กฐินสัมฤทธิ์ของเยาวชนชาวปวากอญอ แม่แอบ

กราบนมัสการพระเดชพระคุณคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพยิ่ง
 
     กระผม นายศุภชัย  พยุงจำปี หรือ ศิลปินเตอแน ลูกพระธัมฯจากยอดดอยครับ ตอนนี้ผมเรียนจบปริญญาตรีแล้วครับ และเป็นประธานชมรมเมล็ดพันธุ์แห่งความดี ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณะประโยชน์ ทำกิจกรรมปลูกฝังศีลธรรมให้กับเยาวชนบนยอดดอยมากมายครับ อาทิ โครงการเทเหล้าเผาบุหรี่ โครงการอบรมเยาวชนบนดอย โครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่นักบุญขุนเขา รวมแล้วกว่า 23 โครงการครับ
 
  
ศุภชัย  พยุงจำปี หรือศิลปินเตอแน ลูกพระธัมฯจากยอดดอย
 
     ส่วนเพื่อนๆน้องๆที่เรียนจบแล้ว บางส่วนก็กำลังบวชในโครงการธรรมทายาทรุ่นกองพล และกองพันสถาปนา อีกส่วนหนึ่งก็ไปหาประสบการณ์ในโครงการเดอะซันออฟพีช และโครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก V-Star เพื่อเตรียมความพร้อมไปลุยให้ทั่วทุกดอยเลยครับ  
 
      หลวงพ่อครับตอนนี้ผมได้กลับมาพัฒนาถิ่นดอยเต็มตัว มาทำหน้าที่เป็นบัณฑิตแก้วอินเตอร์  ณ ธรรมอุทยานแก้วกลางดอย บ้านแม่แอบ ต.บ้านทับ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ทำหน้าที่ดูแลเยาวชนนานาชาติ ชาวเขา ชาวดอย หลากหลายเผ่าพันธุ์ครับ เพราะตั้งแต่มีวัดเกิดขึ้นที่นี่ เมื่อปี พ.ศ.2549 เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อเมตตาให้ พระอาจารย์ชาญณรงค์ วาณิชฺชชญฺโญ มาอยู่เป็นเจ้าประธานสงฆ์ ณ ธรรมอุทยานแก้วกลางดอย ชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวปวาเก่อญอ ก็ได้ขึ้นไปสวดมนต์ นั่งสมาธิ ฟังธรรมะกันทุกวัน  ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.รวมแล้วกว่า 100 คน ซึ่งถ้าเป็นวันพระก็จะมามากเป็นพิเศษ  แม้ว่าในยามค่ำคืนจะไม่มีไฟฟ้า แต่ชาวบ้านก็มาสวดมนต์ท่ามกลางแสงเทียน จนเดี๋ยวนี้หลายๆคนไม่ต้องดูหนังสือสวดมนต์แล้วนะครับ และก็โชคดีมากๆครับเพราะในปัจจุบันนี้ ที่แม่แอบมีไฟฟ้าใช้แล้วนะครับ
 
     วันหนึ่งหลังจากสวดมนต์นั่งสมาธิแล้ว พระอาจารย์ได้นำละครฟื้นฟูศีลธรรมโลก เรื่อง “น้องแพรวกฐินสัมฤทธิ์”  มาฉายให้ชาวบ้านและเยาวชนได้ดูกัน หลังจากที่ได้ดูเสร็จ ทุกคนประทับใจมาก ยิ่งรู้ว่าเป็นเรื่องจริงแสนจริง มีตัวตนจริงๆไม่ใช่แค่ละคร ซึ่งพระอาจารย์สังเกตเห็นแววตาของเด็กๆและเยาวชน เป็นประกายฉายแสงแห่งความเป็นเด็กเก่งและดี จึงลองสอบถามดูว่า “ไหนใครอยากเป็นประธานกฐินสัมฤทธิ์เหมือนกับน้องแพรวบ้าง” ปรากฏว่า มียกมือกันเกือบ 30 คน พระอาจารย์เลยถามระธานกฐินสัมฤทธิ์เหมือนกับนักทยานกแวกลางดอย และการทำหน้าที่ของเยาวชนบนยอดดอยมาให้ชมด้วยิต่อ ๆไปขอรวยแล้วก็ตามติดสร้างบารมีกับซ้ำ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่แค่อยากอย่างเดียวต้องลงมือทำด้วย ถามซ้ำอีก 2 ครั้ง เด็กๆ และเยาวชนต่างก็ยกมือเหมือนเดิมด้วยความมั่นใจ ขนาด ด.ช.จีระศักดิ์ สิริเมธีตระกูล อายุ 3 ขวบ ซึ่งมาสวดมนต์เกือบทุกวัน เห็นพี่ๆจะเป็นประธานกฐินกันก็อยากเป็นบ้างครับ ไม่พอแค่นั้นนะครับแม่อุ๊ยหน่อนุเบ ชาวปวาเก่อญอ อายุเพิ่งย่างเข้า 92 ขวบ ก็ไม่น้อยหน้าครับ เพราะแม้ว่าจะพูดภาษาไทยไม่ได้ แต่มาสวดมนต์ทุกวันจึงถามเด็กๆว่ายกมือทำอะไรกัน พอรู้คำตอบก็ขอเป็นประธานกฐินด้วย 
 

“ผมขอเป็นประธานกฐินด้วยคนนะครับ”
ด.ช.จีระศักดิ์ สิริเมธีตระกูล อายุ 3 ขวบ
 

แม่อุ๊ยหน่อนุเบ อายุ 92 ปี ชาวปวาเก่อญอ
ขอเป็นประธานกฐินด้วย
 
     พระอาจารย์เห็นว่าเด็กและเยาวชนพูดจริงและจะทำจริง จึงได้สำรวจว่ามีวัดไหนบ้างที่ยังไม่มีกฐิน ซึ่งมีเวลาค่อนข้างจำกัด เนื่องจากบนยอดดอยส่วนใหญ่มีพระภิกษุในแต่ละวัดเพียงรูปเดียว   บางวัดก็มีเจ้าภาพหมดแล้ว
 
      อีก 2 วันต่อมา จึงได้ปรึกษากันว่าจะทำอย่างไร  มีคนนำเสนอว่า งั้นขอเป็นประธานร่วมกับกฐินธรรมอุทยานแก้วกลางดอยได้ไหม  เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นก่อน” เมื่อเจ้าภาพทราบข่าวก็ยินดีและอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง   หลังจากนั้นทุกคนก็ไม่รอช้า  มาขอรับผ้าไตรจากพระอาจารย์และออกไปทำหน้าที่กันเลย โดยจะไปบอกทั้งบุญกฐินธรรมอุทยานแก้วกลางดอยและบุญกฐิน 100 ปีคุณยายด้วย ซึ่งกฐินสัมฤทธิ์เด็กดอยสามารถรวบรวมปัจจัยได้มากถึง 20,000 กว่าบาทครับ ทุกคนดีใจกันมาก ซึ่งใช้เวลาเพียง
สามวันเท่านั้น ในวันทอดกฐิน วันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก็ได้ตั้งริ้วขบวนอัญเชิญผ้ากฐินนำโดยประธานกฐินร่วมอายุน้อยที่สุด คือ ด.ญ.พีชนก นิลประสพ ด.ญ.บุษบา กาญจนาสุกใส นักเรียนชั้นประถมปีที่ 2เป็นผู้แทนเยาวชนนำกล่าวถวายผ้ากฐิน ซึ่งทั้งสองคนได้รับการคัดเลือกเพราะมาสวดมนต์นั่งสมาธิเป็นประจำมากที่สุด
 

ขบวนอัญเชิญผ้ากฐินสามัคคีของเยาวชนบนยอดดอย
ที่ร่วมเป็นประธานกฐินทั้ง 28 คน
 

ด.ญ.บุษบา กาญจนาสุกใส และ ด.ญ.พีชนก นิลประสพ  นักเรียนชั้น ป.2
เป็นตัวแทนเยาวชนกล่าวคำถวายผ้ากฐิน
 

เด็กดอยอย่างเราก็เป็นประธานกฐินได้
 
     และเมื่อเสร็จงานกฐินที่ธรรมอุทยานแก้วกลางดอยเสร็จ  ลูกๆเด็กดอยก็เร่งบอกบุญกฐินสร้างอาคาร 100 ปี คุณยายต่อครับ และแม้ช่วงนั้นชาวบ้านจะต้องเร่งเกี่ยวข้าว จึงไม่มีใครอยู่บ้านแม้แต่ตัวเยาวชนเอง ยังต้องช่วยกันเกี่ยวข้าวให้เสร็จก่อน จึงจะบอกบุญได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะพระอาจารย์เคยบอกว่า อุป แปลว่า ใกล้,  สรรค มาจากคำว่า สวรรค์ เพราะฉะนั้นมีอุปสรรค ทำให้เราใกล้สวรรค์ จึงลุยกันสะบั้นหั่นแลกไปเลยครับ แม้จะเหน็ดเหนื่อยจากการเกี่ยวข้าว ตีข้าวเพียงไหน ก็บ่ยั่นเพราะใจสู้ซะอย่าง หลังเกี่ยวข้าวแล้วก็รีบมารวมตัวออกไปทำหน้าที่ครับ
 
     บางวัน ต้องเดินกันไปมืดๆ ไฟฉายก็ไม่มี  กว่าจะกลับถึงบ้านก็ 3-4 ทุ่ม บางวันฝนตกหนักก็ยังไปบอกบุญกันต่อ บางวันก็ลุยไปบอกถึงที่นาที่ไร่เลย ตั้งใจไปบอกบุญให้ทั่วดอย และจะข้ามเขตไปให้ถึง อ.ฮอด และ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ไปจนถึง อ.แม่สะเรียง และ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน พื้นที่ที่ไกลสุดอยู่ห่างออกไป 150 กิโลเมตรครับ เพื่อไปบอกข่าวดีที่สุดในโลกในทุกคนบนดอยได้รับทราบ โดยไม่ได้สนใจว่าจะนับถือศาสนาอะไร ซึ่งก็ไม่ค่อยจะมีใครปฏิเสธครับ กลับบอกว่าถึงแม้จะนับถือคริสต์ แต่ก็อยากได้บุญด้วย และประทับใจที่เห็นเยาวชนที่มีเชื้อสายเดียวกันกล้าทำสิ่งดีๆ  บางวันไปไกลสุดกว่าจะไปถึงก็ดึกแล้ว จึงขออาศัยวัดในหมู่บ้านพักค้าง พอรุ่งเช้าก็ตื่นมาสวดมนต์นั่งสมาธิ เมื่อพระท่านออกบิณฑบาตเยาวชนก็ไปด้วยแล้วก็เชิญชวนทำบุญด้วย จนวันสุดท้ายสามารถบอกบุญได้ทะลุ 5 ตารางเมตรไปแล้วครับ
 

เยาวชนบนดอย พากันไปบอกบุญเต็มรถหกล้อเลย


บุญกฐิน 100 ปีคุณยาย ก็ไม่พลาด ลุยข้ามอำเภอ
ไปแจ้งข่าวบุญทั่วทุกดอยเลย


พวกเรากระจายกันไปทุกบ้าน  ให้พ่ออุ๊ย แม่อุ๊ยได้ร่วมบุญใหญ่ด้วยกัน


“สูงเพียงไหน ก็ไม่เกินเข่าเรา” เด็กดอยไปบอกข่าวบุญทุกที่
 
     หลวงพ่อครับ ลูกเยาวชนบนยอดดอยทุกคนขอกราบแทบเท้าคุณครูไม่ใหญ่ที่นำบุญใหญ่ๆ มาให้พวกเราได้รื้อผังจน   ชาตินี้ขอเป็นชาติสุดท้ายที่จะต้องเจอสภาพแบบนี้ ชาติต่อๆไป ขอให้รวยตามติดคุณครูไม่ใหญ่ และมหาปูชนียาจารย์ไปทุกภพทุกชาติตราบถึงที่สุดแห่งธรรม ขอให้คุณครูไม่ใหญ่หายป่วยเร็วๆ เป็นหลักชัยให้ชาวดอยและชาวโลกตลอดไปนะครับ
 
     รักและเคารพคุณครูไม่ใหญ่ที่สุดในโลกและจักรวาล
 
กราบแทบเท้าด้วยความเคารพยิ่ง
นายศุภชัย  พยุงจำปี  ผู้แทนเยาวชนบนยอดดอย
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/latest_update/กฐินสัมฤทธิ์ เยาวชนชาวปวากอญอ.html
เมื่อ 1 กรกฎาคม 2567 03:20
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv