CASE  STUDY 
ยอมตายในสมรภูมิ
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
        ลูกเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา  ตั้งแต่ถ่ายทอดเสียงทางโทรศัพท์จากศูนย์กัลยาณมิตรจังหวัดภูเก็ต  จนมาถึงดาวธรรมรุ่นแรกของโลก สามีของลูกได้ทำการติดตั้งจานดาวธรรมไว้บนหลังคาเต็นท์แผงขายเสื้อผ้าริมหาด  เพื่อให้ลูกค้าที่มาซื้อของได้มีโอกาสได้รับฟังด้วย 
 
    เรามีความสุขมากที่ได้รับชมรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา โดยเฉพาะสามีปกติเป็นคนนอน ไม่ค่อยหลับ  แต่เมื่อนั่งหลับตาทำสมาธิไปกับเสียงของหลวงพ่อทีไร  เป็นอันต้องคอพับคออ่อน  หลับได้ทุกที , ก่อนนอนก็ต้องเปิดฟังรายการของช่อง DMC จากวิทยุชุมชนจนหลับไปพร้อมกับเสียงที่ถ่ายทอด  ชอบรายการนี้มากที่สุด  จนอดไม่ได้ที่จะช่วยกันขยายจานดาวธรรมไปให้ทั่ว ...ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือชาวต่างชาติค่ะ

ลูกได้เข้าวัดพระธรรมกายในปีพ.ศ.2525  ตั้งแต่วัดยังไม่มีสภาธรรมกายหลังคาจาก  โดยมากับลูกสาวคนโต เพื่อทำบุญ แต่ก็ยังไม่ได้ทำบุญอย่างทุ่มเทมากเหมือนดังเช่นปัจจุบัน
 
ในปี พ.ศ. 2531  ลูกได้ย้ายไปทำมาหากินอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต  โดยพาลูกสาวคนเล็กไปอยู่ที่ภูเก็ตด้วย  ส่วนสามีของลูก  และลูกสาวคนโต และพ่อกับแม่ของลูกยังที่กรุงเทพ   ต่อมาอีก 6 ปี   ในปี 2537  สามีก็ตามไปอยู่ที่ภูเก็ต โดยทิ้งให้ลูกสาวคนโตซึ่งตอนนั้นอายุประมาณ 13 ปี อยู่กับตายายคือพ่อแม่ของลูกเพียงลำพัง   จนเป็นสาเหตุให้ลูกสาวคนโตน้อยใจมาจนถึงทุกวันนี้ และตั้งแต่ลูก ได้มาอยู่จังหวัดภูเก็ต  ลูกได้ห่างวัดพระธรรมกายไปเลย 
 
จนกระทั่งปลายปี พ.ศ. 2536  ลูกได้ทราบข่าวจากหนังสือโลกทิพย์ว่า  ทางวัดจะมีการหล่อหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนีด้วยทองคำ    ลูกไม่รอช้ารีบโอนปัจจัยร่วมทำบุญทันที  และได้ร่วมบุญอย่างต่อเนื่อง  จนได้มีโอกาสกลับมาวัดอีกครั้ง  เพื่อร่วมงานตอกเสาเข็มมหาธรรมกายเจดีย์ในปี พ.ศ.2538  และได้สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว อย่างเต็มที่ 
 
ในใจของลูกตอนนั้นรู้สึกอยาก  อย๊าก อยากชักชวนคนอื่นๆให้ได้บุญนี้มากๆ  จนสามารถชักชวนผู้คนสร้างองค์พระได้ 200 กว่าองค์   ทั้งยังสามารถสร้างผู้นำบุญที่เข้มแข็งเพิ่มขึ้นมา อีกหลายคนค่ะ   และในปี พ.ศ.2539  ลูกและสามีได้เริ่มจัดรถพาคนมาวัดได้ 2 คันรถบัส  หลังจากนั้นหลวงพ่อมีบุญอะไรให้เราก็ไม่เคยตกบุญใดๆ เลย  จนกระทั่งปัจจุบัน แม้ว่าจะให้ลูกไปรวยลูกก็ไม่มีขัดคำสั่งค่ะ
 
    ในระหว่างการสร้างบารมีนั้น  ในคืนวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2543  เวลาประมาณเที่ยงคืน  สามีขับรถมอเตอร์ไซค์โดยมีตัวลูกซ้อนท้ายกำลังกลับบ้านหลังจากขายของเสร็จแล้ว  ขณะที่กำลังขึ้นเขา  รถมอเตอร์ไซด์ได้เสียหลักล้มลงเนื่องจากมีน้ำมันหกอยู่บนถนน  สามีของลูกลื่นไถลไปตามถนน  ซี่โครงหัก  แขนขาถลอก  ตัวลูกเองถูกรถปิ๊กอับที่ขับตามมาข้างหลังลากตัวไปไกลถึง 13 เมตร และทับค้างกลางลำตัว เป็นเวลานาน จนกระทั่งตำรวจ และพนักงานโรงแรมที่เพิ่งเลิกงาน ช่วยกันยกรถขึ้น  ลูกจึงได้ถูกนำออก จากใต้ล้อรถ ขาข้างขวาท่อนบนหัก ขาข้างซ้ายติดสะโพกแตก  เอ็นที่มือข้างขวาขาด  , ลูกคิดว่าที่รอดมาได้ เป็นเพราะขณะที่รถมอเตอร์ไซด์กำลังค่อยๆล้มลงนั้น   ลูกนึกถึงเพียงหลวงปู่  หลวงพ่อ คุณยายเท่านั้น ขอครูบาอาจารย์อย่าให้ลูกเสียชีวิต ลูกยังไม่อยากตาย อยากสร้างบารมี อยากช่วยงานหลวงพ่อจนกว่าจะเสร็จ  ลูกยังอยากได้บุญ และลูกคนเล็กก็ยังเรียนไม่จบ
 
ในระหว่างที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนั้นลูกได้รับกำลังใจจากพระอาจารย์ที่วัดไม่เคยขาดเลยรวมทั้งน้องๆอุบาสก  อุบาสิกา และเพื่อนๆกัลยาณมิตร อีกทั้งยังได้รับปัจจัยค่ารักษาพยาบาล จากหมู่คณะที่มาเยี่ยมเยียน ถึงแม้จะนอนเจ็บปางตายอยู่บนเตียงลูกก็ไม่ขาดบุญเลยค่ะ   ฝากปัจจัยที่ได้รับบางส่วนถวายพระอาจารย์กลับไปอย่างต่อเนื่องเพราะบุญที่หลวงพ่อมอบให้นั้น มีแต่บุญใหญ่ๆ และดีๆทั้งนั้น  ลูกอยากได้บุญค่ะ
 
    ลูกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลได้ประมาณ 1 เดือน  คุณหมอดูอาการแล้วตอบว่า   ผมไม่แน่ใจว่าจะเดินได้ไหม  ลูกคิดในใจสวนกลับไปทันทีว่า เราลูกหลวงพ่อซะอย่าง  ทำไมจะเดินไม่ได้มีเรื่องแปลกบางอย่างค่ะ    ในระหว่างที่ลูกนอนรักษาตัวอยู่บนเตียงนั้น  ลูกรู้สึกว่ากระดูกที่หน้าอกที่กำลังบวมนั้นมันขยับเขยื้อน  เคลื่อนตัวเองได้  จนอาการดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ   อาการของลูกดีขึ้นเร็วมากจนคุณหมอแปลกใจ ปัจจุบันลูกเดินได้  แม้ว่าขาของลูกจะไม่เท่ากันทั้ง 2 ข้าง เพราะขาข้างหนึ่งต้องดามเหล็กไว้  จึงเดินไม่ค่อยเหมือนคนปกติทั่วไป
 
    การประสบอุบัติเหตุครั้งนี้  เหมือนจะหมดสิ้นทุกอย่าง  เพราะต้องเสียค่ารักษาไปเป็นจำนวนมาก  แต่ลูกและสามีก็ยังมาวัดอย่างต่อเนื่อง  มาทั้งครอบครัวบ้าง  สลับกันมาบ้างเพื่ออีกคนจะได้อยู่เฝ้าร้านค้า  แม้จะต้องนั่งรถบัสนานถึง 12 ชั่วโมง , ในวันที่ 22 เม.ย. 2544 ที่มีการรวมคณะสงฆ์ 100,000 รูป ลูกก็ยังมาเอาบุญ  แม้ว่าต้องใช้ไม้ค้ำแขนทั้งสองข้าง  เดินกะเผลกๆ เข้าไปถวายปัจจัยไทยธรรมก็ตาม ,  รวมถึงวันชุบตัวที่สระเศรษฐี  ลูกได้ลงไปชุบตัวด้วยค่ะ  และครั้งนี้ลูกตัดสินใจทิ้งไม้ค้ำแขนทั้ง 2 ข้าง และเริ่มเดินด้วยตัวเอง มาจนถึงปัจจุบันค่ะ
 
ยิ่งในช่วงวิกฤติการณ์ของวัด  หลังจากเสร็จงานทอดกฐินแล้ว  เย็นวันนั้นทางวัดติดต่อมาให้รีบกลับมาวัด  มาปกป้องหลวงพ่อ  ลูกรีบนั่งเครื่องบินจากภูเก็ตมาวัดโดยทันที หลวงพ่อมีความหมาย  มีความสำคัญต่อเรามากค่ะ    คำสอนของหลวงพ่อ  ทำให้สามีของลูกที่เคยเจ้าชู้มากๆๆ  ไม่ค่อยชอบจะอยู่บ้าน ชอบดื่มเบียร์  ไวน์เพื่อเข้าสังคม  สิ่งเลวร้ายเหล่านี้ก็ได้หายไปหมด  หักดิบได้หมดเลยค่ะ  แต่อัธยาศัยที่ไม่ชอบอยู่บ้าน  เป็นคนช่างคุย  ก็เป็นประโยชน์นะคะ เขาคงเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำบุญค่ะ 
 
เพราะเขารักการทำหน้าที่ขับรถรับ-ส่งและอุปัฏฐากพระอาจารย์มากค่ะ  ไม่ว่าพระอาจารย์จะไปเทศน์ที่ไหน  หรือจะไปเยี่ยมโยมที่ไหน  ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี พังงา  กระบี่  ถึงไหนก็ถึงกัน  ถึงแม้ว่าบางครั้งน้ำมันหมด  ก็จะต้องทำหน้าที่นี้ให้สำเร็จให้ได้ ไม่เคยรอความพร้อมเลยค่ะ  เขาชอบเป็นผู้นำรถ  ชอบชวนคนไปวัด  เป็นขาลุย  ใครไม่ชอบวัด ใครทำอะไรไม่ดี  ลุยเข้าไปคุย  ไปแนะนำ  ให้เข้าใจให้ถูกต้อง  ไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่นั่งดื่มกันในวงเหล้า  เขาอยากช่วยให้หลวงพ่อได้ทำงานที่แท้จริงค่ะ

    สามีเขาโชคดีที่ปลอดภัยกลับมาถึงบ้านได้ทุกครั้งแต่แล้วเหตุการณ์ที่นำความสะเทือนใจมาสู่ลูกมากที่สุด
ในชีวิตก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้งอย่างกะทันหันจนลูกยากที่จะทำใจรับได้   ในวันที่สว่างที่สุดวันหนึ่งของโลก  คือวันวิสาขบูชา  บ้านเราต้องส่งตัวแทนขึ้นมาเอาบุญที่วัด และจะต้องเอาบุญกลับมาฝากคนที่บ้าน  สามีของลูกอาสาสมัครในทันที  เขาชอบเวียนเทียนมาก  เขาอยากมาเดินเวียนประทักษิณมาก  เขาบอกว่าหลวงพ่อจัดขึ้นเป็นครั้งแรกผมอยากเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ของโลก 
 
เมื่อมาถึงวัดก็รีบไปรับบุญตักบาตร  ถ่ายบาตร  โดยยังไม่ได้อาบน้ำด้วยซ้ำไปค่ะ  แล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง  เขาเริ่มเดินเวียนประทักษิณ  จากทิศตะวันตกโซน 5  ไปโซน 6   เดินประคองเทียนด้วยใจที่มีความสุข  สามีของลูกเริ่มเวียนศีรษะ  ทรงตัวไม่ได้ จนเพื่อนกัลยาณมิตรที่ประคองเขาอยู่ บอกเขาว่าหยุดเถอะ คุณเดินไม่ไหวแล้ว  แต่สามีของลูกก็ยังยืนยันว่า ไหว ไหว  ใจยังสู้ขอสู้ต่อ  ใจเขา ยังไหวอยู่ แต่ร่างกายของเขาไม่สู้แล้วจริงๆค่ะ 
 
ในที่สุดต้องส่งเขาสู่ความดูแลของเจ้าหน้าที่หน่วยพยาบาล   พบว่ามีความดันขึ้นสูงเฉียบพลันถึง 200 เวลาผ่านไประยะหนึ่ง จนความดันลดลงเหลือ180  เขาก็ชวนเพื่อนกัลยาณมิตรไปเดินเวียนเทียนให้ครบรอบ  แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น จนเสร็จพิธีภาคค่ำ  เขายืนยันที่จะเดินทางกลับบ้าน  แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต  มันเสี่ยงเกินไป  จึงนำตัวส่งโรงพยาบาล  อาจเป็นเพราะโรคความดันโลหิตสูงที่เป็นอยู่แล้ว  และเหนื่อยเกินไปจากการเดินทาง เพราะคนล้น ที่นั่งในรถบัสไม่พอ  เขาจึงสละที่นั่งของเขาให้คนใหม่นั่งแทน เพราะอยากให้คนใหม่ประทับใจ   เขาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลได้ 3 วัน จนถึงวันที่ 15 พ.ค. 2549  ลูกโทรศัพท์มาพูดคุยกับเขา  ให้เขานึกถึงบุญ  เอาบุญเป็นที่พึ่ง  ให้หายเร็วๆ  เพราะคุณหมอบอกว่าอีก 1 อาทิตย์ก็กลับไปรักษาตัวที่บ้านได้แล้ว  เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงหลังจากที่ได้คุยโทรศัพท์กัน   แพทย์ได้ขึ้นมาตรวจตามปกติ  แต่หลังจากแพทย์กลับไปได้ประมาณ  5  นาที  ชีพจรของเขาก็อ่อนลงๆ  จนหยุดหายใจในที่สุด  แพทย์รีบทำการปั๊มหัวใจพยายามรักษาชีวิตของเขาไว้ให้ถึงที่สุด  แต่เขาก็จากเราไปอย่างที่ไม่หวนกลับคืนมาอีกแล้วค่ะ
 
กราบขอความเมตตาหลวงพ่อฝันในฝันด้วยเจ้าค่ะ
 
1.    บุพกรรมอะไรทำให้ลูกและสามีต้องประสบอุบัติเหตุจนตัวลูกขาหัก  สามีซี่โครงหัก  และทำไมเราทั้งสอง จึงมีความคิดเห็นไม่เคยลงรอยกันเลย เถียงกันได้ตลอดเวลา  ยกเว้นเรื่องชวนกันสร้างบารมีจะเห็นดีด้วยเสมอ

2.    ทำไมลูกและสามีจึงมีชีวิตที่ลำบากตลอด พอจะเริ่มสบายก็มีเหตุให้ทรัพย์นั้นต้องเสียหาย เกือบหมดทุกครั้ง ด้วยความทุ่มเทในการสร้างบารมีในชาตินี้จะส่งผลให้ลูกมีร้านขายของเป็นของตัวเอง
หรือไม่  และจะหมดหนี้  หมดสิน  เหลือกิน  เหลือใช้ เหลือไว้สร้างบารมีในชาตินี้ไหมคะ

3.    อยากทราบว่าสามีของลูกเสียชีวิตด้วยโรคอะไรคะ เพราะหมอที่มาตรวจหลายคน บอกสาเหตุการตาย ไม่เหมือนกันเลย และทำบุพกรรมอะไรมาจึงเสียชีวิตอย่างกะทันหัน , การที่เขาชอบเชียร์มวยมาก
เป็นชีวิตจิตใจ  มีผลต่อการเสียชีวิตครั้งนี้หรือไม่

4.    ขณะกำลังจะหมดลมหายใจ  ใจใสหรือหมอง  เขาได้มาเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์หรือไม่  ตายแล้วไปไหน  มีอะไรฝากถึงตัวลูกและลูกของเขาบ้างคะ

5.    ถ้าหากลูกและสามีได้ทำบุญสุขพิมานอย่างสุดกำลังก่อนวัน วิสาขบูชา สามีของลูกจะมีอันเป็นไปหรือไม่  เหตุการณ์จะเบาบางลงอย่างไรหรือไม่คะ

6.    ปัจจุบันลูกได้ทำบุญสุขพิมานเป็นชื่อของสามีและครอบครัวอย่างสุดกำลังบุญนี้ส่งผลให้เขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร  แตกต่างจากเทวดาอื่นอย่างไรหรือไม่คะ

7.    ด้วยบุญที่ลูกถวายภัตตาหาร-น้ำปานะ  แด่พระอาจารย์ที่มาทำหน้าที่ที่ศูนย์กัลยาณมิตรตลอดมา  สามีก็อุปัฏฐากรับ-ส่งพระอาจารย์ตลอด  ผลบุญนี้จะส่งผลพิเศษอย่างไรคะ

8.    ลูกสาวคนโตมีบุพกรรมอะไรที่ทำให้ลูกตัดสินใจไม่นำเขาไปอยู่ด้วยกันที่ภูเก็ต  จนทำให้เขารู้สึกน้อยใจว่า พ่อแม่ไม่รัก จึงไม่ผูกพันกับลูกและสามีจนปัจจุบันนี้ , เขาควรทำอย่างไรจึงจะแก้บุพกรรมนี้ได้

9.    ลูกสาวคนที่ 2  เคยโยนแมวจากชั้น 2 ของบ้าน  ตกลงมาจนตาย กรรมนี้จะส่งผลต่อเขาอย่างไรคะ , ด้วยเหตุนี้หรือไม่ที่ทำให้เขาปวดขา  และขาโก่งมาจนถึงปัจจุบันหรือเป็นเพราะบุพกรรมใด

10.    ทำไมหลานชายของลูกจึงรู้สึกผูกพันกับสามีของลูกมาก รักเหมือนพ่อของเขา  สามีก็รักเขาเหมือนลูกค่ะ

11.    คุณพ่อของลูก เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง  เมื่ออายุ 80 ปี  , คุณแม่หลังจากตื่นนอนตอนเช้าแล้ว ก็ล้มตัวนอนลงไปอีก มาทราบอีกทีก็เสียชีวิตแล้ว ด้วยอายุ 74 ปี , พ่อและแม่ของลูก ตายแล้วไปไหน มีอะไรฝากถึงลูกบ้างคะ
  
12.    ลูก  สามี ลูกสาวทั้งสองและหลานชาย  เคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไรบ้างและมีสิทธิ์จะกลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษหรือไม่คะ 
 
กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เมตตาลูกในครั้งนี้ค่ะ
 
 
ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที 
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1.    ลูกและสามีต้องประสพอุบัติเหตุจนตัวลูก “ขาหัก”    สามี “ซี่โครงหัก”   เพราะ.....กรรมในอดีต ที่ได้เป็นสามี - ภรรยากัน     มีอาชีพค้าขาย  ,  วันหนึ่งได้มีเรื่องทะเลาะกับพ่อค้าด้วยกัน   ,  ด้วยความแค้น   จึงได้ไปจ้างนักเลงมาทำร้ายสามี - ภรรยาคู่นั้นจนเขาบาดเจ็บสาหัส     โดยตัวลูกเป็น “ต้นคิด” ในการกระทำครั้งนั้น    จึงมีอาการมากกว่าสามีจ่ะ !
 

 
2.    ลูกและสามีต้องมีชีวิตลำบากตลอด   พอเริ่มจะสบายก็มีเหตุให้ทรัพย์ต้องสูญเสียไปเกือบหมดทุกครั้ง   เพราะ.....กรรมในอดีตชาติหนึ่งได้เป็นสามี - ภรรยากัน   เป็นเศรษฐีที่มีความ “ตระหนี่”  เช่น  เมื่อเวลาใครมาชวนทำบุญก็มักจะ “รับปาก”   แต่ไม่ค่อยทำตามสัญญา   แต่บางทีก็ทำบ้าง  ,  ดังนั้นเมื่อบุญส่งผลก็จะสบาย   แต่พอหมดบุญเพราะรับปากว่าจะทำแล้วไม่ทำ   จึงให้มีเหตุให้ทรัพย์สูญเสียไปจ่ะ !
 

 
3.    “สามี” ของลูกเสียชีวิตอย่างกะทันหัน   เพราะ.....กรรมในอดีตในชาติที่เป็นเศรษฐีตระหนี่    มักจะใช้แรงงานสัตว์และแรงงานทาสมากเกินไป  ,  เมื่อสัตว์ตัวไหนใช้แรงงานไม่ได้ก็จะสั่งฆ่าทำอาหาร     วิบากกรรมนี้มาส่งผลให้ตายอย่างกะทันหันจ่ะ !
 

 
4.    ก่อนตายใจก็ใสดี   ระลึกถึงบุญที่ทำเอาไว้ได้   ได้มีบริวารเอา “เทวรถ” มารับไปเวียนประทักษิณ รอบมหาธรรมกายเจดีย์ตามหลักวิชชาจ่ะ !
 

 
5.    หากลูกและสามีได้ทำบุญ “สุขพิมาน” อย่างเต็มกำลังก่อนวันวิสาขบูชา   บุญปัจจุบันดังกล่าว ก็จะยืดเวลาตายออกไป     แต่ก็ต้องตายอยู่ดีเพราะหมดอายุขัยด้วยวิบากกรรมดังที่ได้กล่าวมาแล้ว เหมือนมีระเบิดเวลาของชีวิตได้ตั้งเอาไว้ในตัวอยู่แล้วจ่ะ !

 
6.    ปัจจุบันลูกได้ทำบุญ “สุขพิมาน” เป็นชื่อของสามีและครอบครัวอย่างสุดกำลัง   บุญนี้จะส่งผลให้สามี หรือเทพบุตรใหม่มีทิพยสมบัติเพิ่มขึ้น   รัศมีเพิ่มขึ้น   เป็นต้น     และครอบครัวของลูกก็จะมีความสุขเพิ่มขึ้น ด้วยอานิสงส์แห่งบุญที่ได้ทำไว้จ่ะ !

 
7.    ลูกถวายภัตตาหาร - น้ำปานะแด่พระอาจารย์ที่มาที่ศูนย์กัลยาณมิตรตลอดมา  , ส่วนสามีรับส่งพระอาจารย ์และคอยอุปฐากผลบุญนี้ก็จะมีอานิสงส์รวม ๆ เหมือนกัน  ,  จะต่างกันก็คือ ตัวลูกจะมีอาหารทิพย์มากเป็นพิเศษ
 

 
8.    “ลูกสาวคนโต” ที่ลูกและสามีไม่นำเขาไปอยู่ภูเก็ตด้วย เป็นเหตุให้น้อยใจว่าพ่อ - แม่ไม่รัก   จึงไม่ผูกพันกับพ่อแม่  เพราะ.....กรรมในอดีตชาติหนึ่งเคยทะเลาะกับพ่อ - แม่ในชาตินั้นซึ่งไม่ใช่พ่อ - แม่ ในปัจจุบันได้โกรธที่พ่อ - แม่อบรมพร่ำสอนเลยหนีไปอยู่กับญาติผู้ใหญ่แล้วก็ไม่กลับมา   วิบากกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ !
 

 
9.    “ลูกสาวคนที่  2”  เคยโยนแมวจากชั้น  2  ของบ้านตกลงมา “ตาย”   จะมีวิบากกรรมจะทำให้ “ตกจากที่สูง” ลงมา ส่วนจะตายเหมือนแมวหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่า ได้สร้างบุญใหญ่มาตัดรอนวิบากกรรมนี้ ให้หนักเป็นเบาหรือเบาเป็นหายจ่ะ !
 

 
10.    “หลานชาย” ผูกพันกับสามีของลูกมากรักเหมือนพ่อของเขาและเขาก็รักเหมือนลูก   เพราะ.....ในอดีตเคยเป็นพ่อ - ลูกกัน ปัจจุบันก็เกื้อกูลเป็นอย่างดี    จึงทำให้มีความรู้สึกรักและผูกพันกันเช่นนั้นจ่ะ !

 
11.    “คุณพ่อ” ของลูกตายแล้วก็ไปเป็น “เทพบุตรสายยักษ์” ระดับทั่วไป โดยไปเป็นบริวารของหัวหน้ายักษ์ ชั้นจาตุมหาราชิกา
 

12.    ลูก  ,  สามี  ,  ลูกสาวทั้ง  2  และหลานชาย   เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง” ประเภทบางชาติก็ดี  ,  บางชาติก็ไม่ดี  ,  มีชีวิตก็ขึ้น ๆ ลง ๆ   เพราะบางชาติเมื่อเป็นเศรษฐี      ก็ประมาทในการดำเนินชีวิต  ,  พอชาติถัดมาตกต่ำก็ทำเต็มที่ภพต่อไปก็ดีขึ้นดังนี้จ่ะ !    




บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2549-07-13.html
เมื่อ 17 กรกฎาคม 2567 21:35
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv