CASE   STUDY
เลี้ยงลูกไม่ได้อะไร   ไปบวชดีกว่า
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบแทบเท้าคุณครูไม่ใหญ่ด้วยเคารพรักอย่างสูง เจ้าค่ะ
 
    การมาวัดของครอบครัวลูก ทำให้ถูกเพื่อนๆครูด้วยกันมองว่า “เพี้ยนไปหรือเปล่า” แต่ลูกและครอบครัว คิดว่าเรามาถูกทางแล้ว เพราะเราได้ฟังธรรมะ ได้ฟังข้อคิดดีๆที่หาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ที่สำคัญได้กำลังใจจากคุณครูไม่ใหญ่ทุกวัน จากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาค่ะ ลูกกราบขออนุญาตเล่าเรื่องราวในชีวิตของลูกนะค่ะ
 
    คุณตาของลูก   ท่านมีลูกทั้งหมด 4 คน คุณแม่เป็นคนโต เมื่อ คุณยาย อายุได้ 40 ปี  ก็เสียชีวิต  ซึ่งลูกเองก็ไม่ทราบสาเหตุ เพราะ ไม่มีใครเล่าให้ฟัง  หลังจากยายเสียชีวิตลง  ตาก็หนีไปมีภรรยาใหม่ซึ่งเป็นแม่ม่ายมีลูกติดถึง 8 คน ทิ้งให้คุณแม่ของลูกซึ่งอายุเพียง 16 ปี ให้รับภาระเลี้ยงดูน้องๆ
 
    คุณตาเองพอไปอยู่กับภรรยาใหม่ ก็ต้องไปรับภาระเลี้ยงลูกของภรรยาใหม่ทั้ง 8 คน  เลยทำให้คุณตาเบื่อชีวิตการครองเรือน เลยตัดสินใจหนีออกบวชและไม่ยอมสึก คุณตาเองหลังจากบวชก็นั่งสมาธิมาตลอด ตาจะชอบนั่งสมาธิมาก ครั้งหนึ่งคุณตาได้ไปธุดงค์ที่ จังหวัดอุดรธานี คุณตาเล่าให้ฟังว่าได้นั่งสมาธิไปเห็นนรก คุณตาไปในลักษณะลอยไปเรื่อยๆ ไม่มีใครสนใจคุณตาเลย เหมือนเขามองไม่เห็นคุณตา สถานที่ที่คุณตาไปเห็นนั้นมีลักษณะเป็นลานหิน มีกระทะมีคนอยู่ในกะทะเต็ม เห็นคนในนั้นโดนตี น้ำในนั้นก็ดูร้อน ดูพวกเขาทุกข์ทรมานมาก และเห็นผู้หญิงถูกขึงติดกับไม้กางเขนที่ลานหิน แล้วถูกตอกด้วยเหล็ก ผู้หญิงคนนั้นร้องด้วยความเจ็บปวดแล้วก็ตาย จากนั้นก็ฟื้นขึ้นมาอีก ก็ถูกทรมานแบบเดิมอีก เป็นอยู่อย่างนี้ซ้ำๆ พอตื่นเช้ามามีพระด้วยกันถามคุณตาว่า นั่งสมาธิเห็นอะไรไหม คุณตาก็ตอบว่าเห็น จากนั้นมาคุณตาก็ไม่เห็นอะไรอีกเลย ต่อมาคุณตาป่วยด้วยโรคกระเพาะ สาเหตุเพราะบวชแล้วก็ไม่ได้ฉันข้าวมื้อเย็น พอไปหาหมอ หมอได้บอกให้ตาฉันข้าวมื้อเย็น ถ้าไม่อย่างจะทำให้กระเพาะทะลุ คุณตาก็ไม่ยอมฉันเพราะกลัวผิดศีล แล้วคุณตาก็กระเพาะทะลุจริงๆ และเสียชีวิตในผ้าเหลืองนั่นเอง
 
    คุณแม่ของลูก  หลังจากที่คุณตาหนีไปอยู่กับภรรยาใหม่แล้ว  คุณแม่จึงตัดสินใจแต่งงานกับ คุณพ่อ เพื่อที่จะให้คุณพ่อมาช่วยเลี้ยงน้องๆของตัวเอง  และเมื่อคุณตาบวชเป็นพระแล้ว  คุณแม่ก็ได้นำอาหารไปถวายหลวงตาและพระในวัดทุกวัน  แม่ต้องฆ่าปลาเพื่อทำอาหาร  เว้นวันไหนที่ปลามันตายแล้วก็ไม่ต้องฆ่า แต่แม่จะสอนลูกๆว่าไม่ให้ฆ่าสัตว์มันบาป แม่ต้องฆ่าปลาเพื่อทำอาหารอยู่อย่างนี้นานหลายปี จนเสียชีวิตลงด้วยโรคประจำตัวของท่านคือลิ้นหัวใจรั่ว เมื่ออายุได้เพียง 52  ปี  ซึ่งแม่เป็นโรคนี้มานานถึง 13 ปี    
 
    คุณพ่อของลูก มีอาชีพทำนาและเป็นช่างไม้ แต่ก่อนพ่อดื่มเหล้าไม่เป็น แต่หลังจากคุณแม่เสียชีวิต  คุณพ่อหัดดื่มเหล้า พอได้ดื่มก็ดื่มเป็น แล้วก็ดื่มมาเรื่อยๆจนติด พ่อจะพาเพื่อนมาตั้งวงที่บ้านและซื้อเหล้าเลี้ยงเพื่อนเป็นประจำ ลูกๆพยายามบอกให้เลิก พ่อก็ไม่ยอมเลิก บอกทีไรก็ทะเลาะกัน พ่อจะดันทุรังดื่ม โดยให้เหตุผลว่ามันเรื่องของพ่อ มันแล้วแต่พ่อ นอกจากดื่มเหล้าแล้วพ่อยังสูบบุหรี่จัดมาตั้งแต่หนุ่มๆ และฆ่าปลามาทำอาหารอยู่เป็นประจำ จนชราลง  พ่อมีอาการตามัว จึงจะให้หมอลอกตา แต่เมื่อหมอตรวจเช็คร่างกายแล้ว ก็ได้พบว่าพ่อเป็นโรคถุงลมโป่งพอง โรคเกาต์ และโรคไต จึงยังไม่สามารถผ่าตัดตาได้  ต้องรักษาโรคไตให้หายก่อน ส่วนโรคถุงลมโป่งพองนั้น หมอได้บอกว่าปอดหายไปข้างหนึ่งแล้ว แต่ก็แปลกที่ไม่มีอาการใดๆแสดงออกมาเลยนอกจากไอธรรมดานิดหน่อย   หลังจากตรวจพบว่าเป็นโรคไตแล้ว พ่อก็ไม่ยอมกินยาของโรงพยาบาลที่หมอจัดให้ พ่อได้นำยานั้นไปแจกจ่ายให้คนอื่นๆจนหมด ทั้งๆที่เสียค่ายาเดือนละเป็นหมื่นทุกเดือน แต่พ่อกลับไปกินยาชุดที่เพื่อนๆหรือคนรู้จักซื้อมาจากร้านขายยาให้ โดยที่หมอเองก็ไม่รู้ เวลาหมอถามว่า กินยาตามสั่งหรือเปล่า พ่อก็จะโกหกว่ากิน อาการก็เลยแย่ลงเรื่อยๆ จนเป็นไตวายและเสียชีวิตลงในที่สุด 
 
    ตัวลูกเอง ได้สอบบรรจุเข้ารับราชการครูได้ที่ จังหวัดชัยภูมิ และได้พบรักกับสามีของลูกซึ่งสอนอยู่ที่โรงเรียนเดียวกัน เมื่อลูกตั้งท้องลูกคนแรกสามีก็ให้ทำแท้ง เพราะไม่อยากมีลูก พอท้องครั้งที่สองเป็นแฝดชายสามีก็ให้ทำแท้งอีกเพราะยังไม่พร้อม ลูกรู้สึกเสียใจมากกับการทำแท้งทั้ง 2 ครั้ง ลูกจึงได้อธิษฐานขอให้ลูกที่ถูกทำแท้งทั้งสองครั้งกลับมาเกิดใหม่กับลูกอีก และแล้วในปี 2526 ลูกก็ท้องครั้งที่สาม ซึ่งครั้งนี้ลูกไม่ยอมทำแท้งอีกแล้ว ท้องครั้งนี้ของลูกคลอดออกมาเป็นผู้หญิงสามีของลูกรักลูกสาวมากและเขาอยากมีลูกอีก จนมาถึงปี 2530 ลูกก็ได้ตั้งท้องลูกชายคนแรกซึ่งคลอดในเดือนมิถุนายน คุณหมอแนะนำให้ทำหมันแต่ต้องรอให้ตัวลูกแข็งแรงก่อน ปรากฏว่าในระหว่างที่รอให้แข็งแรงนั้น ลูกก็มีอาการเหมือนคนแพ้ท้อง ไปให้คุณหมอตรวจ คุณหมอก็บอกว่าไม่ท้อง จนกระทั่ง 4 เดือนผ่านไป ก็เริ่มเห็นชัดเจนว่าท้องแน่นอน ซึ่งหมอก็งง ลูกคลอดลูกผู้ชายคนที่สองตามมา ในเดือนพฤษภาคม ปี 2531 เรียกว่าได้ลูกชายหัวปีท้ายปีเลยทีเดียว 
 
    ลูกชายคนที่สองของลูก ขณะอายุได้ขวบครึ่ง ได้จมน้ำในหลุมที่ขุดไว้สำหรับปลูกต้นไม้รอบบ้าน เขานอนหงายท้อง ฟูน้ำ ท้องป่อง ตัวเขียวคล้ำ โชคดีที่สามีของลูกมาพบเข้า จึงรีบเข้าไปช่วยปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล ในขณะนั้นดูแล้วไม่น่ารอด  แต่สุดท้ายก็รอดตายมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ 
 
    ในปี 2538 สามีของลูกได้ชวนหารายได้เสริมจากอาชีพครู โดยเปิดกิจการปั๊มน้ำมันขนาดเล็ก 2 หัวจ่าย สำหรับบริการในหมู่บ้าน พร้อมจำหน่ายของเบ็ดเตล็ดต่างๆ กิจการรุ่งเรืองดีมาก ดีจนทำให้มีขโมยมาขึ้นบ้านของลูก รวมทั้งหมด 5 ครั้ง สูญหายแต่ทรัพย์สิน แต่ภายหลังตำรวจสามารถตามจับขโมยได้ และขโมยถูกศาลตัดสินจำคุกไปในที่สุด
 
    ในปี 2544 , 6 ปี ต่อมาลูกมีอาการปวดศีรษะมาก วิงเวียน เบื่ออาหาร ไปรักษาที่โรงพยาบาลก็ไม่หาย  มีคนแนะนำให้ลูกไปหาพระที่วัดแห่งหนึ่ง ตอนนั้นลูกมีอาการหนักมาก นั่งนอนแทบไม่ได้  พระที่วัดนั้นบอกว่าลูกโดนคุณไสย จึงให้ไปหาหลวงปู่ที่วัดเดียวกันนี้ เพื่อทำพิธีถอนคุณไสยให้ หลวงปู่ที่วัดนั้นท่านใช้ใบโพธิ์วางบนร่างกายและใช้ผ้าขาวคลุมร่างของลูกไว้ หลวงปู่ท่านก็บริกรรมคาถาและลงดาบ พอเสร็จพิธี ก็นำใบโพธิ์ใส่ลงในน้ำสะอาด ก็พบว่ามีเสี้ยนไม้ และผงขี้เถ้าตกตะกอนอยู่ ท่านบอกว่าเป็นเสี้ยนไม้ที่โดนฟ้าผ่า และดินเจ็ดป่าช้า ลูกทำพิธีถอนคุณไสยเพียง 3 ครั้ง มีอาการดีขึ้น จึงไม่ได้ไปอีก ต่อมาอีก 1 ปี ลูกไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง มีสามเณรองค์หนึ่งดูดวงให้บอกว่ายังมีคุณไสยอยู่ในตัวลูกอีก จึงทำพิธีถอดให้ แต่ก็ยังมีอาการปวดหัวมึนงงอยู่  ยังไม่หายซะทีเดียว
 
    ในปี 2547 ลูกได้ไปหาหลวงพ่อที่วัดอีกแห่งหนึ่ง ให้ท่านทำพิธีถอดคุณไสยให้ พอเสร็จพิธี ปรากฏว่ามีขี้ผึ้งปนกับผงดิน ติดบริเวณหน้าผากของลูก ท่านบอกว่า ลูกโดนคุณไสยเป็นขี้เถ้าผีตายโหงเจ็ดป่าช้า จากนั้น อาการของลูกก็ดีขึ้น ซึ่งลูกคิดว่าลูกอาจจะโดนคุณไสยจากขโมยที่ขึ้นบ้านลูกรวม 5ครั้ง   แต่สุดท้ายขโมยก็โดนตำรวจจับ เขาอาจจะแค้น ก็เลยทำคุณไสยใส่ลูก แต่สามีของลูกไม่เชื่อว่าลูกโดนคุณไสย
 
    คุณพ่อของสามี เคยรับราชการเป็นครู แต่เนื่องจากที่บ้านต้องทำนาด้วย พ่อเลยคิดว่าการเป็นครูทำให้ไม่มีเวลาทำนา พ่อเลยลาออกจากครูมาทำนา และมาเป็นผู้ใหญ่บ้านไปด้วย ด้วยความที่ท่านเป็นคนใจบุญเมื่อได้เป็นผู้นำชุมชน ก็ได้พาลูกบ้านสร้างศาลาการเปรียญ สร้างโบสถ์ และพัฒนาหมู่บ้าน ท่านเป็นคนใจดี ขยันทำมาหากิน ต้องเลี้ยงลูกถึง 11 คน ก็ยังส่งเสริมช่วยเหลือพระศาสนาและสงเคราะห์คนทั่วไปด้วย แต่บาปที่ท่านได้ทำมากก็คือฆ่าปลา เนื่องจากในนา หน้าน้ำ จะมีปลามาอาศัยอยู่จำนวนมาก เมื่อถึงเวลาพ่อและชาวบ้านก็จะสูบน้ำออกแล้วจับไปขายและทำเป็นอาหาร เป็นอย่างนี้ทุกปี ต่อมาพ่อป่วยด้วยโรคมะเร็งในถุงน้ำดีเป็นเวลาถึง 3 เดือน ก่อนตายท่านนอนอยู่บนเตียงในห้อง ICU ถูกมัดมือ มัดเท้า อาการของพ่อสามีเหมือนอยากพูดคุยกับลูกๆ แต่ก็พูดไม่ได้  จนกระทั่งท่านเสียชีวิต  รวมอายุได้ 69 ปี
 
    คุณแม่ของสามี ปกติก็เป็นคนใจบุญ จะเป็นคู่คิดคู่ปรึกษาของคุณพ่อสามีมาตลอด เวลาคุณพ่อสามีทำบุญก็จะทำด้วย และเวลาคุณพ่อสามีทำบาปคือฆ่าสัตว์ทำอาหาร หรือลงจับปลาในหนองน้ำ ก็ร่วมทำด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อปี 2543 คุณแม่สามีได้หกล้มและเลือดคั่งในสมอง ตอนแรกคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก แต่ต่อมาแม่มีอาการปวดหัวบ่อย จึงนำส่งโรงพยาบาลหมอบอกว่าเส้นเลือดในสมองแตก และเสียชีวิตในที่สุด รวมอายุได้ 78 ปี 
 
คำถามมีดังนี้ค่ะ
 
1. ตาและยายของลูกตายแล้วไปไหนคะ ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่  ตาคิดอย่างไรจึงตัดสินใจบวชตลอดชีวิต  บุญที่ตาได้บวชจนตลอดชีวิตส่งผลให้ตาเป็นอย่างไรในปรโลกคะ ที่ตานั่งสมาธิแล้วบอกว่าไปเห็นนรกนั้นตาได้ไปเห็นจริงๆหรือไม่คะ
 
2. คุณแม่ของลูกตายแล้วไปไหนคะ ได้รับบุญที่อุทิศให้หรือไม่กรรมใดทำให้ท่านป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วจนเสียชีวิต ตอนนี้ท่านอยากได้บุญอะไรมากที่สุดคะ
 
3. คุณพ่อของลูกตายแล้วไปไหนคะ ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่ ตอนนี้ท่านอยากได้บุญอะไรมากที่สุดคะ , กรรมใดทำให้ท่านป่วยเป็นโรคเกาต์ โรคไต และถุงลมโป่งพอง , บุญใดทำให้พ่อแม้จะปอดจะหายไปข้างหนึ่งเป็นเวลาสิบปีแต่ไม่มีอาการทรมานใดๆเลย และกรรมใดทำให้พ่อไม่ยอมกินยาแพงๆที่หมอจากโรงพยาบาลจัดให้  แต่กลับไปกินยาชุดที่เพื่อนหรือคนรู้จักซื้อมาให้ จนอาการหนักลงเรื่อยๆและเสียชีวิต
 
4. บุพกรรมใดที่ทำให้ชีวิตของลูกต้องผ่านการทำแท้งถึง 2 ครั้งทั้งๆที่ไม่อยากทำ แต่ภายหลังก็คิดได้ จะมีวิบากกรรมไหมคะ  จะแก้ไขได้อย่างไร และลูกสาวคนโตของลูกและลูกชายทั้งสองคนของลูก เป็นลูกที่ตัวลูกเคยทำแท้งครั้งแรกกลับมาเกิดใหม่ตามคำอธิษฐานหรือไม่คะ
 
5. บุพกรรมใดที่ทำให้มีขโมยขึ้นบ้านลูกรวม 5 ครั้ง และขโมยที่โดนตำรวจจับ แกล้งทำคุณไสยใส่ลูกหรือไม่ค่ะ  ถ้าไม่ใช่อาการปวดหัว มึนงง ของลูก  เกิดจากอะไร  เราจะทราบได้อย่างไรว่าถูกคุณไสยจริงๆ และสามารถป้องกันแก้ไขตัวเราเองได้อย่างไรคะ 
 
6. เพราะเหตุใดลูกชายคนที่สองของลูกถึงได้จมน้ำตอนอายุได้ขวบครึ่ง และรอดตายมาได้อย่างอัศจรรย์ด้วยบุญใด
 
7. พ่อและแม่ของสามีลูกตายแล้วไปไหนคะ ท่านได้ไปอยู่ด้วยกันหรือไม่คะ  พ่อของสามี ก่อนตายในห้อง ICU อยากพูดคุยอะไรกับลูกๆ หรือคะ ท่านได้รับบุญที่ลูกส่งไปหรือไม่
 
8. สามีของลูก ตัวลูก และลูกๆทั้ง 3 ของลูก เคยทำบุญกับหมู่คณะมาอย่างไรคะ
กราบขอบพระคุณคุณครูไม่ใหญ่ด้วยความเคารพอย่างสูง เจ้าค่ะ
 
ฝันในฝัน 
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. ตาบวชตลอดชีวิต    เพราะ   ...เบื่อการครองเรือนที่ไม่มีสาระแก่นสารอะไร   ,   ตาเบื่อสุดขีดขึ้นมาเฉยๆ  เลยอยากบวชแสวงหาโมกขธรรมจ่ะ!

 
 
 
 
 
2. แม่ป่วยเป็น “โรคลิ้นหัวใจรั่ว”  เพราะ  ...ในอดีต ตอนเกิดในสังคมเกษตรกรรม  ได้ใช้แรงงานสัตว์  วัว  ควายค่อนข้างหนัก  จนทำให้มันเหนื่อยอ่อนแรง  เช่น  ไถนาแต่เช้า  กว่าจะเลิกก็เที่ยง  เป็นต้น   วิบากกรรมดังกล่าวมาส่งผลจ่ะ!

 
 
 
3. คุณพ่อป่วยเป็น “โรคเกาต์”  , “โรคไต”   เพราะ ...กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารทั้งในอดีตและปัจจุบัน   ตามมาส่งผล ,  ส่วนที่เป็นถุงลมโป่งพอง   เพราะสูบบุหรี่ในปัจจุบันจ่ะ!

 
 
 
 
4. ลูกผ่านการทำแท้งมา  2  ครั้ง  ทั้ง ๆ ที่ไม่อยากทำเลย แต่ภายหลังคิดได้นั้น  จะทำให้มีวิบากกรรม  คือ  ...จะทำให้มีโรคภัยไข้เจ็บ  และละโลกก่อนวัยอันสมควร  ในภพชาติต่อไป

 
 

 
 
 
5. ขโมยขึ้นบ้านลูก  5  ครั้ง    เพราะ ...กรรมในอดีต   ตอนเด็ก ๆ ชอบไปขโมยผลไม้และพืชที่เขาปลูกในสวนบ่อย ๆ วิบากกรรมนี้ตามมาส่งผลจ่ะ!
 
 
 
 
 
 
 
 
6. ลูกชายคนที่สอง “จมน้ำ” ตอนขวบครึ่ง   เพราะ ...กรรมในอดีต  ตอนวัยเด็กซุกซน ได้เอาลูกแมวโยนลงไป   เพื่อจะดูว่ามันจะว่ายน้ำเป็นไหม หรืออะไรจะเกิดขึ้นกับลูกแมว จนมันเกือบตายแต่ไม่ตาย     เพราะอุ้มมันขึ้นมา  วิบากกรรมนี้ตามมาส่งผลจ่ะ !  แต่ที่รอดมาได้   เพราะไม่ได้ทำให้แมวตายจ่ะ!
 
 
7. พ่อแม่ของสามีตายแล้ว  ก็ไปเป็นเทพบุตรเทพธิดา  มีวิมานทองสวยงามคนละหลัง  แต่อยู่ติดกัน  บนสวรรค์ชั้น  “จาตุมหาราชิกา  สายคนธรรพ์”  ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนาจ่ะ! 
 
 
 
8. สามี  ,  ตัวลูก  และลูกทั้ง  3  ก็เป็น “กองเสบียง” ของหมู่คณะมา  ส่วนใหญ่ก็จะทำบุญตามอารมณ์      ดังนั้นบางชาติ   จึงพลัดกันจ่ะ!

 
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-09-10.html
เมื่อ 22 กรกฎาคม 2567 22:54
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv