ความเดิมจากตอนที่แล้ว... ความอดทน สามารถแบ่งออกได้เป็นสี่ระดับด้วยกัน ซึ่งในแต่ละระดับนั้นจะมีความละเอียดลุ่มลึกที่แตกต่างกันไป ดังต่อไปนี้ คือ
1.ความอดทนต่อความลำบากตรากตรำ หมายถึง ความอดทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการสร้างบารมี สำหรับพระโพธิสัตว์แล้ว ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก อากาศจะร้อนอบอ้าวหรือหนาวเหน็บเพียงใด ก็หาได้เป็นอุปสรรคหรือเป็นเหตุปัจจัยที่จะทำให้พระโพธิสัตว์เกิดความเกียจคร้านในการสร้างบารมีได้ ซึ่งถ้าจะว่ากันไปแล้ว ความอดทนต่อความลำบากตรากตรำนี้ ยังถือว่าเป็นแค่ความอดทนระดับอนุบาลเท่านั้นเอง
2.ความอดทนต่อทุกขเวทนา หมายถึง ความอดทนต่อการเจ็บไข้ได้ป่วย หรือความไม่สบายกาย เป็นต้น สำหรับพระโพธิสัตว์แล้ว ถึงแม้ตัวท่านจะเจ็บป่วยอย่างไร แต่พระโพธิสัตว์ก็ไม่ยอมละทิ้งการสร้างบารมี ซึ่งท่านจะคอยหมั่นสอนตนเองอยู่เสมอว่า ตราบใดที่ตัวท่านยังไม่สิ้นลมหายใจ ตราบนั้นท่านก็จะขอมุ่งมั่นสร้างบารมีต่อไปอย่างไม่ลดละ ดังนั้น ความอดทนต่อทุกขเวทนา จึงถือเป็นความอดทนที่สูงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง หรืออาจจะเรียกความอดทนระดับนี้ว่า...เป็นความอดทนระดับประถมนั่นเอง
3.ความอดทนต่อการกระทบกระทั่ง หมายถึง ความอดทนต่อความโกรธ ความไม่พอใจ ความขัดเคืองใจ อันเกิดจากความคิด คำพูดและการกระทำที่ไม่ถูกใจไม่ชอบใจ ซึ่งได้รับมาจากบุคคลรอบข้าง หรือหมายถึง ความอดทนต่อคำแนะนำสั่งสอนจากบุคคลต่างๆ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีวุฒิภาวะที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าตน รวมไปถึงความอดทนเมื่อต้องประสบกับความอยุติธรรมต่างๆในสังคม
สำหรับนักสร้างบารมีหรือพระโพธิสัตว์ทั้งหลายแล้ว ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องพบเจอกับความอยุติธรรมหรือความไม่เข้าใจต่างๆนานา อันเป็นเหตุที่จะทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้น แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านั้นกลับหาได้เป็นอุปสรรคต่อการสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ หรือนักสร้างบารมีเหล่านั้นไม่ ตรงกันข้าม...อุปสรรคทั้งหลายเหล่านั้นกลับเป็นเหมือนแบบฝึกหัดหรือบททดสอบว่า นักสร้างบารมีหรือพระโพธิสัตว์ทั้งหลายจะสามารถอดทนอดกลั้น และพร้อมที่จะยกใจตัวท่านเองและสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ก้าวล่วงผ่านอุปสรรคเหล่านั้นไปได้หรือไม่ ดังนั้น ความอดทนต่อการกระทบกระทั่งนี้ จึงถือได้ว่าเป็นความอดทนที่ยากขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง หรืออาจจะเรียกความอดทนระดับนี้ว่า...เป็นความอดทนระดับมัธยมนั่นเอง
ชม Video Scoop พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 86