CASE  STUDY
ผมถูกใส่ร้าย
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
    ผมกราบขอความเมตตาพระเดชพระคุณหลวงพ่อฝันในฝันดังนี้ครับ
 
    แม่ของผม เป็นคน จังหวัดเพชรบูรณ์  เติบโตมาในครอบครัวเกษตรกรซึ่งมีอาชีพทำไร่ข้าวโพด รายได้พอประทังชีวิตไปวันต่อวัน แม้ว่าแม่จะมีพี่น้องมากถึง 11 คน ซึ่งน่าจะช่วยแบ่งเบางานกันได้บ้าง  แต่แม่ต้องทำงานหนัก และหนักกว่าทุกๆ คน แม่จึงคุ้นเคยกับความลำบากมาตั้งแต่เล็กจนโต แม่เคยเล่าว่า กว่าจะมีที่ดินเป็นของตนเอง ต้องบุกป่าฝ่าดง ถางป่าเพื่อจับจองผืนดินให้ได้มากที่สุด   แม่ถางป่าด้วยกำลังของลูกผู้หญิงได้เนื้อที่ กว่า 50 ไร่   โดยใช้เวลาเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น
 
    แม่เป็นคนขยันขันแข็ง รูปร่างบึกบึนแข็งแรง ถึงจะไม่ใช่คนหน้าตาสะสวยเสียทีเดียว แต่ก็มีหนุ่มๆมาสู่ขอหลายราย พ่อของผมก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน พยายามมาสู่ขอแม่หลายครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้ง จนพ่อทนไม่ไหว แล้ววันหนึ่ง ขณะที่แม่ออกไปปักเบ็ดหาปลาที่ชายคลอง ด้วยฤทธิ์หนุ่มพ่อก็เลยตัดสินใจฉุดแม่ไปอยู่ด้วยกัน  ปีต่อมา แม่ก็ตั้งท้องแรก แต่ยังไม่ทันจะคลอด กระสอบข้าวสารก็บังเอิญร่วงหล่นลงมาทับที่ท้องอย่างแรง โชคดีที่แม่ไม่เป็นอะไร แต่ลูกในท้องตายคาที่   จากนั้นไม่ถึงปี แม่ก็คลอดผมเป็นท้องที่ 2  ถึงแม่จะเลี้ยงผมมาแบบตามมีตามเกิด แต่ก็ยังดีกว่าพ่อที่ก็ไม่เคยสนใจผมเลย เพราะพ่อเอาแต่ดื่มเหล้าเมาทุกวันจนแม่เหนื่อยใจ ถึงคราวคลอดน้องชายคนสุดท้องถัดจากผม แม่ก็เลยแกล้งทำเป็นไม่สนใจ เพื่อประชดพ่อ จนกระทั่งน้องชายผมป่วยหนักและเสียชีวิต สุดท้ายจึงเหลือผมเพียงคนเดียว  แต่พ่อก็ยังไม่เลิกดื่มเหล้า พ่อจึงมีแต่เพื่อนขี้เมาหลายคน ซึ่งนอกจากจะเป็นเพื่อนที่ไม่เคยพึ่งพาอะไรได้แล้ว ตรงข้ามกลับนำแต่เรื่องร้อนใจมาให้เสมอ
 
 ...แล้วต่อมาไม่นาน ก็เกิดเรื่องขึ้นอีกจนได้...
 
    วันหนึ่ง พ่อก็ถูกเพื่อนกล่าวหาว่าแอบไปตีท้ายครัวเขา แต่พ่อปฏิเสธเสียงแข็งว่าหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ได้ทำ  ส่วนแม่ก็เชื่อใจพ่อ แม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าพ่อไม่ได้ทำแน่นอน  เพราะลุงเป็นคนเล่าให้แม่ฟังว่า  ในวันเกิดเหตุ  ผู้หญิงภรรยาของเพื่อนพ่อคนที่ถูกข่มขืนวิ่งมาบอกลุงว่าเธอเพิ่งถูกขืนใจ แล้วเธอก็เล่าเหตุการณ์พร้อมกับบอกชื่อคนร้ายให้เสร็จสรรพ ซึ่งไม่ใช่ใครอื่น ก็คือขี้เมาในกลุ่มเดียวกันกับพ่อนั่นเอง  แต่เรื่องก็ไม่ได้จบลงแค่นั้น   คนร้ายที่ก่อเหตุพยายามพูดใส่ความพ่อหลายครั้ง แล้วยุให้เขาฆ่าพ่อผมเสียเลย ทำให้เพื่อนพ่ออารมณ์ขึ้น ก็เลยตามรังควานพ่อผมอย่างไม่ยอมเลิกรา ถึงขนาดข่มขู่ที่จะปลิดชีวิตพ่อให้ได้   
 
    หนึ่งสัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ เพื่อนของพ่อก็แวะเวียนมาหาแม่ถึงที่บ้าน คว้ากระบอกปืนมาวางไว้บนตักแม่ แล้วขู่ว่าจะฆ่าพ่อ แรกๆ แม่ก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะเห็นว่าเขาเมา แต่ผ่านไปเกือบสัปดาห์  เขาก็ยังมาหาอย่างนี้ทุกวัน จนแม่เริ่มเป็นห่วง จึงบอกพ่อให้หนีไปอยู่ที่อื่นก่อน แต่พ่อก็ยืนยันว่าจะไม่ไปที่ไหนทั้งนั้น เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเอง แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น
 
    วันนั้นพ่อออกไปกินเหล้าเหมือนเคย พอเมาได้ที่ พ่อกับเพื่อนๆ ราว 30 คนไปเล่นพนันข้างบ้านผู้ใหญ่ ขณะที่พ่อกำลังรินเหล้าให้เพื่อนที่นั่งล้อมวงไฮโล ทันใดนั้นเอง เพื่อนของพ่อก็ชักปืนลูกซองสั้นขึ้นมา แล้วลั่นกระสุนเปรี้ยงไปที่ศีรษะของพ่อในระยะเผาขน พ่อถูกยิงเข้าบริเวณตาข้างซ้าย ลูกกระสุนถูกฝังอยู่ในสมอง ผลปรากฏว่าพ่อตายคาที่    ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุข่มขืนแล้วยุให้เพื่อนมายิงพ่อ เขาก็มาหาแม่ที่บ้าน พูดเป็นทำนองเย้ยว่า เขาแค้นที่พ่อผมมาตัดหน้าฉุดแม่ผมไปเสียก่อน จึงหาโอกาสแก้แค้นมานาน แล้วเขาก็ทำได้สำเร็จสมใจแล้ว แม่ผมก็เลยเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้ ที่กลายเป็นต้นเหตุให้พ่อต้องอายุสั้นเพียง 31 ปี
 
    เมื่อกำพร้าพ่อ ชีวิตของแม่กับผมก็ยิ่งลำบากกว่าเดิม บางวันข้าวจะกรอกหม้อก็ยังไม่มี ต้องเก็บน้อยหน่าในสวนหลังบ้านเอาไปแลกกับข้าวสาร เพื่อนบ้านก็ใจดียอมแบ่งข้าวสารให้ด้วยความสงสาร  เวลาที่ไปเรียนหนังสือ ผมไม่มีห่อข้าวไปกินที่โรงเรียน จึงต้องทนหิวแทบทุกวัน เพราะผมสงสารที่แม่ต้องลำบาก แม่ทำงานรับจ้างดายหญ้าทั้งวัน แต่ได้เงินมาเพียงวันละ 30 บาท พอแม่ถามว่า  “แล้วลูกทานข้าวกลางวันที่ไหน” ผมจึงบอกแม่ว่า “เพื่อนห่อข้าวมาเผื่อแล้ว” พอครูถามก็ตอบเลี่ยงไปว่า “ผมกินแล้วครับ” แต่พอเพื่อนชวนกินด้วยกัน ผมก็บอกว่า “ไม่หิว” ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วผมหิวแทบแย่ ผมอดข้าวกลางวันอย่างนี้มานานถึง 4 ปี จนสุดท้ายร่างกายทนไม่ไหว ผมก็เลยถูกหามส่งโรงพยาบาลเพราะป่วยเป็นโรคกระเพาะอักเสบขั้นรุนแรง ต้องนอนพักรักษาตัวเป็นเวลานาน 3 เดือน อาการจึงทุเลาขึ้นครับ
 
    ต่อมา แม่ตัดสินใจไปทำงานที่กรุงเทพฯ โดยทิ้งผมไว้กับป้า ถึงป้าจะรักผมมากแค่ไหนก็คงไม่เท่ากับลูกของป้า ผมต้องช่วยป้าทำไร่ไถนา โดยเฉพาะช่วงเร่งงานมากๆ จะต้องไถตลอดทั้งวัน พอปล่อยให้แรงงานสัตว์ได้พัก ก็จะกลับมาใช้แรงงานคนต่อ โดยป้าจะใช้ให้ผมลากไถแทนวัว ผมทั้งหนักทั้งเหนื่อยแต่ก็ต้องทนฝืนทำไปด้วยความน้อยใจ พอเสร็จงานไถ ผมยังต้องจูงฝูงวัวออกไปกินหญ้าบริเวณทุ่งหญ้าใกล้ๆ  ผมนั่งเฝ้าวัวไปจนบ่ายคล้อย  รอจนตะวันตกดิน  ผมเหม่อมองดูพระอาทิตย์ แต่ในใจกลับครุ่นคิดว่า สักวันหนึ่งผมจะต้องไปจากที่นี่ให้ได้ 
 
    ผมปักใจมั่นว่าถ้าจบ ป. 6 ก็จะไม่ขออยู่กับป้าอีกแล้ว พอเรียนจบ ผมก็ตัดสินใจเข้ามาหางานทำที่กรุงเทพฯ โดยไปสมัครเป็นเด็กฝึกงานในร้านซ่อมรถยนต์   สิ่งแวดล้อมที่นี่ก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิด ผมอยู่ในท่ามกลางเพื่อนฝูงที่ติดอบายมุขทุกรูปแบบ  ทั้งกินเหล้า สูบบุหรี่ ดมกาว แข่งรถ หรือแม้แต่เสพยาอียาบ้า ผมถูกคะยั้นคะยอให้ลองเสพยาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ผมก็กล้าปฏิเสธ  ผมบอกเพื่อนว่า “ยาที่มีอยู่ก็ไม่มาก หาซื้อก็ยาก เงินจะกินข้าวก็แทบจะไม่มี แล้วจะเสพไปทำไม” เพื่อนขี้ยาก็เลยหมดอารมณ์ชวน
 
    ต่อมาไม่นาน คงเป็นเพราะบุญเก่าบันดาลให้ผมได้มาเจอพี่กัลยาณมิตรท่านหนึ่งโดยบังเอิญ เราสองคนคุยกันเรื่องงานอยู่พักใหญ่ แต่สุดท้ายเขากลับเอ่ยปากชวนผมมาบวชที่วัดพระธรรมกาย  พอผมได้ยินว่า จะมีบวชพระ ผมก็รู้สึกดีใจเพราะมันช่างมาพ้องตรงกับใจผม ที่คิดอยู่ในใจเสมอว่า สักวันจะต้องบวชให้แม่ให้ได้ ผมจึงรีบตอบตกลงทันที  พอผมบอกแม่ว่าจะบวชเท่านั้น แม่ก็ดีใจมากเหมือนกับจะรอคอยเวลานี้มานาน แล้วแม่เตือนด้วยความเป็นห่วงว่า “ก่อนลูกจะบวช ให้ระมัดระวังตัวให้ดีนะ โบราณเขาว่า เวลาจะทำบุญใหญ่ มารก็มักจะขวาง” แล้วก็จริงอย่างที่แม่ว่า ก่อนบวชเพียงแค่ไม่กี่วัน ผมก็เสี่ยงตาย จนเกือบจะเอาตัวไม่รอด
 
    เรื่องก็มีอยู่ว่า ปกติผมจะชอบแข่งรถมอเตอร์ไซด์บนถนนทางหลวงมาก   แข่งเพื่อความมันครับ   จนใกล้จะถึงวันเข้าวัด ผมคิดว่า ไหนๆ จะบวชแล้ว ก็ขอทิ้งทวนเป็นคืนสุดท้าย เลยเอามอเตอร์ไซด์ไปแข่งกันบนถนน 3 เลนที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ  แต่ขณะที่รถของผมกำลังวิ่งอยู่เลนกลาง สูสีคู่กันไปกับรถของคู่ท้าชิงซึ่งวิ่งอยู่เลนซ้าย อยู่ดีๆ ก็มีรถมอเตอร์ไซด์คันสีดำวิ่งโผล่มาจากเลนขวา ขับแซงรถของผม จนนำขึ้นไปอยู่ด้านหน้า  ผมยอมไม่ได้ ก็เลยบิดเต็มแรงด้วยเข็มไมล์เกิน 200 เร็วมาก จนชนเข้ากับท้ายรถคันสีดำคันนั้นอย่างจัง รถของผมเสียหลักเอียงไปทางเลนซ้าย ทำท่าจะล้ม แต่ก็เป็นช่วงที่รถของคู่ท้าชิงวิ่งตามมาทันพอดี จึงเสยรถผมให้ตั้งขึ้น ประคองให้ทรงตัวขึ้นมาได้อีกครั้ง แล้วผมก็ค่อยๆ ชะลอจอดบริเวณข้างถนน ยังไม่ทันจะได้หายใจทั่วท้องจากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อสักครู่ แต่แล้วผมก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อพบว่าข้างหน้า มีสิงห์มอเตอร์ไซด์นอนตายอยู่กลางถนนถึง 3 ศพ ซึ่งก็คือเพื่อนชุดแรกที่เพิ่งขับนำหน้าชุดของผมมาก่อนไม่ถึงสิบนาที
 
    เดือนถัดมา ผมก็เลยได้มาบวชธรรมทายาทรุ่นเข้าพรรษา ที่วัดพระธรรมกาย ผมเหมือนได้เกิดใหม่ ได้ครองเพศนักบวชซึ่งเป็นชีวิตที่ต่างไปจากอดีตที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง ระยะเวลา 8 พรรษาของการบวชเป็นพระภิกษุ ณ ที่นี้ ทำให้ผมได้ซาบซึ้งกับคำว่า “บวชสร้างบารมี” จนกระทั่งผมมั่นใจที่จะติดตามคุณครูไม่ใหญ่เรื่อยไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ครับ 
 
คำถาม
 
1. โยมแม่เกิดมาในครอบครัวชาวไร่ ต้องลำบากตั้งแต่เด็ก แล้วยังมาถูกโกงที่ดิน ไม่มีบ้านเป็นของตนเอง จึงต้องย้ายที่อยู่บ่อยๆ เป็นเพราะวิบากกรรมใด จะแก้ได้อย่างไรครับ
 
2. ปัจจุบันโยมแม่อายุ 51 ปี เคยมีอาการปวดหัวอย่างหนัก โดยไม่ทราบสาเหตุ เหมือนมีตัวอะไรมารุมกัดกินสมองและท้อง เป็นเพราะวิบากกรรมใด และตัวที่มารุมกัดกินนั้นคืออะไรครับ โยมแม่ต้องทำบุญอะไรครับ จึงจะอายุยืนและหายขาดในชาตินี้ครับ
 
3. โยมพ่อ  โยมแม่   เพื่อนโยมพ่อที่ยิงโยมพ่อตาย  และคนที่ใส่ร้าย  มีการผูกเวรกันมาข้ามชาติหรือไม่  เหตุใดโยมพ่อจึงมาถูกยิงตายด้วยความเข้าใจผิด โยมพ่อผูกอาฆาตคนที่ยิงหรือไม่ครับ  ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่ผมอุทิศไปให้แล้วหรือยัง มีสภาพอย่างไรครับ ท่านต้องการฝากบอกอะไรถึงผมกับแม่บ้างครับ  
 
4. ผมกำพร้าพ่อตั้งแต่ขวบเศษ พอ 4 ขวบก็เกือบจะถูกรถสิบล้อทับ   ต้องอดมื้อกินมื้อจนเป็นโรคกระเพาะ  ต้องลากไถแทนวัว  ถูกใช้ให้ทำงานหนักไม่ต่างจากแรงงานสัตว์ เป็นเพราะวิบากกรรมใดครับ จะแก้ไขได้อย่างไร
 
5. ในช่วงที่เป็นวัยรุ่น ผมคบแต่เพื่อนที่อยู่ในวงจรอบายมุข จนตัวเองเกือบจะกลายเป็นขี้ยา  ผมบ้ารถแข่งจนเกือบเสียชีวิต  เป็นเพราะบุพกรรมใด   ที่รอดมาได้ ไม่ติดยา ไม่ตายเพราะขับรถซิ่ง  เพราะบุญใด  การแข่งรถมอเตอร์ไซด์ด้วยความคึกคะนองตามประสาวัยรุ่น จะทำให้มีวิบากกรรมอย่างไรทั้งในภพชาตินี้และภพชาติต่อๆ ไปครับ
 
6. ผมแปลกใจว่าผมอายุไม่ถึง 5 ขวบ แต่ก็เริ่มแก่แดด คิดเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เหมือนอย่างกับผู้ใหญ่ และพอโตเป็นวัยรุ่นก็มีเหตุให้ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อยู่บ่อยๆ ทั้งๆที่เคยตั้งใจว่าจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะวิบากกรรมใด จะแก้ไขได้อย่างไรครับ ทำอย่างไรจึงจะไม่มีสิ่งเหล่านี้มาขัดขวางหนทางการสร้างบารมีได้ตลอดไปครับ
 
7. ผมมีปานใหญ่เต็มผืนหลังขยายเกือบเต็มรอบตัว มีอาการปวดตรงข้อบริเวณมือเท้าและแขน รวมทั้งปวดหัว เป็นๆ หายๆ  โดยไม่ทราบสาเหตุ  เป็นเพราะวิบากกรรมอะไร จะแก้ไขได้อย่างไร
 
8. ผมมีเพื่อนสหธรรมิกที่สร้างบารมีร่วมกันมาตั้งแต่บวชจนถึงปัจจุบัน ท่านเป็นคนอารมณ์ดี เบิกบาน แต่ที่ผ่านมา ท่านมีโรคประจำตัวคือเส้นกระตุกตลอดเวลา ล่าสุดป่วยเป็นไข้มาลาเรีย ก่อนนั้นก็ผ่าตัดโรคริดสีดวงทวาร ต้องทานยาระบายและถ่ายหนักทุกๆ 15 นาที เพื่อไล่เชื้อโรค เป็นเพราะมีบุพกรรมใด จะแก้ไขอย่างไรครับ เราสองคนเคยสร้างบารมีร่วมกันมาอย่างไร 
 
9. ผมและโยมแม่เคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร ผมมีหน้าที่อะไรในกองทัพธรรม และมีผลการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไรครับ ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ พอผมได้เห็นผ้าเหลือง ก็รู้สึกว่าอยากจะบวชทันที  เป็นเพราะเหตุใดครับ ผังการบวชของผมหนาแน่นหรือไม่ครับ

 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. โยมแม่เกิดมาในครอบครัวชาวไร่   ต้องลำบากตั้งแต่เด็กแล้วมาถูกโกงที่ดิน ,  ไม่มีบ้านเป็นของตนเอง ,  ต้องย้ายที่อยู่บ่อย ๆ  เพราะ  ...กรรม “ตระหนี่” ในอดีตหลาย ๆ ชาติมารวมกันส่งผล
 
 
 
 
 
 
2. โยมแม่มีอาการปวดหัวอย่างหนัก   เหมือนมีตัวอะไรมากัดกินสมองและท้องเสมอ   เพราะกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารทั้งอดีตและปัจจุบันมาส่งผล   จึงทำให้รู้สึกอาการอย่างนั้น   แต่ก็ไม่ได้มีตัวอะไรมากัดกินจ่ะ!
  
 
 
 
 
3. โยมพ่อ , โยมแม่ , เพื่อนที่ใส่ร้ายและเพื่อนที่ยิงโยมพ่อตาย   ก็เกี่ยวข้องกันมาในอดีต   คล้ายเรื่องราวในปัจจุบันแต่กลับกัน ,  เรื่องมีอยู่ว่า   ชาตินั้นโยมพ่อกับคนที่ใส่ร้ายเป็นเพื่อนกัน   แต่ก็ต้องมาทะเลาะและขัดใจกัน   เพราะแย่งผู้หญิงคนเดียว   แต่ผู้หญิงในชาตินั้นไม่ใช่โยมแม่ในชาตินี้
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
4. ลูก ในพุทธันดรที่ผ่านมา   ได้เป็น “กุลบุตร” พ่อแม่ได้ส่งมาบวชเป็น “สามเณร” ตั้งแต่เด็ก   แต่ไม่ใช่กับหมู่คณะ  จนโตเป็นวัยรุ่น   แต่มีนิสัยเกเร   โดยไม่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม ,  ไม่ชอบอยู่ในระเบียบวินัย   และมักชอบทำนอกเรื่อง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
5. ในวัยรุ่นต้องอยู่ในวงจรคนพาล   และเกือบจะเป็น “สิงห์ขี้ยา”,  บ้าแข่งรถจนเกือบตาย  แต่ไม่ตาย   เพราะ  ...กรรมคบคนพาลในอดีตดังกล่าวมาส่งผล   
 
 
 
 
6. แก่แดดตั้งแต่ 5 ขวบ , ตอนเป็นวัยรุ่นก็ “วุ่นรัก”  ทั้ง ๆ ที่ไม่สนใจ   เพราะ  ... กรรมคบคนพาลและเกเรในอดีต   บันดาลให้มาสู่ในสิ่งแวดล้อมเหล่านี้จ่ะ!  

 
 
 
7. ลูกมี “ปานใหญ่” เกือบเต็มแผ่นหลัง   เพราะ  “วจีกรรม” ที่ตอนเป็นสามเณรได้ตำหนิติเตียนพระภิกษุ   โดยคิดว่าองค์อื่นคงเป็นเหมือนตัวมาส่งผล  

 
 
 
8. เพื่อนสหธรรมิก “เส้นกระตุกตลอดเวลา”   เพราะกรรมในอดีตที่ชอบชกต่อยทะเลาะเบาะแว้ง   เพราะความมักโกรธและ   ขี้หงุดหงิด   ซึ่งเป็นนิสัยตรงกันข้ามกับตอนบวชในชาตินี้ 

 
 

 
 

 
 
 
9. โยมแม่ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะ  โดยบางชาติก็เจอกัน, บางชาติก็ไม่เจอกัน   ดังนั้นจึงพลัดไปลำบาก , กว่าจะมาเจอ        หมู่คณะอีกชีวิตก็สะบักสบอม  

 
 

บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-07-28.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 14:23
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv