CASE STUDY
อย่าลองนะ
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

    ลูกเป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ตั้งแต่ถ่ายทอดผ่านทางอินเทอร์เน็ต ที่ไม่เคยขาดโรงเรียนเลยคะ โดยเฉพาะช่วง Case_study_คุณครูไม่ใหญ่อ่าน Case_ได้อย่างมีอารมณ์ ชวนให้ตั้งใจติดตามฟัง ติดงอมแงมยิ่งกว่าติดละครทีวี เพราะ Case study_เป็นเรื่องราวของชีวิตจริง โดยเฉพาะฝันในฝันของคุณครูไม่ใหญ่ ที่เฉลยในตอนท้ายเรื่อง ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องราวความจริงของชีวิตที่ไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งสนุกและได้ความรู้ เป็น Edutainment สมบูรณ์แบบ
 
    ตัวลูกเอง ก็อยากจะเขียน Case มาบ้าง แต่ลูกเขียนและอ่านภาษาไทยไม่ได้ จนกระทั่งวันหนึ่งลูกสาวก็มากำชับว่า “ขอให้แม่ไปวัดทุกวันอาทิตย์อย่าได้ขาด” ใจของลูกนั้นก็ปรารถนาจะไปวัดอยู่แล้ว แต่เมื่อลูกสาวตั้งเงื่อนไขอย่างนี้ ก็ได้ที
 
ลูกจึงเกิดความคิด ยื่นข้อเสนอไปว่า “ถ้าจะให้แม่ไปวัดทุกวันอาทิตย์ต้องเขียน Case ให้แม่นะ”
ลูกสาวก็ตอบว่า “OK”
 
    แผนการของลูกก็เป็นอันเสร็จสมปรารถนา ลูกจึงกราบขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ ได้อ่านเรื่องของลูกโดยมีลูกสาวเขียนให้ ดังนี้ค่ะ

    ลูก เกิดในครอบครัวเกษตรกรที่เมืองจีนเมื่อ 70ปีก่อน เมื่อลูกมีอายุได้ประมาณ 10ขวบ เกิดภาวะสงคราม คุณพ่อถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร คุณแม่จึงได้พาตัวลูกพร้อมกับน้องสาวอีก 3คน ลงเรือเพื่อเดินทางมาเมืองไทย พวกเรารอดชีวิตมาได้ ถึงเมืองไทยอย่างปลอดภัยและต่อมาคุณพ่อก็ได้เดินทางมาอยู่กับเราที่เมืองไทยด้วย
 
    คุณพ่อ มีอาชีพถีบสามล้อรับจ้างค่ะ ส่วน คุณแม่ รับจ้างปั่นด้ายและทอผ้าที่บ้าน จนกระทั่งลูกทั้งหมดเติบโตและประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ คุณพ่อกับคุณแม่ก็ไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ เมื่ออายุมากขึ้น คุณแม่เป็นโรคเบาหวาน ต่อมาเกิดหกล้ม กระดูกสะโพกแตก ต้องเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัด รักษาตัวอยู่ประมาณ 2เดือน จึงเสียชีวิต เมื่ออายุได้ 74ปี หลังจากที่คุณแม่ตายได้เพียงปีเศษ คุณพ่อก็เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลว เมื่ออายุ 85ปี

    ชีวิตในวัยเด็กของลูก ไม่เคยได้รู้จักการเล่นสนุกสนาน รู้เพียงว่าเช้ามาก็ทำงาน มืดลงก็เข้านอนเพื่อรอให้ถึงรุ่งเช้าจึงจะทำงานต่อ ชีวิตผ่านไปอย่างนี้ จนลูกมีอายุย่างเข้า 20ปี ก็มีแม่สื่อมาทาบทาม และลูกจึงได้แต่งงานไปเลย เพื่อชีวิตจะได้มีการเปลี่ยนแปลงบ้าง สามีของลูก เป็นคนขยัน ซื่อตรง มัธยัสถ์ ไม่เจ้าชู้ ไม่ช่างพูด (ตรงสเปคเลยค่ะ) เหล้าไม่ดื่ม สูบบุหรี่บ้าง แต่เดี๋ยวนี้เลิกแล้วค่ะ เรามีลูกด้วยกัน 9คน เป็นหญิง 5คน เป็นชาย 4คน
 
    หลานสาวคนโต (ลูกของลูกสาวคนโต) เมื่อปี พ.ศ.2544 ขณะอายุ 13ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2ที่โรงเรียนสตรีแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ อยู่ๆก็มีอาการชัก การชักเพียง 2ครั้งในช่วง 3เดือนทำให้อาการก็ชักจะไปกันใหญ่ คือ มีอาการเศร้าซึม อะไรนิดหน่อยก็ร้องไห้ กลางคืนนอนไม่หลับ แม่ของเธอได้พาไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุก็ไม่พบ แพทย์ได้จ่ายยากันชักมาให้ทาน แต่ก็กันไม่อยู่ มีอาการชักอีกเป็นครั้งที่3 และ ครั้งที่4
 
    ปกติเธอเป็นเด็กที่เรียบร้อย หลังจากเริ่มชัก เธอก็ชักก้าวร้าวขึ้น ไม่รู้ตัวว่าทำอะไรไปบ้าง กินข้าวแล้วก็บอกว่ายังไม่ได้กิน ควบคุมตัวเองไม่ได้ บางครั้งเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง ต่อมาก็เริ่มเรียนไม่รู้เรื่อง วันหนึ่งกลับจากโรงเรียน เธอก็บอกว่า "ไม่อยากไปโรงเรียนเพราะพูดกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง"

    จนมีอยู่คืนหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมากลางดึก บอกว่า "จะไปแล้วนะ เพราะมีคนมารอรับอยู่หน้าบ้าน" ทั้งๆที่ไม่มีใคร ทำให้ทุกคนในบ้านไม่สบายใจ จึงให้เธอหยุดเรียน แล้วพาเข้าโรงพยาบาล หมอนำตัวไปเช็คสมองด้วยการทำ MRI (ใช้เครื่องมือแพทย์ตรวจเช็คสมองอย่างละเอียด) เจาะน้ำไขกระดูกสันหลังไปตรวจก็ไม่พบความผิดปกติ
 
    หลานสาวอยู่โรงพยาบาลประมาณ 1สัปดาห์ก็กลับบ้าน เพราะไม่รู้จะรักษาอย่างไร ทั้งๆที่อาการยังไม่เป็นปกติ ลูกสาวคนที่สามของลูก จึงได้ไปปรึกษากับพระอาจารย์ของเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเป็นพระวัดป่าแห่งหนึ่งที่จังหวัดกำแพงเพชร ท่านบอกว่า หลานสาวไปนั่งบนไม้กระดานที่โรงเรียนซึ่งมีกายละเอียดสิงสถิตอยู่ เขาจึงไม่พอใจ พระอาจารย์แนะนำให้หลานสาวเป็นเจ้าภาพบวชสามเณร นั่งสมาธิ และนำเครื่องเซ่นไหว้ไปวางที่โรงพละของโรงเรียน ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ต่อมาหลานสาวก็มีอาการดีขึ้น และหายเป็นปกติ จนเข้าชั้นเรียนได้
 
    ลูกเขย (พ่อของหลานสาว) ปกติลูกเขยเป็นคนแข็งแรงชอบออกกำลังกาย อารมณ์ดี แต่ชอบรับประทานอาหารเมนูซ้ำๆ จนกระทั่งวันหนึ่งในปี พ.ศ.2536 เขาก็หน้ามืดล้มลง จึงไปพบแพทย์ ตรวจพบว่าเป็นโรคไต (ซึ่งอาจเกิดจากการทานอาหารเมนูซ้ำๆ) เขาเหลือสภาพไตใช้งานได้เพียง 25% จากนั้นสุขภาพเริ่มทรุดโทรมอย่างรวดเร็ว ต้องไปฟอกเลือดที่โรงพยาบาล
 
    ต่อมา แพทย์ได้เจาะช่องท้อง เพื่อให้คนไข้สามารถฟอกไตได้ด้วยตนเอง แพทย์แนะนำว่าควรผ่าตัดเปลี่ยนไต แต่ลูกเขยยืนยันไม่ขอรับการผ่าตัด เพราะเกรงว่าการผ่าตัดอาจทำให้ต้องจากครอบครัวเร็วเกินไป
 
    ในเดือนมกราคม พ.ศ.2545 ลูกเขยได้มาวัดพระธรรมกายเป็นครั้งแรก ตอนนั้นสภาพร่างกายทรุดโทรมมาก ผิวดำคล้ำ ผอมซูบซีด เหมือนคนขาดสารอาหาร โลหิตจาง มีภาวะหัวใจโต เหนื่อยง่าย และปวดเมื่อยตามร่างกาย แต่เขาก็ยังอยากใช้เวลากับครอบครัวตามปกติในทุกกิจกรรม เมื่อไปถึงบ้านยาย (ด้านหลังสภาธรรมกายสากล) ลูกเขยได้ทรุดตัวลงก้มกราบ และเงยหน้าทั้งน้ำตาบอกว่า “รู้สึกเย็นแผ่ซ่านอย่างบอกไม่ถูกและรู้สึกปีติจนน้ำตาไหล” ในวันนั้น เขาได้ร่วมบุญสร้างวิหารคุณยายอาจารย์ด้วย หลังจากนั้นลูกเขยก็หมั่นสวดมนต์เช้า-เย็น และได้มาทำบุญในวันอาทิตย์ต้นเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ซึ่งเป็นสองเดือนสุดท้ายก่อนละโลก
 
    บ่ายวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ.2545 ลูกเขยได้ละโลกด้วยโรคไต ที่ป่วยเรื้อรังมานานเกือบ 10ปี ก่อนจะหมดลมหายใจเฮือกสุดท้าย เขากำลังใช้เครื่องวัดความดัน วัดความดันของตัวเขาอยู่ แล้วจู่ๆก็ฟุบลงไป ลูกสาวของเขาซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ คิดว่าพ่อแกล้งเล่น แต่ภรรยาเห็นผิดปกติ จึงเข้ามาจับเนื้อตัว พบว่าสามีเนื้อตัวอ่อนปวกเปียกไร้เรี่ยวแรง แล้วเขาก็จากไปพร้อมกับลมหายใจเฮือกสุดท้ายที่มีทั้งรอยยิ้มและน้ำตา
  
    ลูกสาวคนโต เคยถูกขโมยขึ้นบ้านลักทรัพย์ไปได้ถึง 2ครั้ง โดยครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2536_ขโมยได้ทรัพย์สินไปทั้งเงินและทอง รวมมูลค่าหลายแสน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถติดตามตัวคนร้ายได้เลย ครั้งที่สอง ในปี พ.ศ.2547_เมื่อลูกสาวของลูกกลับมาถึงบ้าน พบธนบัตรตกอยู่จำนวนหนึ่งก็คาดเดาได้ว่าถูกขโมยขึ้นบ้านอีกแล้ว ขโมยได้ขโมยเงินที่ลูกสาวตั้งใจเก็บรวบรวมไว้เพื่อทำบุญกฐิน 1S เป็นปีที่สองไป ทำให้ลูกสาวคนโตเสียใจมาก แต่ลูกสาวคนที่สามได้ให้กำลังใจว่า บุญครั้งนี้ เป็นบุญสำคัญ ยิ่งมีอุปสรรค ยิ่งต้องทำให้สำเร็จ ลูกสาวคนโตจึงกัดฟันสู้ และได้ถวายกฐินสมความตั้งใจ

    ลูกสาวคนที่สอง ในปี พ.ศ.2538 ด้านหลังตึกแถวที่ครอบครัวของลูกอาศัยอยู่ ได้มีการก่อสร้างแฟลตที่พักข้าราชการสูง 12ชั้น จึงมักจะมีเศษอิฐ เศษหิน หล่นใส่ด้านหลังตึกแถวที่ลูกอาศัยอยู่เสมอ คืนหนึ่งลูกสาวคนที่สองได้ไปนั่งซักผ้าอยู่ที่ลานซักล้างชั้นสองของบ้าน ซึ่งอยู่ติดกับแฟลตที่กำลังก่อสร้าง ซักยังไม่ทันเสร็จ เธอก็นึกอยากจะไปบอกบุญพี่สาวคนโต ถ้าจะรอให้ซักผ้าเสร็จก็กลัวพี่สาวจะไปนอนเสียก่อน จึงยอมหยุดซักผ้า แล้วไปหาพี่สาว ชั่วเวลาเพียงไม่กี่นาทีที่เธอออกจากที่ซักผ้าไปหาพี่สาว ก็มีเสียงดังโครมที่บริเวณซักผ้า ทุกคนต่างวิ่งไปดูเห็นฝุ่นตลบไปทั่ว พอฝุ่นจางหายไปก็เห็นร่างคนนอนอยู่ตรงจุดที่ลูกสาวนั่งซักผ้า ทราบภายหลังว่าเป็นคนงานก่อสร้างได้เสพยาบ้าแล้วไปนั่งตากลมบนชั้นเจ็ดของแฟลตที่สร้างใหม่ แล้วเกิดพลัดตกลงมาที่บ้านของลูกพอดี...เรื่องยาบ้ายาเสพติดอย่าได้ไปลองเลย...
 
    ลูกสาวคนที่สาม ได้รู้จักวัดพระธรรมกายโดยมีเพื่อนที่ทำงานชวนมาทำบุญที่วัด ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2527_เธอเป็นคนเจ้าระเบียบมาก ขี้หงุดหงิด ขี้โมโห แต่หลังจากได้เข้าวัดพระธรรมกายและได้ฟังพระเดชพระคุณหลวงพ่อบอกว่า คนที่มักโกรธจะต้องไปเกิดเป็นยักษ์ อารมณ์ของเธอก็เย็นขึ้นบ้าง วันดีคืนดีก็จะมากราบขอขมาที่ได้ทำอารมณ์หงุดหงิดกับแม่ เธอเป็นคนชักชวนทุกคนในครอบครัวให้มาวัดพระธรรมกาย ทำให้ตัวลูกได้รู้จักการทำบุญ การอนุโมทนาบุญ และที่สำคัญที่สุดคือการได้เรียนรู้ว่า ภายในศูนย์กลางกายของตัวเรามีที่พึ่งอันแท้จริง ปัจจุบันครอบครัวของลูกเป็นครอบครัวธรรมกาย มาปฏิบัติธรรมที่วัดในทุกวันอาทิตย์ และทุกงานบุญใหญ่ ลูกหลานก็ได้มาช่วยงานวัดเกือบทุกคน
 
สำหรับคำถามมีดังนี้ค่ะ
 
1.คุณพ่อ-คุณแม่ของลูก เสียชีวิตแล้วไปอยู่ที่ไหน ได้รับบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัว และบุญทุกบุญ ที่ลูกและครอบครัวได้อุทิศส่วนบุญให้หรือไม่ มีอะไรจะฝากบอกสามีและตัวลูกหรือไม่คะ

2.คุณพ่อ-คุณแม่สามี ละโลกที่เมืองจีนด้วยโรคชรา ขณะนี้ท่านอยู่ที่ไหน ได้รับบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัว และบุญทุกบุญที่ลูกและครอบครัวได้อุทิศส่วนบุญให้หรือไม่ มีอะไรจะฝากบอกสามีของลูกหรือไม่คะ

3.อาการควบคุมตัวเองไม่ได้ของหลานสาวคนโต เป็นด้วยวิบากกรรมอันใด และจะมีอาการดังกล่าวอีกหรือไม่ หลานสาวควรปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้พ้นจากวิบากกรรมดังกล่าวคะ

4.ลูกเขยมีบุพกรรมใดจึงเป็นโรคไต ในวันที่ละโลกเขารู้สึกอย่างไร มีกรรมนิมิตเป็นอย่างไรจึงมีทั้งรอยยิ้มและน้ำตาบนใบหน้า ลูกเขยได้รับบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัว บุญกฐิน และบุญทุกบุญที่ได้อุทิศส่วนบุญให้หรือไม่ อยากฝากบอกอะไรถึงภรรยาและบุตรธิดาหรือไม่คะ
 
5.ด้วยวิบากกรรมอันใด ลูกสาวคนโตจึงถูกขโมยเงินถึง 2ครั้ง และการที่ขโมยมาขโมยเงินที่เตรียมไว้เพื่อถวายกฐิน เขาจะได้รับกรรมหนักกว่าการขโมยเงินทั่วๆไป หรือไม่ อย่างไรคะ

6.เพราะบุญอะไร ลูกสาวคนที่สองจึงรอดตายจากเหตุการณ์ที่มีคนตกตึกลงมาตรงจุดที่เธอนั่งซักผ้า เป็นเพราะบุญที่สร้างองค์พระด้วยหรือไม่ กรรมใด เธอจึงเกือบตายด้วยสาเหตุนี้คะ

7.ตัวลูก สามีและ ลูกทั้ง 5คน (คือลูกสาวคนโต คนที่สอง คนที่สาม คนสุดท้อง และลูกชายคนโต) ได้สร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร ทำไมลูกสาวคนที่สาม จึงได้เข้าวัดเป็นคนแรกในครอบครัว และได้ชวนทุกคนให้มาสู่เส้นทางการสร้างบารมี จนเป็นครอบครัวธรรมกาย ก่อนมาเกิดเธอมาจากที่ใด ทำไมจึงมีนิสัยขี้หงุดหงิดคะ

8.ลูกชายคนโตได้มารับบุญถวายการสอนศิลปะสามเณรและกองแอนิเมชั่น ลูกสาวคนสุดท้องได้มารับบุญผู้ประกาศข่าว DMC-News และหลานชายคนเล็กรับบุญอาสาสมัครแผนกต้อนรับระดับโลก ทั้ง 3คนประกอบเหตุมาอย่างไร จึงได้รับบุญพิเศษดังกล่าว และลูกสาวคนสุดท้องซึ่งรักอาชีพด้านสื่อสารมวลชนมาก จะประสบความสำเร็จในงานอาชีพหรือไม่ เธอควรปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้ประสบความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรมคะ
 
ลูกขอกราบขอบพระคุณ
พระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูง
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ

1.คุณพ่อตายแล้ว ก็ไปเป็นภุมมเทวาระดับทั่วไปในช่วงแรก ต่อมาเมื่อได้รับบุญที่อุทิศไปให้ก็ทำให้ไปเป็นภุมมเทวา ชั้นดี มีความสุขขึ้น
 


2.คุณพ่อสามีตายแล้ว ก็ไปเป็นภุมมเทวา ชั้นล่าง อดอยาก ลำบาก หิวโหยมาก เพราะไม่ค่อยได้สร้างบุญไว้ ต่อมาก็ได้รับบุญที่อุทิศไปให้ก็ทำให้มีสภาพที่ดีขึ้น ได้ฝากอนุโมทนาขอบคุณที่อุทิศบุญไปให้ ทำให้มีความสุขมากขึ้น ไม่อย่างนั้นก็จะลำบากหิวโหย

3.อาการควบคุมตัวเองไม่ได้ของหลานสาวคนโต เกิดจากกรรมในอดีต ในสมัยที่เป็นผู้ชายชอบดื่มสุรา เมื่อเมาแล้วก็ชอบทำร้ายสัตว์เลี้ยงที่บ้าน เช่น สุนัข แมว บางทีก็ข้าทาสบริวารในบ้านบ่อยๆ มาส่งผล

4.ลูกเขยเป็นโรคไต เพราะกรรมในอดีตเป็นเศรษฐี ได้ปล่อยเงินกู้ดอกโหดให้ลูกหนี้ เมื่อถึงเวลาลูกหนี้ไม่ได้เอาเงินมาใช้หนี้ จึงให้เขาย้ายออกจากที่ทำกิน แต่ลูกหนี้ก็ไม่ยอมย้ายไป ได้ไปทำนาในที่ดินที่ยึดเอาไว้ จึงทำให้ตัวเองโกรธและสั่งให้คนไปเผาข้าวในนาจนหมด และได้ทำในลักษณะอย่างนี้หลายครั้งกับหลายคน วิบากกรรมนี้ มาส่งผล
 
 
 
5.ลูกสาวคนโตถูกขโมยเงิน 2ครั้ง เพราะกรรมในอดีตได้เคยช่วยพ่อแม่ขายของ และมักชอบแอบขโมยเงินพ่อแม่ ไปเที่ยวเล่นอยู่เป็นประจำ มารวมส่งผล
 
 

6.ลูกสาวคนที่สองรอดตายจากคนตกตึกลงมา ตรงที่เธอนั่งซักผ้าอยู่ เพราะไม่ได้มีวิบากกรรมปาณาติบาต

7.ตัวลูก สามี และลูกทั้ง 5คน (ลูกสาวคนโต คนที่สอง คนที่สาม คนสุดท้อง และลูกชายคนโต) เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา โดยเป็นกองเสบียงทั้งหมด โดยบางคนก็สร้างร่วมกับหมู่คณะมาก แต่บางคนก็น้อย
 
 
 

8.ลูกชายคนโตถวายความรู้แด่สามเณรและกองแอนนิเมชั่นนั้น ก็เป็นเรื่องของปัจจุบันที่มีอาชีพนี้และมีความถนัดนี้ จึงทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด ส่วนในอดีตก็เป็นกองเสบียง ที่เมื่อทำบุญแล้วก็ตั้งความปรารถนาที่จะทำงานเผยแผ่ธรรมะในภพชาติต่อไป มาส่งผล
 
 
  
 

บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2550-02-12.html
เมื่อ 23 กรกฎาคม 2567 00:12
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv