CASE  STUDY
เพื่อลูกชาย...แม่ยังตายไม่ได้   
เรียบเรียง จากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 

 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพสูง
 
    ลูกเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้เข้ามาสร้างบารมีตั้งแต่ปี 2541 โดยการชักชวนของเพื่อนบ้านยอดกัลยาณมิตรจึงทำให้ลูกได้มาพบหลวงพ่อและหมู่คณะ ซึ่งลูกจะขอเล่าชีวิตโดยย่อดังนี้ค่ะ 
 
    คุณพ่อเป็นชาวจังหวัดนนทบุรี มีอาชีพรับราชการทหารเป็นนายทหารชั้นผู้น้อยมียศเพียงพลทหาร อุปนิสัยส่วนตัวของคุณพ่อเป็นคนหงุดหงิดง่าย อารมณ์เสียอยู่บ่อยๆ แต่ที่แย่มากกว่าอารมณ์ร้าย คือ ท่านชอบดื่มเหล้ามากๆๆๆๆ  ดื่มเป็นชีวิตจิตใจเลยทีเดียวค่ะ  หลังจากเลิกงานเป็นต้องเมากลับบ้านเสมอ   เมาแล้วก็พาลอาละวาดทะเลาะตบตีคุณแม่ของลูก   บางครั้งเมาจนไม่รู้ตัว คุณพ่อยังมาจับตัวลูกซึ่งยังเล็กๆอยู่  โยนลงคลองข้างบ้านซึ่งมีขนาดลึกมาก ลูกเองก็ว่ายน้ำไม่เป็น   แต่โชคดีคุณแม่ได้มาช่วยลูกไว้ทันค่ะ
 
    ความเมาของคุณพ่อนอกจากจะทำให้คนในครอบครัวแย่ไปตามๆกันแล้ว  หน้าที่การงานของคุณพ่อก็ไม่เจริญก้าวหน้าอีกด้วย   โทษของน้ำเมาทำให้คุณพ่อต้องลาออกจากทหาร มาเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลรองเท้าทหารแทน จนกระทั่งปลดเกษียณ    คุณพ่อจึงมาอยู่บ้านกินเงินบำนาญ  เป็นเวลา 3 ปี   แล้วในปี2536  ขณะที่คุณพ่ออยู่บ้านเฉยๆจู่ๆก็มีเหตุที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับท่านจนได้ คือ คุณพ่อเกิดอุบัติเหตุหกล้มศีรษะฟาดกับจักรเย็บผ้าทำให้ต้องเข้าห้อง ICU อยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ จึงเสียชีวิตด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อ อายุ    63   ปี
 
    คุณแม่ของลูก เป็นคนราชบุรีโดยกำเนิด ท่านมาพบรักและแต่งงานอยู่กินกับคุณพ่อที่จังหวัดนนทบุรี  ชีวิตการแต่งงานของคุณแม่นั้น ต้องอกตรมขมขื่นอยู่ตลอดเวลาเพราะคุณพ่อเป็นคนขี้เมา คุณแม่ถูกคุณพ่ออาละวาดทุบตีเป็นประจำ  จนลูกๆเห็นชินหูชินตาไปเสียแล้วค่ะ เมื่อคุณแม่ถูกคุณพ่อตบตีจนอาการสาหัสสะบักสะบอมแล้ว คุณแม่ก็เก็บเสื้อผ้าหนีไปอยู่กับคุณยายที่ราชบุรี แต่เมื่อไรที่คุณพ่อไปง้อ คุณแม่ก็ยอมใจอ่อนอภัยให้คุณพ่อ และก็กลับมาอยู่กับคุณพ่ออย่างเคยค่ะ  หลังจากกลับมาคุณแม่ก็จะโดนคุณพ่อทำทารุณกรรมเช่นเดิม  แต่คุณแม่ก็อดทนอยู่กับคุณพ่อเพราะเป็นห่วงลูกๆ
 
    คุณพ่อคุณแม่มีลูกทั้งหมด 4 คน หญิง 2 คน ชาย 2 คน ลูกเป็นลูกสาวคนโต    คุณแม่เคยเล่าให้ลูกฟังว่า ท่านเคยกินยาขับเพื่อทำแท้งตัวลูกอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ  ที่คุณแม่ต้องทำอย่างนี้ก็เพราะว่า ท่านกลัวคุณพ่อจะทอดทิ้ง  จึงไม่อยากมีลูกเป็นภาระเนื่องจากขณะที่แต่งงานกันนั้นคุณแม่มีอายุ 29 ปี ส่วนคุณพ่อมีอายุ 24 ปี  ห่างกันถึง  5 ปี   ลูกจึงเกือบจะไม่มีโอกาสได้มาลืมตาดูโลกแล้วค่ะ   แต่พอคลอดออกมาแล้ว  แขนข้างซ้ายก็โก่งมาตั้งแต่คลอด  จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่หาย
 
    ต่อมาเมื่อลูกเติบโตเรียนจนกระทั่งจบ ม.6 ก็ได้ออกหางานทำส่งเสียตัวเองเรียนในระดับปริญญาตรีที่ ม.ราม แต่ก็เรียนไม่จบ เพราะมีคนรู้จักชักชวนลูกให้ไปทำงานอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น เขาบอกว่า “เป็นงานดีเงินดีที่อยู่สบาย”  ขณะนั้นลูกเองก็สนใจจึงตัดสินใจมาประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ แต่พอมาถึงก็พบว่า ลูกโดนหลอกมาขายบริการที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น  ลูกต้องทำงานใช้หนี้แทนเอเย่นต์อยู่ประมาณ 1 ปี จึงได้ไปอยู่กินกับสามีชาวญี่ปุ่น จนมีลูกชายด้วยกัน 1 คน แต่ชีวิตครอบครัวของลูก ก็ไม่ได้มีความสุขแม้แต่เพียงนิดเดียว  เนื่องจากสามีเคยแต่งงานมาแล้ว 2 ครั้ง มีลูกชายติดมาด้วย 1 คน ลูกติดของสามีก็เข้ากับลูกไม่ได้เลย  ส่วนสามีก็ชอบดื่มเหล้ามากๆ  แล้วยังเป็นคนที่แล้งน้ำใจมากอีกด้วย ซึ่งจะเห็นได้จาก ในคืนหนึ่งเวลาประมาณตี 2 ลูกเกิดปวดกระเพาะปัสสาวะอย่างรุนแรง จนต้องร้องครวญครางดิ้นทุรนทุรายทุกข์ทรมานมาก  ขณะนั้นลูกนอนปวดอยู่บนที่นอน แล้วก็ได้ตั้งสติ ปลุกสามีที่นอนอยู่ข้างๆว่า “ให้ช่วยพาฉันไปส่งโรงพยาบาลด้วย  ” แต่สามีกับตอบสวนมาว่า “ ช่วยไม่ได้ ” แล้วเขาก็หลับต่อ ลูกถึงกับน้ำตาซึมอาการปวดก็รุนแรงขึ้นทับทวี เพราะลูกเจ็บปวดไปทั้งกายและใจ   แล้วลูกก็ได้คิดว่า “ นี่เราจะเอาชีวิตมาทิ้งที่นี้เสียแล้วหรือ ” คืนนั้นลูกทนอยู่กับความเจ็บปวดจนกระทั่งหลับไป
 
    ลูกต้องใช้ความอดทนอยู่กับสามีเป็นอย่างมาก เพราะสามีไม่เคยปรับตัวเข้าหาลูกเลย ซ้ำร้ายยังเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ และยังล้มเหลวในหน้าที่การงานอีกด้วยต้องออกจากงานอยู่บ่อยๆ  จึงทำให้ค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวตกมาเป็นหน้าที่ของลูกที่จะต้องหาเพื่อมาจุนเจือครอบครัว จนลูกคิดที่จะฆ่าตัวตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่ลูกก็จะคิดอีกว่า “ ถ้าเราตาย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเราต้องลำบากเป็นแน่ เมื่อคิดได้เช่นนี้ลูกจึงได้คิดว่า  ต้องอยู่เพื่อลูกชายคนนี้ค่ะ ”
 
    จากนั้นเมื่อปี 2541 มีเพื่อนบ้านชาวไทยคนหนึ่ง ได้นำหนังสือประกายธรรม มาให้ลูกอ่าน  เมื่ออ่านแล้วลูกประทับใจมาก จึงได้หาที่มาที่ไปของหนังสือเล่มนั้น แล้วพบว่าเป็นของศูนย์ปฏิบัติธรรมโตเกียว  จากนั้นลูกก็ได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมโตเกียว เพื่อขอสื่อธรรมะต่างๆ  และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯโตเกียวก็แจ้งข่าวบุญต่างๆจากทางวัดไปที่บ้านของลูกเสมอ
 
    ในช่วงที่ลูกไปอยู่ที่ญี่ปุ่นนั้น   น้องชายคนที่ 2 ซึ่งอยู่ที่เมืองไทย ก็ป่วยเป็นโรคเบาหวาน     สาเหตุก็เพราะว่าเขาเป็นคนชอบดื่มเหล้า  พร้อมกับแกล้มจำพวกทุเรียน    ข้าวปลาอาหารก็ไม่ค่อยจะกิน     ซึ่งภาระนี้ก็ตกเป็นของคุณแม่ที่ต้องพาไปโรงพยาบาลและคอยบีบนวดดูแลเอาใจใส่อยู่ตลอดเวลา   แต่ทั้งคู่ก็ทะเลาะกันไปดูแลกันไป  จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่คุณแม่บีบขาให้น้องชายอยู่นั้น ทั้งคู่เกิดขัดใจกัน  จึงได้ทะเลาะกันอย่างรุนแรง  จนคุณแม่โมโหน้องชายมาก ก็เผลอไปดึงขาข้างซ้ายของน้องชายอย่างแรงจนมีเสียงดังกึ๊ก จนน้องชายเดินไม่สะดวก เขาป่วยอยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน จึงเสียชีวิตด้วยโรคเบาหวาน อายุได้ 39 ปี
 
    หลังจากที่น้องชายเสียชีวิตได้ไม่นานคุณแม่ก็มีอาการปวดขาข้างซ้ายเหมือนกับที่น้องชายปวด จนต้องไปหาหมอ แต่หมอก็หาสาเหตุไม่พบและอาการปวดก็ยังเป็นอยู่อย่างเดิม จนเดินไม่สะดวก  
 
    ต่อมาเมื่อ มกราคม ปี 2548 ลูกอยากให้คุณแม่ได้ดู DMC ลูกจึงติดต่อไปหาน้องสาว เพื่อให้ติดจานดาวธรรมให้คุณแม่ดู แต่เธอก็ปฏิเสธ   จนลูกต้องออกคำสั่งว่า “ ต้องติดดาวธรรม  จะติดให้คุณแม่เป็นของขวัญปีใหม่ คุณแม่ดูแล้วจะมีแต่สิ่งดีๆ” เธอจึงปฏิเสธไม่ได้และก็ทำตามที่ลูกสั่งค่ะ
 
    จากนั้นลูกจึงเขียนจดหมายประมาณ 10 แผ่นเพื่ออธิบายเรื่องวัดเรื่องหลวงพ่อให้น้องสาวฟังว่า “หลวงพ่อทำเพื่อชาวโลก ท่านอยากให้ชาวโลกหลุดพ้นทุกข์ ” และข้อความต่างๆอีกมากมาย  แต่น้องสาวก็จะตอบกับมาว่า“ ทำบุญที่ไหนก็เหมือนกัน  วัดที่มีคนไปมากๆไม่อยากไป”  และมีข้ออ้างต่างๆนาๆ แต่เธอก็ไม่ได้ขัดขวางคุณแม่ในการทำบุญ  และแม่ก็ได้ดู DMC  เมื่อคุณแม่ดู  DMC แล้ว ท่านก็เปลี่ยนไป คือใจเย็นมากขึ้น และเข้าใจในเรื่องกฎแห่งกรรมรู้เรื่องความเป็นจริงของชีวิต  จึงทำให้ท่านรักการสั่งสมบุญมากขึ้น   คือ คุณแม่จะตื่นขึ้นมาสวดมนต์ทำวัตรเช้า นั่งสมาธิ ใส่บาตรทุกวันไม่เคยขาด และอาการปวดขาของคุณแม่ก็ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ ลูกเองก็ได้โทรศัพท์เป็นกัลยาณมิตรให้คุณแม่ตลอด และคุณแม่ก็ได้ทำบุญกับทางวัดมาตลอดด้วยเช่นกัน
 
    เมื่อลูกได้มีโอกาสไปทำบุญที่ศูนย์ฯโตเกียวอยู่เป็นประจำ  แล้ว ลูกจึงได้ทำบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวภายในเจดีย์ให้น้องชายที่เสียชีวิต  จากนั้นก็ทำบุญกฐินพระราชปี 2545, บุญกฐินปี 2546 ,บุญกฐินจักรพรรดิปี 2547 และบุญสร้างองค์พระถวายพระสังฆาธิการ ,บุญหล่อรูปเหมือนทองคำหลวงปู่ ,บุญสร้างมหาวิหารคุณยาย , บุญสามแสนปลื้มงานสลายร่างคุณยาย ,บุญเลี้ยงพระสามหมื่นวัด ,บุญเลี้ยงพระสามพันวัด, บุญสร้างมหาวิหารหลวงปู่ ,บุญหอฉันคุณยาย เป็นต้น ทุกครั้งที่ลูกได้ทำบุญ ลูกจะอุทิศไปให้คุณพ่อและน้องชายเสมอ จนคืนหนึ่งลูกได้ฝันเห็น บุคคลทั้งสองมาหา แล้วลูกก็พบว่าในฝันคุณพ่อและน้องชาย มีหน้าตาผ่องใสมาก  ใส่ชุดทหารดูดีมากๆค่ะ ซึ่งการฝันในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งแรกๆที่ลูกฝันว่า คนทั้งสองไม่มีเสื้อผ้าจะใส่ มีหน้าตาหมองคล้ำมากค่ะ
 
 
คำถาม
 
1.    บุพกรรมใดที่ทำให้คุณพ่อหกล้มศีรษะกระแทกกับจักรเย็บผ้าทำให้เส้นเลือดในสมองแตกตาย  ก่อนตายน้องสาวบอกให้คุณพ่อนึกถึงพระ ท่านนึกได้มั๊ยค่ะ    คุณพ่อตายแล้วไปไหน ได้รับบุญอุทิศไปให้หรือไม่อย่างไรคะ
 
2.    กรรมใดคุณแม่จึงมีสามีขี้เมา และถูกทุบตีอยู่เสมอ และกรรมใดคุณแม่ถึงเจ็บขาข้างเดียวกับที่น้องชายเจ็บ ใช่กรรมที่ท่านดึงขาน้องชายมั๊ยค่ะ  คุณแม่ควรแก้ไขอย่างไร
 
3.    บุพกรรมใดที่ทำให้น้องชายเป็นโรคเบาหวานและกรรมใดที่ทำให้คุณแม่ต้องดึงขาน้องชายจนเกิดอาการเจ็บปวด  ไม่สามารถเดินได้สะดวก น้องชายตายแล้วไปไหน ได้รับบุญอุทิศไปให้หรือไม่อย่างไรคะ
 
4.    ปัจจุบันน้องสาวป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงิน (คือโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง) เธอมีวิบากกรรมมาอย่างไร  จะแก้ไขได้อย่างไรคะ  ลูกจะเป็นกัลยาณมิตรให้เธออย่างไร
 
5.    บุพกรรมใดที่ทำให้น้องสาวต้องทะเลาะกับคุณแม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน น้องสาวจะมีกรรมเช่นไร ควรแก้ไขกรรมนี้ได้อย่างไร
 
6.     บุพกรรมใดทำให้ลูกต้องถูกคุณแม่ทำแท้งแต่ก็รอดมาได้เป็นเพราะบุญใดช่วยไว้คะ
 
7.    กรรมใดทำให้ลูกแขนข้างซ้ายพิการ  แขนโก่งมาตั้งแต่เกิด เป็นเพราะคุณแม่ทานยาทำแท้งใช่หรือไม่คะ และลูกมีอาการชาตามมือ เท้า  ศีรษะอีกทั้งเป็นโรคกระเพาะลำไส้อักเสบ ลูกมีกรรมมาอย่างไร ควรแก้ไขอย่างไรดีคะ
 
8.    กรรมใดที่ทำให้ลูกโดนหลอกไปขายบริการและบุญใดที่ทำให้ลูกไปเจอสามีคนปัจจุบันแล้วเลิกอาชีพนี้ได้คะ
 
9.    กรรมใดที่ทำให้ลูกมาเจอทั้งคุณพ่อ ทั้งน้องชาย และสามีที่ชอบดื่มเหล้ามาก ลูกควรแก้ไขวิบากกรรมนี้ได้อย่างไร
 
10.    ลูกฝันเห็นคุณพ่อและน้องชายครั้งหลัง ว่ามีหน้าตาผ่องใสกว่าครั้งก่อนๆนั้นเป็นความจริงหรือไมอย่างไร
 
11.    ลูกและเพื่อนกัลยาณมิตรเคยทำบุญร่วมกันมาหรือไมคะ ทำไมถึงคุยเรื่องบุญรู้เรื่องเราสร้างบารมีร่วมกันมาอย่างไร
 
12.    คุณแม่ ตัวลูก และลูกชายเคยสร้างบารมีกับหลวงพ่อและหมู่มาอย่างไร จะมีสิทธิไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษหรือไม่อย่างไร

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.    คุณพ่อหกล้มศีรษะกระแทกกับจักรเย็บผ้า   ทำให้เส้นเลือดในสมองแตกตาย   เพราะ 
 
 
 

 
 
2.    คุณแม่มีสามีขี้เมาและถูกทุบตีเสมอ   เพราะ 
 
 
 

 
 
3.    น้องชายเป็น “โรคเบาหวาน” และถูกคุณแม่ดึงขาน้องชายจนเกิดอาการเจ็บปวดและขาเดินไม่ได้   เพราะ
 
 
 

 
 
4.    น้องสาวป่วยเป็น “โรคสะเก็ดเงิน”   เพราะ 
 
 
 
5.    น้องสาวต้องทะเลาะกับคุณแม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือ   เพราะ  --- เป็น “กรรมเก่า” ของแม่ที่เถียงพ่อเถียงแม่ในอดีต     จึงทำให้มาเจอลูกสาวที่เถียงตัวเองบ้าง  ,  กอปรกับน้องสาวก็มีนิสัยอย่างนี้ข้ามชาติมา     จึงทำให้มาสร้าง “กรรมใหม่” กับแม่ปัจจุบัน   และทำให้เป็นโรคสะเก็ดเงินด้วย    --- วิบากกรรมนี้ก็จะทำให้น้องสาวก็จะเป็นโรคสะเก็ดเงินดังกล่าว  , 
 
 
 

 
 
6.    ลูกต้องถูกคุณแม่ “ทำแท้ง”  แต่รอดมาได้   เพราะ  --- กรรมในอดีต   ตัวลูกก็เคยสนับสนุนการทำแท้ง   แต่ต่อมาเปลี่ยนใจไปห้ามเขาไม่ให้ทำแท้งเสียก่อนได้ทัน  ,  จึงทำให้ไม่มีกรรมถูกทำแท้งจนถึงตายจ่ะ !   จึงรอดมาได้

 
 
7.    ลูกแขนข้างซ้ายพิการ “แขนโก่ง” มาตั้งแต่เกิด   เพราะ  ---กรรมในอดีตในชาติที่เป็นผู้ชาย   มักจะชอบทุบตีลูกหลานบริวารในครอบครัว     และบางครั้งตอนเมามักจะจับแขนเด็กลูกบริวารในเรือน   แล้วจับเหวี่ยงไปฟาดกับเสาในเรือนจนแขนหัก   และไม่ได้ช่วยรักษาจนแขนเขาพิการไม่สมประกอบตลอดชีวิตมาส่งผลจ่ะ !
 
 
 
 
 
 

 
 
8.    ลูกโดนหลอกไปขายบริการ   เพราะ 

 
 
9.    ลูกต้องมาเจอคุณพ่อ , น้องชาย  และสามีขี้เหล้านั้น  ก็คือภาพในอดีตของตนในชาติที่เป็นผู้ชายขี้เมา  ,  เจ้าชู้  มาส่งผลทำให้ดึงดูดมาเจอคนเหล่านี้

 
 
10.    ลูกฝันเห็นคุณพ่อและน้องชายภายหลังว่าหน้าตาผ่องใสกว่าครั้งแรก ๆ นั้น   ก็เป็นเพียงแค่ “กุศลนิมิต”   รวมกับ “จิตนิวรณ์”      ที่ผูกพันกับคุณพ่อและน้องชาย  , 
 
 
 

 
 
11.    ลูกและเพื่อนกัลยาณมิตรได้คุยเรื่องบุญกันรู้เรื่อง   เพราะ  --- เคยช่วยประคับประคองซึ่งกันและกันมาในหลาย ๆ ครั้งและในหลาย ๆ ชาติ     เพื่อให้มาเจอหมู่คณะ ,
 
 
 

 
 
12.    คุณแม่  ,  ตัวลูก  และลูกชาย   ก็เคยสร้างบุญกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง” แต่ไม่สม่ำเสมอ     ดังนั้นทำให้บางชาติก็เจอกัน   บางชาติก็ไม่เจอกัน  !  , ดังนั้นอย่าให้หลุดจากหมู่คณะไปอีกนะจ๊ะ !
 
 
 
 
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-12-22.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 14:39
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv