CASE  STUDY
ลืมอดีตที่ผิดพลาด แล้วเปิดโอกาสสร้างบุญ
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ด้วยความเคารพอย่างสูง
 
    ลูก เป็นผู้นำบุญกลุ่มสำโรงแก้ว เข้าวัดครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2529 เมื่อลูกได้เริ่มเข้าวัด คุณพ่อ ก็เป็นห่วงเพราะได้ยินข่าวว่า วัดนี้เป็นคอมมิวนิสต์  เป็นวัดหาเงิน  คุณพ่อก็เลยตามมาวัดด้วย แต่หลังจากมาวัดแล้วคุณพ่อก็เข้าใจและเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง จากที่เคยดื่มสุรา เล่นการพนัน  เจ้าชู้ ฆ่าสัตว์   คุณพ่อก็เริ่มรักษาศีล นั่งสมาธิ  ร่วมบุญทุกบุญกับทางวัดไม่เคยขาด  ทั้งกฐิน ผ้าป่า บุญหล่อรูปเหมือนทองคำหลวงปู่วัดปากน้ำฯ  สร้างองค์พระประจำตัว ฯลฯ
 
    จนกระทั่งถึงบุญสำคัญในวันคุ้มครองโลกที่ได้จัดขึ้นในวันที่  22 เมษายน 2542   ทางวัดได้กราบนิมนต์อาราธนาพระภิกษุสงฆ์จากทั่วประเทศจำนวนกว่า 1 แสนรูป มาร่วมงานบุญในวันนั้น   คุณพ่อได้ตั้งใจที่จะมาร่วมงานบุญด้วย แต่ก็ไม่มีโอกาสได้มา เพราะเย็นของวันที่ 21 พ่อมีอาการชาที่แขนข้างขวาและปากเบี้ยว ขยับปากไม่ได้ เย็นนั้นลูกซื้อบะหมี่มาให้คุณพ่อทาน พอตักใส่ปาก บะหมี่ก็ไหลออกข้างปากหมด พ่อเลยหมดอารมณ์กิน  จึงลุกขึ้นไปนอนในห้อง   ตื่นเช้ามาในวันที่ 22 เมษายน อาการยังไม่ดี ก็เลยไม่ได้มาวัด    หมอให้ยามาทานแต่ก็ไม่ดีขึ้น จนถึงวันที่ 30 เมษายน คุณพ่อก็เสียชีวิตลง อายุได้ 72 ปี
 
    คุณป้าของลูก ท่านได้มาวัดตั้งแต่ประมาณปี 2530 และร่วมบุญทุกบุญกับทางวัดอย่างสม่ำเสมอตลอดมาเป็นเวลา 10 ปีเศษ ทั้งๆที่ทุกคนในบ้านไม่เห็นด้วย  แต่คุณป้าก็ไม่หวั่นไหว  ตั้งใจในการสร้างบารมีมาโดยตลอด     เวลาทางวัดบอกบุญอะไร ป้ามีเงินเท่าไหร่ก็จะทุ่มเททำอย่างเต็มที่     จนกระทั่งคุณป้าป่วย   ด้วยความไม่เข้าใจของลูกๆท่าน จึงทำให้ไม่มีใครพาคุณป้ามาวัดเลย  แต่แม้ป่วยมาวัดไม่ได้ คุณป้าก็ยังคงฝากปัจจัยมาทำบุญทุกบุญ  อย่างสม่ำเสมอเท่าที่จะมีเงินทำได้  จนกระทั่งเสียชีวิต เมื่ออายุได้ 72 ปี
 
    หลานชายคนโต (ลูกชายคนโตของพี่สาว)   เขาได้เข้าวัดพระธรรมกายตั้งแต่อายุ 10 ขวบ  โดยมีพ่อของลูกและตัวลูกเป็นกัลยาณมิตรให้   แรกๆ ได้มาวัดเป็นประจำ ต่อมาได้ห่างวัดไปเพราะมีปัญหาทางบ้าน เนื่องจากพ่อของเขาเมาสุราทะเลาะกับแม่ของเขาเป็นประจำ  เขาจึงเรียนไม่จบ ม.3 และเริ่มดื่มสุรา หันหน้าเข้าหายาเสพติด   ติดยาเสพติดทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น เหล้า บุหรี่ กัญชา กาว เฮโรอีน ยาบ้า ฯลฯ  ถึงขั้นใช้เข็มฉีดเฮโรอีนเข้าตัว  และลักขโมยเงิน ขโมยพระเครื่อง พระของขวัญไปขาย   เพื่อให้ได้เงินมาเสพยา เป็นเอเย่นต์ขายเฮโรอีนและยาเสพติดชนิดอื่นๆ  จนตำรวจจับได้หลายครั้ง   ต้องติดคุกเข้าๆออกๆ    ทำให้ทุกคนในบ้านต้องร้องไห้เสียใจและเบื่อหน่ายเอือมระอามาก
 
    ต่อมา น้องชายของเขา ได้บวชเป็นสามเณรที่วัดพระธรรมกาย  และได้โทรมาชวนให้เขาบวชอยู่บ่อยๆ แต่เขาก็ปฏิเสธเรื่อยมา  สามเณรน้องชายก็ไม่ละความพยายาม อีกทั้งคนในครอบครัวก็คอยพูดคอยชวนให้เขาบวชอยู่บ่อยๆ จนเขาคล้อยตาม เขาจึงตัดสินใจบวชพระในรุ่นเข้าพรรษากลางปีพ.ศ. 2540 การได้มาบวชทำให้เขาเริ่มเข้าใจชีวิต  เข้าใจกฎแห่งกรรมมากขึ้น  และมีความศรัทธาที่จะบวชต่อไป ในช่วงของการบวชพรรษาแรกนั้น วันหนึ่งเขาได้ไปบริจาคโลหิตจึงรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคร้าย เขาต้องจำใจลาสิกขาทั้งน้ำตา   ด้วยเหตุผลของพระอาจารย์ที่ว่า  “เราต้องทำเพื่อรักษาหมู่คณะ”  
 
    เมื่อกลับมาอยู่ที่บ้าน  กลุ่มเพื่อนที่ติดยาก็มาชวนให้เสพยาอีก เขาเองคิดว่าจะช่วยเพื่อนๆให้เลิกยาเสพติด แต่กลับกลายเป็นว่าตัวเขากลับไปติดยาเสพติดอีกครั้ง ลูกพยายามอธิษฐานขอให้เขาเลิกยาเสพติด และได้พูดกับเขาด้วยความปรารถนาดีอย่างจริงใจว่า “สิ่งใดที่ดีหรือไม่ดีก็เรียนรู้มาแล้ว  ขณะนี้เป็นเวลาที่เราจะเลือกทางเดินของชีวิตเอง”  คำพูดในครั้งนั้นของลูกทำให้เขาคิดได้  และเกิดความตั้งใจว่า “ในชีวิตนี้จะเอาดีให้ได้” เขาจึงกลับมาทำบุญที่วัดอีกครั้งทั้งๆที่ยังเมายา และตั้งใจทำบุญทุกบุญ   เขาทำบุญตั้งแต่  1 บาท  20 บาท ถึง  50 บาท  แม้จะเป็นเงินเพียงน้อยนิด     แต่ถ้าเขาได้เงินมาเท่าไหร่ก็ทำบุญจนหมด    สิ่งที่เขามุ่งมั่นในการทำบุญขณะนั้นคือเขาอธิษฐานว่าขอให้เลิกยาเสพติดได้ เขามุ่งมั่นว่าจะต้องเอาดีให้ได้
 
    ต่อมาปีพ.ศ.2542 ได้มีเหตุการณ์ที่ทำให้คำอธิษฐานของเขาเป็นจริง  เมื่อเจ้าหน้าที่ที่วัดได้โทรศัพท์ให้เขา มาร่วมงาน สหวาระเดือนเกิด  เขารู้สึกดีใจมากที่มีคนจัดงานวันเกิดให้เขา เพราะในชีวิตไม่เคยมีงานวันเกิดสำหรับเขาเลย   ในวันนั้นเขามียาบ้าอยู่ในมือ 3 เม็ด  เขาได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดขว้างยาบ้าทิ้งไป และหันหลังให้กับยาเสพติดทันที   นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน  หันกลับมาทำทาน  รักษาศีล  เจริญภาวนาอย่างเต็มกำลัง  เพราะรู้ตัวดีว่าเวลาของชีวิตเหลือน้อยแล้ว  กับทั้งตัวเขาเองก็มีอดีตที่ผิดพลาดมามาก จึงเร่งสร้างบุญอย่างเต็มที่สุดชีวิต
เขาเริ่มรับบุญเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลรถรับส่งสาธุชนที่จุดออกรถสำโรงทุกวันอาทิตย์.....ดูแลสถานที่ปฏิบัติธรรมของอำเภอเมืองสมุทรปราการ......เป็นเจ้าหน้าที่รักษาบรรยากาศ......เป็นกำลังสำคัญในการจัดกิจกรรมตักบาตร, เทเหล้า-เผาบุหรี่ และกิจกรรมอื่นๆ ที่เกื้อหนุนต่อการสร้างคนดี   เขาทำหน้าที่โดยไม่มีข้อแม้ ข้ออ้าง หรือเงื่อนไข  จนมีคำติดปากว่า “ได้ครับ” อยู่เสมอ
 
   การกระทำของเขาได้อยู่ในสายตาของลุง ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ๆ กัน  และได้มาวัดพระธรรมกายเหมือนกัน   คุณลุงได้เอ่ยปากขอให้เขามาเป็นลูกบุญธรรม โดยบอกว่าจะยกบ้านและมรดกที่มีอยู่ให้ เขายอมรับลุงเป็นพ่อบุญธรรม แต่ไม่ยอมรับสมบัติที่ลุงจะให้   ลุงก็ยิ่งเกิดความประทับใจในจิตที่ไม่คิดโลภของเขา  และคอยดูแลช่วยเหลือให้เงินเขามาตลอด  นอกจากนี้เขายังได้เป็นกัลยาณมิตรให้กับคุณพ่อและคุณแม่ของเขาได้เข้าใจวัด และมาวัดปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอ     ครอบครัวของเขาที่เคยมีปัญหา  ได้กลายเป็นครอบครัวที่มีชีวิตชีวาดีขึ้น
 
    ต่อมามีจานดาวธรรมเกิดขึ้น หลานชายก็อาสาเป็นช่างติดจาน เริ่มทำหน้าที่ตั้งแต่ปีพ.ศ.2546 เป็นต้นมา เขาและทีมงานซึ่งก็เป็นผู้นำบุญ ได้ช่วยกันติดตั้งจานดาวธรรมรวมได้กว่า 1,000 จาน     จากการที่เขาโหมทำงานอย่างหนัก ทั้งการเป็นอาสาสมัครช่วยงาน ในวัด   และการทำหน้าที่ติดตั้งจานดาวธรรม   ทำให้เขาไม่ค่อยมี เวลาพักผ่อน    และเริ่มป่วยกระเสาะกระแสะมาเรื่อยๆ หมอก็จะบอกว่าให้พักผ่อนมากๆ แต่เขาไม่เชื่อหมอ เขาเชื่อมั่นในบุญ อีกทั้งก็รู้ว่าตัวเองมีเวลาเหลืออยู่ในโลกนี้น้อยเต็มที พออาการดีขึ้นจึงลุยงานต่อ จนกระทั่ง เดือนมิถุนายน 2548  เขาปวดที่ศีรษะ  จนกระทั่งชักหมดสติ ต้องเข้าห้อง ICU  น้องชายได้นำปัจจัยของเขาซึ่งมีอยู่ไม่มากใส่ซองนำมาถวายกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เพื่อนๆนักสร้างบารมีก็รีบช่วยกันทำบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวภายในให้กับเขาทันที   หลานชายอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว จนได้ออกจากห้อง ICU  แต่ต่อมาไม่กี่วัน อาการปวดศีรษะก็มากขึ้นเรื่อยๆ  จนกระทั่งชักหมดสติ และหยุดหายใจ ต้องกลับเข้าห้อง ICU อีกเป็นครั้งที่ 2 สมองหยุดทำงาน  ไม่สามารถพูดคุยได้เหมือนเดิม  ขยับนิ้วมือบ้าง กะพริบตาบ้าง และบางครั้งก็มีน้ำตาออกมาให้เห็น    คนที่อยู่ด้วยพยายามพูดให้เขานึกถึงแต่บุญ  ไม่ต้องห่วง  ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้น ให้สัมมาอะระหังอย่างเดียว  แล้วเขาก็จากไปในเช้าวันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม 2548 ด้วยอายุเพียง 27 ปี 8 เดือน
 
คำถามมีดังนี้ค่ะ
 
1. คุณพ่อเสียชีวิตเพราะบุพกรรมใด    คุณพ่อและคุณป้าของลูกตายแล้วไปไหนคะ ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่คะ  อยากบอกอะไรบ้างไหมคะ
 
2.  หลานชายคนโตของลูกตายแล้วไปไหนคะ ละโลกแล้วเขาทำถูกหลักวิชชาหรือไม่ มีอะไรจะบอกมาถึงหมู่ญาติและหมู่คณะบ้างไหมคะ   
 
3. บุญที่เขาตั้งใจบวชช่วงสั้นและสร้างบารมีมาเป็นระยะเวลา 7 ปี  จะช่วยตัดรอนวิบากกรรมที่เคยทำไว้ 7 ปีตอนก่อนบวชได้หรือไม่คะ ผลบุญและบาปจะส่งผลกับเขาอย่างไรบ้าง เพราะชีวิตเขาดีสุดขั้ว 7 ปี  และชั่วสุดขีดอยู่ 7 ปี
 
4. บุพกรรมใดที่ทำให้หลานชายต้องมาเกิดในสังคมที่ไม่ดีคบเพื่อนไม่ดี ต้องไปติดยาเสพติดและอายุสั้นเพราะการเป็นโรคร้าย    การเป็นโรคร้ายนี้เป็นชาติสุดท้ายของเขาแล้วหรือยังคะ 
 
5. บุญใดที่พลิกชีวิตเขาให้ห่างจากยาเสพติดได้มาสร้างบารมีอย่างจริงจังในช่วงท้ายของชีวิต และถ้าหากหลานชายไม่เลิกจากสิ่งเสพติดไม่ยอมเข้าวัด   เขาจะเป็นอย่างไรคะ
 
6. ทำไมช่วงที่หลานชายบวช จึงมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี เขานั่งสมาธิเห็นองค์พระชัดใส  ทั้งๆที่ก่อนบวชเคยเกเรมาก่อน   
 
7. ครอบครัวของหลานชายคนโต (คือ พ่อแม่ของเขา  หลานชายคนโต   หลานชายคนที่ 2  และหลานชายคนเล็ก)   เคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะหรือไม่อย่างไร   
 
8. หลานชายทั้งสองที่ยังมีชีวิตอยู่ จะมีโอกาสได้มาบวชตลอดชีวิตหรือไม่ ปัจจุบันหลานชายคนที่ 2 เป็นสารถีช่วยงานขับรถอยู่ที่วัดค่ะ  บุญที่หลานชายคนที่ 2 เป็นสารถีจะได้อานิสงส์อย่างไรคะ
 
9. สามีของลูกเขาดื่มเหล้าสูบบุหรี่ ต่อมาป่วยเป็นมะเร็งที่ปอด เสียชีวิตเมื่อเดือนกรกฎาคม 2548  ที่ผ่านมา    เขาตายแล้วไปไหนคะ
 
10. ตอนสามีใกล้ตาย เขาได้บอกยกสมบัติให้ลูก แต่ญาติๆเขายังไม่รู้    ลูกมีบุญที่จะได้สมบัติเหล่านั้นหรือไม่คะ   
 
11. ตัวลูก คุณพ่อของลูกและพ่อบุญธรรมของหลานชายคนโต เคยผูกพันกันมาอย่างไร จึงได้มาเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน  และพวกเราเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรคะ     การที่ลูกมีความปรารถนาจะทำวิชชา จะมีความเป็นไปได้ไหมคะ
 
    ลูกขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อมีต่อครอบครัวของลูก และหมู่คณะทุกคน โดยเฉพาะกับหลานชายของลูก หากเขาไม่ได้มีโอกาสมาวัด ชีวิตของเขาก็คงไม่พลิกจากดำมาเป็นขาวได้เช่นนี้ และขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่ง  ที่ได้เมตตาตอบคำถาม และได้ให้คำแนะนำสั่งสอน  ซึ่งลูกและหมู่คณะทุกคนจะได้น้อมรับไปปฏิบัติเพื่อใช้ในการสร้างบารมีให้ถูกต้องยิ่งๆขึ้นไป
กราบขอบพระคุณคุณครูไม่ใหญ่ด้วยความเคารพอย่างสูง
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. คุณพ่อมีกรรมดื่มสุรา  แล้วเกิดการทะเลาะวิวาท  ทุบตีชกต่อยกับขี้เมาอีกวงหนึ่ง  และกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารในอดีตเป็นหลักตามมาส่งผล ทำให้ก่อนตายมีอาการ  ปากเบี้ยว  ชาแขน เป็นต้นจ่ะ!

 
 
 
 
 
 
2. หลานชายคนโตก่อนตาย  ได้พยายามทำตามหลักวิชชาและนึกถึงบุญ  เมื่อถอดกายแล้วก็มาเวียนประทักษิณรอบ มหาธรรมกายเจดีย์   ตามหลักวิชชา แล้วก็ไป “ดุสิตบุรี    วงบุญพิเศษเขตเสบียง” จ่ะ!   
 
 
 
 
3. บุญบวชช่วงสั้นอย่างตั้งใจ   และสร้างบารมีอย่างเต็มที่ 7  ปี   ก็ได้ช่วยตัดรอนวิบากกรรมที่เขาเคยทำไว้  7  ปีก่อนบวช   และ “ชิงช่วง” นำเขาไปดุสิตบุรีได้  
 
 
 
 
4. กรรม “คบคนพาล” ในอดีตมาหลายชาติ ที่เขาเคยมีเรื่องชกต่อย   ฆ่าคน   และเกเร   ติดอบายมุขมาส่งผล  จึงทำให้ชาตินี้เขาต้องอยู่ในแวดวงของคนพาล  และต้องติดอบายมุข ,  ติดยาเสพติด , เป็นโรคร้ายและอายุสั้น 
 
 
5. บุญที่เขาเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาในอดีต    รวมกับบุญที่เขาได้บวชช่วงสั้นอย่างจริงจัง    และคบกัลยาณมิตร ในปัจจุบัน  จึงทำให้พลิกชีวิตเขาได้จ่ะ!  
 
 
6. ตอนบวชช่วงสั้นปฏิบัติธรรมะได้ดี  จนเห็นกุศลนิมิตเป็นองค์พระ  เพราะความตั้งใจบวชและตั้งใจบำเพ็ญสมณะธรรมกับเคยมีบุญเก่าที่เคยสร้างกับหมู่คณะมาในอดีต   ได้ตามมาส่งผลจ่ะ!  แม้ว่าก่อนบวชจะเกเรก็ตาม
 
 
7. ครอบครัวของหลายชายคนโต  คือ  พ่อแม่ของเขา ,  หลานชายคนโต  ,  หลานชายคนที่ 2  ,  และหลานชายคนเล็ก   ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง”    โดยทำตามอารมณ์  ,  บางครั้งก็ทำ  ,  บางครั้งก็ไม่ทำ  จึงทำให้บางชาติก็เจอกัน  ,  บางชาติก็ไม่เจอกันจ่ะ!
 
 
8. หลานชายทั้ง 2 ที่ยังมีชีวิตอยู่  ก็มีบุญที่เคยบวชมากับ หมู่คณะมาในอดีต  ,  บางชาติก็บวชได้ยาว  ,  บางชาติก็บวชได้สั้น ดังนั้นชาตินี้ก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจที่จะบวชของเขาเองจ่ะ !

 
 
 
9. สามีตายแล้ว   ก็ถูกเจ้าหน้าที่พาตัวไป “ยมโลก” ของมหานรกขุม 5  เพราะกรรมดื่มสุราและสูบบุหรี่     ขณะนี้กำลังอยู่   หน้าลานของโรงพิพากษาร่วมกับสัตว์นรกอื่น ด้วยอาการซึม ๆเหมือนยอมรับสภาพว่าตัวทำไม่ดีไว้   แต่ก็ยังพอมีบุญที่คิดได้ในช่วงท้ายอยู่บ้าง

 
 
 
10. ตอนสามีใกล้จะตายได้บอกยกสมบัติให้ลูก    โดยที่ญาติเขาไม่รู้    ถ้าไม่เป็นลายลักษณ์อักษรก็ไม่ง่ายจ่ะ!   ดังนั้นลูกอย่าไปคิดอะไรมากเลยจ่ะ!  ให้รีบสร้างบารมีให้เต็มที่เท่าที่เราจะทำได้ดีกว่าจ่ะ!
 
 
11. ตัวลูก ,  คุณพ่อของลูก  และพ่อบุญธรรมของหลานชายคนโต ก็เคยเกื้อกูลและเป็นญาติกันมาหลายชาติ    ก็เลยผูกพันกัน, ปัจจุบันก็ยังมาเกื้อกูลกันอีก และทั้งหมดนี้ก็ได้เป็น “กองเสบียง”ของหมู่คณะมา

 
 
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-08-20.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 14:24
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv