CASE STUDY
ภูเขาควาย 
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
   
        จากการที่ ลูก ได้ฟังเรื่องราว Case Study เกี่ยวกับที่มาที่ไปของผืนแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังจะสถาปนาเป็นพุทธอุทยานานาชาติแห่งนี้ ทำให้ลูกปีติและรู้สึกว่าตัวลูกเองกับสามี ตัดสินใจไม่ผิดเลยที่ยอมขายที่ดินแปลงนี้ให้  ซึ่งจากเดิมทีเดียวมีคนมาติดต่อซื้อที่ของเราจำนวนหลายเจ้า หลายคนมาก และก็ให้ราคาดีทีเดียว  แต่ยังไงๆเราก็ไม่ยอมขายค่ะ เพราะกลัวเขาจะเอาไปทำไม่ดี  เพราะลึกๆแล้ว ลูกและสามีอยากเอาพื้นที่นี้สร้างและทำประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา แต่พอคนของท่านรัฐมนตรีสมศักดิ์  เทพสุทิน มาติดต่อบอกว่าจะขอซื้อเพื่อสร้าง ศาสนสถาน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในเชิงศาสนา  และให้การท่องเที่ยวเกิดคุณค่าและสาระ สามารถโยงใยไปถึงเรื่องราวของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ โดยการร่วมกันสร้างกับวัดพระธรรมกาย ลูกและสามีจึงตกลงตัดสินใจขายที่แปลงนี้ให้ และก็ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือโครงการนี้มาโดยตลอดค่ะ
   
        ปัจจุบัน  สามีของลูก  เป็น นายก อบต. กุดบง อยู่ในเขตอำเภอโพนพิสัยค่ะ  ชาวบ้านที่นี่มีความเชื่อในเรื่องพญานาคกันมาก เพราะเขาเห็นพญานาคกันจนเป็นเรื่องปกติ และก็เห็นการพ่นบั้งไฟกันในทุกปี ซึ่งในปีที่น้ำขึ้นสูง ลูกจะสังเกตเห็นว่า ปีนั้นจะมีการพ่นบั้งไฟเยอะไปด้วยค่ะ อาณาบริเวณใกล้เคียงกับพุทธอุทยานแห่งนี้ มีสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่ง ซึ่งสถานที่แห่งหนึ่งที่ลูกรู้สึกสงสัยมานานก็คือ เทือกเขาฝั่งตรงข้ามกับอาณาเขตพุทธอุทยาน ที่เรียกกันว่า “ภูเขาควาย” ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งประเทศลาว
   
        ภูเขาควายแห่งนี้ จะมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีลักษณะสวยงามน่าอยู่มาก ภายในถ้ำมีเขาควายขนาดใหญ่วางอยู่คู่หนึ่ง ยาวข้างละประมาณ 8 ศอก ภูเขามีลักษณะโค้งงอนเหมือนกับเขาควาย ชาวบ้านจึงเรียกว่า “ถ้ำภูเขาควาย” ซึ่งในถ้ำแห่งนี้ และอาณาบริเวณเทือกเขาใกล้เคียง จะมีพระสงฆ์และพระธุดงค์อยู่เป็นจำนวนมาก  ซึ่งสามีของลูกก็ได้เคยไปกราบท่านเกจิอาจารย์ท่านหนึ่งที่นี่ ซึ่งท่านเก่งด้านวิปัสสนาคาถาอาคมมาก  สามารถหายตัวได้ เหาะเหินเดินอากาศได้ รู้ภาษานก มีวิชาถอดกายทิพย์ ซึ่งสามีของลูกก็ได้รับพระอุตที่ปลุกเสกจากท่านมา 1 องค์เอาไว้ป้องกันตัวในสมัยที่เป็นตำรวจ ป้องกันภัยจากผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ พระอาจารย์เกจิอาจารย์ท่านนี้เป็นที่นับหน้าถือตามาก ท่านก็มีอายุยืนถึง 80 กว่าปี   ถึงจะมรณภาพค่ะ
   
        สามีของลูกเคย เล่าว่า ในสมัยที่เขาเด็กๆ จะต้องดักปลาที่ริมน้ำโขง โดยการเอาไม้ไผ่มาเสียบกั้นๆไว้ในระยะห่างจากฝั่งพอสมควร พอน้ำลด ปลาก็จะว่ายลงน้ำไม่ได้ ก็จะได้ปลาจำนวนมากมาย แต่ทุกปีจะเกิดเหตุการณ์ประหลาดอยู่หลายครั้งคือ หากวันใดตรงน่านน้ำบริเวณที่ไปกั้นดักปลานั้น มีฟองอากาศขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างผิดปกติแสดงว่า วันรุ่งขึ้นเราจะไม่ได้ปลากันเลยค่ะ เพราะตอนเช้า ซี่ไม้ไผ่ที่ทำไว้ดักปลาก็จะมีรูขนาดใหญ่ เหมือนถูกพังให้ทะลุออกไป จนปลาว่ายหนีออกไปได้หมด โดยไม่ทราบสาเหตุว่าเพราะอะไร ซึ่งชาวบ้านก็ต่างบอกตรงกันว่า เป็นรูที่พญานาคพังทะลุรอดออกไปค่ะ
   
        คุณพ่อของสามีลูก เป็นคนใจใหญ่ ใจดี ท่านได้บวชเรียนตั้งแต่เล็กๆ ได้บวชตั้งแต่เป็นเณรจนเป็นพระ และมีอาคม อย่างถ้าเด็กเล็กๆร้องไห้ไม่ยอมหยุด ก็จะทำพิธีเป่าให้  เด็กก็หยุดร้องไห้ กินข้าวได้  แต่หลังจากลาสาสิกขาแล้ว คุณพ่อสามีก็มาร่องเรือบรรทุกสินค้า ค้าขายอยู่ในแม่น้ำโขง ต่อมาก็มาปิ๊งกับ คุณแม่สามี  ซึ่งท่านเป็นสาวสวยอยู่บ้านหนองกุ้ง หลังจากแต่งงานกันแล้วก็มาตั้งครอบครัวอยู่กันที่บ้านหนองกุ้งนี้ จนต่อมาท่านได้มาพบที่ดินศักดิ์สิทธิ์ผืนที่จะสร้างพุทธอุทยานแห่งนี้ จากเดิมทีเดียว เป็นที่ดินที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเลย เพราะเป็นดงไม้ตะแบก เป็นป่ารกทึบดูน่ากลัวมาก ซึ่งเจ้าของเก่าเอง เขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับผืนดินนี้ดีค่ะ
   
        แต่คุณพ่อของสามีลูกไม่กลัว จึงขอซื้อที่ดินตรงนั้น และเริ่มบุกเบิกทำสวน ทำไร่ข้าวโพด ซึ่งเป็นที่สังเกตอยู่อย่างหนึ่งคือ ไม่ว่าจะปลูกอะไรบนที่ดินแปลงนี้ ก็งอกงามดีมากได้ผลผลิตด  นำมาค้าขายจนคุณพ่อสามี สามารถส่งลูกเรียนจนเป็นใหญ่เป็นโตได้หมด แล้วคุณพ่อสามียังเคยถูกคัดเลือกให้เป็นผู้ใหญ่บ้านที่นี่ ถึงหลายสมัยด้วยกัน เพราะท่านเป็นที่รักของคนที่นี่ ทำอะไรทำจริง และท่านยังได้สร้างถนนทางเข้าหมู่บ้านหนองกุ้งใต้ ให้กับชาวบ้านที่นี่ด้วย คุณพ่อสามีเป็นคนอายุยืนมากถึง 96 ปี ก่อนจะเสียชีวิต 4-5 วันท่านได้บอกลูกว่า ท่านขอฝากชีวิตไว้กับลูกด้วย หากท่านเสียชีวิตไปแล้ว ให้ลูกทำบุญอุทิศให้กับท่านด้วยนะ ซึ่งลูกก็รับปากท่านค่ะ แล้วเวลาลูกทำบุญอะไรก็ตาม ตักบาตรตอนเช้าลูกก็จะอุทิศให้ท่านไม่ขาดเลยค่ะ แต่เป็นที่น่าสังเกตคือว่า คุณพ่อกับคุณแม่ของสามี จะรักลูกมาก ทั้งๆ ที่ลูกก็เป็นลูกสะใภ้แท้ๆ หลังจากท่านเสียชีวิตไปแล้วท่านก็ยังแบ่งมรดกไว้ให้ลูกด้วยคะ
   
        คุณแม่ของสามี ท่านเป็นคนชอบทำบุญมาก โดยเฉพาะหากทราบว่าวัดไหนเขามีบุญประเภทถวายพระพุทธรูป ท่านจะไปหมดทุกวัด และยังชอบไปถวายพระไตรปิฎกตามวัดต่างๆ อีกด้วย แต่ในบั้นปลายชีวิต คุณแม่สามีเป็นมะเร็งลำคอ และเสียชีวิตด้วยวัย 75 ปี
พ่อของลูก มีอาชีพเป็นชาวนา แต่ท่านชอบดื่มเหล้าตามเทศกาลกับเพื่อนๆ บุญก็ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง แต่อยู่ๆ ทั้งที่ท่านยังแข็งแรงอยู่ อายุได้เพียง 30 กว่าๆเท่านั้น ก็เกิดหายใจไม่ออก และตายในที่สุด ซึ่งขณะนั้นตัวลูกเองก็ยังเล็ก เรียนอยู่ชั้น ป. 5 เองค่ะ
แม่ของลูก มีอาชีพทำนาเหมือนกับคุณพ่อ แต่จะผิดกันกับคุณพ่อคือคุณแม่จะชอบทำบุญมากกว่าคุณพ่อ มีใครมาชวนทำบุญอะไร ท่านก็ทำกับเขาหมด ตอนท่านชราท่านเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเมื่ออายุ 67 ปี
 
ลูกขอเรียนถามคำถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ค่ะ
 
1. ในบริเวณถ้ำเขาควาย และบริเวณเทือกเขาข้างเคียง ทำไมถึงมีผู้สำเร็จมาอยู่หลายท่านค่ะ และทำไมท่านต้องเลือกทำเลนี้ด้วย เกี่ยวข้องกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือพญานาคอย่างไรรึเปล่า
 
2. พระเกจิอาจารย์ที่สามีลูกนับถือ ท่านใช้วิชาอะไรถึงหายตัว เหาะได้ และอายุยืน ตอนนี้ท่านมรณภาพไปแล้วไปอยู่ที่ไหนคะ และที่ภูเขาควายนี้ยังมีพระผู้สำเร็จอยู่หรือไม่ ท่านมีเป้าหมายในวัฏสงสารอย่างไรค่ะ
 
3. ปัจจุบันนี้มีพญานาคแปลงกายเป็นคน อยู่บริเวณริมน้ำโขงหรือไม่ ถ้าแปลงเป็นคนส่วนมากขึ้นมาทำอะไรค่ะ และเขาอยู่ในสภาพคนได้นานหรือไม่ มีช่วงเวลาจำกัดมากน้อยแค่ไหน ขึ้นกับเหตุปัจจัยอะไรบ้างค่ะ และจะสังเกตได้อย่างไรว่าเป็นพญานาคแปลงกายมา
 
4. ตรงบริเวณน้ำโขงมีครุฑ ที่เป็นอากาศเทวา ภุมมเทวาหรือครุฑในระดับเดียวกันไหมค่ะ และครุฑบริเวณนี้สามารถมาจับพญานาคได้หรือไม่ หากไม่มีทำไมถึงไม่มีค่ะ
 
5. รอยรูของแนวไม้ไผ่ดักปลาที่ถูกทะลาย เป็นรอยที่เกิดจากอะไรค่ะ แล้วทำไมก่อนเกิดรูนี้ ถึงมีฟองอากาศขึ้นจากน้ำเป็นจำนวนมาก ใช่พญานาคทำไหมค่ะ
 
6. พ่อแม่ของลูกและพ่อแม่ของสามีของลูก ตายแล้วไปอยู่ที่ไหน มีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง ได้รับบุญที่อุทิศไหมค่ะ   บุญจากการที่ที่ดินผืน
นี้สร้างเป็นพุทธอุทยานจะไปถึงพ่อแม่ของสามีซึ่งเคยเป็นเจ้าของที่หรือไม่คะ
 
7. บุพกรรมใดที่ทำให้พ่อสามีอายุยืน แล้วอาคมที่ท่านเรียนทำไมถึงสามารถทำให้เด็กหยุดร้องกินข้าวได้ค่ะ  
 
8. ทำไมพ่อแม่ของสามีถึงรักตัวลูกมากค่ะ และบุญใดที่ทำให้ตัวลูกได้รับมรดกเป็นที่ดินด้วยค่ะ
 
9. จาก Case Study ที่ผ่านมา ที่คุณครูไม่ใหญ่บอกว่า ในพุทธันดรแรกของกัปนี้ หมู่คณะเราเคยมาสร้างวัดสาขาบริเวณนี้ วัดในสมัยนั้นเป็นอย่างไรค่ะ มีคนมาเป็นหมื่นๆ แบบชาตินี้รึเปล่าค่ะ ลูกและสามี และคนที่เป็นชาวบ้านแถวนี้ เกี่ยวพันกับวัดในสมัยนั้นหรือไม่ อย่างไรค่ะ และเหตุใดชาตินี้ลูกถึงมาเป็นเจ้าของที่ดินบริเวณนี้ถึง 25 % คะ
 
10. ท่านผู้ประสานงานหญิงคนสำคัญ ที่มีส่วนช่วยให้ทุกฝ่ายมารวมกันในการสร้างพุทธอุทยานแห่งนี้ อดีตชาติท่านเป็นใคร เกี่ยวข้องกับผืนแผ่นดินนี้อย่างไร ท่านสร้างบารมีกับหมู่คณะมาในรูปแบบใด มีหน้าที่อะไรค่ะ และบุญอะไรที่ทำให้ท่านเป็นคนมีชื่อเสียง และเป็นผู้นำคนค่ะ 
 
11. ผู้ที่มาสถาปนาพุทธอุทยานนานาชาติ ปลูกต้นสน จะได้รับอานิสงส์อย่างไร และมากน้อยเพียงไรค่ะ
 
12. ลูกสามีและลูก 2 คนเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาในรูปแบบใด มีหน้าที่อะไรค่ะ และบุญใดที่ทำให้สามีของลูกเป็นอบต.ค่ะ และลูกและสามีจะได้รับอานิสงส์อย่างไรในการสนับสนุนการสร้างพุทธอุทยานนานาชาติค่ะ
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง 
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. “ภูควาย” (ภูเขาควาย) และบริเวณเทือกเขาข้างเคียง         มีป่าเขา, มีถ้ำมากมาย     เหมาะสมที่จะให้ผู้ที่อยากจะมาบำเพ็ญสมณะธรรมบำเพ็ญได้สะดวก    ดังนั้นจึงทำให้มีผู้สำเร็จมาก    อีกทั้ง    มีเทวดาที่เป็นหัวหน้าเขตก็เป็นสัมมาทิฐิคอยดูแลอยู่ด้วย

 
 
2. พระเกจิอาจารย์ที่สามีลูกนับถือนั้น   ท่านใช้วิชา “กสิณ” ผสมคาถาอาคมเป็นหลัก   จึงย่นหนทางได้   ดูเหมือนหายตัวไป   แต่เหาะยังไม่ได้จ่ะ!    
 

 
3. พญานาคที่แปลงกายเป็นคนที่ริมน้ำโขงในปัจจุบันนี้ก็ยังมี  ,  แต่มีน้อย   แล้วแต่โอกาสที่จำเป็น  เช่น  มีธุระมาหล่อพระ เพราะอยากได้บุญ  ,  เปลี่ยนบรรยากาศบ้างเป็นต้น  ,  ส่วนที่จะเป็นมนุษย์ได้นานหรือไม่นาน   ก็ขึ้นอยู่กับบุญในตัว  ,  ถ้ามีบุญมาก  ก็แปลงกายได้นาน  ,  ถ้ามีบุญน้อย   ก็ไม่ได้นาน จ่ะ! 

 
 
4. ตรงบริเวณน้ำโขงไม่มีครุฑ     แต่ที่เป็น “อากาสเทวา” มี ที่เกิดขึ้นจากการเป็นคู่เวรกับนาคบางตัว     แต่ไม่ได้มาวุ่นวายกับนาคที่ลำน้ำโขง, วิมานของเขาจะอยู่สูงกว่าพื้นมนุษย์ 1 โยชน์และภายในวิมานก็มีอาหารทิพย์ของเขา จ่ะ!

 
5. “รอยรู” ของแนวไม้ไผ่ดักปลาที่ถูกทะลาย    เป็นรอยที่เกิดจากพญานาค หรือบริวารของนาค หรือ “งูน้ำ”     ที่ไม่อยากให้จับปลาได้   เพราะถิ่นนั้นเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของเขาจ่ะ!

 
 
 
6. พ่อ – แม่ของลูก, ตายแล้ว ...พ่อก็ไปเป็น “ภุมมเทวา” ชั้นล่างในช่วงแรก     ต่อมาก็ได้รับบุญที่อุทิศไปให้จึงมีสภาพที่ดีขึ้นแต่ก็ไปเป็นบริวารของเทวดาที่มีศักดิ์ใหญ่, ให้ทำบุญอุทิศไปให้อีก จ่ะ!   
 

 
 
7. พ่อสามีอายุยืน   เพราะ...ท่านทำบุญด้วยยารักษาโรค , และช่วยรักษาคนเจ็บป่วย ทั้งในอดีตและปัจจุบัน   มาส่งผลจ่ะ!    

8. พ่อแม่ของสามีที่รักตัวลูกมาก   เพราะ ....ในอดีตก็เคยเกื้อกูลกันมาซึ่งกันและกัน     กับอีกทั้งตัวลูกก็ทำตัวให้เป็นที่รัก ของท่านในปัจจุบัน จ่ะ! 
 
9. ในพุทธันดรแรกของกัปนี้     ได้เคยมาสร้างวัดสาขาที่บริเวณพุทธอุทยานนานาชาติแห่งนี้     ซึ่งในยุคนั้นแผ่นดินไม่ได้เป็นแบบนี้   เพราะราบเรียบ  ,  ไม่ขรุขระ   สัญจรไปมาสะดวก  ,  อีกทั้งยังไม่มีแม่น้ำโขง  ,  วัดสาขาในยุคนั้นใหญ่กว่าวัดใหญ่ ๆ ในปัจจุบันนี้มาก   และมีคนเข้าวัดมากมายกว่าชาตินี้ จ่ะ!  

 
 
 
10. ท่านผู้ประสานงานคนสำคัญ   ที่มีส่วนช่วยให้ทุกฝ่าย    มารวมกันสร้างพุทธอุทยานนานาชาติแห่งนี้  ,  ในพุทธันดรแรกของกัปนี้   ที่หมู่คณะมาสร้างวัดสาขาที่พุทธอุทยานนานาชาติ   ท่านได้เป็นผู้ชาย  ,  เป็นเสนาบดีที่ได้ดูแลมณฑลแถบนี้     และได้ มีส่วนสนับสนุนในการสร้างวัดสาขาดังกล่าว    
 
 
 
 
 
 
11. ผู้ที่มาสถาปนาพุทธอุทยานนานาชาติ      ด้วยการปลูก  ต้นสนก็จะมีอานิสงส์ที่จะได้มีที่ดินติดตัวไป     รวมทั้งจะมีความสุข – ความเจริญร่มเย็นด้วยอานิสงส์ปลูกต้นสน     ตามกำลังบุญแห่งความตั้งใจ  ,  ถ้าใครตั้งใจมากก็มีบุญมาก  ,  ใครตั้งใจน้อยก็มีบุญน้อย

 
 
12. ลูก – สามี  และลูก  2  คน   เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง”     ในช่วงใกล้ ๆ ในพุทธันดรแรกของกัปนี้ก็ได้ช่วยสร้างวัดสาขาที่ตรงนี้  ,  ในพุทธันดรที่  2  ของกัปนี้ถัดมาก็ได้เจอกันอีก     แต่พุทธันดรที่  3  พลัดกันเพราะประมาทในการดำเนินชีวิต  ,  พุทธันดรที่  4  ของกัปนี้ในปัจจุบันก็ได้มาเจอกันอีก จ่ะ!

 
 

บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-10-20.html
เมื่อ 22 กรกฎาคม 2567 22:42
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv