เมื่อว่าที่พระพี่เลี้ยงกองพลแสนรูป
เดินธุดงค์ธรรมชัย
ทุกหมู่บ้านทั่วไทยก็ปลื้มใจไปทั้งแผ่นดิน
ญาติโยมมารอเพื่อสวดมนต์ทำวัตรเย็นกับพุทธบุตร
อาการปลื้มแบบต่อเนื่องของธุดงค์ธรรมชัยที่
อ.ภูกระดึง จ.เลย เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เมื่อวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน หลังเสร็จจากบิณฑบาต
หลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดโพธิ์นิมิตท่านได้พาคณะธุดงค์ไปเยี่ยมโรงเรียนบ้านนาแปนซึ่งอยู่ข้างๆวัด
หลังจากที่เด็กๆ สวดมนต์บูชาพระเสร็จ คุณครูก็ได้นิมนต์ หลวงพ่อเหินและพระธุดงค์ขึ้นเทศน์ให้โอวาทที่หน้าเสาธง เมื่อหลวงพ่อเหิน
ท่านให้โอวาทไปสักพัก โดยมิได้นัดหมายหรือมีอาณัติสัญญาณแจ้งล่วงหน้า ท่านได้ส่งไมค์มาให้พุทธบุตรเทศน์ต่อ
เมื่อล็อกบุญมาถึง พุทธบุตรท่านก็ได้ใช้โอกาสอันดีนี้ ทักทายกับเด็กนักเรียน เริ่มต้นด้วยคำถามว่า “จำหลวงพี่ได้บ่”
กว่าครึ่งยกมือแล้วบอกว่าจำได้ เหตุก็เพราะว่า นักเรียนส่วนใหญ่มาตักบาตรทุกเช้า
และพระเราก็ออกบิณฑบาตทุกเช้า ส่วนคนที่ไม่ยก ก็จะโดนเพื่อนๆ แซวว่า “โต่คือบ่ย่อมตื่นมาใส่บาตรตอนเส้าเด” แปลว่า เอ็งน่ะทำไมไม่ยอมตื่นขึ้นมาใส่บาตรตอนเช้า
ทำให้บรรยากาศเช้านี้เต็มไปด้วยความสดใส
แล้วอาจารย์ก็จัดให้เด็กๆ ชั้น ป.4 ถึง ม.3
ขึ้นมาที่ห้องประชุมเพื่อฝึกสมาธิกับพระธุดงค์ ส่วนเด็กชั้นป.1-ป.3
ครูเห็นว่ายังเด็กไป กลัวจะนั่งยุกยิก แต่เด็กนักเรียนชั้นป.2 ก็บอกว่า งานนี้ชั้นป.2 ยอมไม่ได้ จึงมาขอคุณครูว่าอยากจะขอขึ้นมานั่งสมาธิด้วย
คุณครูก็อนุญาต ชั้นป.1กับ
ป.3
ก็ขอขึ้นตามมาด้วยอีกเช่นกัน สรุปก็คือเด็กๆ
ทั้งโรงเรียนสมัครใจ ขึ้นมานั่งสมาธิกันหมด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
และเมื่อถึงช่วงนั่งสมาธิ เด็กๆก็ตั้งใจนั่งกันเงียบ นิ่งจนทำให้คณะพระธุดงค์ทั้งหมดถึงกับอึ้งและทึ่ง
หลังเลิกนั่งแล้ว เมื่อเด็กๆ ได้ทราบว่าพระธุดงค์มาจากวัดพระธรรมกาย
ก็บอกว่าอยากจะขอไปเที่ยวที่วัดบ้าง พุทธบุตรจึงบอกให้มาร่วมงาน V-STAR ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้
เด็กๆ โรงเรียนบ้านนาแปนตั้งใจนั่งสมาธิไม่ยุกยิกเลย
ช่วงเวลาบ่ายสี่โมงเย็นของวันเดียวกันทางคณะพระธุดงค์ได้ร่วมกับคณะสงฆ์ในพื้นที่ จัดพิธีปล่อยปลาครั้งประวัติศาสตร์ของชาวภูกระดึง ที่อ่างเก็บน้ำบ้านห้วยยาง
ท่ามกลางเมฆหมอกที่อยู่ในหุบเขาซ้อนเรียงรายกันเป็นชั้นๆ
บรรยากาศงดงามเกินคำบรรยาย มีเด็กนักเรียนและชาวบ้านที่รู้ข่าว มาจากหลายๆ
อำเภอ รวมทั้งผู้นำบุญในจังหวัดใกล้เคียง มาร่วมงานถึงกว่า 600 คน
เมื่อถึงเวลาสว่าง ท่านปลัดอำเภอภูกระดึง กัลฯ กาญจนา แสนศาลา ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยถึงความสำคัญของกิจกรรมครั้งนี้ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการธุดงค์ธรรมชัยด้วยความปลื้มปีติ จากนั้นท่านประธานสงฆ์คือ
ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอภูกระดึง พระครูสุนทรสมาธิวัตร นำอาราธนาศีลและเจริญสมาธิภาวนา
ในช่วงที่ทำสมาธิกันนั้นบรรยากาศเป็นไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์
ไร้เสียงพูดเสียงคุยใดๆ ทั้งสิ้น
และแล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย ทุกคนต่างก็กระตือรือร้น
ช่วยกันยกถุงใส่ปลาจำนวนกว่าสองหมื่นชีวิต รวมกับปลาดุกที่ถูกเหมาจากตลาดอีกเป็นคันรถ
คณะสงฆ์ได้นำปล่อยปลาก่อน
จากนั้นผู้มีบุญทุกท่านก็ร่วมกันปล่อยปลา
ปลดปล่อยชีวิตสัตว์กว่าสองหมื่นชีวิตให้เป็นอิสระ บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนานบุญบันเทิง
และทุกๆ คนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ปลื้มมาก ประทับใจจัง...เลย
 นักเรียน ชาวบ้านและผู้นำบุญมาร่วมปล่อยปลา
กันอย่างคับคั่ง |
 คณะสงฆ์นำปล่อยปลาผ่านเส้นทางรางสวรรค์
สู่ฝั่งนที |
กิจกรรมดีๆ
ที่ทางคณะสงฆ์ได้ร่วมกันจัดขึ้น ทำให้ญาติโยมต่างตื่นตัวในการสั่งสมบุญในพระพุทธศาสนามากขึ้น, ที่วัดต่างๆ 5 วัด ที่มีพระไปอยู่ธุดงค์เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด เพราะไม่เคยว่างเว้นจากญาติโยมไปถวายภัตตาหารและพัฒนาวัดเลย และช่วงเย็น สมาชิกที่มาร่วมสวดมนต์ทำวัตรเย็นกับพระสงฆ์จากเดิมไม่ถึง
10 คนตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 30-40 คนเลยทีเดียว จากเหตุการณ์นี้ทำให้พระกองพันกองพลฯทุกรูป
มั่นใจว่า เรามาถูกทางแล้ว
ภารกิจทุกภารกิจที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่มอบให้
มีความสำคัญในการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
และเมื่อวันจันทร์ที่
30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็มีเหตุการณ์ที่สะเทือนใจพระธุดงค์ทุกรูป
เมื่อหลวงพ่อเหิน เจ้าอาวาสวัดโพธิ์นิมิตได้เมตตาพาพระธุดงค์ไป แกะรอยวัดร้าง
ท่านบอกว่า วัดที่คณะเรามาอยู่ แค่เกือบร้าง แต่ยังไม่ถึงกับร้าง ท่านจะพาไปดูของจริงว่า วัดร้างจริงๆ
เป็นอย่างไร เราเดินทางไปกันทั้งหมด 4 หมู่บ้าน แต่ละหมู่บ้านมีประชากรร้อยกว่าหลังคาเรือน ถือว่าเป็นหมู่บ้านใหญ่
แต่กลับมีวัดร้างทุกที่ ซึ่งสภาพวัดร้างแทบจะดูไม่ออกเลยว่าที่แห่งนี้เคยเป็นวัด
ที่รู้สึกสะเทือนใจมากที่สุด ก็ที่วัดสีชมพู บ้านฟองหนีบ ตำบลศรีฐาน ที่มีแต่อาคารสองสามหลังที่ไม่สามารถบ่งบอกได้เลยว่าเป็นวัด
บริเวณที่เราไปเจอสีมา ก็ช่างทรุดโทรม บริเวณโดยรอบมีแต่กองหยากเยื่อ
กองต้นไม้คละปนกับเศษกองหินและมีคอกวัวอยู่ข้างๆ เมื่อไปยืมมีดดายหญ้าของชาวบ้านแถวนั้นมาทำการเคลียร์พื้นที่ที่รกออก
ทำให้ถึงกับตะลึงว่าสถานที่ตรงนี้คือ โบสถ์เก่า
ซึ่งเป็นจุดเดียวที่สามารถยืนยันได้ว่าตรงนี้เคยเป็นวัด เมื่อเห็นอย่างนี้ทำให้พุทธบุตรทุกรูปรู้สึกสลดหดหู่มากๆ
และอยากจะต่อสู้ตามคุณครูไม่ใหญ่เพื่อกอบกู้สถานการณ์วัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง
จากการสำรวจในครั้งนี้แต่ละที่จะเจอปัญหาคล้ายๆกัน คือ 1.
ถูกรุกรานที่ดินจากชาวบ้าน 2. ไม่ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐเท่าที่ควร
และ 3.อันดับสุดท้ายที่สำคัญคือไม่มีพระ
จากการที่ได้ไปแกะรอยวัดร้าง ทุกจุดที่ไปสำรวจ จะมีชาวบ้านมาดูมาคุยด้วยทุกจุด เพราะชาวบ้านจะคอยเฝ้าดูว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า
ทุกคนมีความหวังว่า ซักวันหนึ่งจะมีพระมาอยู่ที่วัดแห่งนี้ เท่าที่ได้สอบถาม
ชาวบ้านพร้อมที่จะสนับสนุน รอแต่พระมาอยู่เท่านั้น ผู้ใหญ่บ้านฟองหนีบ เปิดใจว่า “ วัดนี้ศักดิ์สิทธิ์ (วัดสีชมพู) มีเรื่องเล่าขานศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมากมาย แต่ความฝันของผมไม่ศักดิ์สิทธิ์
ความฝันของผมที่จะมีพระมาอยู่ที่นี่ไม่ศักดิ์สิทธิ์เลย ”
 |
 |
หลังแกะรอยวัดร้าง
พุทธบุตรทุกรูปได้เดินทางกลับสู่วัดโพธิ์นิมิต
ทันทีที่ไปถึง ก็พบว่ามีญาติโยมมารอสวดมนต์ทำวัตรเย็นและดูรายการอนุบาลฝันในฝันถึง
42 คน หนึ่งในนั้นก็มีผู้ใหญ่บ้านบ้านนาเจริญ กัลฯ ทองดี เสนาริน ซึ่งท่านได้กล่าวว่า
อยากให้มีโครงการธุดงค์ธรรมชัยแบบนี้อีก ยินดีสนับสนุนร้อยเปอร์เซ็นต์
อยากให้พระมาอีกเยอะๆ ร้อยองค์ก็เลี้ยงไหว ขอให้หลวงพ่อส่งมา
และยิ่งใกล้ถึงวันกลับของพุทธบุตร ญาติโยมต่างก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์ไม่อยากให้เวลานั้นมาถึง
อยากให้พุทธบุตรทุกรูปอยู่ประจำที่นี่ ไม่ต้องไปไหนแล้ว
และปวารณาที่จะดูแลอุปัฏฐากอย่างดีที่สุด
|
ญาติโยมมารอเพื่อสวดมนต์ทำวัตรเย็น
กับพุทธบุตร |
 ท่านผู้ใหญ่บ้านผู้ใจบุญแห่งบ้านนาเจริญ
อยากให้มีพระมาธุดงค์เป็นร้อยรูป |
จากจุดเริ่มต้นนำร่องโครงการ
“ธุดงค์ธรรมชัย” บัดนี้ก่อให้เกิดการขยายผลความรักและพร้อมปกป้องดูแลพระพุทธศาสนา แต่เมื่อเทียบสัดส่วนระหว่างจำนวนพุทธศาสนิกชน
และจำนวนพุทธบุตรผู้เป็นศาสนทายาทแล้ว เกิดการลักลั่นเป็นอย่างสูง
ผู้นำด้านศีลธรรมไม่เพียงพอต่อความต้องการของสังคม ความจำเป็นในการเพิ่มศาสนทายาทที่เป็นพระแท้อย่างเร่งด่วน
จึงเป็นหนทางเดียวที่จะรักษาพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวต่อไปได้ โครงการอุปสมบทหมู่ 1 แสนรูป
ทุกหมู่บ้านทั่วไทย
ทางรอดจากวิกฤตพระพุทธศาสนาครั้งนี้
จึงเป็นภารกิจสำคัญเร่งด่วนที่ทุกคนต้องทำให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์