CASE STUDY
ข้าวสารเพิ่มเมล็ด และ เพชรตาแมว
เรียบเรียง จากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
ลูกเป็นลูกพระธัมฯเข้าวัดเมื่อปี 2530 โดยการชักชวนของคุณพ่อตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนมัธยม จนกระทั่งปัจจุบันได้เข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในวัดแล้วเจ้าค่ะ ลูกกราบขออนุญาตส่ง CASE STUDY มาดังนี้ค่ะ
คุณพ่อของลูก เป็นคนจังหวัดสงขลาโดยกำเนิด ชีวิตในวัยเด็กของท่าน ค่อนข้างลำบาก แต่คุณพ่อก็เป็นคนที่เรียนหนังสือเก่งมากสอบชิงทุนได้เรียนจนจบในระดับมหาวิทยาลัย แล้วไปประกอบอาชีพรับราชการครูอยู่ที่จังหวัดนครนายก จากนั้นท่านก็มาพบรักกับคุณแม่ซึ่งมีอาชีพรับราชการครูเช่นกัน เมื่อแต่งงานอยู่กินด้วยกันแล้วก็มีลูก 2 คน เป็นชาย1 หญิง1 และลูกหญิงก็คือตัวลูกเองค่ะ อุปนิสัยของคุณพ่อเป็นคนใจดี รักครอบครัว ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และชอบการทำบุญเป็นประจำอยู่เสมอ ต่อมาเมื่อปีพ.ศ 2529 คุณพ่อก็ได้มารู้จักกับวัดพระธรรมกายโดยการชักชวนของเพื่อนกัลยาณมิตรคุณครูด้วยกัน แล้วคุณพ่อก็มาทำบุญกับทางวัดโดยตลอดต่อเนื่องไม่เคยขาด คุณพ่อได้ทำบุญ สร้างองค์พระให้ คุณปู่ คุณย่า คุณทวดหญิง คุณทวดชาย พร้อมทั้งสร้างพระให้ตัวเองและทุกคนในครอบครัวกว่า 20 องค์ และร่วมบุญกฐินทุกปี แล้วท่านก็ยังเป็นผู้นำบุญจัดรถนำนักเรียนและผู้ปกครองรวมทั้งสาธุชนมาร่วมงานบุญกับทางวัดเสมอ คุณพ่อรักในการสั่งสมบุญมาก
ครั้งหนึ่งคุณพ่อได้มาอยู่ธุดงค์ปีใหม่แล้วยังได้นั่งเนสัชตลอดทั้งคืนโดยไม่เมื่อยเลย ท่านยังพูดกับคุณแม่และลูกๆว่า มีความสุขจังเลย ซึ่งทุกคนในครอบครัวเห็นคุณพ่อมีความสุขก็สุขด้วย แต่ทุกคนไม่ทราบเลยว่า คุณพ่อได้ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ตับระยะสุดท้ายแล้ว เพราะคุณพ่อไม่เคยได้พูดถึงอาการป่วยของท่านให้ใครรู้เลย พอทุกคนมาทราบคุณพ่อก็ป่วยหนักรักษาไม่ได้แล้ว และเสียชีวิตเมื่ออายุ 64 ปี
คุณแม่ของลูก เป็นคนจังหวัดนครนายกโดยกำเนิด ท่านมีพี่น้องด้วยกัน 10 คน คุณแม่เป็นคนที่ 6 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด คุณแม่เป็นคนสวยหน้าตาดี มีหนุ่มๆมาจีบมากมาย โดยอุปนิสัยของคุณแม่แล้ว ท่านจะเป็นคนใจร้อนหงุดหงิดง่ายแต่ก็หายอย่างรวดเร็ว แต่ท่านก็เป็นคนใจบุญ ชอบทำบุญตักบาตรในตอนเช้าเสมอ แล้วมีอยู่ครั้งหนึ่ง ในปี 2523 คุณแม่ได้เห็นพระสงฆ์รูปหนึ่งออกบิณฑบาตผ่านหน้าบ้าน พระภิกษุรูปนั้นมีหน้าตาผิวพรรณวรรณะผ่องใสงดงามมาก งามกว่ารูปวาดและรูปปั้นทั่วไปเสียอีก ในยามเดินก็เหมือนลอย เท้าไม่แตะพื้น จึงทำให้คุณแม่คิดว่าเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และท่านก็ยังบอกอีกว่าเคยเห็นดวงแก้วแสงสีเขียวๆ ลอยมาตกแถวๆ ตรงคูน้ำริมถนนหน้าบ้านอีกด้วย จึงทำให้คุณแม่มั่นใจในการทำความดี และรักในการทำบุญมากขึ้น ใครชวนทำบุญอะไรก็ทำ ไม่ว่าจะทอดกฐิน ทอดผ้าป่า หรือบุญต่างๆ คุณแม่ก็จะร่วมทำทุกบุญค่ะ ต่อมาพ่อก็มาเป็นกัลยาณมิตรชักชวนคุณแม่ให้มาร่วมทำบุญที่วัดพระธรรมกาย ท่านจึงได้ตามคุณพ่อมาทำบุญสร้างบารมีเคียงข้างกลับคุณพ่อมาโดยตลอด
ปี 2547 คุณแม่ก็ได้มีอาการเหนื่อยง่าย อึดอัดหายใจไม่สะดวก หมดแรงอ่อนเพลียแบบชนิดที่ว่าหาสาเหตุไม่เจอ ท่านจึงได้ไปพบคุณหมอจึงทราบว่าป่วยเป็นโรคหัวใจโต หนำซ้ำยังมาเป็นโรคความดันสูงอีก และทุกวันนี้ท่านต้องทานยาตามแพทย์สั่งอยู่ตลอด อาการจึงค่อยๆดีขึ้นแต่ยังไม่หายเป็นปกติค่ะ
คุณตาของลูก หาเลี้ยงครอบครัวทุกวิถีทางที่พอจะหาได้ ในขณะนั้นคุณตาไม่มีความรู้เรื่องความเป็นจริงของชีวิตและไม่มีความรู้เรื่องกฎแห่งกรรม จึงทำให้ท่านได้มาประกอบอาชีพประมงอยู่ประมาณปีกว่า ซึ่งพอจะมีรายได้เข้ามาบ้าง แต่ด้วยความที่คุณตา เป็นคนใจดีชอบทำบุญทำทาน ชอบศึกษาธรรมะและอุปัฏฐากพระและช่วยงานวัดแถวบ้านมาตลอด คุณตาจึงเลิกทำประมง แล้วหันมาเอาดีทางทำนาทำสวนค่ะ คุณตาเป็นคนกว้างขวางจึงเป็นที่รู้จักของคนในหมู่บ้านและเป็นที่ยอมรับของชาวบ้านว่าเป็นคนดี กอปรกับท่านก็ไม่ชอบดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ แต่ก็มีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นกับคุณตาจนได้ เมื่อหลานชายของท่านคนหนึ่งซึ่งชอบดื่มเหล้ามายัดเยียดเหล้าให้คุณตาดื่ม คุณตาพยายามหลีกเลี่ยงและปฏิเสธด้วยอาการนุ่มนวล แต่หลานชายไม่ยอม พยายามคุมให้คุณตาดื่มเหล้าให้ได้ จากที่คุณตาปฏิเสธอย่างนุ่มนวลนั้น ก็ค่อยๆรุนแรงขึ้นจนเกิดโทสะ มีปากเสียงกัน แต่คุณตาก็ระงับอารมณ์ได้ ท่านจึงเดินหนีไป และในวันเดียวกันนั้นคุณตาเกิดเป็นโรคความดันสูงกะทันหันทำให้เส้นเลือดในสมองแตกจนกระทั่งเสียชีวิต เมื่ออายุได้ 86 ปี
คุณยายของลูก เป็นคนขยันสู้ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวคู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับคุณตามาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งในปี 2480 ขณะที่คุณยายขุดหลุมเพื่อจะปลูกต้นกล้วยอยู่ในสวนนั้น ท่านยกจอบขุดหลุมได้เพียง 2-3 ครั้ง ก็ปรากฏเห็นแสงเรืองรองงดงามอยู่ในหลุม ท่านจึงตั้งใจขุดก็ปรากฏเห็นซากแมวเป็นตัวๆ แต่แปลกตรงที่ตาของมันข้างหนึ่ง มีแสงดุจราวกลับเพชร คุณยายจึงได้จับดูมีลักษณะแข็งมีแสงแว๊บๆสวยงาม ส่วนตาข้างหนึ่งของแมวฝ่อ คุณยายจึงนำตาแมวข้างที่เหมือนเพชรมาทำเป็นหัวแหวน ซึ่งเมื่อเจียระไนแล้วจะมีเนื้อสีขาวทึบมีสีเขียวเรืองๆโดยรอบ สวยงามมากค่ะ ซึ่งผู้คนที่ทราบเรื่องเขาก็จะเรียกกันว่า เพชรตาแมว
และมีอีกคราวหนึ่งในปี 2497 คุณยายก็ได้ไปขุดหลุมปลูกมันเทศ จู่ๆก็ขุดไปพบเมล็ดข้าวสีดำคล้ายถ่านจำนวนมากๆเก็บได้เป็นจำนวนมาก จากนั้นท่านจึงนำไปทำความสะอาดเก็บเอาไว้บูชาเพราะคิดว่าเป็นสิ่งวิเศษ แต่ก็แปลกจริงๆค่ะเพราะข้าวสีดำที่คุณยายเก็บมาไว้ในภาชนะเพื่อบูชา ข้าวสีดำนั้นก็จะเพิ่มจำนวนเองโดยไม่มีสาเหตุ ยิ่งทำให้คุณยายเชื่อว่าเป็นข้าววิเศษค่ะ เมื่อชาวบ้านทราบก็ได้มีคนมาขโมยข้าวนี้ไปแต่ก็ต้องเอามาคืน เพราะเขาฝันว่า เห็นเศียรพระพรหมตั้งอยู่บนพานแว่นฟ้า ไปท้วงให้เอากลับมาคืนที่เดิม คุณยายรวมทั้งลูกๆหลานๆจึงเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของข้าวสีดำ คุณยายได้เสียชีวิตด้วยโรคชรา เมื่ออายุ 92 ปี
พี่ชายของลูก ในสมัยเรียน เขามักจะมีอาการเครียดอยู่บ่อยๆ และมักจะทำเงินหายอยู่บ่อยๆอีกด้วย พี่ชายเป็นคนที่ไม่สามารถเก็บเงินไว้กับตัวได้เลย ต้องฝากหรือแจกคนอื่นเป็นทานเรื่อยไป บางครั้งให้เงินกับคนขอทานเป็นพันบาท ต่อมาเมื่อพี่ชายเรียนจบเข้าทำงานก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเลย ยิ่งทำให้เขาเครียดมากขึ้นจึงหันหน้าเข้าหาบุหรี่ สูบบุหรี่วันละ 1 ซองเป็นอย่างน้อย คุณแม่ก็ได้ไปเป็นกัลยาณมิตรให้เขาหักดิบเลิกบุหรี่ พี่ชายก็ทำตาม แต่ปรากฏว่า เขามีอาการขากรรไกรค้าง ตัวแข็งกระดุกกระดิกไม่ได้เส้นตึงไปหมด ทรมานมาก แต่เขาก็พยายามอดทนกับความทุกข์เช่นนี้จนเลิกได้สำเร็จค่ะ จากนั้นพี่ชายก็ได้มาบวชบูชาพระธัมฯในรุ่น 61 ปี เมื่อครบกำหนดจึงได้ลาสิกขาออกไป
ตัวลูกเอง เมื่ออายุได้ 11 ขวบ เกิดความทรงจำแปลกๆ คือ ลูกรู้สึกว่าขณะที่อยู่ในครรภ์คุณแม่นั้น มีความรู้สึกว่าได้เปลี่ยนท่ากลับหัวกลับเท้าอยู่บ่อยๆ แล้วก็ยังรู้สึกอีกว่า เวลาคลอด ถ้าเอาขาออกก่อนก็คงจะสบายตัวมากกว่า เอาหัวออกเป็นแน่ ซึ่งความทรงจำนี้จะเกิดกับลูกเป็นระยะๆ ลูกจึงไปถามคุณแม่ว่า “แม่จ๋าตอนคลอดลูก หนูเอาเท้าออกก่อนหรือเอาหัวออกก่อนค่ะ” แล้วคุณแม่ก็ตอบลูกกลับมาว่า “ ตอนคลอดหนูนั้น หนูเอาเท้าออกก่อนจ๊ะ” ลูกถึงกับอึ้งเพราะมันตรงกับความรู้สึกของลูกค่ะ
ต่อมาเมื่อปี 2530 ขณะที่ลูกกำลังเรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยปี 1 คุณพ่อได้มาเป็นกัลยาณมิตรชักชวนลูกให้ไปทำบุญที่วัดพระธรรมกาย ลูกจึงได้มาสร้างบารมีเป็นอาสาสมัครช่วยงานวัดทุกวันอาทิตย์และมาร่วมงานบุญใหญ่โดยตลอดต่อเนื่องไม่เคยขาด จนกระทั่งลูกเรียนจบจึงตัดสินใจเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ช่วยงานวัดอย่างเต็มตัวค่ะ
คำถาม
1. บุพกรรมใดชีวิตในวัยเด็กของคุณพ่อจึงค่อนข้างลำบาก และบุญใดทำให้ท่านเรียนหนังสือเก่งสอบชิงทุนได้ตลอด ทำไมคุณพ่อจึงไม่ยอมบอกใครๆว่าท่านป่วยหนัก แล้วกรรมใดทำให้คุณพ่อเป็นโรคมะเร็งในตับ คุณพ่อตายแล้วไปไหน ได้รับบุญอุทิศไปให้หรือไม่อย่างไรคะ
2. คุณแม่เห็นพระภิกษุสงฆ์มาบิณฑบาตรูปร่างหน้าตาผิวพรรณวรรณะผ่องใสนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่คะ ถ้าเป็นจริงท่านเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงใช่หรือไม่อย่างไรคะ และดวงแก้วแสงสีเขียวที่คุณแม่เห็นนั้นคืออะไร คุณแม่มีวิบากกรรมใดที่ทำให้ท่านเป็นโรคหัวใจโต ท่านจะหายเป็นปกติหรือไม่ ควรแก้ไขอย่างไรคะ
3. วิบากกรรมใดคุณตาจึงโดนหลานยัดเยียดให้ดื่มเหล้า จนเกิดเป็นโรคความดันสูงทำให้เส้นเลือดในสมองแตกตาย ท่านตายแล้วไปไหนได้รับบุญอุทิศไปให้หรือไม่อย่างไรคะ
4. ทำไมเพชรตาแมวที่คุณยายได้จึงมีสีขาวและสีเขียวที่มีแสงเรืองรองโดยรอบ มีคุณวิเศษมั๊ยคะ ถ้ามี เวลานำไปเจียแล้วจะทำให้คุณวิเศษลดลงหรือไม่ค่ะ คุณยายมีบุญอะไรจึงได้มาพบเพชรตาแมว เพชรตาแมวมีกี่สี เหมือนสีของเพชรพลอยไหม และมีคุณสมบัติแร่ธาตุเหมือนเพชรพลอยหรือไม่คะ
5. ข้าวสีดำที่คุณยายพบเป็นของวิเศษหรือไม่ ทำไมข้าวจึงเพิ่มจำนวนได้เอง ข้าวนี้คือสิ่งใด เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ทำไมคุณยายจึงไปพบ
6. คุณยายเสียชีวิตด้วยโรคชราตายแล้วไปไหน ได้รับบุญอุทิศไปให้หรือไม่อย่างไรคะ
7. ทำไมพี่ชายของลูกเป็นคนเครียด ไม่สามารถเก็บเงินไว้กับตัวได้เลย มักจะหาย หรือต้องฝาก หรือแจกคนอื่น , ทำไมเขาไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เขาจะมีโอกาสกลับมาบวชตลอดชีวิตหรือไม่คะ
8. ทำไมลูกถึงมีความรู้สึกว่า ถ้าคลอดก็ต้องเอาเท้าออกก่อนหัวถึงจะสบาย ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นกับลูกได้อย่างไรคะ
9. คุณปู่คุณย่าเสียชีวิตด้วยโรคชรา ท่านทั้งสองตายแล้วไปไหนได้รับบุญอุทิศไปให้หรือไม่อย่างไรคะ
10. ทำไมลูกถึงได้ชอบนักวิทยาศาสตร์ที่มีความสามารถค้นพบสิ่งใหม่ๆให้กับชาวโลกเสมอ แล้วลูกก็ชอบสีเขียวขี้ม้าชอบชุดทหารและชอบช้างศึกที่อยู่ท่ามกลางสนามรบ ลูกเคยเป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวชหรือไม่อย่างไรค่ะ
11. ลูกมีพี่น้องกัลยาณมิตร 2 คน ที่สนิทสนมและคอยให้กำลังใจกันและกันอยู่เสมอ คนหนึ่งเป็นอาสาสมัคร อีกคนหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เราเคยสร้างบารมีด้วยกันมาอย่างไร ทำหน้าที่มาอย่างไรในกองทัพธรรมคะ
12. ครอบครัวของลูกสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรจะได้ไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิ์สัตว์หรือไม่อย่างไรคะ
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
1. ชีวิตวัยเด็กของคุณพ่อค่อนข้างลำบาก เพราะ..... กรรมความ “ตระหนี่” ในอดีตได้ตามมาส่งผลในชาตินี้จ่ะ !
- ท่านเรียนหนังสือเก่ง สอบชิงทุนได้ตลอด เพราะ..... ท่านมีนิสัยรักการเรียนการศึกษาข้ามชาติ และมีบุญให้วิทยาทานมาส่งเสริมด้วยจ่ะ !
- คุณพ่อเป็นโรค “มะเร็งในตับ” เพราะ..... กรรมปาณาติบาต ฆ่าสัตว์ทำอาหาร , สั่งฆ่าสัตว์เพื่อเลี้ยงแขกเหรื่อ , และล่าสัตว์เป็นเกมส์กีฬาในอดีตมาส่งผลจ่ะ !
- ท่านป่วยแล้วไม่ยอมบอกใครเพราะกลัวครอบครัวห่วงกังวลจ่ะ !
- ตายแล้วไปเป็นเทพบุตรสุดหล่อ มีวิมานทองของชั้น “ดาวดึงส์” เฟส 2 ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนา และยังไม่รู้หลักวิชชาที่สมบูรณ์ , ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้วก็มีทิพยสมบัติเพิ่มขึ้น
2. คุณแม่เห็นพระภิกษุสงฆ์เดินบิณฑบาต รูปร่างหน้าตาผิวพรรณวรรณะผ่องใสนั้น เป็นเรื่องจริง แต่ไม่ใช่พระพุทธเจ้า เป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเท่านั้นจ่ะ !
- ดวงแก้วแสงสีเขียวที่คุณแม่เห็นนั้น คือ ปรากฏการณ์ธรรมชาติธรรมดา
- แต่ท่านมีจิตเป็นกุศลทำให้ท่านน้อมมาทางความดี อยากทำความดีเพิ่มขึ้นจ่ะ !
- คุณแม่เป็นโรค “หัวใจโต” เพราะ ..... กรรมในอดีตที่ใช้แรงงานสัตว์มากเกินไป รวมกับกรรมกาเมเจ้าชู้สมัยเป็นผู้ชายมาเสริมด้วยจ่ะ ! ..... ให้ท่านสั่งสมบุญทุกบุญทั้ง ทาน , ศีล , ภาวนนาให้มาก แล้วอธิษฐานจิตให้หนักเป็นเบา , เบาเป็นหายจ่ะ !
3. คุณตาเป็นโรคความดันโลหิตสูง ทำให้เส้นเลือดในสมองแตกตาย เพราะ..... กรรมทั้งในอดีตและปัจจุบันที่เลี้ยงสัตว์เอาไว้ฆ่า และเคยฆ่าสัตว์ไว้เลี้ยงคนเพื่อทำกับแกล้ม กับกรรมประมงมาเสริม
- แต่ตอนตายจิตไม่ค่อยผ่องใสมากนัก บุญจึงไม่ได้ช่องเท่าที่ควร จึงได้ไปเกิดเป็น “เทพบุตรสายยักษ์” ชั้นสูงชั้นจาตุมหาราชิกา , ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้วก็ทำให้ท่านมี ทิพยสมบัติเพิ่มขึ้นจ่ะ !
4. “เพชรตาแมว” ที่คุณยายได้นั้น ยังไม่ใช่เพชรตาแมวที่แท้จริง แต่เกิดจากตัวแมวที่นัยน์ตาเป็น “ต้อหิน” จึงมีสีขาวขุ่น , ไม่ได้เกิดจากกายสิทธิ์มาลง จึงไม่ได้ทำให้มีอานุภาพพิเศษใด ๆ จ่ะ !
- เพชรตาแมวจริง ๆ จะมีกายสิทธิ์ลงแล้วทำให้นัยน์ตาแมวนั้นแข็งและใสเหมือนตาแมวปกติ , แมวมีดวงตาสีอะไร เพชรตาแมวก็มีดวงตาสีนั้น แต่ไม่เหมือนสีเพชรพลอยจ่ะ !
5. “ข้าวสารดำ” ที่คุณยายพบ ก็เป็นข้าวสารที่พวกพราหมณ์หรือพวกไสยเวทย์ใช้ประกอบพิธีกรรม , เป็นของตกค้างจากโบราณ อย่าไปสนใจอะไรมากนัก เพราะไม่ใช่ที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริงจ่ะ !
- นอกจากเก็บเอาไว้เป็นของแปลก ๆ ไว้ดูเล่น เมื่อไม่รู้จะทำอะไรให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิตจ่ะ !
6. คุณยายตายแล้ว ก็ไปเป็นเทพธิดามีวิมานทองไม่ใหญ่นักของชั้น “ดาวดึงส์” เฟส 3 ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนาจ่ะ!
- ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว , ก็ยิ่งทำให้ท่านมีทิพยสมบัติเพิ่มขึ้นจ่ะ !
7. พี่ชายของลูกเป็นคนเครียด , ไม่สามารถเก็บเงินได้เลย , มักจะหาย หรือฝาก หรือแจกคนอื่นไป เพราะ ..... ในอดีตชอบขโมยเงินของมารดาไปกินเหล้าในสมัยวัยรุ่น กอปรกับบุญกุศล ก็ยังไม่มากนัก , เศษกรรมสุราก็ทำให้เครียด
- เขาไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เพราะ..... กำลังทานบารมียังมีไม่มากนักจ่ะ !
- เขามีบุญบวชช่วงสั้น , ถ้าจะบวชระยะยาวต้องมีกำลังใจในการบวชมากกว่านี้จ่ะ !
8. ลูกมีความรู้สึกว่า เวลาคลอดลูกเอาเท้าออกก่อนหัว จึงจะสบาย... ก็เป็นความรู้สึกไปเอง อย่าไปให้ความสำคัญกับความรู้สึกนี้เลยจ่ะ ! ไม่เกิดประโยชน์อะไรนอกจากเสียเวลาจ่ะ !
9. คุณปู่ตายแล้ว ก็ไปเป็น “อากาสเทวา” ด้วยบุญที่ทำตามประเพณีในพระพุทธศาสนา ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้วจ่ะ ! .
- คุณย่าตายแล้ว ก็ไปเป็น “อากาสเทวา” มีวิมานติดกันกับคุณปู่ ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนาร่วมกัน , ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้วจ่ะ !
10. ลูกชอบนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ในโลกเสมอ เพราะ..... เป็นคนมี “ปัญญาจริต” ถ้าจะให้ดีกว่านี้ให้ชอบผู้ที่ค้นพบสัจจะธรรมของชีวิต ก็จะยิ่งดีกว่านี้จ่ะ !
- พุทธันดรที่ผ่านมา ลูกได้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช และได้ออกบวชจนตลอดชีวิต ได้ทำหน้าที่ “เผยแผ่” แต่นั่งธรรมะน้อย พอมีผลการปฏิบัติธรรมพอเอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีได้ , วิบากกรรมกาเมตามมาทันส่งผลให้เป็นผู้หญิงจ่ะ !
11. ลูกมีพี่น้องกัลยาณมิตร 2 คน คอยให้กำลังใจในการสร้างบารมีซึ่งกันและกัน , คนหนึ่งเป็น “อาสาสมัคร” , อีกคนหนึ่งเป็น “บัณฑิตแก้ว” , ทั้งสองคนนี้ก็ได้เคยสร้างบุญร่วมกันกับลูกและหมู่คณะ โดยบางชาติก็เป็น “กองเสบียง” , บางชาติก็ “เผยแผ่” จ่ะ !
12. ครอบครัวลูกสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง”ประเภทตามอารมณ์ ไม่สม่ำเสมอจ่ะ !
- ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญแล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !