CASE  STUDY
ยิ่งมองยิ่งงาม ตอนที่ 3
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
 
    ลูก เป็นลูกหลานหลวงปู่ ซึ่งขออนุญาตส่งเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับท่านมาเพิ่มเติมอีก เพราะคิดว่า ทุกเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับท่านเป็นเรื่องราวอันทรงคุณค่ายิ่งต่อมวลมนุษยชาติ ดังมีเรื่องราวต่อไปนี้ค่ะ
 
    ลูกได้มากราบหลวงปู่ ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญเป็นครั้งแรกจากการที่ป้าแท้ๆ ของลูกเป็นคนพามาค่ะ พอมาถึงหลวงปู่ท่านก็เมตตาลูกมาก ท่านจึงได้มอบพระของขวัญวัดปากน้ำรุ่น 1 ให้ลูก   แล้วท่านยังเมตตาเป่ากระหม่อมให้ลูกด้วยค่ะ ท่านพูดกับลูกว่า “ กูบรรจุพระให้แล้วนะ..”  ซึ่งตอนนั้นลูกก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะว่า บรรจุพระในตัวที่หลวงปู่ท่านพูดหมายความว่าอะไร ลูกรู้เพียงแต่ว่า พระของขวัญหลวงปู่ เป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ยิ่งรุ่น 1 ด้วยแล้ว ยิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่มีประมาณอย่างสุดชีวิต และนับจากนั้นลูกก็เก็บพระของขวัญนี้พกติดตัวรักษาบูชาเป็นอย่างดี แต่พอห้อย..ห้อยไป พระผงยุ่ยละลายน้ำง่าย เพราะมีส่วนประกอบของดอกมะลิ และลูกก็ห้อยท่านอย่างสมบุกสมบัน ลูกจึงคิดถามตัวเองในใจว่า “หากพระผงยุ่ยหมด ลูกจะทำยังไง ...ลูกจึงปิ้งขึ้นทันทีว่า.. งั้นเราขูดเอาเนื้อองค์พระบางส่วนกินเข้าไปในตัวแล้วกัน องค์พระจะได้อยู่กับเราไปได้ตลอดชีวิต แม้กาลเวลาผ่านไป ยุ่ยไปก็ไม่เป็นไร เมื่อลูกคิดดังนี้ จึงทำการขูดพระผงจากทางด้านหลัง แล้วเอาเข้าปากกินไปนิดหนึ่ง จากนั้นลูกก็รู้สึกสบายใจ ว่ามีพระในตัวลูกแล้ว และต่อมาด้วยความสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกของลูก พระของขวัญก็ได้ยุ่ยละลายไปจนหมดจริงๆ เจ้าค่ะ ตอนนี้ลูกก็เหลือแต่พระรุ่น 1 อยู่ในท้องเท่านั้น
 
    และก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับพระของขวัญอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเกิดกับญาติสนิทคนใกล้ชิดของลูก ซึ่งตอนนี้ท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่มีช่วงหนึ่งท่านเคยมาอุปัฏฐากหลวงปู่วัดปากน้ำ หลวงปู่ท่านจึงมอบพระของขวัญให้กับญาติท่านนี้ แต่ท่านได้ทำหายไป จนกระทั่งวันหนึ่ง หลวงปู่ท่านเข้าห้องน้ำ อุปัฏฐากคนนี้ ก็ได้หยิบพระของขวัญของหลวงปู่ที่วางไว้บนโต๊ะเพื่อเอาไปแทนองค์ที่ตัวเองได้ทำหายไป  แต่ภายหลังกลับใจเอามาคืนให้หลวงปู่วางไว้ที่เดิม หลวงปู่ท่านจึงพูดว่า “พระ..ท่านมีเจ้าของหมดแล้ว...” และช่วงบั้นปลายชีวิตอุปัฏฐากคนนี้ก็ได้กลับมาอยู่บนแผ่นดินรูปใบบัว และได้ขายที่ดินให้กับวัดเพื่อนำมาสร้างอนุสรณ์สถานให้หลวงปู่ค่ะ
   
    ป้าแท้ๆของลูก คนที่พาลูกมากราบหลวงปู่ ท่านเป็นคนเคารพและศรัทธาหลวงปู่เป็นที่สุด จะมาวัดปากน้ำเป็นประจำ แต่ป้ามีกรรมอยู่อย่างหนึ่งคือ เมื่อถึงหน้าหนาวทีไร ป้าแกจะเป็นบ้า มีอาการคลุ้มคลั่งทุกที น่ากลัวมากเลยค่ะ ซึ่งก็ลูกรู้สึกประหลาดใจเพราะตั้งแต่ลูกจำความได้ก็เห็นท่านเป็นแบบนี้แล้ว แต่ตอนหน้าร้อน หรืออากาศร้อนท่านจะไม่เป็น เหมือนคนปกติดีๆนี่แหละ แต่พออากาศเริ่มหนาวหน่อย ขนจะลุกชู และก็ออกอาการโวยวาย ถือมีดด้ามเล็กๆไว้กับตัว เที่ยวเดินไปทั่ว คลุ้มคลั่ง แต่พออากาศเริ่มร้อนท่านก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง ก่อนท่านจะมีอาการคลุ้มคลั่ง  จะรู้ตัวก่อน จะบอกคนรอบข้างว่า ให้เอาท่านล่ามโซ่ไว้หน่อย  พอท่านเริ่มหาย ก็จะบอกเขาว่า หายแล้วให้มาเอาโซ่ออกให้ด้วย ป้าของลูกมีอาการอย่างนี้มานานมาก และก็เป็นกังวลอยากจะให้ตัวเองหาย จึงเที่ยวไปหาหมอมารักษา กินน้ำมนต์ก็แล้ว อะไรก็แล้ว ไปมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ แต่ก็ไม่หายสักที จนกระทั่งหลวงปู่บอกว่า “ เอ็งไม่ต้องไปรักษาที่ไหนหรอก เดี๋ยวหมดกรรม มันก็หายเองแหละ..” แล้วหลวงปู่ท่านก็ให้กินยาลมของวัดปากน้ำแค่นั้นเอง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ ต่อมาอีกประมาณ4-5 ปีอยู่ๆ ท่านก็หายเป็นปลิดทิ้งไปเฉยๆอย่างนั้นเอง และพออากาศหนาวก็ไม่กลับมาเป็นอีกจริงๆค่ะ ต่อมาท่านป่วยเป็นโรคชราและเสียชีวิตลงด้วยวัย 92 ปี
   
    และลูกมีเรื่องราวที่อยากจะกราบเรียนถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับโยมพ่อ และโยมแม่ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ เพราะลูกเข้าวัดปากน้ำมากราบท่านตอนช่วงที่มีการจัดงานศพของโยมแม่ท่านพอดี ซึ่งลูกได้แต่ฟังญาติ ๆ เล่าเกี่ยวกับโยมแม่ โดยเฉพาะลุงหลอมจะเล่าให้ฟัง ว่า โยมแม่ท่าน รักลุงหลอมมาก จนลุงหลอมพูดว่า “ย่ารักกูมากพิลึก”
 
    โยมแม่ ท่านเป็นคนใจบุญมาก และเป็นคนเด็ดเดี่ยวเข้มแข็ง ทำอะไรทำจริงสุดชีวิต เหมือนหลวงปู่ ท่านชอบไปวัดเป็นประจำ ซึ่งช่วงก่อนจะมาวัดปากน้ำท่านได้บวชชีอยู่วัดสองพี่น้อง รักษาศีล เก็บดอกบัว และจะเตรียมดอกบัวไว้ให้คนบูชาพระ และต่อมาหลังจากที่หลวงปู่มาอยู่ที่วัดปากน้ำแล้ว ท่านได้ไปๆ มาๆ ระหว่างสองพี่น้องกับวัดปากน้ำอยู่เสมอ  ซึ่งหลวงปู่ท่านก็ชวนให้โยมแม่มาอยู่ที่วัดปากน้ำด้วย แต่ท่านยังไม่ยอมในทีแรก จนกระทั่งพี่สาวของหลวงปู่ เอาที่ดินไปจำนองกับเจ๊กไว้แล้วถูกโกง ทำให้โยมแม่ท่านเสียใจมาก เสียดายที่ดิน ทำใจไม่ได้ที่สมบัติที่เคยเป็นของตน       เองต้องตกไปเป็นของคนอื่น จึงได้เดินทางมาวัดปากน้ำ มาเล่าให้หลวงปู่ฟัง เรื่องการถูกโกงที่ดิน หลวงปู่ฟังแล้วก็หัวร่อชอบใจ แล้วชวนโยมแม่มาอยู่ที่วัดปากน้ำ โยมแม่ก็ตกลง
   
    โยมแม่หลวงปู่เป็นคนขยันไม่ชอบอยู่เฉยๆ อย่างวัดปากน้ำมีร่องน้ำขนาดใหญ่ ท่านก็จัดการดำนาปลูกข้าวเสียเลย หลวงปู่มายืนดูโยมแม่ท่านดำนา แต่ก็ไม่ว่าอะไร พอถึงฤดูเก็บเกี่ยว แม่ชีที่วัดก็เอาไปสีให้  โยมแม่ท่านอยู่ที่วัดปากน้ำจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต หลวงปู่เก็บศพโยมแม่ท่านไว้เพื่อทำวิชชา แต่ต่อมาภายหลังท่านก็ได้จัดงานสลายร่างท่านไปในที่สุด
 
    โยมพ่อของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ท่านเป็นคนขยันขันแข็ง เป็นพ่อค้าขายข้าว แต่ท่านได้เสียชีวิตลงตอนหลวงปู่อายุได้เพียง 13 ปี ตอนนั้นหลวงปู่ยังไม่ได้บวช
    
    ป้าดา เป็นพี่สาวคนโตของหลวงปู่ เคยดูแลหลวงปู่แทนโยมบิดาโยมมารดา เมื่อก่อนป้าดาเป็นผู้มีฐานะดี มีเรือจ้างขนาดใหญ่สามลำ แต่ตอนหลังกิจการเดินเรือขาดทุน ป้าดาจึงยากจนลง หลวงปู่จึงให้ป้าดามาอยู่ภายในวัดปากน้ำ และหาอาชีพให้ทำ โดยประชุมสงฆ์ในโบสถ์ ท่านพูดว่าท่านอยากช่วยพี่สาวท่านซึ่งขณะนี้ได้ยากจนลง แต่ตัวท่านนั้นเป็นสงฆ์ เงินทองที่เขาเอามาทำบุญจะเอาไปให้พี่สาวก็ไม่สมควร ดังนั้นท่านจะเอารูปท่านใส่กรอบขาย เพื่อเป็นการทดแทนคุณ ท่านก็ขอความเห็นจากคณะสงฆ์ในวัดว่า ถ้าสงฆ์ใดไม่เห็นด้วยก็ขอให้ยกมือคัดค้านได้ ถ้าสงฆ์เห็นดีด้วยก็ให้สาธุพร้อมกัน คณะสงฆ์ทุกรูปก็สาธุโดยพร้อมเพรียงกัน ป้าดาได้อาศัยจำหน่ายรูปหลวงปู่จนพอมีฐานะมีชีวิตที่สุขสบาย และอาศัยใบบุญของหลวงปู่อยู่ที่วัดปากน้ำตราบจนกระทั่งเสียชีวิต
 
ลูกกราบขอเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ค่ะ
 
1. หลวงปู่พูดกับลูกว่า “กูบรรจุพระให้แล้วนะ” หลวงปู่ท่านบรรจุอย่างไร เมื่อบรรจุแล้วผู้รับจะเป็นเช่นไร และถ้าบรรจุในตัวแล้วทำองค์พระของขวัญหายหรือละลายไป องค์ที่บรรจุแล้วจะยังอยู่ในตัวหรือไม่ แล้วที่ทำบุญ 25 บาท แล้วชาติหน้าจะมีสมบัติพันล้าน ทำไมถึงทับทวีได้ขนาดนั้นคะ
 
2. การที่ลูกขูดพระผงเข้าปากไปนิดหนึ่งจะบาปไหม ทำไมลูกถึงคิดแบบนี้ในช่วงนั้น และตอนนี้พระที่กินเข้าไปช่วยชีวิตลูกในปัจจุบันได้อย่างไรคะ และทำไมพระของลูกต้องละลายไปเป็นเพราะกรรมอะไรของลูกหรือไม่คะ   ทำไมพระขวัญของหลวงปู่ถึงศักดิ์สิทธิ์มากคะ
 
3. ที่หลวงปู่พูดว่า “พระ..ท่านมีเจ้าของหมดแล้ว” หมายความว่าอย่างไร...ความหมายเหมือนกับที่หลวงพ่อพูดว่าพระธรรมกายประจำตัวมีเจ้าของบุญอยู่แล้วหรือไม่คะ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
 
4. ทำไมอุปัฏฐากท่านนี้ถึงกล้าที่จะเอาพระของหลวงปู่ไปโดยไม่บอกหลวงปู่แต่ตอนหลังเอามาคืน จะมีวิบากกรรมอย่างไร และปัจจุบันก็ไม่ค่อยเข้าใจวัดเรา ท่านเคยมีผังเดิมมาอย่างไร
 
5. ป้ามีวิบากกรรมใดถึงทำให้เป็นบ้าเฉพาะฤดูหนาว แล้วมีบุพกรรมใดถึงบอกให้คนอื่นช่วยล่ามโซ่ตัวเอง แล้วทำไมโรคนี้อยู่ๆ ก็หายไปเอง   ตอนนี้ท่านตายแล้วไปอยู่ที่ไหน   มีอะไรฝากบอกหมู่คณะเราไหมคะ
 
6. โยมพ่อกับโยมแม่หลวงปู่ทำบุญร่วมมากับหลวงปู่อย่างไร ทำไมชาตินี้ถึงได้มาเป็นโยมพ่อโยมแม่ และเป็นโยมพ่อ โยมแม่ กันมากี่ชาติแล้ว   โยมพ่อโยมแม่ได้รับอานิสงส์อย่างไรในการบวชของหลวงปู่บ้าง   ตอนนี้โยมพ่อ  โยมแม่ท่านอยู่ที่ไหน   ชาติหน้าท่านจะเป็นโยมพ่อโยมแม่ของหลวงปู่อีกหรือไม่คะ
 
7. หลังจากที่โยมแม่เสียชีวิตหลวงปู่เก็บศพไว้ที่วัดปากน้ำเพื่อทำวิชชา ได้ยินข่าวมาว่าหลวงปู่ท่านทำวิชชาธรรมกายเพื่อช่วยให้โยมแม่ท่านฟื้นนั้นจริงหรือไม่ อย่างไร   และจะมีการสานตอนวิชชานี้ให้สำเร็จได้หรือไม่คะ วิชชาธรรมกายสามารถทำให้คนตายแล้วฟื้นจริงหรือไม่อย่างไรคะ   และทำอย่างไรถึงจะสามารถทำได้สำเร็จ
 
8. ด้วยบุพกรรมหรือบุญใดที่โยมแม่ถูกโกงที่ดิน แต่ได้มารับบุญใหญ่กับหลวงปู่ และที่หลวงปู่หัวเราะที่โยมแม่เล่าให้ฟังว่าถูกโกงนั้น เป็นเพราะอะไรหลวงปู่อธิษฐานให้ท่านมาหรือเปล่า
 
9. ทำไมโยมพ่อหลวงปู่ถึงอายุสั้นและไม่ได้รับบุญใหญ่กับหลวงปู่ในขณะที่หลวงปู่กำลังบวช  แต่ท่านได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดกายเนื้อหลวงปู่   ท่านจะได้อานิสงส์เช่นไร
 
10. ป้าดาทำบุญอะไรกับหลวงปู่มาถึงได้เกิดมาเป็นโยมพี่สาวท่าน และได้มาเป็นพี่เลี้ยงดูแลท่านแทนโยมพ่อโยมแม่   บุพกรรมใดที่ทำให้ป้าดามีฐานะร่ำรวย แต่กลับยากจนลง    , ที่หลวงปู่ให้นำรูปท่านใส่กรอบขายจนสามารถมีเงินขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เป็นเพราะบุญหลวงปู่หรือบุญป้าดาคะ  , ตอนนี้ป้าดาอยู่ที่ไหน ชาติหน้าจะได้มาเป็นโยมพี่สาวหลวงปู่หรือไม่คะ
 
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. หลวงปู่พูดว่า “กูบรรจุพระให้แล้ว”   หมายถึง   ท่านซ้อนองค์พระของขวัญด้วยวิชชาธรรมกาย โดยตอนที่มอบได้ซ้อนพระของขวัญติดไปในกลางกายของผู้มารับ จ่ะ!     
 
 
 
 
 
 
 
 
2. การที่ลูก “ขูดพระผงเข้าปาก” ไปนั้น     ตอนนั้นยังเป็นเด็กไม่มีความรู้อะไร     แต่ก็ไม่เป็นบาป     เพียงแต่ศรัทธาที่เกิดขึ้นไม่ประกอบไปด้วยปัญญาเท่าที่ควร จ่ะ!     ซึ่งถ้าจะให้ดี   ควรนึกถึงท่านไว้ในศูนย์กลางกายไว้บ่อย ๆ     จึงจะถูกหลักวิชชา จ่ะ!  
   
 
 
 
 
 
3. ที่หลวงปู่พูดว่า “พระของขวัญมีเจ้าของหมดแล้ว” หมายถึง   ท่านคำนวณเอากายละเอียดของผู้ที่ทำบุญกับท่านมา     ทั้งในอดีต  ปัจจุบัน  มาซ้อนในกลางพระของขวัญด้วยวิชชาธรรมกาย  แล้วเชื่อมให้ติดกัน จ่ะ!    
 
 
 
4. อุปัฏฐากท่านนี้   ท่านอยากจะได้มีพระของขวัญติดตัว  แต่ว่าของท่านเองหายไป     จึงอยากจะได้ของหลวงปู่ไปแทน      แต่ไม่กล้าขอ
 
 
 
 
 
 
5. ป้าแท้ ๆ ของลูกเป็น “บ้าในฤดูหนาว”   เพราะ ... กรรมในอดีตชาติ   เคยโกนหัวบวชชีเป็นอุบาสิกา  และในระหว่างนั้น ก็จะ “ดื่มเหล้าเพื่อแก้หนาว  ในฤดูหนาว”     โดยเข้าใจว่าไม่ผิดเพราะถือว่าเป็นเภสัช     แต่ว่าหลายครั้งก็ดื่มซะจนมึนเมาในช่วง ฤดูหนาว     แต่ภายหลังรู้ว่ามันผิดศีล   เพราะกินแก้หนาวไม่ถือว่าเป็นเภสัช     จึงได้เลิก    
 
 
 
 
 
6. โยมพ่อ – โยมแม่ของหลวงปู่   ที่มาเป็นโยมพ่อ – โยมแม่ของท่าน    เพราะ  ...ในอดีตชาติหนึ่งที่หลวงปู่ท่านบวช    ได้มี  2  ตา – ยายคู่หนึ่ง มาคอยอุปัฏฐาก  ได้อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติธรรมของหลวงปู่ในชาตินั้นที่เป็นพระหนุ่ม     ด้วยจิตที่เลื่อมใสในข้อวัตรปฏิบัติของท่าน     จึงได้เกิดความรักในตัวท่านเหมือนบุตร     เพราะตัวเองไม่ได้มีบุตรชาย    
 
 
 
 
 
 
7. ภายหลังจากโยมแม่เสียชีวิตแล้ว     หลวงปู่ท่านก็ได้เก็บศพของโยมมารดาท่านไว้     แล้วท่านก็ทำวิชชาปราบมารของท่านต่อไป  แต่ก็ยังไม่ชนะพยามาร     ความปรารถนาของท่านจึงยังไม่สำเร็จ     ดังนั้นท่านจึงได้ทำการสลายร่างโยมมารดาของท่าน
 
 
8. โยมแม่ของหลวงปู่ถูกโกงที่ดิน    เพราะ  ...วิบากกรรมในอดีต   ที่ท่านเป็นเศรษฐีแล้วปล่อยเงินกู้     และได้ยึดที่ดินของลูกหนี้ไว้     ดังนั้นชาตินี้จึงมาโดนบ้าง

 
 
 
9. โยมพ่อหลวงปู่อายุสั้น    เพราะ  กรรมในอดีตท่านเป็นพ่อค้า   ได้มีโจรมาปล้น     ท่านได้ต่อสู้และได้ฆ่าโจรตาย     วิบากกรรมปาณาติบาตนี้มาส่งผล จ่ะ!

 
 
 
10. ป้าดา  ท่านก็เคยได้เป็นพี่สาวของหลวงปู่   ในชาติที่ หลวงปู่เกิดเป็นพระราชาที่ชอบบริจาคทาน     และได้เห็นการบริจาคทานของพระราชาผู้เป็นพระอนุชา  ,  ตอนแรกก็ปีติเลื่อมใสในการบริจาคทาน
 
 
 
 
 
 
     
 
 
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-10-07.html
เมื่อ 22 กรกฎาคม 2567 22:04
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv