CASE STUDY
ไม่รู้ว่าใครหลอกใคร
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 

  
กราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ
 
    การเพิ่มรักให้สะพรั่ง ด้วยการเปลี่ยนแฟนเหมือนเปลี่ยนเสื้อ คงไม่มีใครชอบคำๆนี้สักเท่าไหร่ แต่ไม่ทราบเป็นเพราะเหตุใด คำๆนี้จึงกลายไปเป็นหนึ่งในฉายาของผมอย่างเต็มๆ ทำให้ครอบครัวต้องสับสนวุ่นวาย สุดท้ายผมก็ตัดสินใจปิดฉากปัญหาทั้งปวง ด้วยการหันหน้าสู่แดนแห่งรสพระธรรม เรื่องราวชีวิตของผมและครอบครัวจะเป็นอย่างไรต่อไป ขอคุณครูไม่ใหญ่เมตตา ฝันในฝันถอดรหัสชะตากรรม ส่องนำทางชีวิตให้กับผมและครอบครัวด้วยนะครับ
 
    ผม เป็นบุตรชายคนที่สอง ในครอบครัวคนจีนฐานะดี สมัยนั้นพ่อกับแม่ทำกิจการปั๊มน้ำมันเชลล์ ที่ปากซอยสุขุมวิท23 และกิจการอื่นอีกมากมาย อาทิเช่น เล่นที่ สะสมของเก่า ปล่อยเงินกู้ เป็นต้น วัยเด็กพ่อ-แม่เคยพาผมไปไต้หวัน ร่วมพิธีศพของประธานาธิบดีเจียงไคเช็ค ทุกอย่างตอนนั้นช่างโรยด้วยกลีบกุหลาบ ผมได้เรียนโรงเรียนดีๆ มีชีวิตสุขสบายราวกับผู้นิรทุกข์
 
    แต่แล้ววันหนึ่ง พ่อกับแม่ได้สอนบทเรียนแห่งความทุกข์บทแรกให้ผมรู้จัก บทเรียนที่เริ่มต้นง่ายๆ แค่ท่านบอกว่า ผมกับพี่ชายไม่ใช่ลูกแท้ๆของท่าน เป็นเด็กที่ท่านขอมาเลี้ยงอีกทีหนึ่ง พอผมถามว่า ผมมาจากไหน ใครเป็นพ่อแม่ที่แท้ของผม ท่านก็ไม่ยอมบอก แม้แต่ใบเกิดผมก็ไม่เคยเห็น ท่านยังเก็บซ่อนมาจนทุกวันนี้ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่า ท่านบอกผมเพื่ออะไร แล้วทำไมถึงไม่บอกที่มาที่ไปของผม มิหนำซ้ำยังซุกซ่อนหลักฐานการเกิดของผมอีก
 
    จากวันนั้น คืนวันอันสดใสของผมก็เริ่มเปลี่ยนไป พร้อมๆกับบทเรียนแห่งความทุกข์บทที่สองก็ก้าวเข้ามา เมื่อแม่จับได้ว่า พ่อไปมีเมียน้อย จึงทะเลาะเบาะแว้งกันใหญ่โต ตอนนั้น ผมอยากได้ยินเสียงหัวเราะที่จางหายไปจากครอบครัวของเรามากๆครับ
 
    เมื่อครอบครัวไม่อาจยึดเหนี่ยวจิตใจผมได้อีกต่อไป ผมซึ่งกำลังแตกหนุ่มเนื้อหอม ในช่วงเรียนชั้นม.3 ก็เริ่มจีบหญิง แล้วก็มีผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตผมหลายต่อหลายคน อายุนั้นหรือ มันเป็นเพียงตัวเลข ผมเกี่ยวพันได้หมดไม่ว่าเธอเหล่านั้นจะอายุน้อยกว่า หรือมากกว่า เป็นเช่นนี้เรื่อยๆมา และเมื่อริรัก ก็ต้องลองยา ผมลองเสพยาด้วยความอยากรู้ตามประสาวัยคะนอง แต่ก็ไม่ติดนะครับ
 
    พอขึ้นชั้นม.5 พ่อจึงให้ผม Drop การเรียน พาผมกับแม่ไปเที่ยวเมืองจีน 1อาทิตย์ และได้ขอร้องให้ผมบวชให้ โดยเอาเงิน เอาของมาล่อทุกอย่าง แต่ผมก็ไม่ยอมบวช เพราะคิดว่ายังไม่พร้อม แล้วขอกลับไปเรียนต่อจนจบ ม.6 แต่สอบไม่ติดในระดับมหาวิทยาลัย จึงตัดสินใจไม่เรียนต่อ และออกไปหางานทำข้างนอก
 
    งานแรกเริ่มที่ร้านสนุกเกอร์ คราวนี้ มีผู้หญิงที่เป็นเพื่อนกัน มาติดพันผมพร้อมๆกันอย่างยินยอมพร้อมใจ ผมจึงขยับวงของการบอกรักไม่จำกัด อย่างไร้ความจำเป็นที่จะต้องสับรางรถไฟ ต่อมาพ่อก็หางานใหม่ให้ทำ โดยให้ผมไปเป็นช่างซ่อมครับ เป็นงานซ่อมเครื่องถ่ายเอกสาร ที่เจ้าของบริษัทฯเป็นเพื่อนและลูกหนี้ของพ่อ เมื่อผมทำงานที่ใหม่ ฉายาเปลี่ยนแฟนเหมือนเปลี่ยนเสื้อก็สำแดงออกเต็มที่ ผมได้เข้าไปรู้จัก เกี่ยวข้องกับลูกค้าผู้หญิงอีกหลายต่อหลายคน
 
    ไม่นานภรรยาเจ้าของบริษัทฯ จึงเชื่อมสะพานให้ผมคบหากับลูกสาวของท่าน ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจเธอเท่าไหร่นัก เพราะคบหญิงอื่นอยู่แล้ว แต่แม่ของผมกลับชอบลูกสาวของเจ้าของบริษัทฯถ่ายเอกสาร ซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อคนนี้มาก เพราะเป็นคนจีนเหมือนๆกัน ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจึงสนับสนุนอย่างเต็มที่ ผมก็ตามใจผู้ใหญ่อยู่แล้ว คบหากับเธอไปจนเธอเริ่มตั้งท้อง
 
    แต่ก่อนที่ชะตาชีวิตจะถูกลิขิต ให้เข้าพิธีวิวาห์กับแฟนคนนี้ ผู้หญิงคนใหม่ก็ได้ก้าวเข้ามาในชีวิตของผม พี่สาวของผู้หญิงคนใหม่เป็นลูกค้าของบริษัทฯ มีร้านอยู่ห่างจากบริษัทฯแค่ 2ช่วงตึก วันนั้นเธอมาช่วยงานพี่สาวของเธอที่ร้าน เมื่อผมพบเธอครั้งแรก รู้สึกแปลกๆในหัวใจ เธอดูดุๆ น่าลองคบดู ผมใช้เวลาแค่อาทิตย์เดียว ก็สามารถขับรถตามเธอไปต่างจังหวัดได้ แม้เธอจะสงสัยความสัมพันธ์ของผมกับแฟนที่ท้องบ้าง แต่ผมก็หลอกเธอได้อย่างแนบเนียนว่า ผมกับแฟนไม่มีอะไรกัน
 
    วันหนึ่งความลับก็ถูกเปิดเผย เพราะญาติของแฟนผม ไปบอกความจริงทุกอย่างกับเธอ เธออายมาก หนีกลับต่างจังหวัด ผมติดตามเธอไป เพื่อบอกเธอว่า “ผมรักเธอคนเดียวจริงๆ” หว่านล้อมเธอจนตายใจ แล้วยอมเป็นของผม
 
    ผมตัดสินใจจดทะเบียนสมรส ให้เธอเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งหลอกเธอว่า จะพาพ่อ-แม่มาขอเธอ ทั้งๆที่รู้ว่ายังไงๆพ่อ-แม่ก็คงไม่ยอมรับเธอ จากนั้นไม่นาน เพื่อนของผมก็ส่งข่าวมาบอกว่า แฟนที่ท้อง คลอดลูกเป็นผู้หญิง และพ่อโกรธผมเรื่องทิ้งแฟนที่ท้องมาก โกรธจนแทบจะลุกเป็นไฟ จึงประกาศตัดผมจากกองมรดก แล้วตามมายึดรถของผม ที่จอดอยู่บ้านพี่สาวของภรรยา เพราะความไว้ใจสลายไป ราวปราสาททรายถูกน้ำซัด ปิดฉากอนาคตทุกด้านไปทันที เหลือไว้เพียงภาพของคนเคยรวย
 
    พี่สาวของภรรยา จึงรังเกียจ เชิญผมกับภรรยาออกไปอยู่ที่อื่น ผมนำสมบัติชิ้นสุดท้าย คือ คอมพิวเตอร์-โน๊ตบุ๊ก ไปจำนำกับเพื่อนสนิท ได้เงินมาเช่าห้องพักอยู่ ไม่นานภรรยาก็ตั้งท้อง พร้อมกับญาติของผมโทรศัพท์มาบอกว่า พ่อป่วยเข้าโรงพยาบาล แต่ผมปฏิเสธที่จะไปเยี่ยม เพราะกลัวท่านเห็นเข้า จะโมโห อาการจะทรุดหนักกว่าเดิม จากนั้นไม่เกินสัปดาห์ พ่อของผมก็จากไป ด้วยโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว
 
    ผมคิดว่า เมื่อไม่ได้ไปหาท่านตอนเป็น ก็ขอไปเห็นท่านตอนตาย ตัดสินใจไปงานศพของพ่อ แต่แม่ก็ยังโกรธผมอยู่ ทั้งญาติหลายคนพยายามกีดกันผมจากแม่ พอเผาศพพ่อเสร็จ ญาติที่หวังดีก็โทรศัพท์มาบอกอีกว่า พ่อทิ้งทรัพย์สินไว้ 200กว่าล้าน ระวังแม่ของผมจะโดนยุ และถูกหลอกเอาเงินไปจนหมด
 
    ภรรยาของผม ทราบเรื่องนี้ เธอจึงไปเล่าให้พี่สาวของเธอฟัง พี่สาวของเธอจึงจัดการหาทนาย ให้ผมฟ้องแม่ของตัวเองเรื่องมรดก ผมเห็นว่าภรรยาเริ่มตั้งท้อง จึงจำใจฟ้องแม่ของตัวเองถึง 3ครั้ง เพียงเพราะคำว่า “เพื่อลูก” แม่ยอมแบ่งเงินให้ผม แต่ก็สร้างความเจ็บช้ำหัวใจให้กับแม่อย่างน่าอเนจอนาถยิ่ง ผมนำเงินมาซื้อบ้าน ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย จนเงินเกือบจะหมด
 
    และแล้วกรรมคงตามทัน แฟนที่เคยมีสัญญาแค้นแสนเกลียดที่ผมทิ้งไป ก็มาฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูจากผม 12ล้าน ทั้งที่ก่อนหน้านั้น แม่ของผมให้เงินค่าเลี้ยงลูกเธอไปแล้ว 3ล้าน เราสู้คดีกัน ศาลตัดสินให้ผมจ่ายให้เธอเพียง 8แสน แบ่งจ่ายเป็นงวดๆ รวม 20ปี และเซ็นรับรองบุตรให้ กลายเป็นรักติดลบ หนี้เงินตราผมชำระให้เธอได้ด้วยเงินทอง แต่หนี้หัวใจ ผมไม่รู้จะชำระให้เธอด้วยสิ่งใด
 
    ต่อมา ภรรยาตั้งท้องลูกคนที่สอง หมอบอกว่า ลูกของผมเสี่ยงที่จะเป็นโรคธารัสซีเมีย อาจจะต้องทำแท้ง แต่เมื่อตรวจอย่างละเอียดพบว่า ลูกผมไม่เป็น พอภรรยาคลอดลูกเป็นชาย  หมอจึงทำหมัน ไม่ให้เธอมีลูกได้อีกต่อไป ตอนนี้ปัญหาการเงินรุมเร้ารอบด้าน ทำให้ผมทะเลาะกับภรรยาเป็นประจำ และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เมื่อก่อนผมกับเธอเคยรักกันมาก แต่ตอนนี้กลับเหมือนกับเกลียดกันมาเป็นชาติ
 
    ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ มีคนบอกว่า เป็นเรื่องปกติธรรมดาของชีวิตคู่ครับ เงินทองที่จะซื้อนมให้ลูกกินยังแทบจะไม่มี ทั้งที่เราเคยมีเงินอย่างมากมาย ดีที่ แม่ยาย กับ น้องสาวฝาแฝดของภรรยา คอยให้ความช่วยเหลือ
 
    ปลายปี พ.ศ.2547 น้าชายของภรรยา เป็นกัลยาณมิตรชักชวนให้ครอบครัวของเราเข้าวัด ผมมาอยู่ธุดงค์ปีใหม่ปี พ.ศ.2548 ประทับใจมาก จากนั้นก็มาวัดบ่อยขึ้น จนเทศกาลเข้าพรรษา ทั้งภรรยา แม่ยาย และน้องสาวเธอ ต่างเข้ามาพูดจาหว่านล้อมชักชวนให้ผมบวช ทั้งที่ก่อนเข้าวัด พวกเธอเคยชักชวนผมรอบหนึ่งแล้ว แต่ไม่เป็นผล แต่ครั้งนี้กำแพงใจของผม ไม่อาจขวางกั้นความหวังดีของพวกเธอได้อีกต่อไป มันได้พังทลายลง พร้อมกับการเกิดใหม่ของผมในร่มผ้ากาสาวพัสตร์
 
    วันบวช ผมร้องไห้อย่างตื้นตันใจ ไม่เคยคิดว่า เราก็มีวันนี้ได้ ตอนกล่าวคำขอบวช ฝนเทลงมาอย่างหนัก มีทั้งหยาดน้ำฝนและหยดน้ำตา พอเสร็จพิธี ฟ้าผ่าลงมาเปรี้ยงใหญ่ ราวกับจะบอกว่า พ่อของผมรับรู้การบวชครั้งนี้ ในช่วงที่ผมบวช ภรรยากับลูก แม่ยายและน้องสาวของภรรยา ก็ตามมาอุปัฏฐากผมโดยตลอด จากที่เมื่อก่อนพวกเธอนับถือศาสนาคริสต์ นิกายคาทอลิค ตอนนี้พวกเธอเปลี่ยนใจมาเป็นลูกของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ โดยเฉพาะแม่ยายของผม ทำหน้าเป็นกัลยาณมิตรให้กับลูกๆ พี่น้องคนอื่นๆ และเพื่อนบ้านอย่างเต็มตัว และเต็มที่เลยครับ
 
    พี่สาวของภรรยา (เป็นพี่น้องต่างบิดากัน) ชอบเรื่องเทพมาก นับถือเทพทุกองค์ ทุกเทพที่คนบอกว่า ศักดิ์สิทธิ์ เธอไปหมด แต่กลับไม่เสมอต้นเสมอปลายกับแม่หรือพี่น้อง ดีกับผมตอนมีเงิน ไล่ผมออกจากบ้านตอนหมดเงิน พอมีเงินก็นับเป็นน้อง มีทองก็นับเป็นพี่ พอมีหนี้ก็ไม่รู้จักกัน ผิดกับน้องสาวฝาแฝดของภรรยา ที่ไม่เคยทิ้งกันและรักกันมาก แต่เธอโชคร้าย เพราะในช่วงที่ผมมาบวช เธอมีเหตุให้ต้องเลิกกับสามี
 
คำถาม
 
1.ผมไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อ-แม่จริงหรือครับ ถ้าจริงพ่อ-แม่แท้ๆของผมเป็นใคร และกรรมใดทำให้ผมไม่มีโอกาสรู้ประวัติของตัวเองเลยครับ
 
2.เหตุใด ถึงมีแต่ผู้หญิงเข้ามาพัวพันในวงเวียนชีวิตของผมเสมอ ทั้งอายุมากกว่า และน้อยกว่า ทั้งด้านดีและไม่ดี ทำไมผู้ชายจึงเจ้าชู้มากกว่าผู้หญิง เป็นเพราะมารบังคับหรือไม่ครับ การทำวิชชาสามารถทำให้ผู้ชายทั้งโลกเจ้าชู้น้อยลงได้หรือไม่ครับ จะได้ไม่ต้องย่าง 3ขุม ย่างขุม3 กันอีกครับ
 
3.กรรมใด ทำให้ผมและภรรยา (คนที่ผมจดทะเบียนสมรสด้วย) ต้องมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทั้งที่ตอนแรกผมไม่คิดจะจริงจังกับเธอมาก่อน กรรมใดภรรยาจึงเป็นที่รังเกียจของพ่อ-แม่ของผม กรรมใดทำให้ชีวิตคู่ของเราเวลาดี ก็ดีมากๆ แต่ถ้าแย่ก็แย่มาก ต้องแก้ไขอย่างไรครับ
 
4.การที่ผมฟ้องร้องแม่ของตัวเองเรื่องมรดก (แต่ท่านบอกว่า ไม่ใช่แม่แท้ๆของผม) จะมีวิบากกรรมใดหรือไม่ครับ จะแก้ไขได้อย่างไรครับ
 
5.กรรมใด ทำให้ตอนที่ภรรยาของผมตั้งท้องลูกคนที่สอง หมอจึงบอกว่า เสี่ยงที่ลูกที่ออกมาจะเป็นโรคธารัสซีเมีย ทำให้เธอต้องทำหมัน ทั้งที่ผมอยากได้ลูกชายอีกครับ
 
6.พ่อของผม ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่ พ่อรู้หรือไม่ครับว่า ผมบวชอุทิศให้ท่าน ท่านอโหสิกรรมให้ผมกับภรรยาหรือไม่ครับ มีข้อความอะไรฝากมาถึงเราบ้าง ชาตินี้แม่ของผม จะให้อภัยผมหรือไม่ เพราะท่านไม่ยอมมางานบวชของผมเลยครับ
 
7.กรรมใดครอบครัวของผม กับพี่สาวคนละพ่อของภรรยา ยังต้องพัวพันกันอยู่ บางครั้งเธอดูเหมือนจริงใจ บางครั้งกลับไม่ใช่ การที่เธอนับถือสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พระรัตนตรัย มากกว่าแม่ของตัวเอง จะมีผลอย่างไรกับชีวิต แต่ทำไมแม้เธอจะนับถืออย่างนั้น แต่เธอมักถูกหวยบ่อย และมีคนให้ความช่วยเหลือตลอดครับ
 
8.ผม กับภรรยา และลูก เคยเป็นอะไรกันมาก่อนจึงได้มาเจอกัน และลูกทั้ง 2คน ก่อนมาเกิด มาจากไหน อีกทั้งน้องสาวฝาแฝดของภรรยา และแม่ยายของผม เคยสร้างบุญร่วมกันมาอย่างไร ถึงได้มาคอยเกื้อกูลกันตลอดครับ
 
9.เหตุใดภรรยา น้องสาวฝาแฝดของภรรยา และแม่ยายของผม จึงได้สนับสนุนให้ผมบวช ทั้งที่นับถือคริสต์ อย่างเคร่งมาก พวกเธอเคยทำบุญใดมากับหมู่คณะ จึงได้เปลี่ยนใจมาเข้าวัดพระธรรมกาย เพราะพระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ
 
10.ภรรยาและน้องสาวฝาแฝด เคยทำอะไรกันมา จึงมาเป็นฝาแฝดกัน กรรมใดเป็นเหตุให้แฝดผู้น้องต้องเลิกกับสามี เธอจะมีคู่แท้ได้บ้างหรือไม่ครับ
 
11.ผมเคยสร้างบุญกับน้าชายของภรรยามาอย่างไร ท่านจึงได้คอยเป็นกัลยาณมิตรให้ผมและครอบครัวมาโดยตลอด ทั้งยังมีส่วนสำคัญ ช่วยทำให้ผมได้บวชด้วยครับ
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1.ตัวลูกไม่ใช่ลูกจริงๆ ตามที่พ่อ-แม่ที่เลี้ยงมาบอกเอาไว้

2.ตัวลูกมีผู้หญิงมาพัวพันตลอด ทั้งอายุมากและน้อย ดีบ้างไม่ดีบ้าง เพราะนิสัยเจ้าชู้ที่ติดมาข้ามชาติหลายชาติ อีกทั้งเวลาทำบุญมักจะอธิษฐานให้ตัวเองมีเสน่ห์ และมีผู้หญิงมาติดเยอะๆ

3.ตัวลูกและภรรยาที่จดทะเบียนกัน ต้องมาอยู่ร่วมกันทั้งๆที่แต่เดิมตัวลูกเองก็ไม่คิดจะจริงจังกับเธอมาก่อน เพราะเคยสร้างบุญร่วมกันมาในอดีตมากกว่าคนอื่น
 
  
4.การที่ฟ้องร้องแม่ตัวเองเรื่องมรดก (แต่ท่านบอกว่า ไม่ได้เป็นแม่แท้ๆของตัวลูก) นั้น เมื่อวิบากกรรมส่งผล ก็จะเจออย่างนี้บ้าง

5.ตอนที่ภรรยาท้องลูกคนที่สอง หมอบอกว่า เสี่ยงที่ลูกจะออกมาเป็นธารัสซีเมีย จึงต้องทำหมัน ทั้งๆที่ตัวลูกอยากมีลูกชายอีกคน เพราะในอดีต ภรรยาของลูกในชาตินี้ ได้เคยอนุโมทนาบาป มีจิตยินดีให้สามีตนเองในชาตินั้น โกงทรัพย์มรดกพ่อ-แม่-พี่-น้อง วิบากกรรมนี้จึงมาส่งผล ให้เป็นพาหะ ที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงของลูกที่จะเป็นธารัสซีเมีย
 
  
6.พ่อที่เลี้ยงตัวลูกมา ตายแล้ว ก็ไปสู่ยมโลกของมหานรกขุม3 ด้วยกรรมกาเมฯเจ้าชู้ กำลังปีนต้นงิ้ว หนามเหล็กร้อนอยู่ ด้วยความทุกข์ทรมานมาก
 
  
7.ครอบครัวของลูก กับพี่สาวคนละพ่อของภรรยา ต้องมาพัวพันกันนั้น ก็เป็นเรื่องของวัฏฏะ ที่เคยเกิดเจอกัน เป็นโน่นเป็นนี่ แต่ที่สำคัญเป็นอัธยาศัยส่วนตัวของพี่สาวคนละพ่อของภรรยา และตัวลูกก็ทำตัวแบบไม่มีเครดิตเองด้วย
  
8.ตัวลูก ภรรยา และลูกๆ มาเป็นครอบครัวเดียวกัน เพราะเคยสร้างบุญและกรรมร่วมกันมาในอดีต

9.ภรรยา น้องสาวฝาแฝด แม่ยาย เป็นคริสต์ที่เคร่งมาก แต่สนับสนุนให้ตัวลูกบวชพระในพระพุทธศาสนา เพราะได้น้าชายเป็นกัลยาณมิตร จึงเข้าใจความจริงของชีวิตในระดับหนึ่ง อีกทั้งอยากให้ตัวลูกได้รับการกล่อมเกลาไปในทางที่ดีขึ้น จึงได้สนับสนุนในการบวชครั้งนี้
 

  
10.ภรรยาและน้องสาวฝาแฝด มาเป็นฝาแฝดกัน เพราะในอดีต เคยเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ถูกชะตากัน จึงชวนกันมาสร้างบุญ แล้วอธิษฐานให้ได้มาเกิดเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน เมื่อบุญมาส่งผลพร้อมกัน จึงได้มาเกิดเป็นฝาแฝดกัน
 
  
11.ตัวลูกกับน้าชายของภรรยา เคยสร้างบุญร่วมกันมา คือ ในอดีตน้าชายก็เป็นกัลยาณมิตรให้กับครอบครัวมา
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2549-11-08.html
เมื่อ 28 มิถุนายน 2567 20:49
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv