ปรโลกนิวส์...ต่างคนต่างมา ต่างคนต่างไป 2

ปรโลกนิวส์...ต่างคนต่างมา ต่างคนต่างไป ตอนที่ 1 คลิกที่นี่

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที

แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

ในขณะที่พระได้มาหาคุณพ่อของลูกในยมโลกนั้น ทัณฑ์ทรมานที่ท่านได้รับอยู่ก็พลันหยุดลงในทันที(ไม่ใช่หยุดเฉพาะท่านเท่านั้นแต่หยุดทั้งหมด)จากนั้น พระได้ฉายภาพการสร้างบารมีที่ตัวลูกสั่งสมมาจากการทำหน้าที่เป็นอุบาสก เพื่อรับใช้งานพระศาสนา และอยู่ร่วมสร้างบารมีกับหมู่คณะมา ร่วมสามสิบปี ให้คุณพ่อของลูกได้เห็น

เมื่อคุณพ่อของลูกได้เห็นภาพการสร้างบารมีของลูกแล้ว ด้วยสายใยแห่งความผูกพันที่ตัวท่านมีต่อตัวลูก ภายในใจของท่านจึงปรากฏภาพของตัวลูก ตั้งแต่ช่วงที่ตัวลูกเกิดจนกระทั่งตัวลูกเติบโต ใจของท่านก็ค่อยๆดีขึ้นไปเรื่อยๆ และท่านก็ได้เห็นภาพต่อไปอีกในช่วงที่ท่านไม่เคยได้เห็น คือ การสร้างบารมีของตัวลูก

ใจของท่านก็เปิด หลังจากนั้น พระได้เอาสายบุญที่ตัวลูกได้ทำทั้งหมดไปเชื่อมติดกับศูนย์กลางกายของคุณพ่อของลูก เมื่อสายบุญของตัวลูกได้ไปเชื่อมติดอยู่ที่ศูนย์กลางกายของท่านแล้ว กระแสบุญก็ได้หล่อเลี้ยง จนทำให้ใจของท่านรู้สึกปลื้มปีติเบิกบานใจ ในทุกๆบุญที่ลูกได้ทำแล้วอุทิศส่งไปให้ท่าน กายที่เป็นสภาพของผู้ต้องขังในยมโลกก็ค่อยๆเปลี่ยน...เปลี่ยน จนกระทั่งสว่างไสวขึ้นมาทันที

เมื่อใจของคุณพ่อของลูกเกิดความปลื้มปีติเบิกบานใจมากแล้ว บุญที่ตัวท่านเคยทำกับบุญที่ลูกได้ทำแล้วอุทิศส่งไปให้ท่าน ก็ได้ช่องส่งผล มากเพียงพอที่จะเปลี่ยนภพภูมิให้ตัวท่านได้ พอกายของท่านเปลี่ยน พระก็นำคุณพ่อของลูกไปไว้ที่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาในทันที เมื่อคุณพ่อของลูกได้ย้ายสถานที่จากยมโลกไปอยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาแล้ว ท่านก็ได้แปรเปลี่ยนไปเป็นเทพบุตรคนธรรพ์ ระดับกลาง ซึ่งมีวิมานที่ใหญ่โตสวยงามตามกำลังบุญของท่าน

คุณพ่อของลูกรู้สึกดีอกดีใจ รู้ซึ้งถึงคุณค่าของการสั่งสมบุญอย่างมาก เพราะในช่วงที่ท่านต้องไปรับกรรมอยู่ในยมโลกนั้น เป็นช่วงที่ท่านได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสที่สุด และเมื่อท่านพ้นจากการถูกลงทัณฑ์ทรมานแล้ว ท่านก็เกิดความรู้สึกอยากจะทำความดี และไม่อยากจะทำสิ่งที่ไม่ดีอีกเลย เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องไปรับกรรมในอบายอย่างที่ผ่านมาอีก

หลังจากนั้น ท่านเทพบุตรใหม่ ก็ได้ก้มลงกราบพระด้วยความเคารพอย่างสูงสุด ที่พระได้ช่วยเชื่อมบุญจนทำให้ท่านได้มาอยู่ที่ตรงนี้ และพระก็ได้สอนให้เทพบุตรใหม่นั่งสมาธิ เพื่อที่บุญจะได้ช่องหล่อเลี้ยงท่านอยู่ตลอดเวลา โดยพระได้กำชับให้ท่านนั่งสมาธิทุกวันอย่าให้ขาด อย่าประมาทหรือมัวหลงเพลิดเพลินในทิพยสมบัติต่างๆ เพราะทิพยสมบัติของท่านโดยส่วนใหญ่นั้น ล้วนเกิดจากบุญที่ลูกชายของท่านส่งมาให้ทั้งสิ้น

เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ท่านใช้ชีวิตอย่างประมาทจนบุญหมด ท่านก็อาจจะต้องตกสวรรค์ และอาจจะต้องกลับไปรับโทษทัณฑ์อยู่ในยมโลกอีกครั้ง ซึ่งคุณพ่อของลูกก็รับปากกับพระเป็นอย่างดีว่า ท่านจะปฏิบัติตามที่พระบอกทุกประการ และในขณะนี้ คุณพ่อของลูกก็กำลังมีความสุขในภพภูมิใหม่ของท่านเป็นอย่างมาก

ในส่วนของคุณแม่ของลูกนั้น เมื่อมีพระไปหาท่าน ท่านก็รู้สึกดีอกดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อท่านเห็นพระมาหา ท่านก็ได้ก้มลงกราบพระในทันที หลังจากนั้น พระได้ฉายภาพการสร้างบารมีที่ตัวลูกในฐานะที่เป็นลูกของท่านในตอนเป็นมนุษย์ ได้สั่งสมจากการทำหน้าที่เป็นอุบาสกเกือบสามสิบปี ให้คุณแม่ของลูกได้เห็น เมื่อท่านได้เห็นภาพการสร้างบารมีที่ตัวลูกทำและอุทิศส่งไปให้ท่านแล้ว ท่านก็เกิดความรู้สึกปลื้มปีติใจเป็นอย่างมาก

เมื่อภายในใจของคุณแม่ของลูก เกิดความปลื้มปีติเบิกบานใจ บุญที่ตัวท่านเคยทำกับบุญที่ตัวลูกได้ทำแล้วอุทิศส่งไปให้ท่านก็ได้ช่องส่งผล เมื่อพระเห็นว่ากำลังบุญของคุณแม่ของลูก เพียงพอที่จะทำการเปลี่ยนภพภูมิให้ท่านแล้ว ภพภูมิของสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาไม่อาจจะรองรับผู้มีกำลังบุญอย่างนี้ได้ พระก็ได้นำคุณแม่ของลูกไปไว้ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เฟสสอง ในทันที

เมื่อคุณแม่ของลูกได้ย้ายไปอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เฟสสอง เรียบร้อยแล้ว ท่านก็ได้ถูกอัพเกรดจากเทพธิดายักษ์สุดสวย ไปเป็นเทพธิดาดาวดึงส์ที่สุดสวยกว่ามากๆ ส่วนวิมานของท่านก็มีขนาดที่ใหญ่โตโอฬาร อลังการมากกว่าวิมานที่ท่านเคยอยู่ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาเป็นอย่างมาก อีกทั้งบริวารก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

คุณแม่ของลูกรู้สึกดีใจและปลื้มใจ ที่พระให้ความเมตตาเชื่อมสายบุญที่ตัวลูกเองได้ทำแล้วส่งไปให้ท่าน จนทำให้ท่านได้กลายมาเป็นเทพธิดาสุดสวยที่มีทิพยสมบัติมากมายกว่าเดิม ประณีตกว่าเดิม จากนั้น คุณแม่ของลูกก็ก้มลงกราบพระด้วยความสงบ ให้ความเคารพพระเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งพระก็ได้สอนให้ท่านนึกถึงบุญที่ท่านทำ และบุญที่ตัวลูกส่งมาให้อยู่เสมอ และที่สำคัญ พระก็ได้กำชับให้ท่านเทพธิดานั่งสมาธิทุกวัน อย่าให้ขาดแม้แต่เพียงวันเดียว เพื่อที่ท่านจะได้เสวยสุขอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ไปอีกนานๆ

ในเวลาต่อมา หลังจากที่พระได้ช่วยคุณพ่อคุณแม่ของลูกไปอยู่ในภพภูมิที่ดีกว่าเดิมแล้ว พระได้ไปหาท่านเทพธิดาสุดสวยบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อีกครั้งหนึ่ง ที่พระได้ไปหาครั้งนี้ก็เพื่อจะไปชวนท่านเทพธิดาสุดสวยให้ได้ไปพบกับท่านเทพบุตรใหม่(เทพบุตรคนธรรพ์)ซึ่งก็คือคุณพ่อของลูกนั่นเอง ที่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา โดยแนะนำให้ท่านเทพธิดาเดินทางไปในครั้งนี้ด้วยเทวรถ

ท่านเทพธิดาจึงได้ไปเลือกเอาเทวรถคันที่ใหญ่ที่สุดของท่านไป เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ท่านก็ได้ออกเดินทางไปพร้อมกับเหล่าบริวารของท่าน แล้วเทวรถก็เคลื่อนออกจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มุ่งหน้าไปสู่เป้าหมาย คือ วิมานของเทพบุตรคนธรรพ์ที่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา โดยไปตามที่พระได้บอกให้ไป

เมื่อมาถึงวิมานของท่านเทพบุตรใหม่แล้ว ท่านเทพธิดาก็ได้จอดเทวรถไว้ที่ลานใหญ่ของวิมานของท่านเทพบุตรคนธรรพ์ จากนั้นท่านก็ลอยตัวลงมายืนอยู่ที่หน้าวิมานของท่านเทพบุตร ส่วนท่านเทพบุตรใหม่เมื่อได้เห็นว่ามีแขกมาเยือนท่านถึงวิมาน ท่านก็ได้ออกมาทำการต้อนรับด้วยตัวท่านเองทันที แต่ทว่าในตอนนี้ทั้งคู่ต่างก็จำกันไม่ได้ และดูเหมือนราวกับว่าจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทั้งนี้เป็นเพราะความทรงจำในสมัยที่ยังเป็นมนุษย์ของท่านเทพธิดานั้นจางลงไปมากแล้ว อีกทั้งเมื่อท่านได้มาเกิดเป็นเทพธิดาอยู่บนสวรรค์ ท่านก็มีความสุขความเพลิดเพลินกับสังคมใหม่ และทิพยสมบัติอันวิจิตรตระการตาเป็นอย่างมาก ใจของท่านจึงเลือนรางไปจากความทรงจำในสมัยที่ยังเป็นมนุษย์

ส่วนในใจของท่านเทพบุตรใหม่นั้น ความทรงจำในสมัยที่เป็นมนุษย์ก็จางลงไปด้วยเหมือนกัน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าก่อนหน้านี้ ท่านได้ไปเกิดในยมโลกที่ร้อนระอุ ที่นั่นเต็มไปด้วยสัตว์นรกที่ร้องโอดครวญดังระงมไปทั่ว บรรยากาศอันน่าสะพรึงกลัวนั้น ทำให้ท่านคิดถึงอะไรไม่ออกเลย อีกทั้งท่านก็ได้รับทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัสจากการถูกทัณฑ์ทรมาน จึงทำให้ในตอนนี้ท่านไม่สามารถจดจำเรื่องราวในตอนที่ท่านเป็นมนุษย์ได้เลย

ดังนั้น เมื่อทั้งสองได้มาพบเจอกันในสภาพที่เป็นเทพบุตรเทพธิดา ที่ทั้งหล่อทั้งสวยด้วยกันทั้งคู่ จึงยิ่งทำให้จำกันไม่ได้เข้าไปใหญ่ แต่ในใจของท่านเทพบุตรใหม่นั้น ก็อดไม่ได้ที่จะนึกสงสัยว่า เทพธิดาสุดสวยท่านนี้ มาจากที่ไหน ทำไมจึงมีรัศมีกายที่สว่างไสวมากอย่างนี้ แม้ดูไม่คุ้นตา แต่ก็ดูคล้ายๆคุ้นเคย และที่สำคัญ คือ ดูคุ้นใจอย่างบอกไม่ถูก

จากนั้น ท่านเทพบุตรใหม่ก็ได้เดินออกไปต้อนรับท่านเทพธิดาสุดสวย ที่บริเวณลานกว้าง โดยท่านเทพบุตรใหม่ได้ไปยืนรอต้อนรับท่านเทพธิดา ด้วยความเคารพเลื่อมใสในความสว่างไสวของรัศมีสีสันของท่านเทพธิดา(ผู้ที่มีรัศมีน้อยกว่าจะให้ความเคารพผู้ที่มีรัศมีมากกว่า ที่มีรัศมีมากกว่าเพราะมีบุญมากกว่า)

ในขณะเดียวกัน ท่านเทพธิดาก็ไปยืนลอยตัวสูงกว่าพื้นปกติที่ท่านเทพบุตรยืนอยู่ ด้วยท่วงท่าที่ดูสงบเสงี่ยมสง่างาม พร้อมกับมองไปที่ท่านเทพบุตรใหม่ด้วยความสงสัยว่า “ท่านเทพบุตรนี้คือใครกัน ทำไมพระ...ท่านถึงให้ความสำคัญและให้ตัวเราเดินทางมาหาถึงที่นี่ด้วย”

เมื่อท่านเทพบุตรใหม่และท่านเทพธิดาสุดสวยได้มาเจอกัน ต่างฝ่ายต่างก็ออกอาการเดียวกัน คือ งง...ว่าเขาและเธอผู้นั้นคือใครกัน

เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร...โปรดติดตามตอนต่อไป คลิกที่นี่