สมาธิ กฏแห่งกรรม

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 26 - 30 มีนาคม พ.ศ. 2559

Case Study โรคมะเร็งท่อไต (โยมแม่นุชชดา)

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา

      คำถามข้อที่ 1.  โยมแม่ของลูกละโลกแล้ว...ท่านมีความเป็นอยู่ในปรโลกเป็นอย่างไร และท่านมีข้อความอะไรฝากมาถึงตัวลูกและทุกๆ คนในครอบครัวบ้างไหมครับ
 

      คำตอบ...ก่อนที่โยมแม่ของลูกจะเสียชีวิตตัวท่านต้องทนต่อทุกข์เวทนาจากโรคมะเร็งที่เข้ามารุมเร้าตัวท่านอย่างหนัก!!!   แต่ด้วยความที่ตัวท่านได้เคยฝึกสติเจริญสมาธิภาวนาเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ยังแข็งแรงอยู่ กอปรกับตัวท่านเองก็มีตัวลูกกับพระน้องชายที่ได้ทำหน้าที่เป็นยอดกัลยาณมิตรคอยบอกให้ท่านนึกถึงบุญ อีกทั้ง...ยังเปิดเสียงสวดมนต์และเสียงสัมมาอะระหังให้ท่านได้ฟังอยู่ตลอดเวลา   
 

     ด้วยเหตุดังที่ได้กล่าวไปแล้วนี้เองจึงทำให้โยมแม่ของลูกค่อนข้างจะมีสติอยู่กับตัว และได้ยินเสียงสวดมนต์กับเสียงสัมมาอะระหังที่ตัวลูกเปิดให้ท่านได้ฟังอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งตัวท่านยังสามารถนึกถึงบุญต่างๆ ตามที่ตัวลูกพยายามบอกให้ตัวท่านทบทวนได้อีกด้วย ซึ่งบุญที่ท่านปลื้มมากที่สุดนั้นก็คือบุญที่ได้บวชพระลูกชายของท่านทั้ง 2 รูปนั่นเอง   
 
      และด้วยความที่ใจของท่านเกาะเกี่ยวอยู่กับบุญและธรรมะตลอดเวลานี้เอง   จึงส่งผลทำให้ใจของท่านมีความผ่องใสและสว่างไสวเป็นอย่างมาก!!!...
 

     จวบจนกระทั่งเมื่อโยมแม่ของลูกได้เสียชีวิตลง!!! กายละเอียดของท่านก็ได้หลุดออกมาจากกายหยาบและยังไม่รู้ว่า “ ตัวท่านเองได้เสียชีวิตไปแล้ว ”  ซึ่ง ณ ช่วงเวลานั้นตัวท่านยังคงรู้สึกเหมือนกับว่า “ ตัวท่านเองกำลังนอนป่วยอยู่บนเตียง ”

     แต่พอเวลาผ่านไปได้สักพักหนึ่ง...ตัวท่านก็เริ่มรู้สึกเอะใจและสังเกตเห็นว่า “ ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นกับตัวท่านได้หายไปหมดแล้ว ”  อีกทั้ง...ตัวท่านยังสามารถลุกขึ้นเดินได้เป็นปกติเหมือนกับคนที่ไม่ป่วยอีกด้วย   
 

     และทันทีที่กายละเอียดโยมแม่ของลูกได้หันไปเห็นร่างของตัวท่านเองซึ่งกำลังนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย  ตัวท่านก็รู้ได้ในทันทีว่า “ ณ ตอนนี้...ตัวท่านเองได้เสียชีวิตไปแล้ว ”   
 
     ซึ่งในช่วงแรกๆ ...ตัวท่านเองก็เกิดความรู้สึกตกใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ด้วยความที่ตัวท่าน...เคยฝึกสติเจริญสมาธิภาวนาเอาไว้ตั้งแต่ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ในเวลาต่อมาตัวท่านก็สามารถทำใจและปล่อยวางได้  แล้วตัวท่านก็ค่อยๆ นึกถึงบุญที่ได้เคยสั่งสมเอาไว้ในสมัยที่ยังเป็นมนุษย์!!!
 

     จากนั้น กายละเอียดโยมแม่ของลูกก็ได้แว้บกลับมาที่บ้านของตัวท่านเอง แล้วท่านก็ได้เดินวนเวียนไปมาอยู่ภายในบ้านของท่าน!!!
 
     จวบจนกระทั่ง...เมื่อถึงช่วงเวลาบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมสรีระร่างของท่าน ตัวท่านก็ได้ไปยืนพนมมือต้อนรับคณะพระภิกษุสงฆ์ และเหล่าสาธุชนที่เดินทางมาร่วมงานของท่านด้วยความปลื้มปีติใจเป็นอย่างมาก เมื่อเป็นเช่นนี้...จึงทำให้ใจของท่านยิ่งเกิดความผ่องใสและสว่างไสวมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม!!!
 

     และยิ่งตัวท่านได้รับบุญทุกๆ บุญที่ตัวลูกกับทุกๆ คนในครอบครัวได้ทำแล้วก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้กับท่าน กายละเอียดของท่านก็ยิ่งแลดูผ่องใสและสว่างไสวมากขึ้น มากขึ้น แล้วก็มากขึ้นไปเรื่อยๆ 
 
      ซึ่ง ณ ช่วงเวลานี้ใจของท่านก็ไม่ได้รู้สึกเป็นห่วงหรือกังวลในเรื่องใดๆ เลยแม้แต่น้อย อีกทั้ง...ตัวท่านยังได้แว้บไปตามวัดต่างๆ ที่ตัวท่านคุ้นเคย เพื่อไปตามระลึกนึกถึงบุญต่างๆ ที่ตัวท่านได้เคยสั่งสมเอาไว้ในสมัยที่ยังเป็นมนุษย์อีกด้วย
 

     จวบจนกระทั่ง...เมื่อกาลเวลาล่วงเลยมาถึงวันที่ 7 นับจากวันที่ตัวท่านได้เสียชีวิต บุญทุกๆ บุญที่ตัวท่านได้เคยสั่งสมเอาไว้ในสมัยที่ยังเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็น...บุญที่ตัวท่านได้อุปัฏฐากพระอุปัฏฐากวัด บุญที่ตัวท่านได้เดินธรรมยาตราไปสักการะบูชาสังเวชนียสถานเป็นระยะทางถึง 400 กว่ากิโลเมตร บุญที่ตัวท่านได้สร้างศาสนสถานเอาไว้ในหลายๆ แห่ง บุญที่ตัวท่านได้ถือศีล 8 ในช่วงเข้าพรรษา และบุญที่ตัวลูกได้ชักชวนให้ท่านได้ทำร่วมกับหมู่คณะ
 
      เช่น...บุญสร้างพระธรรมกายประจำตัว หรือ...บุญสร้างอาคารบุญรักษา  เป็นต้น รวมทั้งบุญบวชพระลูกชายของท่านทั้ง 2 รูป ซึ่งเป็นบุญที่ตัวท่านปลื้มมากที่สุด เป็นต้น  ก็มาได้ช่อง!!!...แล้วก็รวมกันส่งผลทำให้ท่านแว้บไปบังเกิดเป็น “ เทพธิดาสุดสวย ” ที่มีวิมานทองแก้วประดับรัตนชาติอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟส 2 ในทันที
 

      หลังจากที่ตัวท่านได้ไปบังเกิดเป็นเทพธิดาใหม่อยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟส 2 แล้ว ตัวท่านก็ได้ตรวจตราดูทิพยสมบัติของท่านด้วยความอะเลิร์ทเบิกบานและปลื้มปีติใจในผลแห่งบุญอย่างสุดๆ  

     และในเวลาที่ตัวลูกกับทุกๆ คนในครอบครัวได้ทำบุญแล้วก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้กับท่าน กายอันเป็นทิพย์...พร้อมด้วยทิพยสมบัติและทิพยวิมานของท่านก็จะพลันสว่างวาบขึ้นมาอย่างเป็นอัศจรรย์!!!...
 

      ซึ่งท่านเทพธิดาใหม่ (หรือโยมแม่ของลูก) ก็ได้ฝากข้อความมาถึงตัวลูก พระน้องชายของลูก และทุกๆ คนในครอบครัวในทำนองที่ว่า...
 
     “ กราบขอบคุณพระลูกชายทั้งสองที่คอยช่วยดูแลและเป็นยอดกัลยาณมิตรให้กับตัวท่านเป็นอย่างดีเสมอมา และแม้ว่าตัวท่านจะละจากโลกไปแล้ว พระลูกชายทั้งสองก็ยังคงทำบุญแล้วก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งมาให้ท่านอยู่ตลอด ซึ่งตัวท่านก็ได้รับและอนุโมทนาในบุญทุกๆ บุญดังกล่าวแล้ว
 

      ตัวท่านอยากให้พระลูกชายทั้งสองบวชไปจนตลอดชีวิต และอยากให้ทุกคนในครอบครัวตั้งใจสั่งสมบุญกันให้เต็มที่เต็มกำลัง ไม่ว่าจะเป็น...การทำทาน  รักษาศีล  หรือการเจริญสมาธิภาวนา  เป็นต้น  เพื่อที่ทุกๆ คนจะได้มีบุญติดตัวกันไปเยอะๆ   
 
    เพราะในตอนนี้ตัวท่านได้เห็นผลแห่งบุญแบบประจักษ์แจ้งด้วยตาของตัวท่านเองแล้วว่าบุญมีจริง สวรรค์มีจริง และด้วยผลแห่งบุญที่ตัวท่านได้ตั้งใจสั่งสมเอาไว้ในพระพุทธศาสนานี้เอง จึงทำให้ตัวท่านได้มาบังเกิดอยู่บนสวรรค์แห่งนี้ และเมื่อทุกๆ คนสั่งสมบุญทุกๆ บุญแล้ว ก็ขอให้อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งมาให้ตัวท่านอีกบ่อยๆ ”  
 

     ส่วนวิบากกรรมที่ทำให้โยมแม่ของลูกต้องมาเสียชีวิตในวัย 70 ปี ด้วยโรคมะเร็งที่ท่อไตนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะเศษกรรมปาณาติบาตจากหลายๆ ภพชาติในอดีตที่ตัวท่านได้เคยทำผิดทำพลาดเอาไว้ได้ช่องตามมาส่งผล  และในบรรดาเศษกรรมทั้งหมดจะมีเศษกรรมปาณาติบาตจากภพชาติหนึ่ง...ที่เป็นหลักและมีกำลังมากที่สุด!!!   เรื่องก็มีอยู่ว่า...

      ย้อนไปในหลายๆ ภพชาติก่อนๆ โยมแม่ของลูกได้เกิดเป็น “กุลบุตรสุดหล่อ” อยู่ในครอบครัวเกษตรกรรม...ที่ประกอบอาชีพปลูกผักกับเลี้ยงสัตว์...เพื่อนำไปขายและฆ่าเป็นอาหาร โดยอัธยาศัยของตัวท่าน ตั้งแต่เล็กจนโต...ตัวท่านจะเป็นเด็กหนุ่มที่ขยันขันแข็ง  เอาการเอางาน  และชอบช่วยเหลือกิจการงานต่างๆ ภายในบ้านเป็นอย่างมาก

 
     และด้วยความขยันขันแข็งนี่เอง จึงทำให้ตัวท่านได้ช่วยที่บ้านจับสัตว์ที่เลี้ยงเอาไว้  ไม่ว่าจะเป็น...พวกปลา เป็ดหรือไก่  เป็นต้น  มาฆ่าผ่าท้องและส่งขายเพื่อหาทรัพย์มาเลี้ยงครอบครัวอยู่เป็นประจำ
 
     ต่อมา...เมื่อตัวท่านเติบใหญ่ ตัวท่านก็เกิดความสนอกสนใจในศิลปะการป้องกันตัวเป็นอย่างมาก  โดยเฉพาะเรื่องของการต่อยมวย!!!  เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ตัวท่านได้ตั้งใจฝึกฝนและศึกษาเรียนรู้ด้วยตัวของท่านเองเรื่อยมา และด้วยความรักความเอาใจใส่ในการศึกษาเรียนรู้และฝึกฝนนี่เอง จึงทำให้ตัวท่านมีทักษะและชั้นเชิงในการต่อยมวยที่หาตัวจับได้ยากคนหนึ่งเลยทีเดียว
 

      จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง...ตัวท่านก็ได้ยินข่าวจากในเมืองว่า...จะมีการจัดแข่งขันต่อยมวยชิงรางวัลขึ้น!!! เมื่อเป็นเช่นนี้...ตัวท่านจึงไม่รอช้าได้รีบไปสมัครเข้าแข่งขันด้วยในทันที ซึ่งกติกาของการต่อยมวยชิงรางวัลในครั้งนี้...ถ้าหากผู้เข้าแข่งขันคนใดยังไม่ยอมบอกหรือแสดงท่าทีว่า... “ยอมแพ้!!!...” คู่ต่อสู้อีกฝ่ายหนึ่งก็ยังสามารถบรรเลงเพลงหมัด...ชนิดที่ทั้งเตะทั้งต่อยได้อย่างเต็มที่แบบไม่ต้องเกรงอกเกรงใจได้ตามสบายเลยทีเดียว

      และเมื่อการแข่งขันได้เริ่มต้นขึ้น!!! ด้วยฝีไม้ลายมือในการต่อยมวยที่ตัวท่านได้ฟิตซ้อมมาอย่างดีนี่เอง จึงทำให้...ตัวท่านสามารถผ่านเข้ารอบลึกๆ ...ไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศได้อย่างสบายๆ !!!
 

      และในรอบชิงชนะเลิศนี้เอง...ตัวท่านกับคู่ชกของท่านต่างก็ได้ละเลงเพลงหมัดมวยกันอย่างหนักหน่วง!!! ชนิดที่มีเท่าไหร่ก็ใส่ให้หมด!!! แบบไม่ออมมือออมหมัดกันเลย  โดยตัวท่านจะเน้นเตะและต่อยไปที่บริเวณหลังและท้องของคู่ชกอยู่เป็นระยะๆ  จนทำให้คู่ชกนั้นเริ่มบอบช้ำและอ่อนแรง
 
      แล้วในที่สุด!!!...ทันทีที่ตัวท่านเตะไปที่ชายโครงด้านข้างทั้งซ้ายทั้งขวา พร้อมกับถีบไปที่ช่องท้องของคู่ชก ทันใดนั้นเอง…คู่ชกของท่านก็ได้เสียหลักล้มลงอย่างแรง  และเมื่อตัวท่านได้เห็นเช่นนั้น ตัวท่านก็ไม่รอช้า...ได้รีบตามเข้าไปตึ้บซ้ำ!!!...ที่บริเวณหลังเป็นของแถมให้อีกทีสองที ซึ่งก็เป็นผลทำให้...คู่ชกของท่านได้รับบาดเจ็บและบอบช้ำภายในเป็นอย่างมาก แล้วในที่สุด!!!...คู่ชกของท่านก็ยอมแพ้และเป็นฝ่ายยกธงขาวไปอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง
 
 
     และเมื่อจบการแข่งขัน...ตัวท่านก็เป็นฝ่ายชนะและได้รับเงินรางวัลไปในที่สุด!!! ส่วนคู่ชกของท่านในครั้งนั้น ตัวเขาก็ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหลังและท้องอย่างหนัก จนถึงขั้นล้มป่วยแล้วก็ทานอะไรไม่ได้เลย อีกทั้ง...ยังถ่ายเป็นเลือดและได้รับความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก ซึ่งต่อมาไม่นานตัวเขาก็ได้เสียชีวิตลงในที่สุด!!!...

      แม้ว่า...ตัวท่านจะไม่มีเจตนาทำให้คู่ชกของท่าน...ต้องได้รับบาดเจ็บจนถึงขั้นเสียชีวิตก็ตาม  แต่ถึงกระนั้น!!!...สิ่งที่ตัวท่านได้เคยทำผิดทำพลาดเอาไว้  มันก็ได้ถูกเซ็ตเป็นผังสำเร็จและกลายเป็นวิบากกรรมตามหลักของกฎแห่งกรรม ที่ติดตามตัวท่านนับตั้งแต่ภพชาตินั้นเป็นต้นมา
 

      จวบจนกระทั่งมาถึงในภพชาติปัจจุบันนี้...แม้ว่าวิบากกรรมดังกล่าวที่ตัวท่านได้เคยเตะต่อยคู่ชกของท่านที่บริเวณชายโคลงด้านข้างและบริเวณช่องท้อง แถมยังไปตึ้บซ้ำ!!!...ที่บริเวณหลังอย่างหนัก จนเป็นเหตุให้คู่ชกของท่านต้องล้มป่วยจนตาย กับเศษกรรมที่ตัวท่านได้เคยฆ่าสัตว์เพื่อนำไปขายจากในภพชาติดังกล่าว) จะเจือจางเบาบางลงไปจนกลายเป็นเศษกรรมแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังคงมีกำลังและคอยหาช่องตามมาส่งผลอยู่ตลอดเวลา
 
      ดังนั้น...เมื่อเศษกรรมปาณาติบาตจากภพชาติดังกล่าวได้ช่องตามมาส่งผลอีกครั้ง!!! มันจึงได้ไปดึงดูดเอาเศษกรรมปาณาติบาตในทำนองคล้ายๆ กันจากอีกหลายๆ ภพชาติ ที่ตัวท่านได้เคยทำร้ายคนและฆ่าสัตว์ที่บริเวณช่องท้องให้ถึงแก่ชีวิต เช่น...บางชาติ ตัวท่านก็ได้เกิดเป็นทหารแล้วก็ได้ฆ่าฟันพวกข้าศึก...ที่บริเวณช่องท้องแถวๆ บริเวณไตให้เสียชีวิตบ้าง หรือบางชาติตัวท่านก็ได้เกิดเป็นชาวบ้านออกไปล่าสัตว์ ซึ่งทุกครั้งที่ล่าสัตว์...ตัวท่านก็จะใช้อาวุธทำร้ายและปลิดชีวิตพวกสัตว์เหล่านั้นที่บริเวณช่องท้อง  เป็นต้น ให้มาได้ช่องรวมกันส่งผล และเป็นผลทำให้โยมแม่ของลูกต้องมาเสียชีวิตในวัย 70 ปี ด้วยโรคมะเร็งที่ท่อไตเหมือนอย่างที่เป็นอยู่นี้นั่นเอง   
 
 
      สำหรับเรื่องราวโยมแม่ของลูก ซึ่ง ณ ตอนนี้ได้ไปบังเกิดเป็นเทพธิดาแล้ว ก็ยังไม่จบลงอย่างบริบูรณ์ ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะ...

       ภายหลังจากที่โยมแม่ของลูกได้ไปบังเกิดเป็น “ เทพธิดาสุดสวย ” แห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟส 2 แล้ว ในเวลาต่อมา...พระธรรมกายก็ได้เมตตาตรวจตราดูกำลังบุญของท่านเทพธิดาและกำลังบุญของตัวลูก ซึ่งบุญของลูกนี้ถือว่าเป็นบุญหลัก!!! เพื่อที่จะทำการเปลี่ยนภพภูมิให้กับท่านเทพธิดาได้ไปบังเกิดในภพภูมิที่สูงยิ่งๆ ขึ้นไปกว่านี้
 

     เมื่อพระธรรมกายได้เมตตาตรวจตราดูด้วยญาณทัสสนะของท่านแล้ว ท่านก็ได้ประมวลรวมเอาบุญทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น...บุญที่ตัวลูกได้ตั้งใจบวชสร้างบารมีกับหมู่คณะอย่างเต็มที่เต็มกำลัง  แบบไม่มีข้อแม้ข้ออ้างและเงื่อนไขมาเป็นระยะเวลา 16 ปี ซึ่งถือว่าเป็นบุญหลัก  กับบุญที่ท่านเทพธิดาได้เคยสั่งสมเอาไว้ในสมัยที่ตัวท่านยังมีชีวิตอยู่ และบุญที่ตัวลูกได้ตั้งใจทำแล้วก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้ท่าน มาประกอบวิชชาธรรมกาย ซึ่งก็มีรายละเอียดอีกมาก แต่เราจะยังไม่ลงรายละเอียดในที่นี้  แล้วก็ช่วยให้ท่านเทพธิดาได้แว้บ!!!...ไปบังเกิดเป็น “ เทพธิดาสุดสวย” อยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟส 1 อย่างฉับพลันทันที!!!...

    ทันทีที่ท่านเทพธิดาใหม่ได้แปรเปลี่ยนเป็น “ เทพธิดาสุดสวย ” แห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟส 1 แล้ว ตัวท่านก็รู้สึกอัศจรรย์ใจและตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก

 
      และในช่วงอึดใจนั้นเอง!!!...พระธรรมกายก็ได้เมตตามาปรากฏกายให้ท่านเทพธิดาใหม่ได้เห็น  ทันทีที่ท่านเทพธิดาใหม่ได้เห็นพระธรรมกายมาโปรดตัวท่านก็รู้สึกอัศจรรย์ใจและดีใจเป็นอย่างมาก
 
      แล้วท่านเทพธิดาใหม่ก็ไม่รอช้าได้ก้มลงกราบพระธรรมกายด้วยความนอบน้อมและปลาบปลื้มใจในทันที!!!  จากนั้น...พระธรรมกายก็ได้เมตตาประทานโอวาทให้กับท่านเทพธิดาใหม่ในทำนองที่ว่า...

      “ การที่ท่านเทพธิดาใหม่มาบังเกิดอยู่ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟส 1 แห่งนี้ได้นั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ...บุญของพระลูกชายของท่านที่ตั้งใจบวชสร้างบารมีกับหมู่คณะมายาวนานถึง 16 พรรษาเป็นหลัก!!!  เพราะลำพังบุญของท่านเองนั้น ไม่สามารถที่จะมาอยู่ ณ ที่แห่งนี้ได้
 
      ดังนั้น...ท่านเทพธิดาใหม่จงอย่าได้ประมาท  ให้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างตลอดต่อเนื่อง เพื่อที่ท่านเทพธิดาใหม่จะได้อยู่ที่สวรรค์แห่งนี้ไปอีกนานๆ แต่ถ้าหากท่านเทพธิดาใหม่ประมาท...มัวแต่เพลิดเพลินกับทิพยสมบัติในเทวโลก และไม่ยอมประพฤติปฏิบัติธรรมตามที่ได้บอกไว้ เมื่อใดที่บุญของท่านเทพธิดาใหม่หมดลง เมื่อนั้น...ตัวท่านก็อาจจะต้องกลับไปบังเกิดอยู่ ณ ที่เดิม ”  
 
 
      เมื่อพระธรรมกายได้เมตตาประทานโอวาทให้แก่ท่านเทพธิดาใหม่เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านเทพธิดาใหม่ก็ได้รับปากกับพระธรรมกายว่า... “ จะปฏิบัติตามโอวาทที่พระธรรมกายได้เมตตาสอนเอาไว้ทุกประการ ”  
 
     จากนั้น...ท่านเทพธิดาใหม่ก็ได้ก้มลงกราบขอบพระคุณพระธรรมกายที่ได้เมตตาช่วยให้ท่านได้มาอยู่ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟส 1 แห่งนี้!!!...ซึ่งภายในใจของท่านเทพธิดาใหม่ ณ ตอนนี้ ตัวท่านรู้สึกซาบซึ้งและอัศจรรย์ใจในอานุภาพของวิชชาธรรมกายเป็นอย่างมาก...ที่สามารถทำให้ท่านได้ขยับมาอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟส 1 ซึ่งเป็นเขตที่มีความประณีตและไฮโซขึ้นไปจากเดิม

      หลังจากนั้น ท่านเทพธิดาใหม่ก็ได้ฝากสารแห่งความรักและความคิดถึงมาตัวลูกในทำนองที่ว่า...
 
 
      “ ตัวลูกมาถูกทางแล้ว ตัวท่านขออนุโมทนาในบุญบวช 16 พรรษาที่ตัวลูกตั้งใจบวชเป็นพระแท้มาโดยตลอด เพราะบุญของตัวลูกแท้ๆ ที่ทำให้ตัวท่านสามารถเปลี่ยนมาอยู่ในวิมานที่ใหญ่โตขึ้น ทิพยสมบัติต่างๆ ก็เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นผลทำให้ตัวท่านมีความสุขมากขึ้นไปจากเดิมเป็นอย่างมาก  
 
      ขอให้ลูกตั้งใจบวชบำเพ็ญสมณธรรมและสร้างบารมีกับหมู่คณะไปจนตลอดชีวิต แล้วก็ให้ตั้งใจนั่งธรรมะให้เข้าถึงพระธรรมกายให้ได้  เพราะตัวท่านได้เห็นประจักษ์ในอานุภาพของพระธรรมกายแล้ว  ไม่ต้องเป็นห่วงตัวท่าน...เพราะท่านจะตั้งใจนั่งธรรมะตามที่พระธรรมกายได้เมตตาสอนเอาไว้
 
      ตัวท่านอยากให้ลูกหมั่นอุทิศบุญส่งมาให้กับตัวท่านอีกบ่อยๆ  เพราะทุกครั้งที่ตัวลูกอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งมาให้กับท่าน ตัวท่านก็จะรู้สึกปลื้มปีติในทิพยสมบัติที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง...ตัวท่านยังรู้สึกภาคภูมิใจในการทำหน้าที่เป็นพระแท้ของตัวลูกมากๆ อีกด้วย ”

    คำถามข้อที่ 2.  ลูกสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร   และมีหน้าที่อะไรในกองทัพธรรมครับ
 

     คำตอบ...สำหรับเรื่องราวการสร้างบารมีของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมานั้น ตัวลูกก็ได้เกิดมาสร้างบารมีร่วมกับมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะด้วยเหมือนกัน เรื่องก็มีอยู่ว่า....

      ย้อนไปในพุทธันดรที่ผ่านมา...ตัวลูกได้เกิดเป็น “ กุลบุตรสุดหล่อผู้มีจิตใจมุ่งมั่น ” อยู่ในตระกูลของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงของแคว้นเพื่อนบ้านข้างเคียงซึ่งอยู่ติดกับแคว้นของพระราชา (องค์ที่จะออกบวช)
 
 
       และด้วยความที่ตัวลูกได้เกิดอยู่ในตระกูลของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่นี้เอง จึงทำให้ตัวลูกได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีมาตั้งแต่เด็ก อีกทั้ง...ตัวลูกยังมีโอกาสได้ศึกษาวิชาการทางด้านต่างๆ ที่หลากหลายอีกด้วย ซึ่งวิชาที่ตัวลูกชอบและให้ความสนใจมากเป็นพิเศษนั้นก็คือ...วิชาที่เกี่ยวกับการค้าขายและการก่อสร้างนั่นเอง   
 
       และด้วยความที่คุณพ่อของลูกก็เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องการก่อสร้างสถานที่สำคัญต่างๆ ภายในแคว้น ตัวท่านจึงยิ่งส่งเสริมและสนับสนุนให้ตัวลูกศึกษาทางด้านการก่อสร้างอย่างเต็มที่ด้วยความมุ่งหวังอยากจะให้ตัวลูกเติบโตมาเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ดูแลงานทางด้านนี้เหมือนอย่างกับตัวท่าน!!!...   
 

      และด้วยอัธยาศัยของตัวลูกที่เป็นคนทำอะไรทำจริงและมีความมุ่งมั่นในการศึกษาเล่าเรียนเป็นอย่างมาก จึงทำให้ตัวลูกมีผลการเรียนที่อยู่ในระดับดีเยี่ยมมาโดยตลอด
 
      และเมื่อตัวลูกเจริญวัยขึ้นจนเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ตัวลูกก็ได้ยินข่าวการเสด็จออกผนวชของพระราชาผู้ปกครองแคว้นที่อยู่ติดกันกับแคว้นที่ตัวลูกอาศัยอยู่ ซึ่งข่าวการเสด็จออกผนวชของพระองค์นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่และได้รับการกล่าวขานกันไปทั่วเลยทีเดียว
    

      ในเวลาต่อมา...เมื่อตัวลูกจบการศึกษาจากโรงเรียนในตัวเมืองหลวงของแคว้นที่ตัวลูกอาศัยอยู่ หรือแคว้นเพื่อนบ้านข้างเคียงที่อยู่ติดกับแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวชแล้ว ตัวลูกก็ได้เดินทางไปศึกษาต่อที่แคว้นของพระราชา (องค์ที่ออกบวชซึ่งเป็นแคว้นที่มีชื่อเสียงและมีความเจริญในทุกๆ ด้านเป็นอย่างมาก)   

       เมื่อตัวลูกได้เข้ามาศึกษาอยู่ภายในแคว้นของพระราชา (องค์ที่ออกบวช) แล้ว ตัวลูกก็ได้มาเจอกับเพื่อนใหม่ๆ...ทั้งที่มาจากแคว้นเดียวกันกับตัวลูกและที่อาศัยอยู่ในแคว้นของพระราชา (องค์ที่ออกบวช) อยู่แล้ว ซึ่งเพื่อนๆ ของตัวลูกแต่ละคนนั้น...ก็มักจะชอบชวนกันไปดริ้งค์ ไปกิน ไปเที่ยวตามประสาวัยรุ่นทั่วๆ ไปอยู่เสมอๆ
 

       แต่ในบรรดาเพื่อนๆ เหล่านั้น...ก็มีเพื่อนของตัวลูกอยู่คนหนึ่งที่สนใจและชอบศึกษาธรรมะอยู่เป็นประจำ ซึ่งก็มีอยู่วันหนึ่ง...เพื่อนคนนี้ได้เข้ามาชักชวนตัวลูกให้เดินทางไปฟังธรรมและปฏิบัติธรรมที่วัดของพระเถระ (อดีตพระราชาองค์ที่ออกบวช) ด้วยกัน

      และเมื่อตัวลูกได้เดินทางไปถึงที่วัดแห่งนั้นแล้ว ตัวลูกก็มีโอกาสได้ฟังธรรมและปฏิบัติธรรมกับพระเถระ (อดีตพระราชาองค์ที่ออกบวช) ซึ่งในตอนแรกนั้น แม้ว่าตัวลูกจะยังไม่รู้ว่าพระเถระท่านนี้คืออดีตพระราชาที่ตัวลูกเคยได้ยินได้ฟังกิตติศัพท์อันงดงามของพระองค์มาโดยตลอดก็ตาม   แต่ตัวลูกก็รู้สึกซาบซึ้งและประทับใจในการแสดงธรรมของท่านเป็นอย่างมาก!!!   

       ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะ...พระเถระสามารถอธิบายขยายความธรรมะที่ละเอียดลึกซึ้งให้เข้าใจได้อย่างง่ายๆ และเมื่อตัวลูกได้ตรองตามธรรมะที่ท่านนำมาแสดงแล้ว ตัวลูกก็เกิดความรู้ความเข้าใจได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง!!!...
 
 
       ต่อมา...ตัวลูกก็ได้มาทราบในภายหลังว่า “ พระเถระที่ตัวลูกได้ไปฟังธรรมและปฏิบัติธรรมกับท่านนั้นก็คือ...อดีตพระราชาองค์ที่ออกบวชนั่นเอง ” ทันทีที่ตัวลูกได้ทราบเช่นนั้น ตัวลูกก็พลันเกิดความรู้สึกสงสัยขึ้นมาในใจว่า “ ทำไมพระองค์ถึงได้ตัดสินพระทัยสละราชสมบัติออกผนวชเช่นนี้ ” ซึ่งตัวลูกเองก็ได้เก็บความรู้สึกสงสัยนี้เอาไว้ในใจมาโดยตลอด   

     จวบจนกระทั่งเมื่อตัวลูกมีอายุครบบวชแล้ว ในช่วงปิดภาคเรียน...ตัวลูกกับเพื่อนๆ ก็ได้ชักชวนกันไปบวชเป็นพระอยู่ที่วัดของพระเถระ อดีตพระราชาองค์ที่ออกบวชซึ่งก็ถือว่าเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีในยุคนั้นที่ชายแมนๆ จะบวชเป็นพระกันในช่วงอายุครบบวช
 
 
       แม้ว่าในตอนนั้น...ตัวลูกจะมีโอกาสบวชเป็นพระได้เพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่ตัวลูกก็ได้ตั้งใจปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงความสุขภายใน ที่มาพร้อมกับใจที่หยุดนิ่ง ซึ่งเป็นความสุขที่ตัวลูกไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนมาก่อนเลยในชีวิต  เมื่อเป็นเช่นนี้...จึงทำให้ตัวลูกรู้สึกประทับใจกับการบวชและการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างมาก
 
     และหลังจากที่ตัวลูกได้ลาสิกขาออกมาเรียนต่อแล้ว ด้วยความที่ตัวลูกค่อนข้างจะต้องเรียนหนังสืออย่างหนัก จึงทำให้ตัวลูกไม่ค่อยมีเวลาเดินทางไปสั่งสมบุญที่วัดของพระเถระ (อดีตพระราชาองค์ที่ออกบวช) สักเท่าไหร่ แต่ถึงกระนั้น ตัวลูกก็ได้พยายามแบ่งเวลาให้กับการนั่งสมาธิอยู่เป็นประจำเรื่อยมา   
 

      จวบจนกระทั่งเมื่อตัวลูก (ในพุทธันดรที่ผ่านมา) ได้สำเร็จการศึกษาแล้ว  ตัวลูกก็ได้กลับไปรับราชการอยู่ที่แคว้นบ้านเกิดของตัวลูกเอง หรือแคว้นเพื่อนบ้านข้างเคียงที่อยู่ติดกับแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวช

     แต่พอตัวลูกรับราชการไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว ตัวลูกก็เกิดความรู้สึกเซ็ง เบื่อ กลุ้มขึ้นมาเป็นอย่างมาก ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะงานที่ตัวลูกทำอยู่นั้นมีทั้งปัญหา  อุปสรรคและแรงกดดันเยอะแยะมากมาย เมื่อเป็นเช่นนี้...จึงทำให้ตัวลูกได้หวนระลึกนึกถึงความสุขที่เคยได้รับในช่วงบวชระยะสั้นที่วัดของพระเถระ (ในสมัยที่ตัวลูกยังเรียนอยู่!!!...)
 

       อีกทั้ง ตัวลูกยังมีความคิดเกิดขึ้นมาในใจด้วยว่า... “ ถ้าหากตัวลูกต้องรับราชการอย่างนี้แบบนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ ตัวลูกก็คงจะได้เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งเหมือนอย่างคุณพ่อของลูก แต่สิ่งนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวลูกปรารถนาหรือต้องการเลย ”
 
     จากนั้นตัวลูกก็ได้คิดพิจารณาไตร่ตรองและทบทวนดูว่า “ แท้ที่จริงแล้ว...สิ่งที่ตัวลูกชอบนั้นคืออะไรกันแน่ ”  แล้วในที่สุด...ตัวลูกก็พบว่า “ ความสุขจากการปฏิบัติธรรมในเพศสมณะนี่แหละคือสิ่งที่ตัวลูกต้องการ ”  และเมื่อตัวลูกคิดได้เช่นนี้แล้ว ตัวลูกจึงได้ตัดสินขอลางานทางราชการเพื่อไปบวชอีกครั้งหนึ่ง!!!...
 

      เมื่อตัวลูกได้มีโอกาสกลับมาบวชและได้ปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่อีกครั้งหนึ่งที่วัดของพระเถระ (อดีตพระราชาองค์ที่ออกบวช) แล้ว ตัวลูกก็ยิ่งรู้สึกมั่นใจว่า...“ การบวชนั้นเป็นเส้นทางชีวิตที่ประเสริฐและใช่มากๆ สำหรับตัวลูก!!!... ”  

       เมื่อความรู้สึกเช่นนี้ได้เกิดขึ้นมาภายในใจ!!! ตัวลูกจึงได้เลื่อนการลาสิกขา...ที่จะกลับไปรับราชการออกไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีกำหนด!!! ซึ่งในเวลาต่อมา...ตัวลูกก็ได้ตัดสินใจลาออกจากหน้าที่การงานทางโลก พร้อมกับเดินหน้าศึกษาธรรมะอย่างเต็มที่เต็มกำลังที่วัดของพระเถระ (อดีตพระราชาองค์ที่ออกบวช) 
 
 
       เมื่อตัวลูกบำเพ็ญสมณธรรมและศึกษาธรรมะไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว ด้วยความที่ ณ ช่วงเวลานั้น พระเถระท่านปรารภจะขยายพื้นที่วัดออกไปให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้พอรองรับต่อจำนวนผู้มีบุญที่เดินทางมาสั่งสมบุญกันอย่างเนืองแน่นในยุคนั้น

     และด้วยเหตุดังกล่าวนี้เองหมู่คณะจึงได้มอบหมายให้ตัวลูก ซึ่งมีความรู้ความชำนาญทางด้านการก่อสร้างโดยเฉพาะได้มารับบุญช่วยงานดังกล่าว ซึ่งตัวลูกก็ได้ใช้ความรู้ความสามารถที่ร่ำเรียนมาช่วยเหลืองานของพระเถระและหมู่คณะอย่างเต็มที่เต็มกำลัง   ควบคู่ไปกับการศึกษาธรรมะและประพฤติปฏิบัติธรรม ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการบวชของตัวลูกเรื่อยมา
 

      ในเวลาต่อมา...เมื่อพรรษากาลของตัวลูกเริ่มมากขึ้นแล้ว ตัวลูกก็เริ่มมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดีขึ้นไปเรื่อยๆ  โดยตัวลูกได้นั่งธรรมะแล้วเห็นแสงสว่างที่สว่างมากๆ  ซึ่งแสงสว่างที่เจิดจ้านี้...จะมาพร้อมกับความชุ่มเย็นและความสุขใจตลอดเวลา

      นอกจากตัวลูกจะมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดีเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ แล้ว ธรรมะภาคปริยัติของตัวลูกยังอยู่ในระดับที่สามารถเทศน์สอนสาธุชนผู้มีบุญได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้...ตัวลูกจึงได้รับมอบหมายจากหมู่คณะให้ไปทำหน้าที่เผยแผ่ธรรมะอยู่ในหัวเมืองเขตชายแดนแห่งหนึ่ง...ที่อยู่ติดกับแคว้นบ้านเกิดของตัวลูก (หรือแคว้นเพื่อนบ้านข้างเคียงที่อยู่ติดกับแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวช) ซึ่งตัวลูกก็ได้ตั้งใจทำหน้าที่เทศน์สอนและเผยแผ่ธรรมะให้กับมหาชนทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในหัวเมืองแห่งนั้นเรื่อยมา  
 

       ไม่เพียงแค่นั้น!!!...ตัวลูกยังได้ทำหน้าที่ของอภิชาตบุตร...ด้วยการเป็นแสงสว่างให้กับโยมบิดามารดาและหมู่ญาติอันเป็นที่รักของตัวลูกได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย!!! ซึ่งต่อมา...ตัวลูกก็ได้สร้างวัดสาขาขึ้นภายในหัวเมืองแห่งนั้น เพื่อเป็นศูนย์รวมใจให้กับมหาชนผู้มีบุญทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่แถบนั้น
 
     และเมื่อวัดสาขาแห่งนั้นสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว...ก็ได้มีสาธุชนผู้มีบุญเป็นจำนวนมากออกบวช...เพื่อศึกษาธรรมะอยู่ที่วัดแห่งนั้น!!! ถึงแม้ว่าภารกิจหน้าที่ของตัวลูกจะมีมากมายสักเพียงใดก็ตาม แต่ตัวลูกก็มีความสุขและสนุกกับการทำหน้าที่ดังกล่าวนี้เป็นอย่างมาก
 

      ไม่เพียงแค่นั้น...ตัวลูกยังหมั่นหาช่วงเวลาที่ว่างๆ เดินทางกลับมาปฏิบัติธรรมระยะยาวที่วัดของพระเถระอยู่เสมอๆ   เมื่อเป็นเช่นนี้...จึงทำให้ตัวลูกมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดีและก้าวหน้ามากขึ้นไปเรื่อยๆ!!!...

      และเมื่อกาลเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป...จนตัวลูกเริ่มมีอายุที่มากขึ้นแล้ว ตัวลูกก็ได้วางระบบและจัดสรรพระลูกวัดของลูก ให้มาช่วยดูแลบริหารงานในส่วนต่างๆ ภายในวัดสาขาแห่งนั้น เพื่อที่ตัวลูกจะได้ปลดกังวลจากภารกิจหน้าที่งานหยาบ...และมีเวลาให้กับการประพฤติปฏิบัติธรรมที่ตัวลูกรักยิ่งๆ ขึ้นไป
 

      แล้วในที่สุด!!!...วันแห่งความสมปรารถนาก็มาถึง เมื่อตัวลูกได้ปลีกวิเวกและไปปฏิบัติธรรมอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากวัดสาขาแห่งนั้นไปไม่ไกลนัก โดยก่อนที่ตัวลูกจะนั่งหลับตาทำสมาธิตัวลูกก็ได้คิดทบทวนใคร่ครวญถึงวิธีการประคองใจและผลของการปฏิบัติธรรมของตัวลูกที่ผ่านๆ มา

      ตั้งแต่สมัยที่ตัวลูกยังเป็นพระหนุ่มพรรษาต้นๆ ที่นั่งแล้วเห็นแสงสว่าง จนมาถึงตอนนี้...ที่ตัวลูกมีอายุพรรษามากแล้ว  ซึ่งตัวลูกก็พบว่า...หนทางเดียวที่จะทำให้ตัวลูกเข้าถึงธรรมะภายในนั้นก็คือ...ตัวลูกจะต้องทิ้งทุกอย่างวางทุกสิ่งนิ่งอย่างเดียว!!!
 

      และที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือตัวลูกจะต้องปล่อยวางความตั้งใจ ที่ติดมาจากอัธยาศัยในการทำงานหยาบของตัวลูก  อีกทั้ง...ตัวลูกจะต้องไม่คาดหวังหรืออยากได้ธรรมะที่ละเอียดยิ่งๆ ขึ้นไป
 
      และเมื่อตัวลูกคิดสอนตัวเองได้เช่นนี้...ใจของลูกก็เริ่มหยุดนิ่งผ่านแสงสว่างภายในเข้าไปเรื่อยๆ   แล้วในที่สุด!!!...ตัวลูกก็สามารถเข้าถึงดวงธรรมภายในและพระธรรมกายที่ชัดใสสว่างได้นั่นเอง
 
     ภายหลังจากที่ตัวลูกได้บรรลุธรรม...เข้าถึงพระธรรมกายแล้ว ตัวลูกก็ได้ตั้งใจทำหน้าที่เผยแผ่และเทศน์สอนธรรมะอยู่ที่วัดสาขาประจำหัวเมืองแห่งนั้นไปจนตลอดชีวิต และเมื่อตัวลูกละอัตภาพจากโลกนี้ไปแล้ว ตัวลูกก็ได้กลับไปพักกลางทางที่ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ได้อย่างสง่างาม 
 

      จากเรื่องราว Case Study ที่เราได้ศึกษาเรียนรู้กันมานี้ก็สอนให้เราได้รู้ว่า...ทุกๆ ชีวิตล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมซึ่งเป็นกฎสากลที่มวลมนุษยชาติทุกคนบนโลกใบนี้จะต้องเจอทั้งสิ้น!!!  และบุญนี่แหละ...เป็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของความสุขความสำเร็จในชีวิตของเร  สมดังพุทธพจน์ที่ว่า...สุโข   ปุญญัสสะ  อุจจะโย...การสั่งสมบุญ นำสุขมาให้
 
      เพราะฉะนั้น...เราจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาเรียนรู้เรื่องกฎแห่งกรรมให้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง เพราะมันเกี่ยวกับตัวเราเอง  เพื่อที่เราจะได้ดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องและดีงามด้วยความไม่ประมาท จะได้ปิดอบาย ไปสวรรค์และมีความสุขในปัจจุบัน อีกทั้ง...ยังดับทุกข์ได้อีกด้วย ซึ่งความรู้นี้มีสอนเฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น!!!
 
        ดังนั้น...เราจะต้องตั้งใจสั่งสมบุญสร้างบารมี ประพฤติดีปฏิบัติชอบตามหลักธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น...ทำทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา  เป็นต้น ซึ่งถ้าหากเราทำได้เช่นนี้ ชีวิตการสร้างบารมีของเราจะได้อยู่รอดปลอดภัย และมีชัยชนะในเส้นทางการสร้างบารมีไปตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม ”  
 
      สำหรับเรื่องราว Case Study ของ โยมแม่นุชชดาก็คงจะต้องจบลงพอสังเขปเพียงเท่านี้  เอวํ ก็มีด้วยประการละฉะนี้ 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/59-Case-Study-โรคมะเร็งท่อไต-โยมแม่นุชชดา.html
เมื่อ 3 กรกฎาคม 2567 12:48
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv