จดหมายจากเด็กดี
V-Star
เด็กตี๋...เด็กจ๊าบ
กลายเป็นเด็กเจ๋ง
นายพรเทพ มานะสนธิ หรือ ตี๋ เด็กดี V-Star ชั้น
ม.4 ร.ร.ศีลาจารพิพัฒน์ กรุงเทพมหานคร
กระผมนายพรเทพ
มานะสนธิ หรือที่ใครๆเรียกสั้นๆว่า “ตี๋” เด็กดี V-Star ชั้น ม.4 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ กรุงเทพมหานครครับ หลวงพ่อครับ
วันนี้ผมรู้สึกภูมิใจมากๆครับที่ผมได้เป็นเด็กดี V-Star เพราะแต่ก่อนผมเป็นคนไม่ดีเลยครับ
และก็ไม่เคยคิดว่าผมจะกลับมาเป็นคนดีได้ เพราะตั้งแต่วันที่ผมเกิดมา ผมก็ไม่เคยเห็นหน้าพ่อกับแม่เลย
ท่านแยกทางกันตั้งแต่ผมอายุยังไม่ถึง 6 เดือน แต่ผมยังโชคดีที่มียายคอยเลี้ยงดู
และคุณป้ารับผมมาเลี้ยง ท่านรักผมมากเหมือนเป็นลูกแท้ๆของท่านคนหนึ่ง ซึ่งผมเองก็รักท่านมากเช่นกัน
แล้วก็เรียกท่านว่าแม่มาโดยตลอด แต่ผมก็คิดมาตลอดว่าผมไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ผมเหงา
ผมว้าเหว่ครับ และในเมื่อมันขาดความสุข ขาดความอบอุ่น มันก็ต้องเรียกร้องความสนใจกันหน่อย...
ผมจึงชอบทำอะไรก็ได้ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเพื่อนๆ
ผมอยากเด่น อยากดัง อยากให้คนมาสนใจผม อยากให้คนทั้งโรงเรียนรู้จัก ผมจึงเอาแต่ก่อเรื่องวุ่นวายให้แม่ต้องเสียใจไม่เว้นแต่ละวัน
อะไรที่คนดีๆเขาไม่ทำกัน ผมก็ทำมาแล้วแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ดื่มเหล้า สูบบุหรี่
เล่นการพนัน โดดเรียน หรือแม้กระทั่งการทะเลาะวิวาท ตอนนั้นผมคิดแต่เพียงว่า ทำแล้ว มันเท่ห์ มันสะใจดี
และมันต้องโชว์พาวกันหน่อย (พาว มาจาก Power) จะได้เป็นที่สนใจของทุกๆคน
โดยไม่สนใจเลยว่าสิ่งที่ทำลงไปจะดีหรือไม่ดี ขอแค่ให้ลืมความทุกข์ ขอแค่สนุกและเพลินๆไปวันๆก็พอ
นายพรเทพ
มานะสนธิ
ซึ่งผมก็ดังจริงๆครับ
ทั้งโรงเรียนไม่มีใครไม่รู้จักผมเลยครับ ทุกคนจะรู้จักผมในฐานะคนที่มีอิทธิพลในโรงเรียน
เรียกว่า ไอ้ตี๋...น่ะ เหรอ มันเป็นเจ้าพ่อประจำโรงเรียนไปแล้ว จนคุณครูหลายๆท่านเบื่อหน่ายในตัวผม
จัดให้ผมอยู่ในกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ถึงขั้นต้องเฝ้าระวังหรือ ICU นั่นเองครับ แต่ถึงกระนั้นคุณครูทุกท่านก็ยังเมตตาผม
พยายามหาวิธีช่วยให้ผมกลับตัวกลับใจเป็นคนดี แต่ก็ไม่ช่วยให้ผมตาสว่างได้เลยครับ
คุณครูอาจารีย์ พิมพะนิตย์ คุณครูประจำชั้น
จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีโครงการ V-Star ผู้นำฟื้นฟูศีลธรรมโลก เข้ามาในโรงเรียน คุณครูอาจารีย์ พิมพะนิตย์
คุณครูประจำชั้นของผม ซึ่งผมรักท่านมากและเรียกท่านว่าแม่
ท่านแนะนำให้ผมมาเข้าโครงการ ผมก็เลยลองไปสมัครดู ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรครับ
V-Star คืออะไร
ผมก็ยังไม่รู้และเมื่อเข้ามาเป็น เด็กดี V-Star ก็ต้องมีการทำกิจวัตร
10 ประการ ตอนที่เริ่มทำ
แรกๆผมก็ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง อย่างเก่งก็แค่ 5 ข้อ
แต่ตอนนี้ผมทำได้ครบทั้ง 10 ข้อ เป็นปกติแล้วนะครับ
คุณครูอาจารีย์ พิมพะนิตย์ คุณครูประจำชั้น
ผู้แนะนำโครงการ V-Star ให้กับตี๋
นอกจากกิจวัตร
10 ประการแล้ว ที่โรงเรียนยังมีบุญพิเศษ คือ
การทำบุญตักบาตรทุกวันพฤหัสบดี ตอนนั้นผมเห็นเพื่อนทำ ผมก็คิดว่า
อะไรที่ยังทำไม่เป็นก็ทำตามๆเขาไปก่อน แต่หลังๆผมก็เริ่มคิดเองได้ว่า “วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีนะ ที่โรงเรียนมีการตักบาตร เราต้องตื่นไปตักบาตรนะ”
และหลังจากที่ผมได้ทำกิจวัตรกิจกรรมของ
V-Star บ่อยๆ ได้สวดมนต์ นั่งสมาธิ มากขึ้น ทำให้ผมเริ่มมองเห็นตัวเอง
ได้ทบทวนตัวเอง ทำให้คิดได้ว่า ที่ผ่านมาเราทำไม่ดีหลายอย่าง
ทำให้คนที่รักและหวังดีต่อเราต้องเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่า พอคิดได้อย่างนั้นผมก็เริ่มต้นด้วยการไปกราบขอโทษคุณพ่อคุณแม่(บุญธรรม)
ในทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเคยทำไม่ดี แล้วก็ไปกราบขอโทษคุณครูประจำชั้น
และบอกกับท่านว่า “ถึงผมจะไม่ได้เป็นเด็กดี 100% แต่ผมก็ขอเป็นคนดี ของขวัญปีใหม่ที่ผมจะให้กับคุณครู ก็คือ การเลิกสูบบุหรี่แล้วก็เป็นคนดีครับ”ตอนนั้นคุณครูหลายท่านก็มองว่า “ตี๋จะทำได้เหรอ”
ขณะเดียวกัน
ในช่วงที่ผมกำลังพยายามปรับตัวเป็นคนดี เป็นเด็กดี V-Star อยู่นั้น เวลาผมคุยกับใครเขาก็ไม่ค่อยจะคุยด้วย เขาเดินหนีตลอด หน้าผมเขาก็ไม่มอง
แต่ผมก็ไม่เคยท้อนะครับ พยายามทำดีต่อไปเรื่อยๆ ผมจะทำให้ทุกคนรู้ว่า ระยะทางพิสูจน์ม้า
กาลเวลาได้พิสูจน์คนอย่างตี๋ครับ “คนอย่างไอ้ตี๋เนี่ยแหละ
ก็เป็นคนดีกับเขาได้เหมือนกัน” ผมมุ่งหน้าทำความดีต่อไปและผมก็คิดว่า
วันหนึ่งเราจะพิสูจน์ตัวเองว่า จนหลังๆเริ่มมีคนเข้ามาคุยกับผม มาขอเป็นเพื่อนสนิทกับผมเยอะแยะไปหมดเลยครับ
แถมยังชมผมว่า “เดี๋ยวนี้...ตี๋ นายนิสัยดีขึ้นกว่าเก่านะ
มารยาทก็ดีขึ้น พูดจาก็ดีขึ้น” เพื่อนบางคนก็บอกกับผมว่า “ตี๋...เรารักนายวะ”
“เราอยากทำให้ได้อย่างนายบ้าง นายช่วยบอกเราหน่อยสิว่า
นายเปลี่ยนตัวเองเป็นตี๋คนใหม่ได้ยังไง” ส่วนคุณครูก็ชมผมว่า “เดี๋ยวนี้งานก็ส่ง แถมส่งก่อนกำหนด แล้วยังทำงานได้ดีกว่าเพื่อนอีกนะ"
พอมีคนมาชมอย่างนี้ผมก็รู้สึกดีใจมากๆครับ
ทำให้มีกำลังใจที่จะทำความดีต่อไป เริ่มมองเห็นคุณค่าของตัวเอง
รู้สึกอยากทำอะไรดีๆเพื่อสังคม อีกทั้งคุณครูอาจารีย์ ท่านทำให้ผมได้ค้นพบว่า
ผมมีความสามารถด้านดนตรี ผมได้เล่นดนตรี และได้กลายเป็นนักดนตรีประจำโรงเรียน
ได้เป็นช่างภาพ เป็นผู้นำกิจกรรม เป็นผู้ช่วยคุณครูดูแลน้องๆในโรงเรียน เรียกว่า
ตอนนี้ถ้ามีงานกิจกรรมอะไร ทุกคนต้องถามหา พี่ตี๋ กันทั้งโรงเรียนเลยล่ะครับ
และที่ผมภูมิใจมากๆก็คือ ผมก็ได้รับมอบหมายให้เป็นคนนำสวดมนต์ ในวันที่มีการทำบุญตักบาตรของโรงเรียน
ผมกลายเป็น V-Star รุ่นพี่ ที่นำรุ่นน้อง ทำแต่สิ่งดีๆ แล้วก็ยังดึงเพื่อนๆที่เคยร่วมก๊วนซ่ากับผม
ให้มาเป็น V-Star เหมือนกับผม
ที่สำคัญผมมีผลการเรียนที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จากเดิม ก่อนที่จะเข้าโครงการ V-Star
ได้แค่ 2.10 เพิ่มมาเป็น 2.96 ทำให้คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจในการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของผมมากๆครับ
พิธีตักบาตรที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกวันพฤหัสบดีของสัปดาห์
โดยมีตี๋เป็นผู้นำจัดกิจกรรม
ตี๋เป็นผู้นำสวดมนต์ในพิธีทำบุญตักบาตร
ประจำสัปดาห์ของโรงเรียนด้วย
แม้ฝนตกตี๋ก็ไม่หวั่น ผมนั่งสมาธิร่วมกับเพื่อนๆ
ในวันรวมพลังเด็กดี V-Star ครั้งที่ 1
หลวงพ่อครับ
มาถึงวันนี้แล้ว ผมจะไม่ขอกลับไปมองอดีตที่ผิดพลาดอีกต่อไป
แต่จะขอมุ่งทำความดีให้ยิ่งๆขึ้นไป ผมจะทำความดีให้สุดฝีมือ สุดชีวิตของผมเลยครับ ให้คนเขารู้ไปเลยว่า...จาก นายตี๋เด็กไม่ดี กลับมาเป็นเด็กดีได้ก็เพราะโครงการ V-Star ครับ
ผมต้องขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่มากๆนะครับ
ที่หลวงพ่อได้เมตตาดำริโครงการดีๆอย่างนี้ขึ้นมา ทำให้เด็กตี๋...เด็กจ๊าบ อย่างผม
กลายเป็นเด็กเจ๋ง ผู้นำฟื้นฟูศีลธรรมโลก ได้อย่างไม่น่าเชื่อ...ครับ
แล้วผมจะพาเพื่อนๆและน้องๆเด็กดี V-Star ที่โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์
มากราบหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ในวันรวมพลังเด็กดี V-Star ผู้นำฟื้นฟูศีลธรรมโลก ที่จะถึงนี้ งานนี้ยกโขยงมากัน 180 คนเลยนะครับ
ลูกตี๋...ครับ
เดี๋ยวเราไปชมเรื่องราวของลูกตี๋ ผ่านสกู้ปเด็กตี๋...เด็กจ๊าบ
เด็กเจ๋ง กันตอนนี้ได้เลยจ้า