ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554
รักเลย...เลยชวนกันไปบวช
เกาะติดสถานการณ์ชวนบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน
ตอน รักเลย...เลยชวนกันไปบวช
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงห้าวันเท่านั้น ก็จะถึงวันที่วีรสตรีจากทุกทิศทั่วไทย จะได้พร้อมใจกันทำความดี สร้างบุญใหญ่ ตอบแทนพระคุณพ่อแม่ ในโครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน หนึ่งล้านคน รุ่นที่สี่ กันแล้ว ซึ่งลูกพระธัมฯอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ก็กำลังทำหน้าที่แบบสนุกสนานบุญบันเทิงไปทั้งเมือง งานนี้นอกจากจะตะลุยเปิดบ้านกัลยาณมิตรไปได้แล้วกว่า 13-หลัง ทำให้ชุมชนด่านซ้ายอบอุ่น เพราะมีการสวดมนต์ นั่งสมาธิและดูสื่อธรรมะกันทุกวัน บ้านไหนที่อยู่ในชุมชนก็จะมีพี่ๆน้องๆมาปฏิบัติธรรมร่วมกันไม่ต่ำกว่าครั้งละ 50-คน ทำให้เกิดการตื่นตัวในการทำความดี และรักในพระพุทธศาสนามากขึ้น
ลุยชวนบวชทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน
แม้ทีมงานอำเภอด่านซ้ายจะเป็นทีมงานเล็กๆ แต่ก็เล็กพริกขี้หนู เพราะตอนนี้กำลังรีบเร่งตามสาวๆให้มาบวชอุบาสิกาแก้วรุ่นล้านกันอย่างเต็มที่เต็มกำลัง โดยลงพื้นที่ชวนคนบวชทุกวัน ได้คนมาสมัครบวชทุกวัน เจาะไปตามหมู่บ้านทุกตำบล ไม่ว่าหนทางจะทุลักทุเล หรืออากาศจะร้อนอบอ้าวแค่ไหน ทีมงานก็ไม่หวั่น และไม่ว่าจะไปบ้านไหน บ้านนั้นก็อ้าแขนรับด้วยความเต็มใจ เพราะทีมงานใช้สูตรเด็ด คือ ให้อดีตอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนในหมู่บ้านที่เคยมาบวชแล้ว นำทีมนำทัพพาบุกไปหาสาวๆในหมู่บ้านของตัวเอง และลุยไปตามหมู่บ้านข้างเคียงที่คุ้นเคยอีกด้วย พอคนคุ้นเคยเป็นคนไปชวน พูดคุยเรื่องอานิสงส์การบวชไม่กี่คำ ก็ทำให้ทั้งสาวเล็กสาวใหญ่พากันเขียนใบสมัครแบบง่ายๆ ทีมงานลุยกันเต็มที่ ทุ่มเทกันสุดๆ แม้แต่คนที่เคยมาบวชแล้วก็ไม่พลาดการบวชในคราวนี้ โดยบอกต่อๆกันว่า อยากให้มีการบวชอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
ผู้สมัครบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน
ผู้สมัครบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน
คุณป้าสถิตย์ จันทรักษา อดีตอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ที่เพิ่งไปบวชในรุ่นล้านที่ผ่านมา เล่าให้ฟังว่า “ตั้งแต่ฉันไปบวชเป็นอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนรุ่นล้านมาแล้ว อะไรๆในชีวิตมันดีขึ้นหลายอย่าง แต่ก่อนฉันเป็นคนขี้บ่น พอบ่นมากๆ ลูกชายก็ไปกินเหล้า แต่พอฉันไปบวชมาแล้ว ฉันบ่นน้อยลง ลูกชายก็พลอยกินเหล้าน้อยลงไปด้วย ทำให้ฉันดีใจมาก เป็นบุญเป็นปาฏิหาริย์ทันตาเห็นเลย แล้วตั้งแต่เกิดมา ฉันยังไม่เคยเจอชีวิตที่ดี มีความสุขแบบนี้มาก่อนเลย พอรู้ว่ามีโครงการที่สี่ ฉันรีบเขียนใบสมัครทันที แล้วก็เก็บกระเป๋าเตรียมของไว้ล่วงหน้าแล้วด้วย และคราวนี้ฉันไม่ยอมไปบวชคนเดียวแล้วนะ ฉันไปชวนคนบวชกับทีมอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนและพี่เลี้ยง ไปตามหมู่บ้าน ตามเขา ตามเนิน ไปกันทุกวัน ไม่เหนื่อยเลย มีแต่ปลื้มกับปลื้ม พอเขาเขียนใบสมัคร ฉันก็ดีใจกับเขา เพราะฉันอยากให้ชาวบ้านแถวนี้มาเจอกับความสุขแบบที่ฉันเจอ แต่ถ้าไม่มีใครเข้าไปชวน เขาก็ไม่รู้นะ เพราะบางบ้านอยู่บนเขาบนดอยอยู่ไกลเมือง เราต้องเข้าไปบอกไปชวน พอมีคนมาบวชมากๆ พระพุทธศาสนาของเราจะได้เข้มแข็งรุ่งเรือง งานนี้ต้องลุยให้สุดตัว ลุยให้สุดแรงกันไปเลยจ้า”
มาชวนกันบวชให้สุดแรงไปเลยค่ะ
คุณป้าคำมุก อดีตอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน อีกท่านหนึ่ง ก็เผยความในใจให้ฟังว่า “การได้มาบวชเป็นอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน หนึ่งในล้านคน เป็นบุญใหญ่มหาศาล ทีแรกป้าก็คิดว่าจะมาบวชเอาแค่ความสบายใจ แต่พอมาบวชเข้าจริงๆ โอ...รู้สึกจะได้อะไรดีๆมากกว่าที่คิดเอาไว้ รู้สึกว่าเราจะได้บุญมาก ทุกวันที่บวชมีแต่ความปีติใจ สุขกาย สุขใจ พอกลับมาบ้านแล้ว ไม่ว่าจะหยิบจะจับจะทำอะไรก็ดีไปหมด การเงินการงานก็ดีกว่าเก่า ครอบครัวก็อบอุ่นมีความสุข ป้าเลยคิดว่าบวชครั้งที่สี่นี้ จะต้องพาคนไปบวชด้วยกันเยอะๆ จึงลุยไปกับทีมงานชวนบวช มีคิวไปชวนบวชทุกวันไม่มีวันหยุดค่ะ บางหมู่บ้านอยู่ไกลกันมาก ถนนหนทางลำบากแค่ไหนก็ลุย ไม่เมื่อยเลย มันมีแรงตลอดเวลา บางคนก็ชวนง่าย บางคนก็ชวนยาก ถ้าเขาไม่บวช เราก็ไปบ้านอื่นต่อ เข้าบ้านนั้นออกบ้านนี้ ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง ป้าลุยลูกเดียวเลย และจะลุยไปจนกว่าจะปิดรับสมัครค่ะ ตั้งแต่ออกมาชวนคนบวช มันอิ่มใจ นอนก็มีความสุข ตื่นก็มีความสุข ใจมันพองโตตลอดเวลา เพราะป้าอยากให้มีคนมาบวชมากๆ ทุกคนจะได้มีความสุขแบบป้า จะได้มาสัมผัสกับสวรรค์บนดินว่ามันเป็นอย่างไรค่ะ”
บวชแล้วดีอย่างแรง ป้าขอยืนยันค่ะ
ทีมงานลูกพระธัมฯด่านซ้าย เขาลุยจริง ชวนบวชจริง ทำหน้าที่กันสุดฤทธิ์ จนชวนบวชไปได้แล้วกว่าสิบหมู่บ้าน และมีผู้สมัครใจมาบวชแล้วกว่า 100-คน ทีมงานอำเภอด่านซ้ายฝากมาบอกลูกพระธัมฯทั่วโลกว่า “ตอนนี้เริ่มนับถอยหลังกันแล้ว เราต้องลุยกันให้เต็มที่ ทำอย่างไรก็ได้ให้มีคนมาบวชกันเยอะๆ เพื่อให้พระพุทธศาสนาปักหลักอย่างมั่นคงในประเทศไทย จะได้เป็นพระพุทธศาสนาประจำชาติไทย ถ้าลูกพระธัมฯลุยจริง ต้องสำเร็จแน่นอนค่ะ”
************************