CASE STUDY
เพื่อลูกชาย...แม่ยังตายไม่ได้
เรียบเรียง จากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพสูง
ลูกเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้เข้ามาสร้างบารมีตั้งแต่ปี 2541 โดยการชักชวนของเพื่อนบ้านยอดกัลยาณมิตรจึงทำให้ลูกได้มาพบหลวงพ่อและหมู่คณะ ซึ่งลูกจะขอเล่าชีวิตโดยย่อดังนี้ค่ะ
คุณพ่อเป็นชาวจังหวัดนนทบุรี มีอาชีพรับราชการทหารเป็นนายทหารชั้นผู้น้อยมียศเพียงพลทหาร อุปนิสัยส่วนตัวของคุณพ่อเป็นคนหงุดหงิดง่าย อารมณ์เสียอยู่บ่อยๆ แต่ที่แย่มากกว่าอารมณ์ร้าย คือ ท่านชอบดื่มเหล้ามากๆๆๆๆ ดื่มเป็นชีวิตจิตใจเลยทีเดียวค่ะ หลังจากเลิกงานเป็นต้องเมากลับบ้านเสมอ เมาแล้วก็พาลอาละวาดทะเลาะตบตีคุณแม่ของลูก บางครั้งเมาจนไม่รู้ตัว คุณพ่อยังมาจับตัวลูกซึ่งยังเล็กๆอยู่ โยนลงคลองข้างบ้านซึ่งมีขนาดลึกมาก ลูกเองก็ว่ายน้ำไม่เป็น แต่โชคดีคุณแม่ได้มาช่วยลูกไว้ทันค่ะ
ความเมาของคุณพ่อนอกจากจะทำให้คนในครอบครัวแย่ไปตามๆกันแล้ว หน้าที่การงานของคุณพ่อก็ไม่เจริญก้าวหน้าอีกด้วย โทษของน้ำเมาทำให้คุณพ่อต้องลาออกจากทหาร มาเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลรองเท้าทหารแทน จนกระทั่งปลดเกษียณ คุณพ่อจึงมาอยู่บ้านกินเงินบำนาญ เป็นเวลา 3 ปี แล้วในปี2536 ขณะที่คุณพ่ออยู่บ้านเฉยๆจู่ๆก็มีเหตุที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับท่านจนได้ คือ คุณพ่อเกิดอุบัติเหตุหกล้มศีรษะฟาดกับจักรเย็บผ้าทำให้ต้องเข้าห้อง ICU อยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ จึงเสียชีวิตด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อ อายุ 63 ปี
คุณแม่ของลูก เป็นคนราชบุรีโดยกำเนิด ท่านมาพบรักและแต่งงานอยู่กินกับคุณพ่อที่จังหวัดนนทบุรี ชีวิตการแต่งงานของคุณแม่นั้น ต้องอกตรมขมขื่นอยู่ตลอดเวลาเพราะคุณพ่อเป็นคนขี้เมา คุณแม่ถูกคุณพ่ออาละวาดทุบตีเป็นประจำ จนลูกๆเห็นชินหูชินตาไปเสียแล้วค่ะ เมื่อคุณแม่ถูกคุณพ่อตบตีจนอาการสาหัสสะบักสะบอมแล้ว คุณแม่ก็เก็บเสื้อผ้าหนีไปอยู่กับคุณยายที่ราชบุรี แต่เมื่อไรที่คุณพ่อไปง้อ คุณแม่ก็ยอมใจอ่อนอภัยให้คุณพ่อ และก็กลับมาอยู่กับคุณพ่ออย่างเคยค่ะ หลังจากกลับมาคุณแม่ก็จะโดนคุณพ่อทำทารุณกรรมเช่นเดิม แต่คุณแม่ก็อดทนอยู่กับคุณพ่อเพราะเป็นห่วงลูกๆ
คุณพ่อคุณแม่มีลูกทั้งหมด 4 คน หญิง 2 คน ชาย 2 คน ลูกเป็นลูกสาวคนโต คุณแม่เคยเล่าให้ลูกฟังว่า ท่านเคยกินยาขับเพื่อทำแท้งตัวลูกอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ ที่คุณแม่ต้องทำอย่างนี้ก็เพราะว่า ท่านกลัวคุณพ่อจะทอดทิ้ง จึงไม่อยากมีลูกเป็นภาระเนื่องจากขณะที่แต่งงานกันนั้นคุณแม่มีอายุ 29 ปี ส่วนคุณพ่อมีอายุ 24 ปี ห่างกันถึง 5 ปี ลูกจึงเกือบจะไม่มีโอกาสได้มาลืมตาดูโลกแล้วค่ะ แต่พอคลอดออกมาแล้ว แขนข้างซ้ายก็โก่งมาตั้งแต่คลอด จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่หาย
ต่อมาเมื่อลูกเติบโตเรียนจนกระทั่งจบ ม.6 ก็ได้ออกหางานทำส่งเสียตัวเองเรียนในระดับปริญญาตรีที่ ม.ราม แต่ก็เรียนไม่จบ เพราะมีคนรู้จักชักชวนลูกให้ไปทำงานอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น เขาบอกว่า “เป็นงานดีเงินดีที่อยู่สบาย” ขณะนั้นลูกเองก็สนใจจึงตัดสินใจมาประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ แต่พอมาถึงก็พบว่า ลูกโดนหลอกมาขายบริการที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ลูกต้องทำงานใช้หนี้แทนเอเย่นต์อยู่ประมาณ 1 ปี จึงได้ไปอยู่กินกับสามีชาวญี่ปุ่น จนมีลูกชายด้วยกัน 1 คน แต่ชีวิตครอบครัวของลูก ก็ไม่ได้มีความสุขแม้แต่เพียงนิดเดียว เนื่องจากสามีเคยแต่งงานมาแล้ว 2 ครั้ง มีลูกชายติดมาด้วย 1 คน ลูกติดของสามีก็เข้ากับลูกไม่ได้เลย ส่วนสามีก็ชอบดื่มเหล้ามากๆ แล้วยังเป็นคนที่แล้งน้ำใจมากอีกด้วย ซึ่งจะเห็นได้จาก ในคืนหนึ่งเวลาประมาณตี 2 ลูกเกิดปวดกระเพาะปัสสาวะอย่างรุนแรง จนต้องร้องครวญครางดิ้นทุรนทุรายทุกข์ทรมานมาก ขณะนั้นลูกนอนปวดอยู่บนที่นอน แล้วก็ได้ตั้งสติ ปลุกสามีที่นอนอยู่ข้างๆว่า “ให้ช่วยพาฉันไปส่งโรงพยาบาลด้วย ” แต่สามีกับตอบสวนมาว่า “ ช่วยไม่ได้ ” แล้วเขาก็หลับต่อ ลูกถึงกับน้ำตาซึมอาการปวดก็รุนแรงขึ้นทับทวี เพราะลูกเจ็บปวดไปทั้งกายและใจ แล้วลูกก็ได้คิดว่า “ นี่เราจะเอาชีวิตมาทิ้งที่นี้เสียแล้วหรือ ” คืนนั้นลูกทนอยู่กับความเจ็บปวดจนกระทั่งหลับไป
ลูกต้องใช้ความอดทนอยู่กับสามีเป็นอย่างมาก เพราะสามีไม่เคยปรับตัวเข้าหาลูกเลย ซ้ำร้ายยังเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ และยังล้มเหลวในหน้าที่การงานอีกด้วยต้องออกจากงานอยู่บ่อยๆ จึงทำให้ค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวตกมาเป็นหน้าที่ของลูกที่จะต้องหาเพื่อมาจุนเจือครอบครัว จนลูกคิดที่จะฆ่าตัวตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่ลูกก็จะคิดอีกว่า “ ถ้าเราตาย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเราต้องลำบากเป็นแน่ เมื่อคิดได้เช่นนี้ลูกจึงได้คิดว่า ต้องอยู่เพื่อลูกชายคนนี้ค่ะ ”
จากนั้นเมื่อปี 2541 มีเพื่อนบ้านชาวไทยคนหนึ่ง ได้นำหนังสือประกายธรรม มาให้ลูกอ่าน เมื่ออ่านแล้วลูกประทับใจมาก จึงได้หาที่มาที่ไปของหนังสือเล่มนั้น แล้วพบว่าเป็นของศูนย์ปฏิบัติธรรมโตเกียว จากนั้นลูกก็ได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมโตเกียว เพื่อขอสื่อธรรมะต่างๆ และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯโตเกียวก็แจ้งข่าวบุญต่างๆจากทางวัดไปที่บ้านของลูกเสมอ
ในช่วงที่ลูกไปอยู่ที่ญี่ปุ่นนั้น น้องชายคนที่ 2 ซึ่งอยู่ที่เมืองไทย ก็ป่วยเป็นโรคเบาหวาน สาเหตุก็เพราะว่าเขาเป็นคนชอบดื่มเหล้า พร้อมกับแกล้มจำพวกทุเรียน ข้าวปลาอาหารก็ไม่ค่อยจะกิน ซึ่งภาระนี้ก็ตกเป็นของคุณแม่ที่ต้องพาไปโรงพยาบาลและคอยบีบนวดดูแลเอาใจใส่อยู่ตลอดเวลา แต่ทั้งคู่ก็ทะเลาะกันไปดูแลกันไป จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่คุณแม่บีบขาให้น้องชายอยู่นั้น ทั้งคู่เกิดขัดใจกัน จึงได้ทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนคุณแม่โมโหน้องชายมาก ก็เผลอไปดึงขาข้างซ้ายของน้องชายอย่างแรงจนมีเสียงดังกึ๊ก จนน้องชายเดินไม่สะดวก เขาป่วยอยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน จึงเสียชีวิตด้วยโรคเบาหวาน อายุได้ 39 ปี
หลังจากที่น้องชายเสียชีวิตได้ไม่นานคุณแม่ก็มีอาการปวดขาข้างซ้ายเหมือนกับที่น้องชายปวด จนต้องไปหาหมอ แต่หมอก็หาสาเหตุไม่พบและอาการปวดก็ยังเป็นอยู่อย่างเดิม จนเดินไม่สะดวก
ต่อมาเมื่อ มกราคม ปี 2548 ลูกอยากให้คุณแม่ได้ดู DMC ลูกจึงติดต่อไปหาน้องสาว เพื่อให้ติดจานดาวธรรมให้คุณแม่ดู แต่เธอก็ปฏิเสธ จนลูกต้องออกคำสั่งว่า “ ต้องติดดาวธรรม จะติดให้คุณแม่เป็นของขวัญปีใหม่ คุณแม่ดูแล้วจะมีแต่สิ่งดีๆ” เธอจึงปฏิเสธไม่ได้และก็ทำตามที่ลูกสั่งค่ะ
จากนั้นลูกจึงเขียนจดหมายประมาณ 10 แผ่นเพื่ออธิบายเรื่องวัดเรื่องหลวงพ่อให้น้องสาวฟังว่า “หลวงพ่อทำเพื่อชาวโลก ท่านอยากให้ชาวโลกหลุดพ้นทุกข์ ” และข้อความต่างๆอีกมากมาย แต่น้องสาวก็จะตอบกับมาว่า“ ทำบุญที่ไหนก็เหมือนกัน วัดที่มีคนไปมากๆไม่อยากไป” และมีข้ออ้างต่างๆนาๆ แต่เธอก็ไม่ได้ขัดขวางคุณแม่ในการทำบุญ และแม่ก็ได้ดู DMC เมื่อคุณแม่ดู DMC แล้ว ท่านก็เปลี่ยนไป คือใจเย็นมากขึ้น และเข้าใจในเรื่องกฎแห่งกรรมรู้เรื่องความเป็นจริงของชีวิต จึงทำให้ท่านรักการสั่งสมบุญมากขึ้น คือ คุณแม่จะตื่นขึ้นมาสวดมนต์ทำวัตรเช้า นั่งสมาธิ ใส่บาตรทุกวันไม่เคยขาด และอาการปวดขาของคุณแม่ก็ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ ลูกเองก็ได้โทรศัพท์เป็นกัลยาณมิตรให้คุณแม่ตลอด และคุณแม่ก็ได้ทำบุญกับทางวัดมาตลอดด้วยเช่นกัน
เมื่อลูกได้มีโอกาสไปทำบุญที่ศูนย์ฯโตเกียวอยู่เป็นประจำ แล้ว ลูกจึงได้ทำบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวภายในเจดีย์ให้น้องชายที่เสียชีวิต จากนั้นก็ทำบุญกฐินพระราชปี 2545, บุญกฐินปี 2546 ,บุญกฐินจักรพรรดิปี 2547 และบุญสร้างองค์พระถวายพระสังฆาธิการ ,บุญหล่อรูปเหมือนทองคำหลวงปู่ ,บุญสร้างมหาวิหารคุณยาย , บุญสามแสนปลื้มงานสลายร่างคุณยาย ,บุญเลี้ยงพระสามหมื่นวัด ,บุญเลี้ยงพระสามพันวัด, บุญสร้างมหาวิหารหลวงปู่ ,บุญหอฉันคุณยาย เป็นต้น ทุกครั้งที่ลูกได้ทำบุญ ลูกจะอุทิศไปให้คุณพ่อและน้องชายเสมอ จนคืนหนึ่งลูกได้ฝันเห็น บุคคลทั้งสองมาหา แล้วลูกก็พบว่าในฝันคุณพ่อและน้องชาย มีหน้าตาผ่องใสมาก ใส่ชุดทหารดูดีมากๆค่ะ ซึ่งการฝันในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งแรกๆที่ลูกฝันว่า คนทั้งสองไม่มีเสื้อผ้าจะใส่ มีหน้าตาหมองคล้ำมากค่ะ
คำถาม
1. บุพกรรมใดที่ทำให้คุณพ่อหกล้มศีรษะกระแทกกับจักรเย็บผ้าทำให้เส้นเลือดในสมองแตกตาย ก่อนตายน้องสาวบอกให้คุณพ่อนึกถึงพระ ท่านนึกได้มั๊ยค่ะ คุณพ่อตายแล้วไปไหน ได้รับบุญอุทิศไปให้หรือไม่อย่างไรคะ
2. กรรมใดคุณแม่จึงมีสามีขี้เมา และถูกทุบตีอยู่เสมอ และกรรมใดคุณแม่ถึงเจ็บขาข้างเดียวกับที่น้องชายเจ็บ ใช่กรรมที่ท่านดึงขาน้องชายมั๊ยค่ะ คุณแม่ควรแก้ไขอย่างไร
3. บุพกรรมใดที่ทำให้น้องชายเป็นโรคเบาหวานและกรรมใดที่ทำให้คุณแม่ต้องดึงขาน้องชายจนเกิดอาการเจ็บปวด ไม่สามารถเดินได้สะดวก น้องชายตายแล้วไปไหน ได้รับบุญอุทิศไปให้หรือไม่อย่างไรคะ
4. ปัจจุบันน้องสาวป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงิน (คือโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง) เธอมีวิบากกรรมมาอย่างไร จะแก้ไขได้อย่างไรคะ ลูกจะเป็นกัลยาณมิตรให้เธออย่างไร
5. บุพกรรมใดที่ทำให้น้องสาวต้องทะเลาะกับคุณแม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน น้องสาวจะมีกรรมเช่นไร ควรแก้ไขกรรมนี้ได้อย่างไร
6. บุพกรรมใดทำให้ลูกต้องถูกคุณแม่ทำแท้งแต่ก็รอดมาได้เป็นเพราะบุญใดช่วยไว้คะ
7. กรรมใดทำให้ลูกแขนข้างซ้ายพิการ แขนโก่งมาตั้งแต่เกิด เป็นเพราะคุณแม่ทานยาทำแท้งใช่หรือไม่คะ และลูกมีอาการชาตามมือ เท้า ศีรษะอีกทั้งเป็นโรคกระเพาะลำไส้อักเสบ ลูกมีกรรมมาอย่างไร ควรแก้ไขอย่างไรดีคะ
8. กรรมใดที่ทำให้ลูกโดนหลอกไปขายบริการและบุญใดที่ทำให้ลูกไปเจอสามีคนปัจจุบันแล้วเลิกอาชีพนี้ได้คะ
9. กรรมใดที่ทำให้ลูกมาเจอทั้งคุณพ่อ ทั้งน้องชาย และสามีที่ชอบดื่มเหล้ามาก ลูกควรแก้ไขวิบากกรรมนี้ได้อย่างไร
10. ลูกฝันเห็นคุณพ่อและน้องชายครั้งหลัง ว่ามีหน้าตาผ่องใสกว่าครั้งก่อนๆนั้นเป็นความจริงหรือไมอย่างไร
11. ลูกและเพื่อนกัลยาณมิตรเคยทำบุญร่วมกันมาหรือไมคะ ทำไมถึงคุยเรื่องบุญรู้เรื่องเราสร้างบารมีร่วมกันมาอย่างไร
12. คุณแม่ ตัวลูก และลูกชายเคยสร้างบารมีกับหลวงพ่อและหมู่มาอย่างไร จะมีสิทธิไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษหรือไม่อย่างไร
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
1. คุณพ่อหกล้มศีรษะกระแทกกับจักรเย็บผ้า ทำให้เส้นเลือดในสมองแตกตาย เพราะ
- กรรมในอดีต เมื่อเมาแล้วชอบมีเรื่องทะเลาะทุบตีชกต่อยผู้อื่นและภรรยา รวมทั้งกรรมฆ่าสัตว์ทำกับแกล้มทั้งอดีตและปัจจุบันมารวมส่งผลจ่ะ !
- ตายแล้วด้วยอาการหมดสติไม่รู้เรื่องที่แนะนำเรื่องบุญ จึงทำให้จิตเศร้าหมอง ได้ไปเกิดใน “มหานรกขุม 5” ด้วยกรรมดื่มสุราเป็นอาจิณ , กำลังโดนนายนิรยบาลกรอกน้ำกรดสีดำร้อนอยู่ด้วยความทุกข์ทรมานมาก , ไม่อาจรับบุญได้ แต่บุญที่อุทิศไปก็ไปคอยอยู่ที่ “ยมโลก” จ่ะ !
2. คุณแม่มีสามีขี้เมาและถูกทุบตีเสมอ เพราะ
- ในอดีตในสมัยที่แม่เกิดเป็นผู้ชายชอบดื่มเหล้า เมาแล้วชอบทุบตีภรรยาเสมอ เมื่อวิบากกรรมตามมาทันก็มาเจอบ้าง , เป็นภาพในอดีตของตัวท่านที่มาเจอพ่อขี้เมาแล้วถูกทุบตีจ่ะ !
- คุณแม่เจ็บขาข้างเดียวกับน้องชายเจ็บ เพราะ --- กรรมที่เคย เตะทุบตีผู้อื่นในยามที่เมา สมัยที่คุณแม่เกิดเป็นผู้ชายดังกล่าวมารวมส่งผลกับกรรมที่ดึงขาน้องชายจน อาการบาดเจ็บขาเดินไม่ได้จ่ะ !
- ให้ทำบุญทุกบุญ ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา แล้วอุทิศบุญไปให้ผู้ที่เราล่วงเกินทั้งในอดีตและปัจจุบันบ่อย ๆ จ่ะ !
3. น้องชายเป็น “โรคเบาหวาน” และถูกคุณแม่ดึงขาน้องชายจนเกิดอาการเจ็บปวดและขาเดินไม่ได้ เพราะ
- กรรมฆ่าสัตว์ทำกับแกล้มสุรา และเมื่อเมาแล้วชอบเตะทุบตีผู้อื่นทั้งอดีตและปัจจุบันมาส่งผลจ่ะ !
- ตายแล้วด้วยจิตเศร้าหมอง คตินิมิตดำมืด ได้ดิ่งไปเกิดใน “มหานรกขุม 5” ด้วยกรรมดื่มสุราเป็นอาจิณ กำลังโดนนาย นิรยบาลกรอกน้ำกรดสีดำร้อนอยู่ด้วยความทุกข์ทรมานมาก
- ไม่อาจรับบุญได้ แต่บุญที่อุทิศไปให้ก็จะไปคอยอยู่ที่ “ยมโลก” จ่ะ !
4. น้องสาวป่วยเป็น “โรคสะเก็ดเงิน” เพราะ
- “วจีกรรม” ที่เถียงและด่าพ่อ - แม่ทั้งในอดีตและปัจจุบันมารวมส่งผลจ่ะ !
- จะแก้ไข ลูกจะต้องแนะนำให้เธอไปกราบขอขมาพ่อ – แม่ และปฏิญาณตนว่า จะแก้ไขตัวเองให้ดีขึ้น , จะพูดแต่ปิยะวาจาและมีศีล 5 เป็นปกติ วิบากกรรมนี้ก็จะหนักเป็นเบา
5. น้องสาวต้องทะเลาะกับคุณแม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือ เพราะ --- เป็น “กรรมเก่า” ของแม่ที่เถียงพ่อเถียงแม่ในอดีต จึงทำให้มาเจอลูกสาวที่เถียงตัวเองบ้าง , กอปรกับน้องสาวก็มีนิสัยอย่างนี้ข้ามชาติมา จึงทำให้มาสร้าง “กรรมใหม่” กับแม่ปัจจุบัน และทำให้เป็นโรคสะเก็ดเงินด้วย --- วิบากกรรมนี้ก็จะทำให้น้องสาวก็จะเป็นโรคสะเก็ดเงินดังกล่าว ,
- ถ้าจิตเศร้าหมองก็จะต้องไปอบาย ---ดังนั้นให้เลิกนิสัยนี้และไปกราบขอขมาคุณแม่ด่วนจี๋เลยจ่ะ !
6. ลูกต้องถูกคุณแม่ “ทำแท้ง” แต่รอดมาได้ เพราะ --- กรรมในอดีต ตัวลูกก็เคยสนับสนุนการทำแท้ง แต่ต่อมาเปลี่ยนใจไปห้ามเขาไม่ให้ทำแท้งเสียก่อนได้ทัน , จึงทำให้ไม่มีกรรมถูกทำแท้งจนถึงตายจ่ะ ! จึงรอดมาได้
7. ลูกแขนข้างซ้ายพิการ “แขนโก่ง” มาตั้งแต่เกิด เพราะ ---กรรมในอดีตในชาติที่เป็นผู้ชาย มักจะชอบทุบตีลูกหลานบริวารในครอบครัว และบางครั้งตอนเมามักจะจับแขนเด็กลูกบริวารในเรือน แล้วจับเหวี่ยงไปฟาดกับเสาในเรือนจนแขนหัก และไม่ได้ช่วยรักษาจนแขนเขาพิการไม่สมประกอบตลอดชีวิตมาส่งผลจ่ะ !
- ลูกมีอาการชาตามมือ , เท้า , ศีรษะ อีกทั้งมีอาการลำไส้อักเสบ เพราะ --- กรรมดังกล่าวในอดีตที่เมื่อเมาแล้วชอบทุบตีลูกหลานบริวาร จนมือ , เท้า , ศีรษะ ของเขาชา , กับความเครียดในปัจจุบันเกี่ยวกับชีวิตในครอบครัวทำให้เป็นอย่างนั้นจ่ะ !
- จะต้องแก้ไข ลูกก็ต้องสั่งสมบุญทุกบุญ ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา แล้วอุทิศบุญกุศลนี้ไปให้ผู้ที่เราเคยไปทำร้ายเบียดเบียนเขาเอาไว้ดังกล่าวจ่ะ ! --- ให้ทำบ่อย ๆ หนักก็จะเป็นเบาจ่ะ !
8. ลูกโดนหลอกไปขายบริการ เพราะ
- กรรมในอดีตที่เกิดเป็นผู้ชายในชาติดังกล่าว เมื่อเมาแล้วมักจะชอบ “ปลุกปล้ำคนใช้ในเรือนตน” บ่อย ๆ มาส่งผลจ่ะ !
- ลูกมาเจอสามีคนปัจจุบันและเลิกอาชีพนี้ได้ เพราะ --- มีบุญในการสงเคราะห์ญาติในอดีตมาอุ้มชูไว้จ่ะ !
9. ลูกต้องมาเจอคุณพ่อ , น้องชาย และสามีขี้เหล้านั้น ก็คือภาพในอดีตของตนในชาติที่เป็นผู้ชายขี้เมา , เจ้าชู้ มาส่งผลทำให้ดึงดูดมาเจอคนเหล่านี้
- จะแก้ไข ชาตินี้ลูกก็ต้อง ทำทาน , รักษาศีลให้บริสุทธิ์ , แล้วเจริญภาวนาให้มาก ๆ แล้วอธิษฐานให้พ้นจากวิบากกรรมนี้ไปจ่ะ!
10. ลูกฝันเห็นคุณพ่อและน้องชายภายหลังว่าหน้าตาผ่องใสกว่าครั้งแรก ๆ นั้น ก็เป็นเพียงแค่ “กุศลนิมิต” รวมกับ “จิตนิวรณ์” ที่ผูกพันกับคุณพ่อและน้องชาย ,
- แต่บุญที่ทำอุทิศไปให้ก็ไปคอยท่านทั้งสองที่ “ยมโลก” แล้ว รอวันเวลาที่พ้นจากมหานรกแล้วไปตามขั้นตอนของวิบากกรรม มาถึงยมโลกเมื่อใดก็ได้รับ บุญจ่ะ ! แต่คงอีกยาวนานมากจ่ะ !
11. ลูกและเพื่อนกัลยาณมิตรได้คุยเรื่องบุญกันรู้เรื่อง เพราะ --- เคยช่วยประคับประคองซึ่งกันและกันมาในหลาย ๆ ครั้งและในหลาย ๆ ชาติ เพื่อให้มาเจอหมู่คณะ ,
- เพราะในอดีต ลูกยังใจ ขึ้น ๆ ลง ๆ ได้พลัดกับหมู่คณะมา , บางชาติก็เจอหมู่คณะ บางชาติก็ไม่เจอกัน เพราะเผลอไปสร้างกรรมมา แต่ชาติใดที่เจอเพื่อนกัลยาณมิตรคนนี้ , เพื่อนก็จะประคับประคองให้กลับมาเจอหมู่คณะจ่ะ !
12. คุณแม่ , ตัวลูก และลูกชาย ก็เคยสร้างบุญกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง” แต่ไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นทำให้บางชาติก็เจอกัน บางชาติก็ไม่เจอกัน ! , ดังนั้นอย่าให้หลุดจากหมู่คณะไปอีกนะจ๊ะ !
- ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญแล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !