CASE STUDY
ถ้าฉันรวยจะสวยให้ดู
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 

 
ลูกขอกราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

    ลูก มีเหตุการณ์ที่แปลกใจ เกี่ยวกับตัวของลูกเอง รวมทั้งเรื่องราวของครอบครัว หลังจากที่ลูกได้ฟัง Case Study หลายๆเรื่องแล้ว ลูกเห็นหลายคนชีวิตเปลี่ยนไป ที่สำคัญมากคือความรู้สึกในใจมันเปลี่ยน เปลี่ยนจากไม่เข้าใจเป็นเข้าใจ และเปลี่ยนจากไม่ดีงามเป็นดีงามได้ ลูกจึงเห็นว่า น่าที่จะส่งเรื่องราวของตนเองมา เพื่อเป็นความรู้ และเป็นเรื่องราวสอนใจตนเอง และสอนใจคนอื่นได้บ้าง
 
    เริ่มที่ พี่สาวคนที่สามของลูก พี่สาวคนนี้นับถือในลัทธิที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ (มังสวิรัติ) เป็นเวลามากกว่าสิบปี มีความเคร่งครัดในการประพฤติปฏิบัติมาก จะรับประทานแต่ผักเป็นหลัก และยังชักชวนคนอื่นๆให้รับประทานด้วย เธอมีอุปนิสัยที่ดีเป็นที่รักของทุกคน ไม่ว่าจะในที่ทำงาน ในลัทธิเดียวกัน และในครอบครัว ต่างก็รักพี่สาวคนนี้กันทุกคนค่ะ เมื่อพี่สาวเสียชีวิต จึงทำให้หลายคนเสียใจมาก พวกเขารู้สึกว่าคนดีๆอย่างนี้ ทำไมต้องตายด้วย เรื่องราวการเสียชีวิตของพี่สาว มีดังนี้ค่ะ...

    ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เมื่อประมาณสิบกว่าปีที่แล้ว พี่สาวทำหน้าที่ผู้ช่วยแคชเชียร์ของธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านฉาง ได้นำเงินที่ลูกค้าของธนาคารนำมาฝากไปส่งให้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาอำเภอเมือง พี่สาวได้เดินทางไปพร้อมกับรปภ.และคนขับรถ รวมทั้งหมด 3คน ในระหว่างที่เดินทางไปนั้น มีโจรขับรถเบียดให้จอดข้างทาง จากนั้นก็ใช้ M16_ยิงคนทั้งสามในรถเสียชีวิตทั้งหมด โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อชิงทรัพย์ พี่สาวของลูกถูกกระสุนยิงเข้าที่กระเพาะและลำคอ เสียชีวิตที่โรงพยาบาล

    นอกจากพี่สาวของลูก ที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็ยังมี พี่ชายของลูก ซึ่งเป็นลูกคนที่สองจากพี่น้องทั้งหมด 7คน อัธยาศัยของพี่ชายคนนี้ เป็นคนใจดี รักน้องๆ สนใจธรรมะ การทำบุญทำทาน บ้างเล็กน้อย ประกอบอาชีพประมง ตอนลูกเป็นเด็ก ลูกประทับใจพี่ชายที่แสนดีคนนี้มากค่ะ เพราะเมื่อพี่ชายกลับมาจากการออกเรือ ก็จะเรียกลูกเพื่อจะให้สตางค์กินขนม ถ้าให้ 10บาท พี่ชายก็จะนั่งลงและให้กราบที่ตัก 10ครั้ง ลูกประทับใจพี่ชายที่แสนดีคนนี้มากค่ะ
 
    แต่แล้ววันหนึ่ง พี่ชายได้ใช้ปืนยิงตัวเองตาย โดยก่อนที่จะยิงตัวเอง พี่ชายได้ไปหาพ่อและแม่บนห้องนอนตั้งแต่เช้าตรู่ สักพักหนึ่งก็ลงมาชั้นล่างตรงที่จอดรถยนต์ ใช้ปืนจ่อที่หัวยิงตัวเองเสียชีวิตทันที ขณะอายุได้ 38ปี
 
    และก็มาถึงเรื่องราวของลูกเองบ้าง ลูกได้เข้ามาปฏิบัติภารกิจหน้าที่ในวัดพระธรรมกายได้เกือบสิบปีแล้วค่ะ

    ครั้งหนึ่ง ในช่วงที่ลูกเป็นอาสาสมัครช่วยงานที่วัด ลูกมาช่วยที่ครัวยามา เป็นประจำในวันอาทิตย์ ลูกมาช่วยจัดเตรียมอาหารเพื่อถวายพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และคุณยายอาจารย์ ช่วยทำความสะอาดครัว กวาด-ถูพื้น ล้างจานชาม เก็บข้าวของ ซึ่งจะเห็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อรับเจ้าภาพ เห็นคุณยายอาจารย์รับเจ้าภาพ หลังจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และคุณยายอาจารย์รับเจ้าภาพเสร็จแล้ว ลูกก็คอยช่วยเก็บข้าวของต่อ ตรงไหนมีเพชรพลอยตกหล่น ก็จะเก็บกวาดให้สะอาด จนเสร็จเรียบร้อย
 
    ทุกครั้งที่มาช่วยงานที่ครัวยามานี้ พอกลับไปหอพัก จะเหนื่อยมาก นอนหมดแรง เรียกได้ว่าเกิดมาก็ไม่เคยทำงานเหนื่อยขนาดนี้ แต่ก็แปลกที่ลูกก็ยังมาช่วยงานได้ทุกอาทิตย์เลยค่ะ ทำอย่างนี้ก็ประมาณ 2-3เดือนค่ะ บุญนี้ลูกปลื้มมากค่ะ
 
    หลังจากนั้น ลูกได้ไปฝึกงานในบริษัทยูคอม วันหนึ่งเมื่อเลิกงานแล้ว ลูกก็จะเดินทางกลับหอพัก ได้ข้ามถนนไปจนถึงเกาะกลางถนน ตอนนั้นลูกไม่ได้มองทางซ้ายเลยว่ามีรถหรือไม่ ลูกได้ก้าวขาออกไปแล้วหนึ่งข้าง แต่เหมือนมีคนผลักขึ้นมาที่เกาะกลางถนน และในเสี้ยววินาทีนั้น มีรถเก๋งวิ่งผ่านหน้าลูกไปอย่างรวดเร็ว โอ...อัศจรรย์ใจมากค่ะ เหมือนมีคนมาช่วยชีวิตไว้ ไม่เช่นนั้นคงแหลกเหลวเป๋ว หรือไม่ก็นอนอ่านหนังสือพิมพ์ไปแล้วค่ะ
 
    เหตุการณ์นี้ ทำให้ลูกนึกไปถึงช่วงที่ได้ไปรับบุญอยู่ที่ครัวยามา เพราะลูกคิดๆและคิดไปเองค่ะว่า คนที่ช่วยชีวิตลูกน่าจะเป็น คุณยายอาจารย์ (มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง) เพราะลูกเคยทักคุณยายอาจารย์...
 
ถามท่านว่า “คุณยายแข็งแรงดีใช่ไหมคะ”
ตอนนั้นคุณยายอาจารย์ไม่ได้ตอบอะไร แต่ถามลูกกลับว่า "ปีนี้อายุเท่าไหร่"
ลูกตอบว่า "23ปีค่ะ"
 
    แล้วคุณยายอาจารย์ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรอีกค่ะ ลูกก็เลยคิดไปว่าคุณยายอาจารย์อาจจะช่วยแก้วิบากกรรมให้ เพราะหลังจากที่ท่านถามอายุของลูกได้ไม่นาน ลูกก็เจอเหตุการณ์เฉียดตายดังกล่าวค่ะ

    นอกจากนี้ ประมาณปี พ.ศ.2546_ยังมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ในช่วงที่ลูกกลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัว ลูกได้เล่าให้คุณแม่และพี่สาวฟังว่า ลูกเป็นซีส หรือก้อนแข็งๆเล็กๆที่ฝ่ามือ คุณแม่และพี่สาวเป็นห่วงลูกมากกลัวว่าก้อนเนื้อนั้นจะกลายเป็นมะเร็ง คุณแม่และพี่ชายจึงพาลูกไปหาหลวงตา ซึ่งเป็นพระที่ครอบครัวของลูกเคารพนับถือมาก ท่านอยู่ที่จังหวัดระยอง เมื่อไปถึงลูกก็นั่งรออยู่ข้างหน้าหลวงตาพร้อมกับพี่ชายที่ไปด้วย รออยู่นานหลวงตาก็ไม่พูดอะไรสักที พี่ชายจึงลุกขึ้นไปเดินเล่น
 
    จากนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาหาหลวงตา แล้วพูดว่า...
 
“หลวงตาหนูอยากรวย...ที่อยากรวยก็เพราะหนูอยากสวยค่ะ”
หลวงตาก็บอกว่า “อย่าไปอยากรวยเลย”
 
    แล้วท่านก็ทำปากขมุบขมิบ เหมือนพูดอยู่กับใครไม่ทราบ สักพักก็บอกกับผู้หญิงคนนั้นว่า...
 
“เรามีกรรมกับยาย ยายเราฆ่าไก่ไหว้ตรุษจีน”
ผู้หญิงคนนั้นก็พูดทันทีว่า “ใช่...หลวงตา หนูนี่แหละเป็นคนให้ยายฆ่าเอง”
 
    ลูกนั่งฟังแล้วก็ทึ่งนิดๆว่า หลวงตานี้ก็แม่นเหมือนกันนะ สักพักหลวงตาก็จ้องหน้าลูกอยู่นาน ปากก็ขมุบขมิบเหมือนพูดกับใครอยู่ จนกระทั่งหลวงตาพูดกับลูก บอกว่า...
 
"เราน่ะบุญมากจะไม่ตายนะ เราจะไม่ตาย"
ลูกฟังแล้วก็กระหยิ่มอยู่ในใจว่า “แหมหลวงตา หนูน่ะแค่เด็กๆ เพื่อนหนูที่วัดพระธรรมกายน่ะ บุญมากกว่าหนูอีก”
 
    แล้วหลวงตาก็พูดอะไรต่อมาอีก ซึ่งทำให้ลูกรู้สึกว่า หลวงตาพูดอะไรแปลกมาก จึงรีบเรียกพี่ชายที่เดินเล่น ให้รีบมาช่วยฟังเป็นสักขีพยาน พอพี่ชายมาถึง หลวงตาก็พูดอีกว่า “เราน่ะมีศักดิ์เป็นอาฉันนะ”_พูดอย่างนี้ซ้ำๆประมาณ 3รอบ ลูกก็ทำหน้าตาเป็นงงค่ะ หลวงตาก็พูดอีกว่า “เป็นชายาของ...” (ตรงนี้จำไม่ได้ค่ะพระเจ้าอะไรไม่ทราบ)
 
    ลูกก็รู้สึกว่าหลวงตาพูดอะไรเนี่ย เหลือเชื่อเสียเหลือเกิน แต่ทั้งคุณแม่และพี่ชายก็เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น จนกระทั่งลูกต้องถามหลวงตาว่า “หลวงตา...ซีสหนูจะหายไหม”_หลวงตาก็พูดขมุบขมิบอีกนานพักหนึ่ง แล้วบอกให้ลูกเอาดอกมะลิตูมๆไปลนเปลวเทียน แล้วเอามาขยี้ที่ก้อนซีส
 
    หลังจากที่ลูกกลับมาที่วัดพระธรรมกาย ลูกก็ลองทำตามที่หลวงตาบอก ด้วยความรู้สึกไม่ค่อยเชื่อเท่าใด แต่ก็ลองทำดู แปลกมากค่ะ ทำอยู่ 3ครั้ง ซีสก้อนนั้นหายไป และนี่ก็เป็นเรื่องราวที่ลูกอัศจรรย์ใจค่ะ แม้ปัจจุบันเมื่อดูที่ฝ่ามือก็ไม่มีร่องรอยก้อนซีสให้เห็นอีกเลย (ปัจจุบันหลวงตาได้มรณภาพไปแล้ว เมื่อปี พ.ศ.2547)
 
    จากเรื่องราวทั้งหมด ก็มีคำถามที่จะขอความเมตตาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ช่วยเพิ่มความกระจ่างให้ดังนี้ค่ะ
 
คำถาม

1.พี่สาวคนที่3_ทำกรรมใดมา จึงถูกโจรปล้นและฆ่าตาย ขณะนี้อยู่ที่ภพภูมิใด มีข้อความฝากมาถึงพ่อ-แม่ และลูกสาวของเธอหรือไม่คะ

2.ในอดีต พี่สาวคนที่3_เคยประพฤติปฏิบัติธรรมใด ชาตินี้จึงมีอัธยาศัยรักในการถือปฏิบัติเกี่ยวกับการไม่รับประทานเนื้อสัตว์ และพี่สาวได้รับบุญจากการไม่รับประทานเนื้อสัตว์ด้วยหรือไม่คะ

3.พี่ชายคนที่2_เสียใจในเรื่องใด จึงคิดฆ่าตัวตาย กรรมใด จึงทำให้พี่ชายฆ่าตัวตาย และเขาทำอย่างนี้เป็นชาติแรก หรือทำมาหลายชาติแล้ว และขณะนี้พี่ชายอยู่ในภพภูมิใด มีข้อความฝากมาถึงพ่อและแม่หรือไม่คะ

4.พี่ชายคนที่2_และพี่สาวคนที่3_ของลูก ได้รับบุญที่ลูกได้อุทิศไปให้หรือไม่ และควรทำอย่างไรจึงจะทำให้พี่สาวและพี่ชายมีความสุขยิ่งๆขึ้นไปคะ

5.กรรมหรือทิฐิใด จึงทำให้ครอบครัวของลูกทุกคนได้มาเป็นพ่อแม่พี่น้องกัน ในครอบครัวที่ประกอบอาชีพประมง มีฐานะดีพอสมควร และผลบุญใดในอดีตจึงทำให้ประกอบอาชีพประมงได้ร่ำรวยคะ

6.คุณแม่ของลูกเป็นโรคปวดเข่ามาก และพยายามหาหมอรักษามาหลายๆวิธี แต่ก็ไม่หาย เดินไม่ค่อยถนัด บางครั้งเป็นมากจนเดินไม่ได้ อาการนี้เกิดจากวิบากกรรมใด และควรทำอย่างไรคุณแม่ถึงจะหายปวดเข่าคะ

7.คุณพ่อของลูกเป็นต้อลมที่ดวงตาหนึ่งข้าง เคยไปรับการผ่าตัดมา แต่แผลจากการผ่าตัดยังไม่ทันหาย คุณพ่อก็ลงไปในน้ำคลองทำให้ตาอักเสบ ปัจจุบันดวงตาจึงอักเสบ ต้องไปหาหมอเป็นประจำ และหยอดตามาเป็นปีแล้ว อาการนี้เกิดจากวิบากกรรมใด และควรทำอย่างไรดวงตาของคุณพ่อจึงจะหายคะ

8.เหตุใด คุณพ่อของลูกจึงต่อต้านการมาสร้างบารมีในวัดของลูกมาก เวลาที่คุณแม่ฟังธรรมหรืออ่านหนังสือธรรมะที่ลูกส่งไปให้ คุณพ่อชอบพูดว่า จนทำให้คุณแม่ไม่อยากให้ลูกนำธรรมะไปที่บ้าน ลูกควรทำอย่างไรดีคะ

9.เหตุการณ์ที่ลูกรอดตายจากการข้ามถนนแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ที่ลูกรู้สึกเหมือนมีคนผลักขึ้นมาทั้งๆที่ก้าวเท้าลงไปแล้ว เป็นเพราะมีใครมาช่วยลูกผลักลูกขึ้นมาหรือไม่ และเป็นอานุภาพของคุณยายอาจารย์ที่ช่วยลูกหรือไม่คะ

10.เรื่องราวของลูกที่หลวงตาได้บอกไว้ มีความเป็นจริงหรือไม่ ลูกเองในชาติอดีต ได้สร้างบารมีในรูปแบบใด มีผลการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไรบ้างคะ

11.ครอบครัวของลูกมีใครที่เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาบ้างหรือไม่คะ และลูกจะสามารถเป็นกัลยาณมิตรให้กับพี่น้องได้หรือไม่คะ

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง

ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.พี่สาวคนที่3_ถูกโจรปล้นและฆ่าตาย เพราะกรรมในอดีต เคยทำงานอยู่ในหน่วยงานคุมขบวนสินค้า ได้เคยส่งข่าวให้โจรทราบ เมื่อขบวนคาราวานบรรทุกสินค้าที่มีค่ามาก ทำให้โจรมาปล้นฆ่าเจ้าของ ชิงเอาทรัพย์ไป วิบากกรรมนี้มาส่งผล
 
 
 
2.พี่สาวคนที่3_มีอัธยาศัยไม่กินเนื้อสัตว์ ถือมังสวิรัติ เพราะมีความคุ้นเคยในการนับถือความเชื่อแบบนี้มาหลายชาติ ก็เป็นกุศลบ้างด้วยจิตคิดว่าไม่กินเนื้อสัตว์ เพราะไม่ต้องการเบียดเบียนสัตว์
 
3.พี่ชายคนที่2_ฆ่าตัวตาย เพราะโรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นอาการทางจิตที่ย้ำคิดว่าอยากตาย ด้วยวิบากกรรมที่เคยฆ่าตัวตายด้วยสาเหตุผิดหวังในชีวิต แล้วก็ดื่มน้ำเมาฆ่าตัวตาย มาส่งผล


4.พี่ชายคนที่2_และพี่สาวคนที่3_ได้รับบุญที่ลูกอุทิศไปให้แล้ว ทำให้พี่ชายคนที่2_ได้รับลดหย่อนผ่อนโทษลงมา ส่วนพี่สาวคนที่3 ก็มีสภาพดีขึ้นทุกด้าน
 
 
5.ครอบครัวของลูกทุกคนได้มาเป็นพ่อแม่พี่น้องกันแล้วมีอาชีพทำการประมง มีฐานะดี ทั้งๆที่ทำการประมง เพราะในอดีต แต่ละคนทำทานมาแล้วก็ไม่ได้อธิษฐานอะไรเลย เมื่อบุญส่งผลจึงเหมือนเรือที่ไร้หางเสือ คือ ทานส่งผลให้มีฐานะดีจากมิจฉาอาชีวะ
 
 
 
6.คุณแม่ของลูกปวดเข่ามาก รักษาไม่หายมาหลายหมอ เดินไม่ค่อยถนัด บางครั้งเป็นมากจนเดินไม่ได้ เพราะกรรมในอดีต ได้เกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้มัดขาสัตว์เพื่อส่งฆ่าขายเป็นอาชีพ มาส่งผล

7.คุณพ่อของลูกดวงตาเป็นต้อลมหนึ่งข้าง รักษายังไม่หาย เพราะกรรมในอดีตตอนเป็นวัยรุ่น ได้เล่นแกล้งกับเพื่อน โดยเอาทรายปาใส่หน้าจนเข้าดวงตาของเพื่อน ทำให้ดวงตาอักเสบ
 
 
 
8.คุณพ่อต่อต้านในการมาสร้างบารมีที่วัดของลูกมาก อีกทั้งเวลาที่คุณแม่ฟังธรรมะหรืออ่านหนังสือธรรมะ ท่านชอบพูดว่า เพราะท่านหวงลูกสาว ไม่อยากให้ลูกสาวมาอยู่วัด จึงรับไม่ได้ที่ลูกสาวมาอยู่วัด จึงมีอคติในทุกเรื่อง แม้เรื่องที่จัดหนังสือธรรมะให้คุณแม่อ่านหรือคุณแม่ฟังธรรมะ
 

 

9.ตัวลูกรอดตายจากการข้ามถนนเหมือนมีคนผลักขึ้นมา ทั้งๆที่ก้าวขาลงไปแล้ว เพราะบุญที่สร้างมากับหมู่คณะและมหาปูชนียาจารย์ มาส่งผล

 
 
10.เรื่องราวของลูกที่หลวงตาซึ่งครอบครัวของลูกเคารพนับถือได้กล่าวเอาไว้นั้น ลูกก็อย่าเอามาเป็นอารมณ์เลย เพราะเป็นเรื่องของวิชาของวิทยาธร
 

 
 
11.ครอบครัวของลูกเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา แบบกองเสบียง ประเภทตามอารมณ์ไม่สม่ำเสมอ และไม่ได้ศึกษาธรรมะอย่างจริงจัง จึงทำให้ความเข้าใจธรรมะมีน้อย ดังนั้น บางชาติก็เจอกัน บางชาติก็ไม่เจอกัน แถมมีอคติกับวัดด้วย
 

 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2550-01-08.html
เมื่อ 16 กรกฎาคม 2567 19:43
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv