ธุดงค์ธรรมชัย จังหวัดสิงห์บุรี
เมื่อว่าที่พระพี่เลี้ยงกองพลแสนรูป เดินธุดงค์ธรรมชัยทุกหมู่บ้านทั่วไทยก็ปลื้มใจไปทั้งแผ่นดินภารกิจของพระกองพันและกองพลสถาปนา ที่กำลังอยู่ธุดงค์ในขณะนี้ กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่อีกรอบ นอกจาก ปลื้ม ไปทั้งแผ่นดินแล้ว ยังสร้างความ ซึ้ง ให้แก่ผู้คนทุกเพศทุกวัยอีกด้วย ซึ่งบอกได้เลยว่า แม้ขนเพลงซึ้งๆมาหมดโลกก็ไม่แน่ใจว่าจะอธิบายความซึ้งที่เกิดขึ้นในการอยู่ธุดงค์ของพระรุ่นกองพันกองพลสถาปนาในจังหวัดสิงห์บุรีได้หมดหรือไม่ เพราะสามารถทำให้ทุกวัดทุกพื้นที่ เป็นจุดรวมใจของคนทั้งชุมชนให้มาทำงานร่วมกันอย่างสมัครสมานสามัคคี และร่วมกันเชิดชูพระรัตนตรัยให้สูงค่าเริ่มต้นที่...วัดธรรมมุนี หรือ วัดสน่ำพระกองพันกองพลสถาปนาทุกรูป ต่างก็ยึดคติว่า อยู่วัดท่านอย่านิ่งดูดาย นำวัฒนธรรมคุณยาย1ไปฝากท่านด้วย โดยการนำเด็กๆที่วิ่งเล่น แถวลานวัด มาช่วยกันทำความสะอาดเสนาสนะ ตามหลักสูตรวัฒนธรรมคุณยาย เลยได้ห้องน้ำที่สะอาดแวววาวทั้งด้านในด้านนอก เอี่ยมอ่องอรทัย ก่อนทำ-หลังทำ...ต่างกันชัดเจน1คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูงสิ่งใดที่เกิดขึ้น ณ วัดสน่ำแห่งนี้ ล้วนอยู่ในสายตาของท่านเจ้าอาวาส คือ พระครูวิสิทธิ์ วรการ2 อายุ 58ปี ทุกสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาเกิดปฏิกิริยาทางใจจนอธิบายได้คำเดียวว่า ปลื้ม ท่านจึงเปล่งวาจายืนยันความปลื้มกับ พระประพนธ์ พนฺธวิชฺโช ว่า “ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดหลวงพ่อเถอะ”238พรรษา บวชตั้งแต่เป็นสามเณรพระภานุพันธ์ อตฺถวโร พระพี่เลี้ยง เล่าว่า พระครูวิสิทธิ์วรการ มักมาพูดเสมอว่า “การที่วัดพระธรรมกาย ได้ส่งพระมาอยู่ธุดงค์เป็นเรื่องที่ดีมากๆ จะได้ช่วยกันทำวัดให้รุ่ง ถ้าไปอยู่กันได้ยาวๆก็ดีเลย อยากให้ทั้งประเทศมีการอบรมพระตามรูปแบบของวัดพระธรรมกาย จะได้เป็นแบบแผนและมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ถ้าวัดพระธรรมกายต้องการใช้พื้นที่วัดสน่ำทำกิจกรรมอะไรก็ตาม วัดสน่ำยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่”ในทุกวัน พระกองพันกองพลสถาปนาได้ออกบิณฑบาต มีโยมมาใส่บาตรเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และมีโยมผู้ชายอายุประมาณ 50ปี เพิ่งมาใส่บาตรเป็นครั้งแรก เพราะความน่าเลื่อมใสของพระเข้าไปกระแทกหัวใจอย่างแรง ทำให้ทนไม่ไหวรีบลุกมาใส่บาตร ซึ่งโยมได้สารภาพว่า “ไม่ได้ใส่บาตรมานานแล้ว แต่วันนี้อดใจไม่ไหวยังไงก็ต้องมาใส่บาตร เพราะพระสงบเสงี่ยมน่าเลื่อมใสอย่างนี้ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย”พระปิยะ วิชฺชาปิโย กล่าวเปิดใจว่า “พอโยมพูดอย่างนี้ จิตวิญญาณแห่งความเป็นพระก็เข้มแข็งมากขึ้น ทำให้ผมเกิดความรู้สึกว่าอยากทำตัวให้เป็นพระที่ดี พร้อมที่จะเป็นเนื้อนาบุญอันวิเศษให้กับญาติโยมครับ”และเมื่อโยมทราบว่า พระจะอยู่ถึงวันที่ 4 ธันวาคมนี้ โยมถึงกับหน้าสลดไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “หลวงพี่อยู่นานๆได้ไหม ขออาราธนาให้อยู่ตลอดไปได้หรือเปล่า โยมจะได้ใส่บาตรทุกวัน”ซึ่งโยมท่านนี้ นับวันก็ศรัทธาพระมากขึ้นเรื่อยๆ โดยดูได้จากขนาดของภาชนะที่ใส่อาหารตักบาตรที่ใหญ่ขึ้นตามแรงศรัทธา วันแรก ใส่ข้าวในขันใบเล็กๆ วันต่อมา ขนาดของขันก็โตขึ้น จนปัจจุบัน ใส่ข้าวในขันโตกขนาดใหญ่ กับข้าวก็ทำกันมาเป็นหม้อๆ บางบ้านก็มาทั้งครอบครัวราวกับเป็นเทศกาลแห่งการตักบาตร ลูกเด็กเล็กแดงพากันมาหมดพระขวัญพล เขมพโล เล่าว่า “มีเรื่องให้ปลื้มทุกวันครับ ระยะทางของการเดินบิณฑบาต ก็ยาวขึ้นเรื่อยๆเลย เพราะมีการเอาโต๊ะมาวางหน้าบ้านเพื่อเตรียมใส่บาตรของชาวบ้านรายใหม่ๆเพิ่มขึ้นทุกวัน พ่อแม่ก็ชวนเด็กๆมาใส่บาตร ฝึกลูกให้ทำทาน เห็นแล้วรู้สึกปีติใจมากเลยครับ...หลังจากใส่บาตรกับพ่อแม่แล้ว เด็กผู้ชายมาเดินช่วยพระถือย่ามที่บรรจุถุงใส่อาหาร พอกลับจากโรงเรียนก็จะมีเด็ก 7คน หอบกระเป๋านักเรียนมาที่วัด ให้พระช่วยสอนการบ้านให้ แล้วก็มาช่วยพระทำความสะอาดวัดจากนั้นก็สวดมนต์ นั่งสมาธิกัน”วันเสาร์และอาทิตย์ แทนที่จะนั่งเฝ้าหน้าจอทีวีเพื่อดูการ์ตูน แต่เด็กๆกลับเลือกที่จะมาวัดและช่วยพัฒนาวัด พวกเขาจะกล้าเข้าใกล้พระ มาเรียนรู้ธรรมะ และคุ้นเคยกับการทำความดี เด็กชายแขก อายุ 10ขวบ ยิ่งดูปฏิทินก็ยิ่งหวั่นใจ ถอนหายใจเฮือกๆอยู่ไปอยู่มา อดรนทนไม่ไหวถึงกับเอ่ยปากพูดกับพระว่า “หลวงพี่ย้ายวัดเถอะครับ มาอยู่วัดนี้ แล้วผมจะมาบวชที่นี่ มาอยู่กับหลวงพี่ครับ”วัดหน้าพระธาตุพอทราบข่าวว่า มีพระมาปักกลดอยู่ธุดงค์ที่วัดหน้าพระธาตุ กัลยาณมิตรสมใจ จันทร์หลิ่ม หรือ ป้าแก้ว ก็ไม่รอช้ารีบชักชวนผู้นำบุญมาพร้อมอุปกรณ์ครบมือนับสิบคน มาช่วยทำความสะอาดกันอย่างขันแข็ง พร้อมทั้งนำดาวธรรมมาถวายด้วยวันแรกที่พระออกบิณฑบาต เดินไปได้ไม่ไกล ก็เห็นญาติโยม นำอาหารมาใส่บาตรวางเรียงกันเต็มไปหมด ตกใจหมดเลยครับ คิดว่าเป็นโต๊ะของร้านขายอาหาร มีทั้งอาหารคาว ของหวาน และผลไม้ จำนวนมาก ขนาดฉันได้สองมื้อ แถมเลี้ยงญาติโยมที่มารับบุญพัฒนาวัด ได้อีก 20คนสบายๆซึ่งก็มากมายมหาศาลอย่างนี้ทุกวันเลยครับเมื่อญาติโยมมาใส่บาตรและมาพัฒนาวัด พระกองพันกองพลสถาปนาก็ได้ชักชวนให้ญาติโยมมาสวดมนต์และนั่งสมาธิกัน ตกเย็นของทุกวัน ญาติโยมก็เริ่มทยอยกันมามากขึ้นเรื่อยๆครับ บางวันก็มาถึง 16คน จากที่ไม่เคยมีญาติโยมมาเลย นับว่าเป็นจุดกำเนิดเล็กๆของความสว่างไสวที่เริ่มทอประกายแสงออกมาให้ชาวพุทธในละแวกนั้นได้เห็นกัน ไม่แค่นั้นนะครับ เริ่มมีการกระจายข่าวการบวชพระแสนรูปกันแล้วด้วยครับวัดหลวงพ่อขาวเกิดความเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมาก ในเรื่องการมาเข้าวัดของสาธุชนครับ เพราะจากเดิมมีผู้คนเข้ามาทำบุญแค่วันละ 2-3คน แต่เดี๋ยวนี้เป็น 5-10คน ตอนเย็นก็มาร่วมทำวัตรเย็นและนั่งสมาธิทุกวันครับ และในเช้าวันพระมีสาธุชนมาวัดถึง 7คน และช่วงสายมีหนูน้อยนักเรียนอนุบาล 20คนจากโรงเรียนเทศบาล1 นำโดยคุณครู 4ท่าน มาฝึกสมาธิและฟังธรรมกันครับนอกจากนี้ พระกองพันกองพลสถาปนาได้เข้าไปติดต่อกับ ผอ.เกรียงไกร จงรักพงศ์เผ่า ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล1 สอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงชั้นประถมหก มีนักเรียนกว่า 500คน เพื่อขอไปนำสวดมนต์ย่อ นำนั่งสมาธิ และเทศน์สอนมงคลชีวิตเรื่องการไม่คบคนพาล ให้คบบัณฑิต และบูชาบุคคลที่ควรบูชา ในช่วงก่อนเข้าเรียนตอนบ่ายเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงของทุกวันครับเด็กๆสวดมนต์เสียงดังฟังชัด นั่งสมาธิกันตัวตรง เรียบร้อยเป็นระเบียบมาก และมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ โล่ง โปร่ง เบาสบาย และมีเด็กบางคนเห็นดวงแก้วด้วยครับวัดโพธิ์ทองกลุ่มเด็กอัศจรรย์ แก๊งมิรูโม่ ทำความดีสะท้านโลกอีกแล้ว ด้วยการตั้งกองผ้าป่า ถวายวัดโพธิ์ทอง นำทีมโดยหัวหน้าแก๊ง เด็กชายสุรชัย จิตตั่ง และรองหัวหน้า เด็กหญิงกาญจนา จิตตั่ง พร้อมสมาชิกตัวน้อยๆได้ไปบอกบุญญาติมิตรในทุกที่ทั้งที่บ้านและในแหล่งชุมชนเด็กชายสุรชัยกล่าวว่า “เพราะรอเป็นประธานกฐินสัมฤทธิ์ไม่ไหวครับ พวกผมขอซ้อมเป็นประธานผ้าป่าไปพลางๆก่อน บุญจะได้เกิดขึ้นเร็วแรง ทับทวี ทั่วถึงกันครับ”วัดเชิดหนังวัดนี้ก็มาแรงตลอด กำลังไม่มีถอยครับ วัดและชุมชนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างยิ่ง ทั้งพระกองพันกองพลสถาปนาและสาธุชน ต่างผนึกกำลังกันทำความสะอาดศาลาปฏิบัติธรรม เนื่องจากวันรุ่งขึ้นเป็นวันพระ ทำให้ศาลาปฏิบัติธรรมซึ่งด้านหน้าเป็นศาลาเปิด ไม่มีหลังคา ส่วนด้านในเป็นวิหารประดิษฐานพระประธานองค์ใหญ่ สะอาดเอี่ยมอ่องเหมือนใหม่ไปทุกพื้นที่สะอาดขนาดที่ว่า ผู้เฒ่าที่มาวัด ไม่กล้าเดินผ่านแนวกลางทางเดินเข้าอาคารเลยครับ ได้แต่เดินอ้อมๆไปที่บริเวณขอบของอาคารด้วยอาการเขย่งปลายเท้าค่อยๆกระย่องกระแย่งอย่างเกรงใจเต็มที่ เพราะกลัวว่าจะไปทำพื้นเปื้อน จนพุทธบุตรเป็นห่วงกลัวว่าผู้เฒ่าท่านจะล้ม เพราะเดินไม่เต็มเท้า จึงบอกให้คุณยายเดินตามสบาย คุณยายก็ตอบว่า “โยมไม่กล้าเดิน กลัวพื้นมันเปื้อน มันสะอาดเหลือเกิน ยังกับพื้นห้องนอน”อย่าว่าแต่คนเลยครับที่ไม่กล้าเดิน แม้แต่ไก่ มันยังเกรงใจ ไม่กล้าขึ้นมาเดินบนพื้นศาลาเลย ปกติมันจะมาหยอดของเก่าถ่ายมูลเลอะเทอะทุกวัน แต่วันนั้นแปลก ไม่มีไก่สักตัวกล้าขึ้นมาเดินบนพื้นศาลาเลยครับพระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ เห็นภาพเลยครับว่าตอนที่คุณยายอาจารย์ ท่านทำความสะอาดบ้านธรรมประสิทธิ์นั้น ญาติโยมจะรู้สึกอย่างไรและมีความเลื่อมใสศรัทธาเพียงใด ผมเข้าใจแล้วครับว่า ความสะอาดสร้างวัดได้ เพราะมิใช่เพียงความสะอาดภายนอกเท่านั้น แต่มันเกลี้ยงเกลาไปถึงใจเลยครับรุ่งขึ้นวันพระ ก็มีพิธีบุญตลอดทั้งวัน ทั้งสวดมนต์ทำวัตร นั่งสมาธิ ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน และพิธีให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน ปล่อยปลาจำนวน 50กิโลกรัม หลวงพ่อเจ้าอาวาส พระอธิการบุญสม พุทฺธิธมฺโม ก็มาเป็นประธานในพิธีด้วยครับนับเป็นก้าวแรกของการนำความสว่างกลับมาสู่ บ้าน-วัด-โรงเรียน และชุมชนใกล้เคียง ให้ทุกส่วนผสานสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ก็จะเป็นรั้วที่เข้มแข็งให้กับทุกชีวิตได้ นับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของพระกองพันกองพลสถาปนาในทุกพื้นที่ แล้วอย่างนี้ธุดงค์ธรรมชัยจะไม่แรงได้อย่างไร
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/latest_update/ธุดงค์ธรรมชัย_จังหวัดสิงห์บุรี.html
เมื่อ 23 กรกฎาคม 2567 04:10
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv