โครงการอุปสมบทหมู่ 7000 รูป 7000 ตำบลทั่วไทย
 
     การทำหน้าที่แบบเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการเชิญชวนผู้มีบุญมาบวช ได้ปลุกกระแสความรักในพระพุทธศาสนาที่หยั่งลึกในหัวใจของชาวพุทธให้ตื่นตัว และหันกลับมาช่วยกันฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ด้วยการสถาปนาศาสนทายาทผู้สืบทอดครั้งใหญ่ในแผ่นดินถึง 7000 รูป 7000 ตำบลทั่วไทย
 
     “คนจริงแม้น้อยราย สว่างได้ทั้งแผ่นดิน” เป็นสิ่งที่ผู้นำบุญจังหวัดมหาสารคามยืนยัน และมุ่งมั่นในการทำหน้าที่อย่างไม่มีข้อแม้และเงื่อนไข นำทีมโดย กัลฯ บุญเรือน นักรบ, กัลฯ วันนิพา จูวัฒนสำราญ และกัลฯ วชิรา เทพามาตย์ เหล่าขุนศึกกกล้าอาสา ผู้นำพาความสว่างมาสู่ จ. มหาสารคาม
 
     กัลฯ บุญเรือน ได้กล่าวว่า การทำหน้าที่ของพวกเราเริ่มต้นจากการทดลองประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ หลายแห่งแต่ผลตอบรับบางแห่งยังคงต้องรอไปก่อน เมื่อเราไม่รู้ว่าจะต้องรอไปอีกเมื่อไร และงานใหญ่ของพระพุทธศาสนาครั้งนี้ เราไม่อาจรอใครได้ เราจึงต้องมองหาคนจริงด้วยกัน ที่จะมาทำฝัน 7000 รูป 7000 ตำบลนี้ให้เป็นจริง  แต่ด้วยอานุภาพอันมหาศาลของการบวช 7000 รูป 7000 ตำบลครั้งนี้ พวกเราจึงได้รับความเมตตาจากท่านรองเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม พระราชปริยัติยาธร ที่ท่านเปรียบเสมือน(พระ)เอกขี่ม้าขาวเข้ามาช่วย เมื่อท่านทราบข่าวการบวชมหากุศลโดยละเอียดและได้เข้าใจถึงวัตถุประสงค์ ท่านได้กล่าวว่าโครงการของหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่เป็นโครงการที่ดีมาก นี่เป็นการบวชที่สามารถกู้วิกฤตพระพุทธศาสนา ทำให้ศาสนามีความมั่นคง เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา แล้วก็เป็นเหมือนงานบุญของจังหวัดเราด้วย เพราะเป็นการบวชทั้งแผ่นดิน ท่านจึงรำพึงขึ้นมาว่า “ต่อไปวันข้างหน้าถ้าไม่มีพระภิกษุสงฆ์อยู่แล้ว จะไปอบรมใคร สอนใคร ปกครองใคร ถ้าเราไม่มีทายาท    พระพุทธศาสนาก็ตายไปกับเราอย่างแน่นอน ”
 
     เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ท่านจึงได้เรียกประชุมเจ้าคณะอำเภอเป็นวาระพิเศษเร่งด่วน หลังจากทราบข่าวเพียง 3 วัน และต่อมาในช่วงเวลาติดๆ กันก็มีการประชุมในตำบลทุกตำบล โดยท่านรองเจ้าคณะจังหวัดได้เมตตาไปเป็นประธานด้วยตนเอง บรรยากาศในที่ประชุม ท่านได้ถามว่า “เจ้าคณะตำบลใดส่งคนมาบวชไม่ได้บ้าง ให้พูดในที่ประชุมเลย จะได้รู้” เมื่อทุกรูปเงียบ ก็สรุปเป็นฉันทานุมัติว่าทุกตำบลโอเคทำได้หมด
 
     ท่านรองเจ้าคณะจังหวัดได้กล่าวว่า งานนี้คณะสงฆ์จังหวัดมหาสารคามจะไม่นิ่งดูดาย จะให้คุณครูไม่ใหญ่ทำอยู่รูปเดียวไม่ได้ คณะสงฆ์จะต้องออกมาช่วยกัน และถือเป็นหน้าที่ของสงฆ์โดยตรงที่จะต้องสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา  ไม่เช่นนั้นเวลาบิณฑบาตก็จะลำบาก  ต้องมีทหารคอยเดินตาม แล้วใครจะมาใส่บาตรให้ ถ้าเราไม่ทำอะไรไม่รับเป็นภาระในเรื่องนี้ พระพุทธศาสนาก็ต้องตายไปกับชีวิตของเราอย่างแน่นอน งานนี้ไม่ได้ทำเพื่อวัดใดวัดหนึ่งแต่เราทำเพื่อพระพุทธศาสนาของเรา
 
     เมื่อท่านเจ้าคณะตำบลทุกตำบลได้ทราบข้อมูล บางตำบลก็ขอรับไปมากกว่า 1 รูป เพราะเชื่อมั่นว่า ทำได้แน่นอน การทำหน้าที่ของพุทธบุตรที่ จ.มหาสารคาม ตอนนี้จึงทวีความเข้มข้นขึ้นทุกขณะ เพราะทุกรูป ต่างทำหน้าที่ด้วยหัวใจรักในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง นอกจากจะทำหน้าที่เชิญชวนชาวบ้านในตำบลมาบวชแล้ว ท่านยังรับหน้าที่สอบขานนาคให้กับทุกคนด้วย
 
     และในวันที่ 16 สิงหาคม ก็จะเป็นวันดีเดย์ปิดยอดผู้สมัครบวชที่ท่านรองเจ้าคณะจังหวัดได้มอบภารกิจไว้กับเจ้าคณะตำบลทุกรูป แต่ก็ขอบอกว่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะพระที่นี่ เป็นพระจริง ทำงานจริง สำเร็จจริง ขณะนี้ ที่จ.มหาสารคาม มียอดผู้สมัครบวชเข้ามาแล้ว 43 คน และขอประกาศชิงชัยตีไข่แตก 1 ตำบล 1 รูป ภายในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ แน่นอน ฟันธง!
 
     ในวันที่ 21 สิงหาคม ก็จะจัดพิธีตัดปอยผม และขอขมาพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ที่จะจัดขึ้นที่วัดปัจฉิมทัศน์ จ. มหาสารคาม ซึ่งเป็นวัดของท่านรองเจ้าคณะจังหวัด  เสร็จแล้วก็จะยกพลทหารเตรียมบวชไปส่งยังวัดพระธรรมกายภายในเย็นวันนั้นทันที 
 
     กัล ฯ บุญเรือน กล่าวว่า การทำหน้าที่ครั้งนี้ ทีมงานมีความประทับใจและซาบซึ้งในความเมตตาของพุทธบุตร จ.มหาสารคามเป็นอย่างยิ่ง คิดว่าการทำหน้าที่ของเรามาถูกทางแล้ว และพุทธบุตรทั่วประเทศไทย หากท่านได้รับทราบวัตถุประสงค์และความสำคัญของโครงการอุปสมบทหมู่ 7000 รูป 7000 ตำบลทั่วไทยแล้ว ก็เชื่อมั่นว่า ท่านจะไม่ดูดายแน่นอน 
 
 
พระราชปริยัติยาธร รองเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม
 
 
บรรยากาศการประชุมวาระพิเศษ 7000 รูป กับเจ้าคณะอำเภอ
 
 
กัลฯ บุญเรือน นักรบ และกัลฯ วันนิพา จูวัฒนสำราญ
 
 
กัลฯ วชิรา เทพามาตย์
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/latest_update/ไม่อาจรอได้.html
เมื่อ 1 กรกฎาคม 2567 05:11
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv