CASE STUDY
สามวันจาก...สามีเป็นอื่น
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

    ลูกเป็นลูกพระธัมฯอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ลูกได้มีโอกาสเข้าวัดพระธรรมกายครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2538 เพราะช่วงนั้นกลับไปคลอดลูกที่เมืองไทย ได้มีพี่ท่านหนึ่งชวนลูกมาวัด เมื่อลูกมาถึงวัด ก็ได้ขับรถชมรอบวัดและได้ไปที่มหาธรรมกายเจดีย์ แล้วก็ได้พบพระเดชพระคุณหลวงพ่อโดยบังเอิญ ลูกประทับใจมาก รู้สึกราวกับว่า ได้พบสิ่งที่แสวงหาแล้ว
 
    พอลูกกลับมาที่ญี่ปุ่นลูกกับเพื่อนกัลยาณมิตร ได้ร่วมใจกันสร้างพระแกนกลาง ได้หลายต่อหลายองค์ ชักชวนกันบอกบุญจนได้เป็นประธานรองฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ จากนั้นก็ไม่พลาดทุกๆบุญมาตลอด ลูกกราบขอความเมตตาให้คุณครูไม่ใหญ่ช่วยฝันในฝันดังนี้ค่ะ
 
    คุณแม่ของลูก ต้องกำพร้าแม่มาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากคุณยายเสียชีวิตไปตั้งแต่คุณแม่อายุเพียงหนึ่งขวบ ต่อมาคุณตาก็ไปมีภรรยาใหม่ และมีลูกกับภรรยาใหม่อีกถึง 13คน คุณแม่จึงต้องไปอาศัยอยู่กับญาติคนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง ญาติเขาใช้ให้ทำงานอะไรก็ต้องช่วยเขาทำไป โดยคุณตาและภรรยาใหม่ก็ไม่ได้มาเหลียวแลอีกเลย จนกระทั่งคุณแม่โตเป็นสาว ก็ได้แต่งงานกับคุณพ่อ พอคุณแม่ตั้งท้องคุณพ่อก็ทิ้งคุณแม่ไปมีผู้หญิงคนใหม่ ลูกจึงลืมตาขึ้นมาดูโลก โดยไม่เคยเห็นหน้าคุณพ่อเลย
 
    ต่อมา คุณแม่ก็ได้รู้จักกับ พ่อเลี้ยง ซึ่งเป็นคนดี ไม่มีประวัติเสื่อมเสียมาก่อน อีกทั้งได้เลิกกับภรรยาเดิมไปเรียบร้อยแล้ว คุณแม่เห็นว่า ท่านก็ตัวคนเดียว ทั้งยังมีลูกติด น่าจะมีใครมาเป็นที่พึ่งพิง และพ่อเลี้ยงก็เป็นคนดี น่าจะเป็นที่พึ่งพิงให้กับท่านได้ คุณแม่จึงตัดสินใจแต่งงานกับพ่อเลี้ยง แต่คนคำนวณหรือจะสู้กรรมลิขิต เหตุการณ์ก็ไม่ได้เป็นดังที่คุณแม่คาดการณ์ไว้
 
    เมื่อคุณแม่แต่งงานได้ไม่นาน พ่อเลี้ยงก็เริ่มทำพฤติกรรมแปลกๆกับตัวลูก ทั้งๆที่ลูกยังเป็นเด็กเรียนอยู่ชั้นประถม โดยเวลากลางคืน พ่อเลี้ยงจะเข้ามาใช้มือจับและลูบคลำเนื้อตัวส่วนต่างๆของลูก ลูกก็ร้องโวยวายและใช้เท้าถีบพ่อเลี้ยงออกไป เป็นเช่นนี้หลายคืน ในช่วงนั้น คุณแม่เข้าใจว่า เสียงโวยวายของลูกนั้นเป็นเสียงละเมอ ต่อมาวันหนึ่ง คนข้างบ้านก็เรียกคุณแม่มาสะกิดบอกว่า “ให้ดูแลลูกสาวบ้างนะ พ่อเลี้ยงกำลังคิดไม่ดี” ตอนแรกคุณแม่ฟังแล้วก็ไม่ยังไม่เชื่อ เพราะพ่อเลี้ยงก็เป็นคนดี ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น
 
    วันหนึ่ง คุณแม่จึงแกล้งนอนหลับ แล้วก็ได้ยินเสียงลูกร้อง เมื่อย่องไปดูก็เห็นเหตุการณ์นั้นจริงๆ ตั้งแต่นั้นคุณแม่ก็เลยพยายามกันท่าตัวลูกไว้ ซึ่งก็ยิ่งทำให้พ่อเลี้ยงไม่พอใจ คุณแม่เห็นว่าลูกอยู่ที่นี่ต่อไปจะไม่ปลอดภัย จึงส่งลูกไปอยู่กับญาติ ส่วนตัวคุณแม่เองนั้น ตั้งแต่ให้ลูกไปอยู่กับญาติ ก็ถูกพ่อเลี้ยงหาเรื่องชวนทะเลาะแทบทุกวันว่า ปล่อยลูกตัวเองไปอยู่กับคนอื่นทำไม บางวันพ่อเลี้ยงต่อยเตะคุณแม่จนสลบคาเท้า เพื่อนบ้านต้องช่วยนำไปส่งอนามัย
 
    แต่แล้ววันที่หนักที่สุดก็มาถึง เมื่อพ่อเลี้ยงเดินเข้ามาหาคุณแม่บนบ้าน ในมือพ่อเลี้ยงถือปืนลูกซองมาด้วย เมื่อมายืนประจันหน้า ระหว่างที่คุณแม่คิดว่า พ่อเลี้ยงกำลังจะทำอะไร ฉับพลันพ่อเลี้ยงก็ยกปลายกระบอกปืนลูกซองมาจ่อที่หัวคุณแม่ ตะคอกว่า ถ้าไม่นำลูกสาวกลับมาจะยิงคุณแม่ให้ตาย
 
    นับเป็นจุดเปราะบางในสถานการณ์ที่ล่อแหลม คุณแม่โมโหสุดขีด ความกลัวตายมลายสิ้น คุณแม่ตัดสินใจกระโดดคว้าปลายปืนที่อยู่ในมือพ่อเลี้ยง จับเบนขึ้นไปข้างบน เป็นจังหวะเดียวกับที่ปืนลั่นออกมาพอดี กระสุนพุ่งผ่านหน้าคุณแม่แบบเส้นยาแดงผ่าแปดทะลุหลังคาไป พร้อมเสียงคุณแม่ตวาดกลับว่า “มึงยิงเลย ยังไงมึงก็ไม่ได้ลูกกู ถ้ากูตาย มึงก็ติดคุก มึงก็ไม่ได้ลูกกูอยู่ดี”
 
    ขณะนั้นเพื่อนบ้านได้ยินเสียงปืน ก็ร้องลั่นว่า “ตายแล้วตายแล้ว” คุณแม่ได้ยินเสียงก็ ตะโกนกลับไปว่า “ยัง....ฉันยังไม่ตาย” คุณแม่ในขณะที่มือข้างหนึ่งจับปืนอยู่ มืออีกข้างหนึ่ง ก็หยิบมีดที่วางอยู่แถวๆนั้นขึ้นมา พร้อมกับ ด่าตะโกนว่า “มาฆ่ากูมา” ปรากฏว่าถึงตอนนี้ พ่อเลี้ยงที่เป็นคนปากกล้าขาสั่น ก็ทิ้งปืนแล้ววิ่งหนีไป หลังจากนั้น พ่อเลี้ยงก็ไม่กล้าหาเรื่องอะไรหนักๆอีกเลย
 
    ย้อนมาที่ตัวลูก หลังจากที่ไปอยู่กับญาติแล้ว ก็ต้องไปทำงานเหมือนเป็นลูกจ้าง ลูกต้องตื่นมาทำขนมตั้งแต่ตี3 จนฟ้าสาง กว่าจะได้ไปโรงเรียนก็สายแล้ว จึงถูกคุณครูลงโทษด้วยการเฆี่ยนตีเป็นประจำ ซึ่งลูกก็ต้องอดทน ไม่นานนักคุณแม่ก็ให้ลูกออกไปทำงานที่อื่น ลูกก็ได้ไปอยู่กับเจ้าของสวนลำไยบ้าง สวนองุ่นบ้าง ไปอยู่ดูแลแม่เจ้าของโรงโม่หินบ้าน ทุกแห่งที่ลูกไปเป็นลูกจ้างก็ได้รับความเอ็นดูอย่างดี จนเป็นที่อิจฉาของคนงานด้วยกัน ต่างจากที่ลูกไปอยู่กับญาติของตัวเองที่มีความลำบากมาก
 
    จนลูกย่างเข้าสู่วัยสาว อายุได้ 15ปี ลูกก็ได้เข้าไปทำงานค้าขายอาหารกับเพื่อนที่กรุงเทพฯ ชีวิตแม่ค้าในเมืองกรุงนั้น ตอนกลางวันขายอาหาร พอตอนกลางคืนลูกก็รับจ้างเป็นแม่ครัว ทำอาหารเลี้ยงคนที่ชอบรวยลัดวัดดวงในบ่อนการพนันแถวนั้น เงินที่ได้มาก็นำมาเป็น ค่าเช่าบ้าน และส่งเสียน้องเรียนหนังสือ และเลี้ยงดูคุณแม่
 
    ลูกทำเช่นนี้จนถึงอายุ 30ปี ก็มีเพื่อนมาแนะนำให้ไปทำงานเป็นแม่ครัวที่ประเทศญี่ปุ่น บอกว่าได้เงินดี ลูกจึงตัดสินใจไปญี่ปุ่นทันที ในช่วงแรกก็ลำบากหลายอย่าง ภาษาญี่ปุ่นก็พูดไม่เป็น ต้องไปซื้อเทปมาฝึกพูดอยู่หลายเดือน ภาษาที่ต่างกันช่างเป็นเครื่องขวางกั้นความเข้าใจกันและกันของมนุษยชาติจริงๆ
 
    เมื่อทำงานไปสักพัก ลูกก็ได้มาพบกับ สามี ลูกเห็นเขาเป็นคนดี พอพึ่งพาอาศัยได้ จึงได้แต่งงานกัน แต่งงานได้หนึ่งปี ลูกก็ตั้งท้อง จึงบินกลับมาคลอดที่เมืองไทย เมื่อคลอดแล้ว อยู่เลี้ยงลูกที่เมืองไทยอีกหนึ่งปีก็กลับญี่ปุ่น แต่อนิจจา...ลูกเคยได้ยินแต่สำนวนที่เขาพูดว่า “สามวันจาก...นารีเป็นอื่น” แต่ที่ลูกเจอคือ “สามวันจาก...สามีเป็นอื่น” เพราะลูกพบว่า สามีไปมีผู้หญิงใหม่อีกหนึ่งคน ลูกยื่นคำขาดกับเขาว่า “เธอจะเลือกใคร เลือกเอาสักคน เธอบอกมาเลย...เธอจะเลือกใคร” สุดท้ายสามีก็ตัดสินใจเลือกลูกเจ้าค่ะ
 
    สามีเป็นคนที่ชอบเล่นปาจิงโกะเป็นชีวิตจิตใจ จนเป็นหนี้เป็นสินมากมาย ลูกต้องไปคอยเคลียร์หนี้สินให้เรื่อยๆ แม้ทุกวันนี้สามีก็ยังเลิกไม่ได้ ลูกก็ได้แต่สอนตัวเองว่า “สิ่งใดแก้ไขไม่ได้ สิ่งนั้นเราต้องอดทน” แต่สามีก็มีข้อดีอย่างหนึ่ง คือ เขาไม่ขัดลูกในการสร้างบุญเลย ทั้งยังช่วยขับรถพาลูกมาศูนย์ปฏิบัติธรรมอีกด้วย และในปี พ.ศ.2546 เขาก็ยังได้อนุญาตให้ลูกนำลูกชาย 3คน มาบวชสามเณรรุ่นแรกที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมอีกด้วย สามีก็ได้มาร่วมงานบวช เขาประทับใจจนน้ำตาไหล
 
    ในปี พ.ศ.2547 ได้เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ในชีวิตของลูก คือ เมื่อลูกขับรถกลับจากการไปต่างเมือง กำลังจะเลี้ยวรถเข้าบ้าน ก็ได้มีรถกระบะอีกคันหนึ่งวิ่งเข้ามาชนท้ายรถของลูกอย่างแรง แต่ก็อัศจรรย์ที่แม้ลูกจะเตรียมเลี้ยวขวา แต่รถของลูกกลับกระเด็นไปทางซ้ายออกข้างทาง จึงทำให้ลูกปลอดภัย ไม่ต้องชนกับรถสิบล้อที่แล่นสวนมาอีกเลนหนึ่ง
 
    พ่อของสามี ในปี พ.ศ.2512 ตอนอายุ 41ปี ขณะเดินออกไปทำธุระตอนเช้า ระหว่างที่ยืนรอรถอยู่ที่ป้ายรถบัส ก็ถูกรถบัสถอยมาทับเสียชีวิต
 
คำถาม
 
1.เหตุใด ลูกจึงเป็นลูกกำพร้าพ่อ คุณแม่เป็นลูกกำพร้าแม่ตั้งแต่ยังแรกเกิดเจ้าคะ ผู้ที่กำพร้าพ่อหรือแม่ เป็นเพราะทำกรรมต่างกันอย่างไรเจ้าคะ
 
2.เหตุใด ลูกจึงมาพบพ่อเลี้ยงที่มีพฤติกรรมลวนลามเช่นนี้ ทำไมบางคนแม้เป็นลูกกำพร้าแต่ได้พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงที่ดี แต่บางคนได้พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงที่ไม่ดีเจ้าคะ
 
3.เหตุใด คุณแม่ถึงถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายทุบตี จนถึงขนาดเอาปืนขู่เจ้าคะ แล้วบุญใดคุณแม่จึงไม่ถูกปืนลั่นใส่เจ้าคะ
 
4.เหตุใดเมื่อลูกไปอยู่กับญาติ ลูกต้องทำงานหนักราวกับคนใช้ แต่พอไปเป็นลูกจ้างของคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติ ลูกกลับได้รับความเอ็นดูอย่างดี เรื่องนี้เกิดจากกรรมในอดีตที่ต่างกันอย่างไรคะ, เหตุใดบางคนญาติรักใคร่ แต่คนไม่ใช่ญาติเกลียดชัง ในขณะที่บางคนคนไม่ใช่ญาติรักใคร่ แต่ญาติกลับเกลียดชัง หรือบางคนญาติและไม่ใช่ญาติรักใคร่ตลอด หรือ บางคนญาติและไม่ใช่ญาติ เกลียดชังตลอดเลย เจ้าคะ
 
5.กรรมใดที่สามีของลูกจึงเป็นอื่นไปชั่วขณะ แล้วกลับมาอยู่กับลูกอีกเจ้าคะ
 
6.เหตุใดสามีจึงติดบุหรี่ และติดการพนันปาจิงโกะอย่างมาก แต่กลับมีความเข้าใจเรื่องบุญได้อย่างง่ายๆ เขาจะมีโอกาส เลิกบุหรี่และการพนันบ้างหรือไม่เจ้าคะ, และวิบากกรรมใดที่ลูก ต้องมาใช้หนี้ให้สามีค่ะ
 
7.กรรมใดลูกจึงประสบอุบัติเหตุรถชน บุญใดมาช่วยไว้ให้ลูกไม่เป็นอันตรายใดๆ ใช่บุญบวชลูกชายครั้งแรกที่ญี่ปุ่นหรือไม่เจ้าคะ
 
8.พ่อสามีตายแล้วไปอยู่ที่ไหนคะ ได้มาเกิดเป็นลูกคนที่สองของลูกหรือไม่เจ้าคะ
 
9.คุณแม่, ตัวลูก, สามี และลูกๆ เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร, ลูกชายคนแรกอยากอยู่ญี่ปุ่น แต่ลูกอยากให้เขาได้มาบวชเรียนที่เมืองไทย ลูกชายมีบุญในการบวชเผยแผ่ที่ต่างประเทศ หรือบุญศึกษาธรรมะที่ประเทศไทยเจ้าคะ
 
10.เพื่อนกัลยาณมิตรคนหนึ่งในกลุ่มของลูก เป็นกำลังหลักในการสร้างศูนย์ที่ญี่ปุ่น อยู่ญี่ปุ่นมา 13ปีแล้ว แต่ต้องอยู่ทำงานแบบไม่เปิดเผย เธอทำกรรมใดจึงต้องมาใช้ชีวิตอย่างนี้เจ้าคะ และทำอย่างนี้จะผิดศีลอย่างใดหรือไม่เจ้าคะ เธอสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรเจ้าคะ  
 
11.การมาอยู่ต่างประเทศ ทำให้มีอุปสรรคเรื่องภาษา ลูกเคยฟังว่า สมัยพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ โลกไม่มีการแบ่งแยกประเทศ พระพุทธเจ้าสามารถเทศน์โปรดคนได้ทั้งโลก แสดงว่าทั้งโลกพูดภาษาเดียวกันใช่หรือไม่เจ้าคะ แล้วเขาพูดภาษาใดกันเจ้าคะ ความตากต่างกันของภาษา ซึ่งทำให้พูดสื่อสารกันไม่เข้าใจเกิดขึ้นมาได้อย่างไร จะมีวิธีการอย่างไรบ้างที่จะทำให้คนทั้งโลกกลับมาพูดภาษาเดียวกันอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้การชวนคนทำความดีและการเผยแผ่ธรรมะ เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดายยิ่งขึ้นเจ้าคะ
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงเจ้าค่ะ

 ฝันในฝัน
 หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1.ลูกกำพร้าพ่อ เพราะกรรมในอดีต สมัยที่ลูกเกิดเป็นผู้ชายเจ้าชู้ เมื่อมีบุตรภรรยาแล้วก็ทอดทิ้งไป ด้วยวิบากกรรมนี้จึงทำให้มีพ่อที่เจ้าชู้ ที่ทอดทิ้งบุตรภรรยาไป เช่นเดียวกัน
 


2.ลูกมาพบพ่อเลี้ยงที่มีพฤติกรรมลวนลาม เพราะกรรมในอดีต ที่เกิดเป็นผู้ชายเจ้าชู้ ก็มักจะมีพฤติกรรมอย่างนี้ คือ เคยคิดที่จะลวนลามเด็กที่คล้ายกับตัวลูก
 

 
3.คุณแม่ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายทุบตี จนถึงถูกเอาปืนขู่ เพราะกรรมในอดีตที่สมัยเกิดเป็นผู้ชาย ได้ชอบทุบตีภรรยาของตน และเคยข่มขู่ด้วยประการต่างๆ แต่ไม่ทำให้ถึงตาย มารวมส่งผล

4.เมื่อลูกไปอยู่กับญาติ ลูกต้องทำงานหนักราวคนรับใช้ เพราะกรรมในอดีต ก็ได้เคยข่มขู่ญาติของตนเอง โดยได้ใช้ให้ทำงานราวคนใช้ มาส่งผล


5.สามีของลูกเป็นอื่นชั่วคราว แล้วกลับมาอยู่กับลูกอีก เพราะเศษวิบากกรรมกาเมฯ ในอดีตสมัยเกิดเป็นผู้ชาย มาส่งผลให้สามีเป็นอื่นไปชั่วคราว

6.สามีติดบุหรี่ ติดการพนันปาจิงโกะอย่างมาก แต่กลับเข้าใจเรื่องบุญอย่างง่ายๆ เพราะมีกรรมคบคนพาลในอดีต ทำให้มาอยู่ในวงจรการพนัน แต่ก็เคยร่วมสร้างบุญกับตัวลูกมา จึงทำให้เข้าใจเรื่องบุญได้อย่างง่ายๆ อีกทั้งเห็นความดีของลูกในปัจจุบัน ที่ช่วยเขาใช้หนี้สินพนันอีกด้วย  
 
 
 
7.ลูกประสบอุบัติเหตุรถชน เพราะกรรมในอดีตและปัจจุบัน ได้ฆ่าสัตว์ทำอาหาร มาส่งผล
 
8.พ่อของสามี ตายแล้วก็ไปเป็นภุมมเทวา ระดับทั่วไป ระยะหนึ่ง วนเวียนอยู่กับครอบครัว แล้วก็มาเกิดเป็นลูกชายคนที่สองของลูกจริงๆ

 
9.คุณแม่, ตัวลูก, สามีและลูกๆ เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา แบบกองเสบียง ประเภทตามอารมณ์ ดังนั้นทำให้บางชาติก็เจอกัน บางชาติก็ไม่เจอกัน
 

 
10.เพื่อนกัลยาณมิตรคนหนึ่งในกลุ่มของลูก เป็นกำลังหลักในการสร้างศูนย์ที่ญี่ปุ่นอยู่ญี่ปุ่นมา 13ปีแล้ว แต่ต้องทำงานแบบไม่เปิดเผย เธอต้องมาใช้ชีวิตอย่างนี้ เพราะสร้างทานบารมีมาน้อย จึงต้องตะเกียกตะกายไปต่างประเทศ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงชีพและต้องอยู่อย่างไม่เปิดเผย การทำดังนี้ก็ไม่จัดว่าผิดศีล แต่ก็ไม่เหมาะสม
 
 
 
11.การมาอยู่ต่างประเทศ มักจะมีอุปสรรคเรื่องภาษา ก็เป็นเรื่องธรรมดา



บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2549-08-17.html
เมื่อ 23 กรกฎาคม 2567 04:20
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv