Peace Revolution

ขณะนี้ โครงการพีซ เรฟโวลูชั่น เดินทางมาถึงช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำสันติภาพภายในสู่การสร้างสันติภาพโลก ประจำปี พ.ศ.2553 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ถึง 4 มีนาคม ซึ่งการประชุมครั้งนี้ น่าจะเรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกของโลกก็ว่าได้ ที่มีการรวบรวมผู้นำเยาวชนนานาชาติกว่า 30คน จาก 23ประเทศ เพื่อประชุมแบบไม่พูด กว่าหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจะมาประชุมแบบพูด เพื่อพิสูจน์สมการที่ว่า การไม่พูดสามารถทำให้การพูดมีประสิทธิภาพ และบรรลุเป้าหมายได้ดีกว่า

ตลอดระยะเวลาหกวันของการปฏิบัติธรรม ที่สวนสุขสว่าง จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 21-26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 เยาวชนพีซ เรฟโวลูชั่น ต่างได้รับความสุขจากภายใน ดังนี้

แจ๊กเกอลีน เจอร์มาน ฮูราร์ด

“ชุ่มเย็นที่กลางความสว่างของดวงตะวันภายใน”

แจ๊กเกอลีน เจอร์มาน ฮูราร์ด หรือ แจ๊คกี้ จาก ปารากวัย

“ในวันที่สี่ของการปฏิบัติธรรม มันเป็นวันแรกที่ดิฉันสามารถนั่งขัดสมาธิได้ทั้งรอบ ดิฉันนั่งได้นิ่งไม่ขยับตัวเลย เพราะรู้สึกว่าตัวเองโปร่งใส นั่งเหมือนไม่ได้นั่ง คล้ายตัวเองเป็นสุญญากาศที่ลมสามารถพัดผ่านไปได้ แล้วดิฉันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ จากนั้นก็เห็นแสงสว่าง ซึ่งสว่างมากๆ ดิฉันมีความสุขมาก เมื่อดิฉันได้คุยกับเพื่อนๆ และรู้ว่าพวกเขาก็เห็นแสงสว่างเหมือนกัน ดิฉันรู้สึกประหลาดใจมากว่า ทำไมหนอคนเราที่มาจากที่ต่างกัน มีความแตกต่างทั้งเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ จึงสามารถเห็นสิ่งเดียวกันได้เพียงแค่หลับตา บัดนี้ชีวิตดิฉันเปลี่ยนไปแล้ว และโลกก็กำลังจะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยค่ะ

อีกอย่าง คือ ช่วงแรกที่เข้าไปนั่งสมาธิในห้องปฏิบัติธรรม ดิฉันรู้สึกกลัวภาพของหลวงปู่ (พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปาน้ำภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี สด จนฺทสโร ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย) ที่ตั้งอยู่เบื้องหน้ามาก แต่พี่เลี้ยงบอกว่าถ้าตั้งใจนั่งสมาธิหลวงปู่จะยิ้มให้ แล้วในวันสุดท้าย ท่านก็ยิ้มให้ดิฉันจริงๆ เพราะวันนั้นใจดิฉันนิ่งมากๆ สามารถมองเห็นแสงที่สว่างมากที่ศูนย์กลางกาย แล้วก็เห็นดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้นมา ดิฉันสัมผัสได้ถึงความชุ่มเย็นที่กลางความสว่างนั้น”

โรเจอร์ บั๊กกาบูลินดี

“ผมไม่เคยเห็นแสงสว่างจ้าและไม่เคืองตา แบบนี้มาก่อนเลย”

โรเจอร์ บั๊กกาบูลินดี จากประเทศยูกันดา

“ช่วงเช้าของวันที่ห้า เมื่อผมนั่งหลับตา รู้สึกเหมือนว่าผมหน้ามืดไป เหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวผมหยุดนิ่งไปหมด และผมก็ไม่รับรู้สิ่งที่อยู่ภายนอกอีกต่อไป ผมรู้สึกสงบ จากนั้นไม่นานผมก็เห็นแสงสว่าง ซึ่งสว่างจ้ามากๆ แบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน แม้แสงจะสว่างมากแต่ก็ไม่ได้เคืองตาของผมเลย”

อดอลฟุส เกมัวร์

“ผมไม่ใช่ชาวพุทธ แล้วจะเห็นพระภายในตัวได้อย่างไร”

อดอลฟุส เกมัวร์ จากประเทศไลบีเรีย

“เมื่อผมนั่งสมาธิในวันที่สี่ ผมรู้สึกว่าผมสามารถอยู่ที่ศูนย์กลางกายได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เยี่ยมมาก ร่างกายของผมเบา จากนั้นผมเห็นภาพของพระองค์หนึ่ง ซึ่งหลังของท่านเป็นแสงสว่างสีรุ้ง ผมรู้สึกดีและมีความสุขมากๆ แต่ในขณะเดียวกันผมก็กลัว เพราะว่าผมไม่ใช่ชาวพุทธ แล้วจะเห็นพระได้อย่างไร เมื่อผมนั่งสมาธิต่อไป ผมก็เห็นแต่พระ แต่คราวนี้ไม่ใช่พระสงฆ์แล้ว แต่กลับกลายเป็น Buddha

หลังจากกลับมาจากสวนสุขสว่าง ผมก็นั่งสมาธิทุกวัน วันละสามรอบ รอบละหนึ่งชั่วโมง และในวันที่ 1_มีนาคม ซึ่งเป็นพิธีเปิดการประชุม ผมก็ได้รับประสบการณ์ที่ผมจะต้องจำไปตลอดชีวิต เมื่อใจผมนิ่งที่ศูนย์กลางกาย ผมก็เห็นลูกโป่งใสๆ (Bubble) ออกจากศูนย์กลางกาย ขยายออกมาเป็นสาย แม้ผมจะลืมตาลูกโป่งก็ยังขยายที่กลางกายของผมตลอดเวลา ผมมีความสุขมากครับ”

เอมม่า เลา (คนกลาง)

“สุดปลายท่ออุโมงค์ ดิฉันมีความสุขอย่างควบคุมไม่ได้เลยค่ะ”

เอมม่า เลา จากฮ่องกง

“ดิฉันนึกว่าตัวเองนั่งอยู่ในที่โล่งๆว่างๆ แล้วจู่ๆก็รู้สึกเหมือนถูกดูดจากศูนย์กลางกาย ทำให้ดิฉันกลัวมาก หลังจากลงมาจากเชียงใหม่ ดิฉันก็ยังคงนั่งสมาธิทุกวัน พระอาจารย์บอกว่า ถึงอย่างไร ดิฉันก็ต้องโดนดูด ดิฉันจึงทำใจยอมรับการโดนดูดอย่างโดยดี และในวันที่ 1_มีนาคม ดิฉันก็รู้สึกว่า ตัวของดิฉันถูกดูดเป็นครั้งที่สาม แต่ครั้งนี้นุ่มนวลมาก พอไปสุดปลายท่ออุโมงค์ ก็รู้สึกถึงที่โล่งกว้างใหญ่มาก ดิฉันมีความสุขอย่างควบคุมไม่ได้เลยค่ะ (Uncontrollable Happiness)

นอกจากนี้ ยังมีผลการปฏิบัติธรรมของพี่เลี้ยง ซึ่งเป็นเยาวชนที่มาเมื่อปีที่แล้วอีกด้วย หนึ่งในนั้นคือ

อู๊ซชูล่า เลย์ว่า คาร์บอเน่

“ตัวฉันเป็นองค์พระ และองค์พระเป็นตัวดิฉัน”

อู๊ซซูล่า เลย์ว่า คาร์บอเน่ จากประเทศเปรู

“เมื่อดิฉันกลับจากประเทศไทย หลังเข้าร่วมการประชุม Peace Revolution เมื่องานมาฆบูชาปีที่แล้ว ดิฉันก็กลับไปนั่งสมาธิต่อที่ประเทศเปรู ดิฉันชอบนั่งสมาธิท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งยังใจดิฉันให้ชุ่มเย็น และเพลิดเพลินไปกับสายลม และดอกไม้นานาพันธุ์ ดิฉันไม่เคยทิ้งการนั่งสมาธิเลย และวันหนึ่งเมื่อดิฉันนั่งสมาธิ ก็รู้สึกว่าตัวดิฉันเป็นองค์พระ และองค์พระเป็นตัวดิฉัน (I was Buddha, Buddha was me)

องค์พระส่องสว่างและทรงพลังมาก ดิฉันได้ประสบการณ์นี้สองสามครั้งที่ประเทศเปรู บางครั้งดิฉันรู้สึกว่า ร่างกายของดิฉันกลายเป็นองค์พระที่ละเอียดอ่อน และรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปแค่ไม่กี่วินาที แต่จริงๆเวลาผ่านไปแล้วกว่าครึ่งชั่วโมง

หลังจากนั้น ดิฉันตัดสินใจกลับมาช่วยงาน Peace Revolution ในฐานะพี่เลี้ยง ยิ่งทำให้ประสบการณ์ภายในของดิฉันดียิ่งขึ้นไปอีก ดิฉันรู้สึกเหมือนกับว่าตกจากที่สูง ครั้งแล้วครั้งเล่า (falling down and down and down)

หลังจากนั้น ดิฉันก็เห็น Bubble หลากหลายสีที่ใหญ่มากพุ่งขึ้นมาหา ดิฉันตกใจนิดหน่อย แต่แล้วดิฉันก็ยิ่งตกใจกว่าเดิม เพราะว่า ดิฉันเห็น Buddha หนึ่งองค์ แล้วท่านก็ขยายกว้างออกไป จู่ๆก็มี Buddha องค์ใหม่ปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง Buddha คลุมตัวของดิฉัน จนกลายเป็นตัวของดิฉันเอง แม้ว่าดิฉันจะเห็นภาพต่างๆ มากมายขณะนั่งสมาธิ แต่ภาพ Buddha ที่ดิฉันเห็นทรงพลังมากที่สุดเลยค่ะ แสงสว่างมีตลอดเวลา ทำอย่างไรก็ไม่หาย ดูดหนักเข้าไปทุกที ไม่รู้จะเดินอย่างไร รู้สึกเหมือนถูกดูดตลอดเวลา ดิฉันสงสัยว่า ภาพ Buddha เป็นภาพสากลหรือเปล่า ทำไมใครๆถึงเห็นเหมือนกันได้คะ”

ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของประสบการณ์ภายในที่เยาวชนพีซ เรฟโวลูชั่น ได้รับระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำสันติภาพโลกที่ผ่านมา