริงๆ” พอคิดได้เท่านั้นใจของลูกก็เริ่มเปิด คิดว่าถึงอย่างไรก็ต้องให้โอกาสตัวเองลองมาพิสูจน์ดูก่อน แล้วลูกก็ตัดสินใจมาวัดพระธรรมกายเป็นครั้งแรก มาร่วมงานอัญเชิญพระบรมพุทธเจ้า พอลูกเริ่มทดลองฝึกสมาธิ ก็รู้สึกใจสงบขึ้นมากค่ะ ตั้งแต่นั้นมา ลูกก็ทำสมาธิเป็นประจำทุกวันมิได้ขาด และยังตั้งใจว่าจะรักษาศีล 8 ให้ได้ตลอด ลูกได้สั่งสมบุญทุกบุญและยังได้หน้าที่ผู้นำบุญอย่างเต็มที่ เพราะเชื่อว่าบุญต้องช่วยเราได้
 
    แล้วความอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เพราะหลังจากนั้นเพียงปีเดียว สุขภาพของลูกเริ่มดีขึ้น อาการต่างๆ ที่มีอยู่ก็ค่อยๆ หายไป โดยที่ลูกไม่ต้องทำกายภาพบำบัดเลย อัศจรรย์จนหมอที่เคยผ่าตัด  ถึงกับงง พูดได้คำเดียวว่า “เดชะบุญ...ที่เธอรอดมาได้” ตอนนี้อาการป่วยของลูกหายเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ ปัจจุบันลูกกลับมาเป็นหมอรักษาคนไข้ได้ตามปกติ ลูกเชื่อมั่นว่า ทั้งหมดนี้คืออานุภาพของบุญอย่างแน่นอนค่ะ เพราะลูกได้ประจักษ์กับตนเองแล้วว่า “บุญเท่านั้นที่ช่วยเราได้จริงๆ” 
 
    อากงและอาม่า มาจากเมืองจีนแล้วก่อร่างสร้างตัวจากเสื่อผืนหมอนใบ จนได้มีธุรกิจร้านค้าเป็นของตนเอง   และ เตี่ยของลูก ได้เกิดอยู่ที่จังหวัดสระบุรี  ต่อมาเมื่อเตี่ยโตขึ้นก็แยกตัวจากอากงอาม่ามาตั้งร้านชำอยู่ที่ จังหวัดลพบุรี  มีคติประจำร้านตามที่อากงสอนไว้ว่า “ไม่ขายเหล้า ไม่ขายน้ำเมาทุกชนิด” และห้ามเล่นการพนันต่างๆ  แต่สิ่งอย่างอื่นที่น่าจะเลิกขายก็ยังมีอยู่อีก พอเตี่ยได้ดูจานดาวธรรม ก็ค่อยๆ ตัดใจเลิกขายทีละอย่าง แรกสุดเลิกขายยาฉีดยุงก่อน ต่อมาเลิกขายบุหรี่ ทั้งๆ ที่ร้านของเตี่ยขายส่งบุหรี่เป็นรายใหญ่และทำกำไรได้ดีมาก  ต่อมาเตี่ยก็เลิกขายยาเส้น  ส่วนล็อตเตอรี่นั้นยังขายส่งอยู่บ้าง เตี่ยอ้างเหตุผลว่า เป็นล็อตเตอรี่รัฐบาลไม่ใช่หวยใต้ดิน  เตี่ยเคยต้องผ่าตัดถึง 4 ครั้ง ครั้งแรกผ่าเอานิ่วพร้อมไตข้างซ้ายออก  ห้าปีต่อมาผ่าเอานิ่วในไตข้างขวาออก แล้วครั้งที่สามก็เอานิ่วในกระเพาะอาหารออก พอครั้งสุดท้ายเมื่อต้นปี 48  ก็ต้องมาผ่าตัดไส้เลื่อนอีก  ปัจจุบันเตี่ยเป็นโรคเกาต์ปวดตามข้อ และหัวใจเต้นไม่ปกติ  ปัจจุบันเตี่ยอายุ 70 ปีแล้ว 
 
    อาผู้ชายคนที่ 4 ของลูก ทำอาชีพค้าขายพืชไร่และปล่อยกู้ให้ชาวไร่ อาเป็นผู้ใหญ่บ้านและยังได้รับรางวัลคุณพ่อตัวอย่าง อามีที่ดินอยู่หลายแปลง อยู่มาวันหนึ่ง อาต้องการจะปรับที่ดิน จึงได้ตัดต้นโพธิ์ทิ้งจนเหลือแต่ตอ แต่ปรากฏว่าต้นโพธิ์ไม่ยอมตาย กลับแตกใบขึ้นมาอีก อาก็เลยเผาต้นโพธิ์ต้นนั้นทันที ต่อมา อาก็ล้มป่วยและเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว ชาวบ้านพากันโจษจันว่า สาเหตุที่ทำให้อาล้มป่วยจนเสียชีวิตก็เพราะเผาต้นโพธิ์นี่แหละ
 
    อาผู้ชายคนที่ 5 เปิดร้านขายของชำ เป็นคนไม่เชื่อเรื่องบุญ แม้แต่ไหว้เจ้าก็ไม่สนใจ เมื่อก่อนชอบดื่มเหล้าเข้าสังคม ปัจจุบันเลิกแล้ว เพราะป่วยเป็นโรคพากินสันมา 10 กว่าปี ภรรยาของอาคนนี้ รักการทำบุญและศรัทธาในวัดพระธรรมกายมากค่ะ เธอเคยเล่าให้ฟังว่า หลังจากนั่งสมาธิก่อนล้มตัวลงนอน บ่อยครั้งจะเห็นดวงสว่างเต็มไปหมด
 
    พี่สาวคนโตของลูก แต่งงานได้ไม่ทันไร ก็หย่า เพราะ พี่เขย ติดอบายมุขสารพัดอย่าง ทั้งดื่มเหล้าเจ้าชู้ เที่ยวกลางคืนและเล่นการพนัน นอกจากพี่เขยจะไม่เอาใจใส่การงานแล้ว ยังทิ้งให้พี่สาวดูแลลูกๆ ตามลำพัง พี่สาวพยายามประกอบอาชีพใด ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ ทุกวันนี้ก็ยังต้องแบกรับภาระหนี้สินที่พี่เขยทิ้งไว้ให้ค่ะ
 
คำถาม
 
1. ลูกมีวิบากกรรมใดจึงเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท พังผืดรัดรากประสาทไขสันหลัง   และมีอาการแทรกซ้อนหลายอย่าง แม้จะรักษาด้วยการแพทย์สมัยใหม่อย่างไรก็ไม่หาย แต่หายได้เพราะบุญ  ลูกได้ทำบุญอะไรเป็นหลัก จึงทำให้หายป่วยเป็นอัศจรรย์คะ   ลูกจะต้องทำบุญใด จึงจะไม่เป็นอย่างนี้อีกในภพชาติต่อไปคะ  เพราะลูกเข็ดเหลือเกินค่ะ  
 
2. เหตุใดก่อนเข้าวัดลูกจึงเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องบุญคะ เพราะเหตุใดคำพูดของน้าชายจึงทำให้ลูกสะดุดใจและเปิดใจมาวัดได้ 
 
3. เหตุใดอากงและอาม่าถึงมีอายุยืน โดยเฉพาะอากงอายุยืนถึง 103 ปี ส่วนอาม่าอายุ 86 ปี บุญอะไรทำให้ท่านทั้งสองจากที่มีสภาพเสื่อผืนหมอนใบสามารถตั้งตัวได้จนกระทั่งมีร้านค้าเป็นของตนเอง อากงและอาม่าตายแล้วไปไหนคะ ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่คะ
 
4. เตี่ยของลูกต้องผ่าตัดนิ่วถึง 3 ครั้ง และไส้เลื่อนอีก 1 ครั้ง เป็นโรคเกาต์และหัวใจเต้นผิดจังหวะ เพราะวิบากกรรมใดคะ เตี่ยเลิกขายยาฉีดยุง บุหรี่และยาเส้น แต่ยังขายล๊อตเตอรี่อยู่ จะส่งผลให้มีวิบากกรรมอย่างไรคะ
 
5. อาผู้ชายคนที่ 4 มีวิบากกรรมใดจึงป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ตายแล้วมีคติเป็นอย่างไร อาได้รับบุญที่ลูกอุทิศไปให้หรือไม่คะ
 
6. จริงไหมคะที่อาคนที่ 4 มาตายเพราะกรรมที่เผาต้นโพธิ์  ต้นโพธิ์ทุกต้นมีความศักดิ์สิทธิ์เหมือนกันหรือไม่อย่างไรคะ   หากมีความจำเป็นต้องตัดโค่นต้นโพธิ์ควรกระทำอย่างไร  เหตุใดการบูชาพระพุทธเจ้าผ่านต้นโพธิ์จึงได้บุญมาก แล้วหากบูชาผ่านต้นไม้ที่เป็นต้นไม้ตรัสรู้ธรรมของพระพุทธเจ้าพระองค์อื่นๆ จะได้รับบุญเหมือนกันหรือไม่คะ
 
7. อาผู้ชายคนที่ 5 มีวิบากกรรมใดจึงป่วยเป็นโรคพากินสัน จะแก้ไขได้อย่างไรคะ แล้วชาตินี้จะมีสิทธิ์หายป่วยไหมคะ  ดวงสว่างที่อาผู้หญิงเห็นก่อนนอน เป็นดวงอะไร  ควรทำอย่างไรต่อไปคะ  อาทั้งสองเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะหรือไม่คะ
 
8. พี่สาวคนโตมีวิบากกรรมใดคะจึงประสบปัญหาครอบครัวและมีหนี้สินพะรุงพะรัง  ไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพที่ทำ  และไม่มีความเชื่อมั่นในตนเอง   เป็นเพราะวิบากกรรมใดคะ จะแก้ไขได้อย่างไร
 
9. พี่สาวคนรองมีวิบากกรรมใดจึงเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ และวิบากกรรมใดเธอจึงปวดประจำเดือนอย่างรุนแรงทุกครั้ง โดยตรวจไม่พบความผิดปกติใด ๆ จะแก้ไขได้อย่างไร  ต้องสั่งสมบุญอะไรจึงจะหายขาดคะ พี่สาวคนนี้ตั้งใจรักษาศีล 8 มาตลอด เธอเคยสร้างบุญมากับหมู่คณะอย่างไรคะ
 
10. น้องสาวคนเล็ก เธอกำลังตกอยู่ในความรัก ลูกเกรงว่าถ้าหากเธอแต่งงานแล้วจะต้องไปอยู่นอกบุญเขตเพราะแม่ของแฟนนับถือศาสนาอิสลาม และโดยส่วนตัวน้องสาวก็เชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี และก็ไม่จำเป็นต้องไปทำบุญอะไรมากมาย   หากน้องสาวห่างเรื่องการสั่งสมบุญไปเรื่อยๆ  จะมีผลในภพชาติเบื้องหน้าอย่างไรคะ   ลูกจะช่วยเธอได้อย่างไรบ้างคะ
 
11. ลูก  เตี่ยและแม่  เคยสร้างบุญมากับหมู่คณะอย่างไรคะ  ทำไมเตี่ยถึงไม่รักการสร้างบุญเหมือนแม่ค่ะ
 
ลูกขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูง
ที่ได้ให้ความเมตตาต่อลูก ลูกจะขอติดตาม ตามติดสร้างบารมีไปกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อและหมู่คณะ ตลอดไปจนกว่าจะถึงที่สุดแห่งธรรม
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. ลูกเป็นโรค “หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท”  พังผืดรัดรากประสาทกระดูกสันหลัง  และมีอาการแทรกซ้อนหลายอย่าง เพราะ …กรรมในอดีต ในพุทธันดรที่ผ่านมาได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวชในระดับ “ขุนพล”     
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
2. ที่ลูกก่อนเข้าวัดไม่เชื่อเรื่องบุญ   เพราะ ระบบการศึกษา ในปัจจุบันหล่อหลอม  ให้มีความคิดในปัจจุบัน แต่บุญในตัวที่เคยสร้างกับหมู่คณะมา ทำให้สะดุดใจในถ้อยคำของน้าชาย แล้วเป็นเหตุให้เปิดใจมาวัดสร้างบารมีกับหมู่คณะได้จ่ะ!
 
 
3. “อากง” อายุยืน 103 ปี  เพราะ กรรมในอดีตท่านชอบทำบุญ “ด้วยยารักษาโรค”  และชอบแจกอาหารคนยากจนอย่างสม่ำเสมอ บุญนี้ตามมาส่งผลจ่ะ!  
 
 
 
 
 
 
 
4. เตี่ยของลูกมีเศษกรรมเกี่ยวกับการค้า โดยมีหลายครั้งที่เอา “ของเก่ามาปนกับของใหม่”  เพื่อทำให้ขายดีขึ้น เช่น “แป้งเก่า เอามาปนกับแป้งใหม่”  เพื่อให้ของมีปริมาณมากขึ้นและขายได้เยอะขึ้น  ด้วยวิบากกรรมนี้ จึงทำให้เป็น “นิ่วในไตและนิ่วในกระเพาะอาหาร”  
 
 
 
 
 
 
5. อาผู้ชายคนที่ 4 เป็น “มะเร็งในเม็ดเลือดขาว” เพราะ ...กรรมในอดีตเป็น “ผู้ดูแลบ้านส่วย” เพื่อเก็บเงินส่งหลวง   แต่ตนได้ “ยักยอก” เงินส่วยนี้เอาไว้   กรรมนี้ตามมาส่งผลจ่ะ!  
 
 
 
 
6. กับกรรมที่เผาต้นโพธิ์ทิ้ง  ก็ทำให้ต้องไปเฝ้าพื้นที่บริเวณนั้น  ซึ่งอยู่ในที่ดินของตัว  
 
 
 
7. “อาผู้ชาย” คนที่ 5 เป็น “โรคพากินสัน” เพราะเศษกรรมสุราในอดีตตามมาส่งผลจ่ะ!  
 
 
 
 
8. พี่สาวคนโตมีเศษกรรมกาเม จึงทำให้มีปัญหาครอบครัว,  เศษกรรมคบคนพาล   จึงทำให้มีสามีเจ้าชู้และติดอบายมุข , ทานบารมีหย่อนและกรรมคบคนพาล จึงทำให้ต้องมารับหนี้สิน ที่อดีตสามีก่อไว้  และไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต จนขาดความมั่นใจตัวเองจ่ะ!  
 
 
 
9. พี่สาวคนรอง “ไทรอยด์เป็นพิษ”  เพราะ เศษกรรมกาเม จึงทำให้ปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง   และกรรมมักโกรธ,  ผูกโกรธจ่ะ! 
 

 
 
 
10. น้องสาวคนเล็ก  ถ้าไปแต่งงานกับคนศาสนาอื่น  โดยมีความเชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี   ก็จะทำให้ภพชาตินี้ และชาติต่อไป  หลุดออกจากบุญเขตของพระพุทธศาสนาจ่ะ!  
 
 
 
 
11. เตี่ยและแม่  ก็เคยสร้างบุญกับหมู่คณะโดยเป็น “กองเสบียง”  ซึ่งแม่จะเจอหมู่คณะมากกว่าเตี่ย , เพราะบางชาติก็เจอกัน บางชาติก็ไม่เจอ
 
 
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-07-08.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 22:20
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv