CASE STUDY
คิดอย่างนี้ คิดได้ไง,
คริสต์คิดได้...อย่างนี้ไม่คิดได้ไง
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
    คุณพ่อ เป็นคนจีนเกิดที่เมือง ซันดากัน เกาะบอร์เนียวเหนือ  ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศอังกฤษ   คุณย่า เสียชีวิตตั้งแต่คุณพ่อยังเล็กๆ   หลังจากนั้น คุณปู่ ก็แต่งงานใหม่  แล้วคุณปู่ก็ส่งคุณพ่อไปเรียนอยู่กับมิชชันนารี่ที่ประเทศสิงคโปร์ ตั้งแต่อายุ 7 ขวบจนถึงอายุได้ 32 ปี  คุณพ่อจึงออกเดินทางจากสิงคโปร์เพื่อไปอยู่กับ คุณลุง ที่ฮ่องกง  แต่ในระหว่างการเดินทางนั้น คุณพ่อมาแวะพักเยี่ยมเพื่อนที่เป็นกงสุลของสถานทูตอังกฤษในเมืองไทย คุณพ่ออาศัยอยู่ในเมืองไทยเพียงไม่กี่วัน ท่านก็ได้ไปพบ คุณแม่ ซึ่งเป็นช่างทำผมในร้านแห่งหนึ่ง เพียงครั้งแรกที่คุณพ่อพบกับคุณแม่นั้น ท่านก็เกิดความรู้สึกว่ารักแรกพบขึ้นแล้ว ส่วน คุณแม่ ก็มีทีท่าว่าจะชอบคุณพ่อด้วยเหมือนกัน ในที่สุดคุณพ่อก็ไม่รีรอจึงรีบขอคุณแม่แต่งงานทันที     คุณพ่อจึงได้อยู่กับคุณแม่ที่เมืองไทยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
 
    คุณพ่อเริ่มทำงานที่โรงงานยาสูบ ซึ่งเป็นของรัฐบาลอังกฤษเป็นงานแรกในเมืองไทย ต่อมาได้ย้ายไปเป็นหัวหน้าแผนกจ่ายน้ำมันที่บริษัท  Shell ซึ่งเป็นของอังกฤษเช่นกัน   คุณพ่อชอบการล่าสัตว์ทุกชนิด  มีทั้งยิงนก ตกปลา  ที่ทำงานของท่านซึ่งตั้งติดกับแม่น้ำ  มีทั้งนกกระสานกกระยางจำนวนมากมาย  นกเหล่านั้นจะเป็นเป้าอย่างดีให้กับคุณพ่อ  แล้วท่านก็ยิงนกด้วยความเมามันสนุกสนานทุกวัน  เพราะคิดว่านั่นคือเกมกีฬายามว่างชนิดหนึ่ง
 
    ถึงแม้ว่าคุณพ่อจะชอบล่าสัตว์  แต่ก็มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากและไม่เคยเจ็บป่วยเลย จนกระทั่งอายุ 93 ปี จึงล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งที่ลำไส้ และต้องเข้าๆออกๆในโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษานานถึง 3 ปี  ในวันที่เสียชีวิตนั้น คุณพ่อไอมาก หายใจติดขัด คุณแม่เป็นห่วงมาก แต่คุณพ่อเป็นคริสต์  คุณแม่จึงไม่รู้จะทำยังไง ก็ได้แต่สวดอิติปิโสไปหลายสิบจบ แล้วก็อธิษฐานว่า ขอให้คุณพ่อไปดี ให้พระเยซูมารับคุณพ่อไปด้วยเถิด แล้วคุณพ่อก็จากทุกคนไป    เมื่อปี  2536
 
    คุณแม่ เป็นคนจังหวัดลำปาง เกิดในสมัยรัชกาลที่ 6 ท่านชอบทำบุญตักบาตรเสมอ  ตั้งแต่ลูกจำความได้  ลูกจะได้ยินเสียง  “นิมนต์ก่อนค่ะ นิมนต์ก่อนค่ะ” จากคุณแม่ทุกเช้า เมื่อคุณแม่ตักบาตรเสร็จ   ก็จะไหว้พระและสวดมนต์ด้วยเสียงใสๆที่ดังมาก แล้วก็แผ่เมตตาให้ตั้งแต่ พรหม เทวดาทุกชั้น  และสัตว์นรกทุกขุม ด้วยสำเนียงชาวเหนือที่ไพเราะมากอีกด้วย
   
    คุณแม่กับคุณพ่อพูดกันคนละภาษา นับถือศาสนาที่ต่างกัน ท่านทั้งสองอยู่ด้วยกันไปก็ทะเลาะกันไป จนมีลูกด้วยกัน 8 คน หญิง 4 คน ชาย 4 คน คุณแม่เองมีความพยายามที่จะอธิบายให้คุณพ่อเข้าใจเรื่องพระพุทธศาสนา  ส่วนคุณพ่อก็มีความพยายามที่จะให้คุณแม่มาเป็นคริสต์ศาสนิกชนด้วยกัน คุณพ่อพาบาทหลวงมาคุยกับคุณแม่  คุณแม่ก็ปฏิเสธอย่างนุ่มนวลกับบาทหลวงว่า  “ดิฉันพบทางของดิฉันแล้วค่ะ”
หลังคุณพ่อเสียชีวิตได้ 4  ปี   ในปี 2540 คุณแม่อายุได้ 79 ปี ก็หกล้ม กระดูกสะโพกหัก เข้าผ่าตัดที่ รพ.เซนหลุยส์ พออาการดีขึ้นหมอจึงให้กลับบ้าน แต่อีก 3 วัน คุณแม่ก็เสียชีวิต  หลังงานศพของคุณแม่ คนข้างบ้านมาบอกว่า คุณแม่มาเข้าฝันเขา และยื่นเงินให้เขา  บอกว่าให้เอาไปทำบุญที่วัดพระธรรมกายให้ด้วย ทั้งๆที่ในตอนนั้น  คุณแม่และลูกๆก็ไม่เคยไปวัดพระธรรมกายเลย   ลูกจึงได้มาวัดพระธรรมกายครั้งแรกในปีที่คุณแม่เสียชีวิต แต่ไม่ได้มาด้วยศรัทธาหรอกนะคะ มาด้วยความจำเป็น เพราะต้องเอาเงินมาทำบุญที่วัดพระธรรมกายตามที่คุณแม่บอกในฝัน พอทำบุญเสร็จก็กลับทันทีแล้วก็ไม่ได้มาวัดอีกเลย
 
    ปัจจุบัน ลูก อายุ 62 ปีแล้ว ทำงานเกี่ยวกับผู้อพยพ อยู่ที่เมือง Sacramento  สหรัฐอเมริกา  ลูกเป็นคริสต์ศาสนิกชนที่เคร่งครัดมาตั้งแต่เยาว์วัย  จบการศึกษาจากโรงเรียนคริสต์ และศึกษาต่อด้านพระคัมภีร์ที่สิงคโปร์ กลับมาทำงานที่ธนาคารอินโดสุเอซของฝรั่งเศสอยู่ 16 ปี และช่วยเหลืองานของโบสถ์อย่างเต็มที่ควบคู่ไปด้วย  เป็นบุคลากรชั้นแนวหน้า ที่ทำหน้าที่ออกเชิญชวนคนให้มาเป็นคริสต์ ทั้งยังช่วยผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ หนังสือ แผ่นพับโฆษณา ประชาสัมพันธ์ เป็นต้น ลูกศึกษาพระคัมภีร์ทุกเล่มอย่างเอาจริงเอาจัง ไปโบสถ์ทุกอาทิตย์ จนทางเจ้าของโบสถ์ที่ลูกเป็นสมาชิก ขอให้ลูกแต่งงานกับมิชชันนารี่   แต่ด้วยภาระที่ต้องดูแลคุณพ่อคุณแม่และน้องๆอีก 5 คน ทำให้ไม่คิดที่จะแต่งงาน ทั้งยังข้องใจในคำสอนบางประการที่ว่า “เราต้องรักพี่น้องในคริสต์จักร มากกว่าพี่น้องของเรา”  ลูกจึงมีอาการต่อต้านเล็กๆ เพราะลูกก็ยังมีพี่น้องบางคนที่เป็นพุทธอยู่
 
    ต่อมาลูกมีโอกาสไปอยู่ที่อเมริกา 4 เดือน แล้วมีความต้องการอยากจะได้วีซ่าถาวร จึงจดทะเบียนสมรสกับหนุ่มชาวอเมริกันคนหนึ่ง  เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบเรื่องก็โกรธมาก รับไม่ได้เลย   ลูกจึงตัดสินใจทิ้งหน้าที่การงานที่เมืองไทยมาอยู่กับหนุ่มอเมริกันที่ลูกจดทะเบียนด้วย  ซึ่งเขาก็คือ สามีคนปัจจุบันของลูก เอง  สามีของลูกก็เป็นคริสต์เช่นกัน   เรามีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน
       
    ลูกอยู่อเมริกาเป็นคริสต์ชนที่ดีเสมอมา  จนกระทั่งวันหนึ่ง  เมื่อปี 2541  น้องสาวคนที่ 1 ซึ่งอยู่ที่ Seattle ได้ส่งเทปเพลง  “ทุ่งนาฟ้าโล่ง” ที่กล่าวถึงเรื่องราวของคุณยายมาให้ลูกฟัง  ลูกรู้สึกประทับใจในตัวคุณยายมาก     จึงได้ไปร่วมงานกฐินคุณยายที่วัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนียเป็นครั้งแรก     และยิ่งเมื่อได้อ่านประวัติชีวิตของคุณยายที่ท่านไปช่วยคุณพ่อในนรกได้  ลูกก็ยิ่งมีความประทับใจ  และนึกถึงคุณพ่อของลูก   ลูกจึงอธิษฐานจิตขอคุณยายให้ช่วยคุณพ่อของลูกด้วย     ลูกมักจะอธิษฐานจิตกับคุณยายเสมอๆ   ไม่ว่าจะขอสิ่งใดก็สมปรารถนาทุกอย่าง     ลูกเริ่มมีความศรัทธาในวัด  ในคำสอนต่างๆ  มากขึ้น   จนปัจจุบันลูกได้ทำบุญทุกบุญกับวัดอย่างเต็มที่เต็มกำลังอย่างต่อเนื่อง    จนหลายๆคนที่เป็นชาวคริสต์ รวมทั้งลูกสาวของลูกเอง พากันต่อว่าตัวลูกว่า “ทรยศต่อพระเจ้า”  แต่ลูกรู้ว่าพระเจ้าอาจช่วยลูกให้ไปได้แค่สวรรค์  แต่พระพุทธเจ้าและมหาปูชนียาจารย์ของเรา จะช่วยลูกให้ไปได้ไกลเกินกว่าสวรรค์     ซึ่งในคริสต์ธรรมคัมภีร์ไม่มีค่ะ
 
    น้องสาวคนที่ 2 เรียนหนังสือเก่งสนิทกับคุณแม่มาก แต่ก็เป็นคริสต์ชนเหมือนลูก   คุณแม่ชอบปรารภว่า ถ้าลูกคนนี้ได้นั่งสมาธิ จะไปได้ไกลทีเดียวแต่น้องสาวไม่เข้าใจ และไม่ชอบใจสิ่งที่คุณแม่พูด  หลังจากจบการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว  ก็เข้าทำงานที่สำนักข่าวฝรั่งเศส  ได้พบรักกับนักข่าวชาวอเมริกันและได้แต่งงานกัน เธอต้องย้ายตามสามีไปประเทศต่างๆบ่อยๆ ทั้งฝรั่งเศส อเมริกา อังกฤษ เบลเยี่ยม  จนกระทั่งขณะที่เธออยู่ที่ปารีส   เธออยากฝึกสมาธิ จึงได้แสวงหาพระสงฆ์เพื่อให้ท่านสอนสมาธิให้
 
    แล้วเธอก็ได้ไปพบศูนย์ปฏิบัติธรรมเบลเยี่ยมเป็นครั้งแรก  น้องสาวของลูกก็ได้มาร่วมบวชเป็นอุบาสิกาแก้ว จึงได้รู้จักวิธีการนั่งสมาธิตั้งแต่ครั้งนั้นเป็นต้นมา เธอก็ได้รวมกลุ่มคนไทยในปารีส นั่งสมาธิกันเป็นประจำ ทำให้เธอมีความรู้ความเข้าใจในหลักพระพุทธศาสนามากขึ้น
 
    น้องสาวคนที่สามของลูก   เสียชีวิตตั้งแต่อายุ 6 เดือน   วันที่น้องเสียชีวิตนั้น ลูกได้อุ้มน้องออกไปเดินเล่นกับเพื่อนบ้าน ที่ริมถนนบนสะพานแห่งหนึ่ง  ขณะนั้นเพื่อนก็ได้มาขอน้องของลูกไปอุ้มเล่น แล้วเราจึงเดินเล่นบนขอบสะพานแห่งนั้น    ซึ่งลูกก็เดินนำหน้า ส่วนเพื่อนก็อุ้มน้องวิ่งตามหลังลูก แต่แล้วก็มีรถบรรทุกเสียหลักขับพุ่งชนเข้าใส่เพื่อนและน้อง จนคนทั้งสองตกลงใต้สะพานนั้น ส่วนตัวลูกก็ยืนตะลึง ตกใจกลัวอยู่ข้างๆขอบสะพานนั่นเอง  น้องของลูกเสียชีวิตทันที ส่วนเพื่อนก็บาดเจ็บสาหัส เพราะคนขับเมาเหล้าแล้วขับรถประมาท  เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ลูก และคุณแม่เสียใจมากค่ะ
 
    น้องชายคนสุดท้อง  มีอาการสติปัญญาไม่ค่อยสมบูรณ์  เมื่อเรียนจบ  ม.3   ลูกก็ให้ออกมาอยู่กับคุณพ่อ คุณแม่    ปัจจุบันน้องคนนี้จะชอบเก็บตัวเป็นปู่โสมเฝ้าบ้าน ไม่ติดต่อสัมพันธ์ใดๆกับใครเลย    แต่พี่ๆก็ส่งเงินให้ใช้อย่างเพียงพอทุกเดือน
 
คำถาม
 
1. บุพกรรมใดที่ทำให้คุณพ่อมีอายุยืน และแข็งแรงมาตลอด ทั้งๆที่ท่านล่าสัตว์มามากมาย แต่ด้วยวิบากกรรมใดท่านจึงเสียชีวิตด้วยมะเร็งลำไส้  น้องชายบอกว่าสาเหตุหลักที่ทำให้คุณพ่อล้มป่วยและเสียชีวิตเพราะโกรธและเสียใจมากที่ลูกจดทะเบียนกับสามีชาวอเมริกันจริงหรือเปล่าคะ  ลูกจะมีวิบากกรรมไหมคะ
 
2. เสียงสวดมนต์บทอิติปิโสที่คุณแม่สวดให้คุณพ่อฟังในวันที่คุณพ่อเสียชีวิต  มีผลต่อคตินิมิตของท่านอย่างไรหรือไม่   ที่คุณแม่อธิษฐานให้พระเยซูมารับคุณพ่อไป  มีผลต่อคุณพ่อหรือเปล่า  ปรโลกของท่านเป็นอย่างไรคะ ท่านมีข้อความอะไรฝากมาถึงลูกๆบ้าง
 
3. คุณแม่ตายแล้วไปไหน ท่านมาเข้าฝันคนข้างบ้านจริงไหมคะ ทำไมไม่มาเข้าฝันลูกๆ เอง   ทั้งที่คุณแม่ไม่เคยมาวัดแต่ในฝันทำไมบอกให้มาทำบุญที่วัดนี้ คุณแม่ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่คะ    มีข้อความฝากมาถึงลูกๆ บ้างไหมคะ
 
4. น้องสาวคนที่1 ซึ่งเป็นผู้ส่งเทป “ทุ่งนาฟ้าโล่ง” มาให้ลูก ทำให้ลูกได้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะ เธอเป็นผู้นำบุญอยู่ที่ศูนย์ Seattle บอกบุญสร้างพระถึง 200 องค์ ส่วนน้องเขยกลัวจะไปเป็นเจ้าหน้าที่กรอกน้ำทองแดงให้สัตว์นรก จึงได้จัดพิธีเทเหล้าในร้านอาหารของตนเองแล้วเลิกขายน้ำเมา ทั้งสองคนทุ่มเทสร้างบารมีกับหมู่คณะมาก    พวกเขาสร้างบารมีมาอย่างไรคะ
 
5. น้องสาวคนที่ 2 สร้างบารมีมาอย่างไรจึงต้องเป็นคริสต์ชนมาก่อนที่จะได้มาเข้าใจพุทธศาสนา   ทำไมเธอจึงเป็นซีสต์ต้องโดนผ่าตัดถึง 7 ครั้ง และปวดท้องบ่อยๆ  มีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง โดยที่หมอก็หาสาเหตุไม่พบ จะแก้ไขวิบากกรรมนี้อย่างไรคะ  
 
6. บุพกรรมใดน้องสาวคนที่3 จึงเสียชีวิตตั้งแต่อายุ 6 เดือน เพราะคนเมาสุราขับรถชน   ปัจจุบันอยู่ภพภูมิใด   ตัวลูก  เพื่อน และน้องสาวมีบุพกรรมร่วมกันหรือไม่ ทำไมลูกจึงรอดจากอุบัติเหตุครั้งนั้นได้ 
 
7. บุพกรรมใดที่ทำให้น้องชายคนสุดท้อง ต้องมีสติปัญญาไม่ค่อยสมบูรณ์คะ   มีหนทางแก้ไขหรือไม่อย่างไรคะ
 
8. ลูกมีวิบากกรรมอะไรจึงใช้เวลาเกือบค่อนชีวิตไปศึกษาและเป็นคริสต์ชนที่เคร่งครัด ทำให้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะช้า  ทำไมลูกทำงานที่ไหนก็จะได้ตำแหน่งหัวหน้าทุกครั้ง  แต่พอช่วยเหลือใครเขากลับมองลูกไปในแง่ร้าย
 
9. ทำอย่างไรลูกจึงจะทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้แก่หมู่ญาติ ที่มีความเชื่อแตกต่างกัน ให้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะได้สำเร็จคะ ลูกมีตั้งใจมากๆที่จะสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมที่ Sacramento จะสำเร็จไหมคะ  
 
10. ลูก สามี ลูกสาว   สร้างบุญร่วมกันมาอย่างไร และสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไรคะ
 
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. คุณพ่ออายุยืนและแข็งแรงมาโดยตลอด ทั้ง ๆ ที่ปัจจุบันท่านล่าสัตว์มามากมาย   เพราะ  …บุญในอดีตที่เคยแจกจ่ายอาหาร, ยารักษาโรค   และช่วยเหลือคนยากจน   กับไม่ค่อยทำปาณาติบาตเหมือนชาตินี้   ยังส่งผลอยู่จ่ะ!  
 
 
 
 
2. เสียงสวดมนต์อิติปิโสของคุณแม่   ไม่มีผลต่อคตินิมิต ของพ่อ  เพราะ พ่อไม่มีจิตเลื่อมใสศรัทธา   เนื่องจากท่านเป็นคริสต์จ่ะ!  
 
 
 
 
 
 
3. คุณแม่ตายแล้วใหม่ ๆ ไม่ได้ตั้งตัว  เพราะอายุขัยหมด ใหม่ ๆ จึงวนเวียนอยู่กับครอบครัวที่บ้าน 7 วัน    แล้วก็เห็นทางสว่าง  ท่านจึงเดินไปตามทางนั้น   แล้วก็ไปเกิดเป็นเทพธิดา  มีวิมานทองของชั้น “ดาวดึงส์” เฟส 2   ด้วยบุญที่ท่านทำอย่างสม่ำเสมอในพระพุทธศาสนาจ่ะ!  
 
 
 
 
4. น้องสาวคนที่ 1 กับน้องเขย   ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างต่อเนื่องในฝ่าย “กองเสบียง” จ่ะ!  
 
 
5. น้องสาวคนที่ 2  ก่อนมาเป็นพุทธก็ได้เป็นคริสต์   เพราะ …ในอดีตแต่เดิมก็เป็นพุทธ   ได้สร้างบารมีกับหมู่คณะมา  แล้วเกิดการกระทบกระทั่งกับสมาชิกบางคนของหมู่คณะ    จึงได้ออกจากหมู่ไปศึกษาความเชื่ออื่น     อีกทั้งเวลาทำบุญก็ไม่ค่อยได้อธิษฐานว่า    ให้เกิดในร่มเงาของพระพุทธศาสนา   
 
 
 
 
 
 
6. น้องสาวคนที่ 3 เสียชีวิตตั้งแต่ 6 เดือน  เนื่องจากคน  เมาสุราขับรถชน   เพราะ  …กรรมในอดีตเคยเลี้ยงเหล้าและสั่งให้ฆ่าสัตว์ทำกับแกล้ม    โดยเฉพาะลูกสัตว์ต่าง ๆ  เช่น  ลูกนก  เพราะเพื่อนฝูงชอบ   ตามมาส่งผลจ่ะ!

 
 
 
 
7. น้องชายคนสุดท้อง มีสติปัญญาไม่ค่อยสมบูรณ์  เพราะเศษกรรมสุราในอดีตมาส่งผล  แต่กรรมเบาบางลงแล้ว  จึงมีสติปัญญาน้อย  แต่ไม่ถึงปัญญาอ่อนจ่ะ!  
 
 
8. ลูกต้องเสียเวลาไปศึกษาคำสอนอื่น   และเป็นคริสศาสนิกชน ที่เคร่งครัดมาค่อนชีวิต    และมาสร้างบารมีกับหมู่คณะช้า   เพราะ   …ในอดีตก็เคยสร้างบุญกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง”ในระดับ “แนวหน้า”  แต่กระทบกระทั่งกันกับบางคนในหมู่คณะจึงน้อยใจและออกไป  
 
 

 
9. ลูกจะทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตร   ให้กับหมู่ญาติที่มีความเชื่อต่างกันนั้น  ลูกจะต้องเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน    โดยการศึกษาธรรมะให้เข้าใจ  ,  ปฏิบัติธรรมให้มีประสบการณ์ภายใน    แล้วจึงแนะนำธรรมะด้วยความอดทนและเยือกเย็นจ่ะ!

 
10. สามี , ลูกสาว ก็เคยเป็น “กองเสบียง” ของหมู่คณะมา แบบตามอารมณ์  ,  ทำบ้างไม่ทำบ้าง    จึงพลัดไปเกิดนอกบุญเขตโดยในอดีตตัวลูก   เคยเป็นกัลยาณมิตรให้ทั้งสองมาสร้างบารมีกับหมู่คณะจ่ะ!

 

บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-08-15.html
เมื่อ 2 กรกฎาคม 2567 20:11
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv