“หนูเห็นพี่แพรวและน้องไอโก๊ะยังเป็นเด็กอยู่เลย
ยังเป็นประธานกฐินได้เลย ในเมื่อพี่แพรวกับน้องไอโก๊ะทำได้ มันแกวก็ต้องทำได้ค่ะ
หนูดีใจที่จะได้เป็นประธานกฐินค่ะ เพราะการที่มันแกวจะได้เป็นต้นบุญ ต้นแบบของเยาวชนไทย
ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองขึ้น หนูถือว่าเป็นบุญใหญ่ค่ะ”
ตอนนี้น้องมันแกวเริ่มทำหน้าที่เชิญชวนเพื่อนๆในโรงเรียนแล้ว
แถมยังบอกว่าการชวนคนทำความดีในโรงเรียนเป็นเรื่องที่ง่ายนิดเดียว ตอนนี้ใกล้ออกพรรษาแล้ว ก็ต้องทอดกฐินซึ่งเป็นการรวมใจทุกคนมาไว้ที่วัด และการทอดกฐินจะทำให้วัดรุ่งเรือง
พอคนเข้าวัดเยอะ วัดร้างก็จะกลายเป็นวัดรุ่ง มันแกวจะชวนเพื่อนๆทั้งโรงเรียนเลย
และหนูก็โชคดีมากเลยค่ะ ที่คุณพ่อ คุณแม่สนับสนุนให้มันแกวทำความดี
ท่านบอกว่าเรื่องการบ้านไม่เป็นไร แต่เรื่องทำบุญต้องรีบทำ
และมันแกวจะตั้งใจนั่งสมาธิทุกเช้าและก่อนนอน วันที่หนูมานั่งสมาธิกับหลวงพ่อ
หนูนั่งสมาธิแล้วเห็นองค์พระค่ะ เห็นแล้วรู้สึกเย็นมากเลย ใจเย็นขึ้น
เหมือนลูกแก้วคล้ายๆน้ำแข็ง พอเห็นดวงแก้วก็เปลี่ยนเป็นองค์พระในทันทีเลย
พอเห็นพระก็เหมือนเอาน้ำแข็งมาแกะสลักเป็นรูปพระ แล้วก็เย็นวาบอยู่ข้างในเลย
ก็มีแสงสว่างเป็นสายรุ้ง
จากน้ำแข็งที่ใสเหมือนแก้วก็มารวมกันหลายๆดวงกลายเป็นรูปพระ
แต่ละวันพระท่านก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆใหญ่มากๆเลย
หนูตั้งใจว่าหนูจะให้พระของหนูใหญ่เท่าสภาธรรมกายสากลเลย มันแกวต้องทำให้ได้ เพราะหลวงพ่อบอกว่ามันแกวทำได้ค่ะ
เวลาที่มันแกวนั่งสมาธิแล้ว
มันแกวรู้สึกว่ามันแกวได้ทำงานที่ดีที่สุด และเวลาที่เห็นองค์พระใหญ่ๆ หนูรู้สึกว่าวันนั้นเป็นวันที่ดีที่สุดของมันแกวค่ะ
และหนูก็โชคดีกว่าใครๆที่ไม่ได้เข้าโครงการวีสตาร์เพราะโครงการวีสตาร์ได้เปลี่ยนตัวหนูจากเด็กคนหนึ่งให้กลายเป็นเด็กอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ในร่างเดียวกัน
จากที่หนูเป็นเด็กที่ซุกซนประมาณว่าขาโจ๋น่ะค่ะ ก็กลายมาเป็นเด็กดีวีสตาร์ค่ะ
เดี๋ยวเราไปติดตามเรื่องราวของน้องมันแกวผ่าน
สกู้ป...น้องมันแกว...สู่เส้นทางพัฒนาตนเองด้วยวีสตาร์