CASE STUDY
ผมเกือบจะเป็นเจ้าพ่อ 
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
 
กราบเรียนพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยที่เคารพอย่างสูง

    ผม ได้เริ่มเข้าวัดพระธรรมกาย เมื่อวันครูธรรมกาย พ.ศ.2548 หลังจากนั้นก็ได้มาวัดทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน ทุกวันอาทิตย์และทุกงานบุญใหญ่ ผมขอความเมตตาพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฝันในฝันในสิ่งที่เป็นข้อข้องใจในชีวิตที่ผ่านมา เพื่อผมจะได้เลือกทางชีวิตที่ถูกต้องครับ
 
    ครอบครัวของผมมีเชื้อสายจีน คุณพ่อ กับ คุณแม่ มีลูก 5คน ผมเป็นลูกคนที่สาม คุณพ่อเริ่มต้นจากไม่มีอะไรเลย เรียนจบแค่ ป.4 แล้วมาช่วยพี่ชายคนโตค้าข้าว แต่อยู่ในฐานะแรงงานแบกข้าวสาร ซึ่งก็ถูกใช้ให้ทำงานอย่างหนัก ต่อมาคุณพ่อแยกตัวออกมาค้าขายเอง โดยค้าส่งข้าวสารและรำข้าว คุณพ่อเป็นคนขยันอดทน ค้าขายเก่งมาก จึงสร้างฐานะได้อย่างรวดเร็ว เริ่มตั้งตัวได้ตั้งแต่อายุ 26ปี
 
    คุณพ่อมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ผู้หลักผู้ใหญ่ให้ความรักและเมตตา คุณพ่อเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา ยุติธรรม ชอบช่วยเหลือเพื่อนและคนอื่นๆ ทั้งที่รู้จักหรือไม่รู้จักก็ตาม ถ้ามาขอความช่วยเหลือจะไม่ผิดหวังกลับไป ต่อมาการค้าของคุณพ่อเจริญก้าวหน้า มีโรงงาน โกดัง ท่าเรือและที่ดินนับร้อยไร่ และขยายไปทำธุรกิจอีกหลายอย่าง เช่น ทำเหมืองแร่ ธุรกิจประกันภัย โรงงานยาง เสื้อผ้าทหาร ค้าเหล็ก ฯลฯ โดยเข้าหุ้นกับเพื่อนๆ แต่ต่อมาหุ้นส่วนเหล่านั้นก็โกงคุณพ่อ เพราะคุณพ่อเชื่อและไว้ใจเพื่อนมาก เวลาเซ็นเอกสารก็ไม่ได้อ่าน จึงถูกหักหลังแทบล้มละลาย
 
    แม้จะประสบวิกฤตครั้งใหญ่ในชีวิต แต่คุณพ่อก็ยังมีกำลังใจดี ท่านถือคติว่า “ต่อให้หมดสิ้นไม่เหลืออะไร ถ้ายังมีชีวิต...ยังมีลมหายใจอยู่ เดี๋ยวเราก็เริ่มสร้างใหม่ได้” ท่านไปเริ่มต้นใหม่ในต่างจังหวัด ต้องทำงานหนักด้วยการสร้างโรงงานรับซื้อพืชไร่ และแปรรูป จนการค้าเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้กลับมาตั้งตัวได้อีกครั้ง
 
    ต่อมาโรงงานของคุณพ่อก็ถูกโจรปล้น แต่ก็ไม่มีใครเป็นอะไร ดำเนินกิจการมาได้ 4ปี ธุรกิจกำลังไปได้ดี ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นในกรุงเทพฯ วันหนึ่งหลังกลับจากโรงเรียน จู่ๆผมก็ได้รับทราบข่าวว่า คุณพ่อของผมถูกกลุ่มมือปืนที่บุกเข้าไปในโรงงาน ยิงท่านด้วยอาวุธสงคราม จนเสียชีวิต และขว้างระเบิดใส่โรงงานซ้ำอีก
 
    ในพิธีสวดศพของคุณพ่อ มีผู้คนหลั่งไหลกันมาร่วมงานล้นหลามอย่างไม่น่าเชื่อ เฉพาะสมุดบัญชีรายชื่อผู้ร่วมงานศพก็ยาวเหยียดเป็นเล่ม แม้แต่เงินช่วยงานศพก็กองเป็นเข่งใหญ่ๆ แต่แทบไม่น่าเชื่อว่า หลังผ่านพ้นวันงานศพนั้นมา คนที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคุณแม่และพวกผมไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว แถมบางคนยังพูดให้เจ็บช้ำว่า...จริงอยู่ คุณพ่อของผมมีบุญคุณต่อพวกเขา แต่เมื่อท่านตายไปแล้ว ทุกอย่างก็เป็นอันจบกัน…
 
    แม้แต่ พี่ชายคนโตของพ่อ ซึ่งอาสาว่า จะเป็นผู้ดูแลเงินช่วยทำบุญงานศพของคุณพ่อ แต่จากวันนั้นจวบจนวันนี้ พวกผมและคุณแม่ก็ยังไม่เคยได้เห็นเงินก้อนนั้นเลย (เขาโกงไปหมด)
 
    นับแต่วันที่คุณพ่อเสียชีวิต พี่ชายคนรองของคุณพ่อ ก็อ้างว่า หากปล่อยโรงงานทิ้งไว้ ไม่มีใครดูแลก็จะไม่ปลอดภัย จึงระดมบริวารลูกน้อง และมือปืนไปดูแลโรงงานชั่วคราว แค่เพียงไม่เกิน 3เดือน พวกเขาก็กวาดพืชผลวัตถุดิบ และทรัพย์สินที่อยู่ในโรงงานไปเกือบหมด แม้แต่เงินในธนาคารก็เบิกจนเกลี้ยง ยังปล่อยหนี้สินให้คุณแม่กับผมตามชดใช้ในเวลาต่อมาอีกด้วย
 
    พวกผมเหลือเพียงโรงงานและที่ดินอีกพันกว่าไร่ ที่ยังเป็นกรรมสิทธิ์อยู่ แต่เมื่อความโลภเข้าครอบงำ พี่ชายคนรองของคุณพ่อก็อยากได้ไปหมดทุกอย่าง วันหนึ่งขณะที่ คุณแม่ของผม กลับไปดูโรงงาน พี่ชายคนรองของคุณพ่อ ก็เรียกคุณแม่เข้าไปคุยในออฟฟิศ แต่พอคุณแม่เข้าไป เขาก็สั่งให้ลูกน้องควักปืนออกมาขู่คุณแม่ บังคับให้เซ็นโอนกรรมสิทธิ์โรงงานและที่ดิน และขู่ว่าถ้าไม่ยอมเซ็นโอนให้ก็จะยิงให้ตายเดี๋ยวนี้ คุณแม่คิดและตัดสินใจเด็ดขาด จึงตอบว่า...จะยอมตาย ไม่ยอมเซ็น จะรักษาโรงงานและที่ดินทำกินไว้ให้ลูก…ในที่สุดพวกเขาก็ไม่กล้าลงมือ ล่าถอยกลับไป
 
    หลังจากคุณแม่รอดชีวิตมาได้ ต้องมาจัดการกับภาระหนี้สินที่พี่ชายคนรองของคุณพ่อและลูกของเขาก่อทิ้งไว้ ทำให้คุณแม่ต้องขายทรัพย์สินที่ดินจนเกือบหมด เหลือเพียงโรงงานและบ้าน, ที่ดินในกรุงเทพฯ ต่อมาได้รับหมายจากทางการจะเวนคืนบ้านและที่ดินที่พวกผมอยู่เพื่อสร้างสะพาน ในช่วงเดียวกันนั้น ท่าเรือของคุณพ่อก็ถูกโกง และโดนยึดไปเสียเฉยๆ
 
    คุณแม่และผม ต้องช่วยกันทำโรงงานต่อไปด้วยความหวาดกลัว เพราะมีข่าวมาเสมอว่า “ให้ระวังตัว พวกกลุ่มคนร้ายผู้มีอิทธิพล จะตามฆ่าคุณแม่และผม” และยังถูกกลั่นแกล้งให้ร้ายจากคนท้องถิ่น และพ่อค้าโรงงานคู่แข่ง
 
    ผู้ที่คุณพ่อเคยช่วยเหลือเลี้ยงดูจำนวนมาก ต่างหนีหน้ากันไปหมด พวกเราได้รับการดูถูกดูหมิ่นต่างๆว่า จะไปไม่รอด แต่คุณแม่ก็อดทนสู้ โดยไม่ยอมขอความช่วยเหลือจากใคร (เพราะรู้ว่าถึงขอ เขาก็ไม่ช่วย) ด้วยเหตุนี้ ในช่วงเวลานั้นทำให้ผมเป็นคนมีจิตใจแข็งกร้าว พร้อมที่จะต่อสู้กับทุกสิ่งทุกคน ผมต้องพกปืนและอาวุธตลอดเวลา
 
    ในขณะนั้น ใจของผมสุมไปด้วยแรงแค้นอาฆาตพยาบาทอย่างแรงกล้า ต้องการล้างแค้นให้คุณพ่อ ต้องการฆ่าล้างโคตรผู้ที่สั่งฆ่าคุณพ่อ, กลุ่มมือปืนและผู้มีส่วนรู้เห็นทั้งหมด ผมได้เตรียมการอย่างเงียบๆโดยไม่มีใครรู้ แม้แต่ครอบครัวของผม
 
    แต่ต่อมา ผมได้มีโอกาสไปกราบพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งในป่า เมื่อผมกราบท่าน
 
ท่านพูดกับผมว่า “ขอให้ละความพยาบาทอาฆาตเสีย”
ในขณะนั้นใจของผมสงบมาก จึงรับปากท่านว่า “ครับผม”
 
    เมื่อกลับถึงบ้าน ผมก็โมโหตัวเองที่ไปรับปากท่านได้อย่างไร ถึงแม้ผมจะมีความแค้นมาก แต่เมื่อรับปากพระท่านไว้แล้ว ก็ต้องรักษาสัจจะ รู้ว่าคนทำดีก็ต้องได้ดี ส่วนคนที่ทำเลวก็ต้องรับกรรม อีกไม่นานต่อมา ผมก็ได้ทราบข่าวว่า มือปืนเหล่านั้นถูกตำรวจยิงตายบ้าง ติดคุกและถูกซ้อมอยู่ในคุกบ้าง ส่วนผู้บงการสั่งฆ่าคุณพ่อของผม ประสบอุบัติเหตุทำให้พิการครึ่ง ตัวเดินไม่ได้ตลอดชีวิต อีกทั้งภรรยาของเขาก็ไปมีชู้กับลูกน้องคนสนิท แล้วหอบเอาทรัพย์สินหนีตามกันไป และยังทิ้งลูกๆไว้ให้เขาดูแลอีก ทำให้ผมระลึกได้ว่า ผมนั้นโชคดีไม่ต้องทำบาปและคิดว่าเป็นกรรมสนอง นี่คือความทุกข์ที่ยิ่งกว่าความตายเสียอีก
 
    หลังจากนั้นต่อมา ผมมีความคิดต้องการเป็นผู้มีอิทธิพล คือ “เจ้าพ่อ” และโอกาสก็เป็นของผม เพราะมีผู้หลักผู้ใหญ่ ข้าราชการสีต่างๆ ผู้มีอิทธิพล นักเลง มือปืน ให้การสนับสนุน พรรคพวกก็มีมากขึ้น ช่วงเวลาเดียวกัน ผมได้เข้ากลุ่มเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเข้าสังคม และความสนุกสนาน ปกติผมจะเป็นคนสุภาพอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ (ที่ดีและดีต่อผม) เป็นคนยิ้มง่าย อารมณ์ดี คุยง่าย เข้าคนง่าย ไม่ค่อยถือตัว อาจารย์สอนภาษาชอบผมมาก ได้แนะนำให้ผมลองสมัครสอบชิงทุน โครงการนักเรียนระหว่างประเทศ แต่ผมไม่ให้ความสนใจเลย เพราะได้เลือกทางชีวิตแล้วว่า จะต้องเป็นผู้มีอิทธิพล เป็นเจ้าพ่อให้ได้
 
    แต่อาจารย์ก็รบเร้า ผมจึงทำตามอย่างเสียไม่ได้ และได้ตั้งสัจจะวาจากับตนเองไว้ว่า ถ้าสอบได้จริงจะเลิกความคิดเป็นเจ้าพ่อ ปิดโรงงานไปเรียนต่อต่างประเทศทันที ในขณะนั้นที่ให้สัจจะ เพราะมองไม่เห็นทางที่จะสอบได้เลย คือ คิดว่าเป็นไปไม่ได้ ผมมั่นใจว่า สอบไม่ผ่านแน่นอน 1,000เปอร์เซ็นต์ แต่ผมกลับสอบผ่านได้อย่างเหลือเชื่อ ซึ่งผมถึงกับอึ้งปนเสียใจ เพราะไม่อยากไปเลย แต่ก็ต้องไปตามที่ให้สัจจะวาจากับตัวเอง ยอมยุติทุกอย่างบินไปเรียนต่อที่อเมริกาครับ
 
    ขณะที่เรียน ก็ทำงานไปด้วย เพราะต้องหาเงินจ่ายค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายของตนเองทุกอย่าง ผมต้องทำงานในบ่อนคาสิโน การงานเจริญก้าวหน้ามาก เงินดีมาก (ทั้งๆที่ผมเป็นคนไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และไม่ชอบเล่นการพนันทุกชนิด แม้ขณะทำงานในบ่อนก็ตาม) พอเก็บเงินได้ จึงลาออกมาเปิดร้านอาหารไทย ย่านคนรวย ดาราหนัง ต่อมาขายร้านอาหาร และกลับประเทศไทย เพราะห่วงคุณแม่และจะได้ไหว้สุสานของคุณพ่อ
 
    หลังจากนั้นต่อมา ผมก็เริ่มปฏิบัติสมาธิ ทำบุญทุกอย่างนับสิบปี ผมได้อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับคุณพ่อเสมอมากระทั่งทุกวันนี้ วันหนึ่งขณะที่ผมนั่งสมาธิอยู่ ผมได้เห็นคุณพ่อมาปรากฏชัดเจนมาก คุณพ่อใส่ชุดขาวผิวพรรณสดชื่นผ่องใสมาก มีแสงขาวนวลสว่างรอบกาย และพูดกับผมว่า “ขอบใจมาก” แล้วท่านก็หายไป จากนั้นมาก็ไม่เคยเห็นท่านอีกเลย
 
    ในชีวิตของผม เคยถูกขู่ฆ่า ถูกจี้ตัว ถูกดักยิง แต่ก็รอดตายแคล้วคลาดมาแล้ว หลายครั้ง ขณะเดียวกันชีวิตก็ขึ้นๆลงๆ ประสบความล้มเหลวในชีวิตทุกอย่างมาโดยตลอด ทั้งๆที่ผมทำบุญตักบาตรทุกวัน รักษาศีลห้า ถืออุโบสถศีลในทุกวันพระ และบริจาคโลหิต 60กว่าครั้ง สวดมนต์ นั่งสมาธิ อุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตาทุกวัน ใครเห็นผมก็คิดว่าผมมีแต่ความสุข แต่ความจริงมีแต่ความผิดหวังในชีวิต
 
    เคยมีพระรูปหนึ่ง ดูดวงชะตาของผม ท่านบอกว่า ดวงชะตาของผมเป็นดวงล้มเหลวทุกอย่าง เป็นคนอาภัพ ทำบุญคุณคนไม่ขึ้น ผมให้คำปรึกษาใคร ชี้แนะช่วยเหลือใคร มักจะสำเร็จ แต่ตัวเองกลับผิดพลาดไปหมด ทำให้คิดว่า ความดีไม่อาจช่วยตัวได้ ต้องใช้จิตใจที่แข็งกร้าวเท่านั้น ถึงจะชนะได้
 
ผมขอกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ครับ
 
1.คุณพ่อของผม ทำธุรกิจใดก็ประสบผลสำเร็จอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ยังหนุ่ม ทั้งๆที่จบ ป.4 เป็นเพราะบุญอะไรในอดีตครับ
 
2.ทำไมกราฟชีวิตของคุณพ่อ เวลาขาขึ้นก็มั่งมีทั้งทรัพย์และบริวาร เวลาขาลงก็ถูกโกงทุกอย่างก็หมดสิ้น ด้วยบุญใดทำให้ท่านตั้งตัวใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และเหตุใดจึงต้องถูกโจรปล้นด้วยครับ
 
3.คุณพ่อเป็นคนมีน้ำใจดี และชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่ทำไมจึงถูกหักหลังและถูกฆ่าตายเมื่ออายุเพียง 39ปี คุณพ่อตายแล้วไปไหน ต่อมาเมื่อผมปฏิบัติสมาธิ ทำบุญอุทิศให้ท่านทุกวัน ตลอดระยะเวลาประมาณ 10ปี ผมเห็นคุณพ่อมาขอบใจ เพราะอะไรครับ และที่เห็นคุณพ่อนั้นจริงหรือไม่ ขณะนี้ท่านอยู่ไหน มีความเป็นอยู่อย่างไรครับ
 
4.ทำไมพี่ชายของคุณพ่อทั้ง 2คน จึงโกงคุณพ่อ และครอบครัวของผมด้วยครับ ขณะนี้เสียชีวิตแล้ว ตายแล้วพวกเขาไปไหนครับ
 
5.บุญใด ทำให้ผมพบกับพระเกจิอาจารย์ และละความแค้นไปอย่างกะทันหันครับ
 
6.ผมเคยถูกขู่ฆ่า ถูกจี้ตัว ถูกดักยิง เฉียดและรอดตายหลายครั้ง เป็นเพราะมีวิบากกรรมใด และที่รอดตายทุกครั้ง เพราะเหตุใดครับ
 
7.เหตุใด ผมจึงเข้าไปคลุกคลี ผู้มีอิทธิพล นักเลง มือปืน นักการเมือง ข้าราชการ และทำงานในบ่อนคาสิโน (ขณะเรียนหนังสือ)
 
8.ที่พระรูปหนึ่งดูดวงผม แล้วทักว่า ดวงชะตาชีวิตผมล้มเหลวไปทุกอย่าง เป็นคนอาภัพเอาดีไม่ได้ ทำคุณคนไม่ขึ้น ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ และจะแก้ไขได้อย่างไรครับ
 
9.เหตุการณ์หลายครั้งที่พลิกผันชีวิตของผม ให้เลิกคิดล้างแค้น เลิกคิดเป็นเจ้าพ่อและไปเรียนต่อต่างประเทศ เป็นเพราะบาปบุญใดส่งผลครับ อย่างนี้จะเรียกว่า ผู้เลี้ยงผู้รักษาตามดูแลใช่หรือไม่ครับ
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูง

ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.คุณพ่อจบ ป.4 แต่ก็ประสบความสำเร็จในธุรกิจการงานอย่างรวดเร็ว เพราะกรรมในอดีต ได้ทำตัวเหมือน “โรบินฮู๊ด” ได้เป็นโจรไปปล้นคนที่ชอบเอาเปรียบชาวนาชาวไร่ เมื่อได้ทรัพย์มาแล้วก็เอามาแจกคนยากคนจน ด้วยบุญนี้กอปรกับความขยันหมั่นเพียรในปัจจุบัน จึงทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วแม้จบ ป.4 ก็ตาม

 
2.คุณพ่อเวลาขาขึ้นก็มีทรัพย์และบริวารมาก แต่เวลาขาลงทรัพย์ถูกโกงหมด เพราะกรรมในอดีตในชาตินั้นนั่นเอง ที่ไปปล้นคนรวยที่เอาเปรียบสังคมมาแจกคนจน จึงทำให้ได้ทรัพย์ที่เจือวิบัติมา ชีวิตจึงมีทั้งขาขึ้นขาลง ดังกล่าว
 

 
3.คุณพ่อเป็นคนมีน้ำใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่ถูกหักหลัง และถูกฆ่าตาย เพราะกรรมในอดีต ชาติที่เป็นโจร ได้ปล้นฆ่าเขาเอาไว้ อีกทั้งหลายครั้งก็เคยลงโทษลูกน้องที่ไปปล้นเอาทรัพย์มาแล้ว ยักยอกทรัพย์ไปเป็นส่วนตัว ไม่ได้เอามารวมเป็นกองกลางแล้วแบ่งทรัพย์ วิบากกรรมนี้มาส่งผล
 
 
 
4.พี่ชายของคุณพ่อทั้งสองคน โกงคุณพ่อและครอบครัว เพราะเป็นกรรมในอดีตของพ่อและครอบครัว ที่เคยไปปล้นเขาเอาไว้ดังกล่าว จึงทำให้สมบัติวิบัติ, ส่วนคนในครอบครัว ก็มีกรรมที่เคยไปโกงพี่น้องวงศาคณาญาติในอดีต มาส่งผล กับเป็นกรรมใหม่ของพี่ชายของคุณพ่อทั้งสองคน
 
 
 
5.ลูกพบพระเกจิอาจารย์ ทำให้ความแค้นหายไปด้วยคำสอนของท่าน เพราะบุญที่คบบัณฑิตมาในอดีตของลูก ได้มาส่งผลให้มาเจอพระเกจิอาจารย์องค์นั้น และได้รับคำสั่งสอนจากท่านจนหายแค้นใจ

 
6.ลูกเอง เคยถูก ขู่ฆ่า ถูกจี้ตัว ถูกดักยิง หลายครั้ง แต่รอดตายได้ เพราะในอดีต ลูกเคยคบคนพาล โดยมีส่วนสนับสนุนทางอ้อม ในการที่ใช้นักเลงไปทำร้ายคู่อริของเพื่อน ด้วยวิธีการ ขู่ฆ่า จี้ตัว ดักยิง มาส่งผล แต่รอดตายได้ เพราะบุญที่เคยสร้างมากับหมู่คณะ จึงทำให้รอดพ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว แล้วได้นำพามาเจอหมู่คณะ


 
7.ลูกต้องเข้าไปคลุกคลีกับผู้มีอิทธิพล นักเลง มือปืน นักการเมือง ข้าราชการ และทำงานในบ่อนคาสิโน (ในขณะเรียนหนังสือ) เพราะกรรมในอดีตหลายชาติ ที่เคยคลุกคลีคบคนพาลแบบนี้ มารวมส่งผล ทำให้มีเชื้อนี้ติดตัวมาคลุกคลีต่อในชาตินี้ช่วงหนึ่ง

 
8.พระรูปหนึ่ง ดูดวงชะตาแล้วพยากรณ์ว่า ดวงชะตาชีวิตล้มเหลวไปทุกอย่าง เป็นคนอาภัพเอาดีไม่ได้ ทำคุณคนไม่ขึ้นนั้น ก็มีส่วนจริงบ้างแต่ไม่ทั้งหมด เพราะลูกก็มีทั้งวิบากกรรมที่ทำบาป และมีบุญเก่าที่เคยทำเอาไว้ด้วย ดังนั้น เมื่อบาปส่งผลก็จะเป็นดังนั้น แต่ถ้าบุญส่งผลก็ตรงกันข้าม
 


 
9.เหตุการณ์หลายครั้ง ที่ทำให้ชีวิตพลิกผันให้เลิกคิดล้างแค้น เลิกคิดเป็นเจ้าพ่อ และไปเรียนต่อต่างประเทศ เพราะบุญที่คบบัณฑิต คบสมณะ ฟังธรรม บุญที่เคยชวนคนมา ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา และบุญที่ทำกับหมู่คณะ มารวมส่งผล เรียกว่า “บุญคอยดูแลรักษา”
 

 
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2549-08-11.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 14:51
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv