ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2553
ตอน ยอดนักสร้างบารมี ตายด้วยโรคไข้หวัดกลายพันธุ์ กลับดุสิตบุรี
 
 
 
ยอดนักสร้างบารมี ตายด้วยโรคไข้หวัดกลายพันธุ์ กลับดุสิตบุรี
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
    วันนี้เป็นเรื่องของผู้นำบุญ ผู้นำบุญท่านนี้เสียชีวิตด้วยโรคหวัดกลายพันธุ์ เมื่อวันที่ 29-กรกฎาคม พ.ศ.2553_ที่ผ่านมา รวมอายุได้ 46-ปี ผู้นำบุญท่านนี้เข้าวัดเมื่อปี พ.ศ.2541_โดยล่าสุดก่อนที่จะเสียชีวิตได้ไปทำหน้าที่เป็นผู้นำบุญ ชวนชายแมนแมนมาบวชพระ ในโครงการอุปสมบทหมู่เข้าพรรษา 100,000-รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย แบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน แม้ฝนจะตกหนัก แม้จะเจ็บป่วย ก็ไม่เคยหยุดชวนคนบวชเลยตลอดระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมา
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ
 
คำถาม ข้อที่1.ผู้นำบุญท่านนี้เสียชีวิตแล้วไปไหน
 
    ก่อนที่ผู้นำบุญท่านนี้จะเสียชีวิต ภายในใจของเขาได้ตรึกระลึกนึกถึงแต่ภาพของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ และภาพของพระเถระรูปหนึ่งที่เขาเคารพรักอย่างสูงสุด แต่ในบางช่วง เขาก็จะสลับกับการตรึกระลึกนึกถึงบุญต่างๆ ที่เขาเคยทำเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะบุญที่เขาได้ทุ่มเทชีวิตและจิตใจ ในการชวนคนมาบวช
 
 
    (นี่แหละกว่าเขาจะตามชายแมนแมนผู้มีบุญมาบวชได้ ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ดังนั้น พระธรรมทายาทเมื่อได้มาบวชแล้ว ต้องถามตัวเองว่า เราได้เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการฝึกตนทนหิวบำเพ็ญตบะเป็นพระแท้หรือไม่)
 
    ด้วยความที่ใจของผู้นำบุญท่านนี้ เกาะเกี่ยวกับภาพของบุญกุศลมาโดยตลอด จึงทำให้ในช่วงที่เขากำลังจะละจากโลก ภาพกรรมนิมิตฝ่ายบุญกุศลจึงได้ย้อนมาฉายให้เขาได้เห็นอีกครั้งหนึ่ง และเป็นผลทำให้คตินิมิตของเขาก่อนที่จะเสียชีวิต มีความผ่องใสสว่างไสวเป็นอย่างมาก (ตรงนี้ เป็นหลักวิชชา ใจใสก็ไปดี ใจหมองก็ไปอบาย)
 
 
    ในทันทีที่ผู้นำบุญท่านนี้ ได้ละจากโลกไปแล้ว กายมนุษย์ละเอียดของเขาก็ได้มายืนอยู่ข้างๆกายหยาบที่กำลังนอนนิ่งอยู่บนเตียง ซึ่งในช่วงที่เขาหลุดออกมาจากกายหยาบใหม่ๆนั้น เขาก็มีอาการคล้ายๆกับคนที่เพิ่งจะตื่นนอน รู้สึกมึนๆงงๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ สติของเขาก็เริ่มกลับมา และมองเห็นกายหยาบของตนเองนอนนิ่งอยู่บนเตียง เขาก็รู้ตัวว่า “เราคงเสียชีวิตไปแล้ว”
 
 
    ทันทีที่รู้ตัว เขาก็เริ่มทำตามหลักวิชชาที่ได้ศึกษามาจากโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา โดยการนึกถึงบุญต่างๆ โดยเฉพาะบุญที่เขาได้ทุ่มเทชีวิตและจิตใจในการชวนคนมาบวช
 
 
    เมื่อเขาตรึกระลึกนึกทบทวนบุญของตัวเองได้ กระแสบุญก็ได้ช่องเข้ามาทำงานอยู่ภายในใจ จนส่งผลทำให้กายมนุษย์ละเอียดของเขาสว่างวาบ แล้วพลันแปรเปลี่ยนไปเป็นกายทิพย์
 
 
    ภายหลังจากที่กายของผู้นำบุญท่านนี้ ได้แปรเปลี่ยนเป็นกายเทพบุตรแล้ว ท่านเทพบุตรใหม่ก็ได้เห็นเทวรถ และเหล่าบริวารมายืนรอรับผู้เป็นนายของพวกตน จากนั้นท่านเทพบุตรใหม่ก็ได้ขึ้นไปนั่งอยู่บนรัตนบัลลังก์หลักกลางเทวรถ แล้วนำเทวรถตรงดิ่งมายังวัดพระธรรมกายในทันที ครั้นมาถึงแล้ว ท่านเทพบุตรใหม่ก็ได้ทำตามหลักวิชชาที่ได้ศึกษามาจากโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา โดยการนำเทวรถไปเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ เพื่อบูชาพระรัตนตรัย จำนวนทั้งหมดสามรอบ และตรึกระลึกนึกถึงบุญทุกๆบุญที่เคยทำผ่านมา อยู่ตลอดระยะเวลาที่เวียนประทักษิณ
 
 
    เมื่อเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านเทพบุตรใหม่ได้นำเทวรถไปจอดที่บริเวณด้านหน้ามหาธรรมกายเจดีย์ รอเวลาที่จะมาฟังธรรมในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาในช่วงค่ำ ในระหว่างที่รออยู่นั้น ท่านเทพบุตรใหม่ได้นั่งสมาธิ เพื่อตรึกระลึกนึกทบทวนบุญต่างๆที่ท่านได้เคยสั่งสมเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ด้วยความปลื้มปีติเบิกบานใจ
 
 
    ครั้นได้เวลาแล้ว ท่านเทพบุตรใหม่จึงได้เคลื่อนเทวรถไปที่บริเวณหน้าโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา เพื่อเข้าไปฟังธรรมจากพระเถระที่ท่านเคารพรักอย่างสูงสุด เมื่อท่านเทพบุตรใหม่ได้ฟังธรรม โดยเฉพาะในเวลาที่พระเถระได้นำเรื่องราวและผลการปฏิบัติธรรมของพระแสนรูปรุ่นเข้าพรรษา มาอ่านให้ทุกๆคนได้รับฟัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ท่านเทพบุตรใหม่ต้องการที่จะฟังเป็นอย่างยิ่ง ท่านรับฟังด้วยความปลื้มปีติใจ ในผลบุญจากการที่ท่านได้ทำหน้าที่ชวนคนบวชอย่างเต็มที่เต็มกำลังโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
 
    ความปลื้มปีตินี้ได้แผ่ซาบซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย จนเป็นผลทำให้กายของท่านเทพบุตรใหม่สว่างไสวเรืองรองหนักขึ้นกว่าในช่วงแรกๆ กล่าวคือ ยิ่งฟังธรรมไป กายและใจของท่านก็สว่างขึ้น...สว่างขึ้น และสว่างขึ้นไปเรื่อยๆ
 
 
    เมื่อพระเถระเดินทางกลับแล้ว ท่านเทพบุตรใหม่จึงได้กลับขึ้นไปบนเทวรถแล้วเคลื่อนเทวรถกลับไปจอดที่บริเวณด้านหน้ามหาธรรมกายเจดีย์ เพื่อนั่งสมาธิตรึกระลึกนึกถึงทบทวนบุญของตนเองต่อ ครั้นถึงวันอาทิตย์ต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันที่สี่นับตั้งแต่ท่านเทพบุตรใหม่เสียชีวิต ท่านได้อยู่ร่วมพิธีกรรมบุญใหญ่ทั้งในภาคเช้าและภาคบ่าย ด้วยหัวใจที่ปลื้มปีติเบิกบานเป็นอย่างมาก
 
 
    หลังจากพิธีกรรมต่างๆได้เสร็จสิ้นลง ท่านเทพบุตรใหม่ได้นำเทวรถไปเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อทบทวนบุญ ครั้นเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์เสร็จแล้ว ท่านเทพบุตรใหม่ได้นำเทวรถพร้อมกับเหล่าบริวารทั้งหมด เดินทางกลับไปสู่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตเสบียง ในทันที
 
 
    เมื่อไปถึง ท่านเทพบุตรใหม่ก็ได้ตรวจตราทิพยสมบัติ และศึกษาสังคมของชาวสวรรค์ชั้นดุสิต ในระหว่างนั้นเองก็ได้มีพระธรรมกายไปเยี่ยม ท่านเทพบุตรใหม่จึงได้มีข้อความฝากมาถึงเพื่อนผู้นำบุญทุกๆคนว่า ในตอนนี้ ท่านรู้สึกปลื้มปีติใจเป็นอย่างมาก เพราะท่านได้เห็นผลแห่งบุญที่เกิดขึ้นจากการทุ่มเทชีวิตในการสร้างบารมีของตนเองแล้ว แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเสียดายที่ตนเองมีเวลาในการสร้างบารมีอยู่บนโลกมนุษย์น้อยไป เพราะใจจริง ท่านอยากจะอยู่สร้างบารมีให้นานกว่านี้ ฉะนั้น ขอให้เพื่อนๆผู้นำบุญทุกๆคน ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่เต็มกำลัง และทำอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันในทุกๆบุญ แม้จะมีอุปสรรคหรือการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ขอให้ทุกคนเอาบุญเป็นที่ตั้ง เมื่อทำบุญแล้ว ขอให้ทุกคนอย่าลืมอุทิศส่วนกุศลมาให้บ้าง เพื่อที่จะได้มีส่วนในบุญกุศลที่ทุกๆคนได้ทำ
 
โปรดติดตามตอนต่อไป
 
(อ่านตอนต่อไป คลิกที่นี่)
 
 
ชม Video Scoop ยอดนักสร้างบารมี ตายด้วยโรคไข้หวัดกลายพันธุ์ กลับดุสิตบุรี
 
 


มีปัญหาการรับชมวิดีโอ กรุณากดที่นี่ เพื่อใช้เครื่องเล่นแบบเก่า window media player

 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/latest_update/20100820_CAS1_RIGHT.html
เมื่อ 1 กรกฎาคม 2567 09:10
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv