ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 28 มกราคม พ.ศ.2554
ความฝัน 16 ประการของพระเจ้าปเสนทิโกศล ตอนที่ 14
 
 
ความฝัน 16 ประการของพระเจ้าปเสนทิโกศล ตอนที่ 14
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
        เมื่อพระบรมศาสดาทรงพยากรณ์นิมิตแห่งความฝันประการที่สิบเอ็ดจบแล้ว พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ทรงเล่านิมิตแห่งความฝันประการที่สิบสองให้พระบรมศาสดาฟังต่อว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้ฝันเห็นน้ำเต้าที่มีลักษณะผิดธรรมชาติ เพราะมันจมน้ำได้ นิมิตแห่งความฝันนี้จะมีผลเป็นอย่างไรหรือ พระเจ้าข้า”
 
หม่อมฉันได้ฝันเห็นน้ำเต้าที่มีลักษณะผิดธรรมชาติ เพราะมันจมน้ำได้
 
        ครั้นพระบรมศาสดาได้สดับตรับฟังนิมิตแห่งความฝันประการที่สิบสองของพระเจ้าปเสนทิโกศลจบแล้ว พระองค์ก็ทรงพยากรณ์ความฝันว่า “มหาบพิตร ผลของความฝันนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในสมัยของพระองค์ และในยุคสมัยที่พระศาสนาของเราเจริญรุ่งเรืองอยู่ แต่จะบังเกิดขึ้นในอนาคตกาล เมื่อโลกถึงยุคเสื่อม ซึ่งอยู่ในรัชสมัยของพระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม โดยพระราชาผู้โง่เขลานี้ จะไม่พระราชทานยศฐาบรรดาศักดิ์ใดๆให้แก่คนที่อยู่ในตระกูลสูง (หรือเหล่าคนดีที่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม) แต่จะพระราชทานยศถาบรรดาศักดิ์ให้แก่ผู้ที่อยู่ในตระกูลต่ำทราม (หรือเหล่าคนพาลที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรมและประจบสอพลอเก่ง)
 
 พระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรมจะพระราชทานยศตำแหน่ง อันทรงเกียรติให้แก่คนที่อยู่ในตระกูลต่ำทราม
 
        ทำให้ในยุคนั้น พวกที่อยู่ในตระกูลต่ำทราม (หรือเหล่าคนพาลที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรมและประจบสอพลอเก่ง) จะมีฐานะร่ำรวย และเป็นใหญ่เป็นโตในบ้านเมือง ส่วนพวกที่อยู่ในตระกูลสูง (หรือเหล่าคนดีที่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม) จะมีฐานะที่ลำบากยากจน และไม่มีบทบาททางสังคม คำพูดของพวกที่อยู่ในตระกูลต่ำทรามจะเป็นหลักเป็นฐาน และมีน้ำหนักมากกว่าพวกที่อยู่ในตระกูลสูง เหมือนดั่งน้ำเต้าที่ปกติจะลอยน้ำ แต่มาบัดนี้กลับจมน้ำนั่นเอง
 
 พวกคนพาลตระกูลทรามจะเป็นใหญ่เป็นโตในบ้านเมือง ส่วนพวกที่อยู่ในตระกูลสูงก็จะพากันตกยาก
 
        ฉะนั้น ความฝันนี้จะไม่ทำให้เกิดภัยใดๆแก่มหาบพิตรอย่างแน่นอน เพราะสิ่งนี้จักบังเกิดขึ้นในอนาคต ขอเชิญมหาบพิตรตรัสเล่าความฝันประการที่สิบสามต่อไปเถิด”
 
        เมื่อพระบรมศาสดาทรงพยากรณ์นิมิตแห่งความฝันประการที่สิบสองจบแล้ว พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ทรงเล่านิมิตแห่งความฝันประการที่สิบสามให้พระบรมศาสดาฟังต่อว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้ฝันเห็นศิลาแท่งทึบที่มีขนาดใหญ่เท่ากับบ้านเรือน อีกทั้ง ศิลาแท่งทึบนี้ยังสามารถลอยน้ำได้ราวกับเรืออีกด้วย นิมิตแห่งความฝันนี้จะมีผลเป็นอย่างไรหรือ พระเจ้าข้า”

หม่อมฉันได้ฝันเห็นศิลาแท่งทึบที่มีขนาดใหญ่ลอยน้ำได้

        ครั้นพระบรมศาสดาได้สดับตรับฟังนิมิตแห่งความฝันประการที่สิบสามของพระเจ้าปเสนทิโกศลจบแล้ว พระองค์ก็ทรงพยากรณ์ความฝันว่า “มหาบพิตร ผลของความฝันนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในสมัยของพระองค์ และในยุคสมัยที่พระศาสนาของเราเจริญรุ่งเรืองอยู่ แต่จะบังเกิดขึ้นในอนาคตกาล เมื่อโลกถึงยุคเสื่อม (กล่าวคือ ยุคที่มนุษย์เสื่อมจากศีลธรรม เห็นผิดเป็นถูก เห็นถูกเป็นผิด อีกทั้ง เป็นยุคที่พวกอลัชชีหรือภิกษุนอกรีต มีจำนวนมากกว่าภิกษุผู้เคร่งครัดในศีลและข้อวัตรปฏิบัติ) ซึ่งอยู่ในรัชสมัยของพระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม โดยพระราชาผู้โง่เขลานี้จะพระราชทานยศตำแหน่งอันทรงเกียรติให้แก่คนที่อยู่ในตระกูลต่ำทราม (หรือเหล่าคนพาลที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม) พวกคนพาลตระกูลทรามเหล่านี้จะเป็นใหญ่เป็นโตในบ้านเมือง ส่วนพวกที่อยู่ในตระกูลสูง (หรือเหล่าคนดีที่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม) ก็จะพากันตกยาก และไม่มีใครเคารพยำเกรง เพราะมหาชนทั้งหลายต่างให้ความเคารพนับถือคนที่มีอำนาจทางสังคม คำพูดของเหล่าบัณฑิตนักปราชญ์ที่เคยหนักแน่นดั่งศิลาแท่งทึบ ก็จะเลื่อนลอยไร้ความหมายในยุคนั้น เหมือนดั่งศิลาแท่งทึบขนาดใหญ่ที่สามารถลอยน้ำได้
 
 ในยุคนั้นคำพูดของเหล่าบัณฑิตนักปราชญ์จะเลื่อนลอย ไร้ความหมาย
 
        ฉะนั้น ความฝันนี้จะไม่ทำให้เกิดภัยใดๆแก่มหาบพิตรอย่างแน่นอน เพราะสิ่งนี้จักบังเกิดขึ้นในอนาคต ขอเชิญมหาบพิตรตรัสเล่าความฝันประการที่สิบสี่ต่อไปเถิด”
 
        เมื่อพระบรมศาสดาทรงพยากรณ์นิมิตแห่งความฝันประการที่สิบสามจบแล้ว พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ทรงเล่านิมิตแห่งความฝันประการที่สิบสี่ให้พระบรมศาสดาฟังต่อว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้ฝันเห็นฝูงเขียดตัวเล็กๆ ขนาดเท่า1ดอกมะซาง วิ่งไล่กวดฝูงงูเห่าตัวใหญ่ๆ อีกทั้ง ฝูงเขียดเหล่านั้นยังสามารถกัดงูเห่าตัวใหญ่ๆให้ขาดออกเป็นท่อนๆได้อย่างสบาย ราวกับตัดก้านบัวฉะนั้น นิมิตแห่งความฝันนี้จะมีผลเป็นอย่างไรหรือ พระเจ้าข้า”
 
1ดอกมะซาง จะมีลักษณะเป็นดอกเดี่ยว แต่ออกเป็นกระจุกตามปลายกิ่งเหนือกลุ่มใบ ขนาดประมาณ 2.5 - 3 เซนติเมตร
 
 หม่อมฉันได้ฝันเห็นฝูงเขียดตัวเล็กๆวิ่งไล่กวดฝูงงูเห่าตัวใหญ่ๆ
 
        ครั้นพระบรมศาสดาได้สดับตรับฟังนิมิตแห่งความฝันประการที่สิบสี่ของพระเจ้าปเสนทิโกศลจบแล้ว พระองค์ก็ทรงพยากรณ์ความฝันว่า “มหาบพิตร ผลของความฝันนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในสมัยของพระองค์ และในยุคสมัยที่พระศาสนาของเราเจริญรุ่งเรืองอยู่ แต่จะบังเกิดขึ้นในอนาคตกาล เมื่อโลกถึงยุคเสื่อม ในยุคนั้น ผู้คนจะมีราคะแรงกล้า ทั้งหญิงทั้งชายจะปล่อยตัวปล่อยใจตามอำนาจของกิเลส เหล่าบุรุษเพศจะตกอยู่ภายใต้อำนาจภรรยาของตนซึ่งมีอายุยังน้อย พวกนางจะครอบครองทรัพย์สินทั้งหมดในบ้าน เมื่อสามีถามถึงเรื่องทรัพย์สินเงินทองที่ตนเองหามาได้ พวกนางก็จะด่าว่าด้วยถ้อยคำต่างๆนานา อีกทั้งยังกดขี่สามีไว้ใต้อำนาจของตนประดุจดั่งทาสในเรือนเบี้ย เหมือนดั่งฝูงเขียดตัวเล็กๆกัดกินฝูงงูเห่าซึ่งมีพิษร้ายได้อย่างง่ายดาย
 
 ในยุคนั้นภรรยาที่มีอายุน้อยกว่าจะกดขี่สามี ประดุจทาสในเรือนเบี้ย
 
        ฉะนั้น ความฝันนี้จะไม่ทำให้เกิดภัยใดๆแก่มหาบพิตรอย่างแน่นอน เพราะสิ่งนี้จักบังเกิดขึ้นในอนาคต ขอเชิญมหาบพิตรตรัสเล่าความฝันประการที่สิบห้าต่อไปเถิด”
 
ความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศล
อ้างอิง อรรถกถามหาสุบินชาดก เอกนิบาต ขุททกนิกาย สุตตันตปิฎก เล่มที่ 56 หน้า 216-241
 
 
ชม Video Scoop ความฝัน 16 ประการของพระเจ้าปเสนทิโกศล ตอนที่ 14
[[videodmc==37488]]
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/latest_update/20110128-ความฝัน-16-ประการของพระเจ้าปเสนทิโกศล-ตอน-14_RIGHT.html
เมื่อ 23 กรกฎาคม 2567 05:38
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv